ตอนที่ 51 รสชาติของการเสียหน้า
1/
ตอนที่ 51 รสชาติของการเสียหน้า
พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 51 รสชาติของการเสียหน้า
ตนที่ 51 รสชาติของการเสียหน้า จางยวี่โหร่วมาแล้ว หากพูดหัวข้อเมื่อครู่นี้ต่อคงจะน่าอายเล็กน้อย โดยเฉพาะเป่ยจื่อห้าว ปากบอกว่ารักจางยวี่โหร่ว แต่ตอนนี้กลับบอกว่าต้องรับผิดชอบหลิงจือและยังหมายถึงการบีบบังคับฐานะของเธอให้มาเป็นโสเภณีแบบนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายหรอกหรือ? ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนท่าทางก้าวร้าวก่อนหน้านั้นของเขาในทันทีและแสดงท่าทางสง่างามอ่อนโยนออกมา “ ยวี่โหร่ว เมื่อวานเจ้ามัวแต่เล่นจนนอนดึกใช่หรือไม่ วันนี้เจ้าถึงได้ตื่นสายเช่นนี้ ดูเหมือนว่าพอข้าไม่อยู่คอยดูแลข้างกายเจ้า เจ้าก็ไม่รู้จักดูแลตัวเองให้ดี ” เหตุใดวันนี้เป่ยจื่อห้าวถึงมาที่ตำหนักไท่ซืออย่างกระสับกระส่าย หรือเพราะเขาได้ข่าวว่าสองวันมานี้จางยวี่โหร่วไปที่ตำหนักอ๋องชิงผิน จนในที่สุดเขาก็นิ่งเฉยไม่ไหวแล้ว เดิมที่แล้วเขาคิดว่าในใจของจางยวี่โหร่วนั้นมีเขาอยู่และตัวของเขาเองก็รู้ แต่พอเห็นสถานการณ์ในตอนนี้เขาก็กังวลเล็กน้อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดูเหมือนว่าเสด็จแม่จะพูดถูก ตอนนั้นเสด็จแม่กังวลว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวของจางยวี่โหร่วอย่างไม่คาดคิดอีก จนตอนนี้เขาก็รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ จางยวี่โหร่วที่สมควรตายนั้นได้สูญเสียความบริสุทธ์ไปแล้วและเขาก็ไม่รังเกียจเธอ แต่ตอนนี้เธอยังไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี จิตใจโลเลเช่นนี้ และยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับอ๋องชิงผินต่อไปอีก หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่ภาพโดยรวม เขาก็อยากจะเปลี่ยนมาเป็นศัตรูกับเธอโดยตรงจริงๆ แทนที่จะคอยตามตูดเธอต้อยต้อยต่อไปเรื่อยๆ แต่ไม่ว่าในใจของเขาจะโกรธแค้นเพียงใด ใบหน้าของเขาก็กลับแสดงออกถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนมากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่รู้เลยว่าทุกครั้งที่จางยวี่โหร่วเห็นท่าทางเสแสร้งพยายามอดทนอย่างสุดความสามารถของเขา ล้วนรู้สึกว่าน่าขันอย่างยิ่ง “ โหร่วเอ๋อร์ช่างเสียมารยาท ทำให้องค์ชายสามรอนาน ” เป่ยจื่อห้าวพูดขึ้นมาทันทีว่า “ ข้าไม่ตำหนิเจ้า ตราบใดที่ทำเพื่อเจ้าโหร่วเอ๋อร์ จะให้รอนานแค่ไหนข้าก็ยอม ” หลินจือนั้นเห็นการเปลี่ยนแปลงของเป่ยจื่อห้าวตั้งแต่ต้นจนจบกับตาตัวเอง และเพราะเหตุนี้เกรงว่าเงาดำในใจของเธอตอนนี้จะมากยิ่งขึ้นไปอีก คุณธรรมสูงส่งอะไรกัน เสแสร้งจอมปลอมสิ้นดี มันยังน้อยเกินไปที่จะใช้กับเขาจริงๆ องค์ชายสามที่รูปหล่อสง่างามและอ่อนโยนราวกับหยกในข่าวลือก่อนหน้านั้น ตอนนี้ความประทับใจในใจของเธอลดลงอย่างมาก ไม่แปลกใจเลยที่จางยวี่โหร่วไม่ยอมแต่งงานกับเขา ถึงแม้เปลี่ยนเป็นตัวเธอเอง เธอก็ยอมหาผู้ชายที่ต่ำต้อยแต่อย่างน้อยก็มีความจริงใจเสียดีกว่า และไม่มีวันยอมหนีการแต่งงานครั้งนั้นอย่างแน่นอน คิดไม่ถึงเลยว่าจางยวี่โหร่วจะติดใจในหัวข้อเมื่อครู่นี้อยู่ ในเมื่อเธอได้ยินทุกอย่างข้างนอกแล้ว เหตุใดจะปล่อยให้หลินจือถูกรังแกโดยเปล่าประโยชน์ได้ล่ะ “ เมื่อครู่นี้ข้าได้ยินว่าแต่งงานหรือไม่แต่งงานอะไรสักอย่างอยู่ข้างนอก พวกท่านฉวยโอกาสตอนที่ข้าไม่อยู่พูดคุยเรื่องน่าสนใจบางอย่างอยู่ใช่หรือไม่ รีบบอกให้ข้าฟังบ้างสิ ” ใบหน้าของจ้าวซินซินซีดลงเล็กน้อย เธอมองที่หลินจือ กลัวว่าเธอจะพูดออกไป จึงรีบแย่งพูดออกมาต่อหน้าของเธอทันที “ เรา...เพียงแค่หยอกล้อท่านพี่หลินเล่นเท่านั้นเอง ไม่คิดว่าเธอจะมีความสามารถด้านวรรณคดีเช่นนั้นในวันงานฉลองพระราชวัง การภาพวาดและการเต้นรำก็งดงามเช่นกัน และยังได้รับความโปรดปรานจากองค์ชายสองอีก ท่านพี่หลินช่างวาสนาดียิ่งนัก ” เมื่อครู่นี้ท่าทางก้าวร้าวอย่างเห็นได้ชัด แต่ตอนนี้กลับบอกว่าหยอกล้อ เธอช่างไร้ยางอายจริงๆ หลินจือค่อยๆหลุบตาลงอย่างเศร้าใจ แล้วไม่พูดอะไร องค์ชายสามยังอยู่ตรงนี้ หากเธอพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกมา ทำให้องค์ชายสามเสียหน้าและยังทำให้ยวี่โหร่วลำบากใจ นั่นเป็นสิ่งที่เธอไม่อยากเห็น ดังนั้นเธอยอมบอกตัวเองว่าให้กดความเจ็บปวดอยู่ในใจนี้ดีกว่า ยอมรับเพียงคนเดียวก็พอแล้ว คิดไม่ถึงว่าจางยวี่โหร่วจะหัวเราะเบาๆจากนั้นพูดว่า “ วาสนาดีอะไร ไม่ใช่เพราะนางโชคดีที่มีโชคเสียหน่อย แต่เป็นเพราะนางมีความสามารถจริงๆ จึงสามารถได้รับความนับถือจากทุกคน นี่เป็นสิ่งที่แยกจากความพยายามของเธอไม่ออก ” ไม่ว่าจะเป็นศิลปะการเต้นรำหรือว่าการวาดภาพแต่งบทกวี ล้วนเป็นการเรียนรู้มาทีละเล็กทีละน้อย และไม่อาจไร้ความพยายามอย่างหนักได้ เมื่อนึกถึงจ้าวซินซินที่สามารถแต่งงานกับองค์ชายสามได้ เธอมีสิทธิอะไรกัน? ไม่ต้องพูดอะไรก็เพียงพอที่จะทำให้เธออับอายที่ด้อยกว่าได้แล้ว จ้าวซินซินถูกจางยวี่โหร่วตอกกลับไปหนึ่งประโยคจนพูดอะไรไม่ออกในทันที รอยยิ้มบนในหน้าเต็มไปด้วยความอับอายเล็กน้อย “ นั่นสิ นั่นสิ เช่นนั้นข้าจึงพูดชื่นชมท่านพี่หลินอย่างมาก มิเช่นนั้นองค์ชายสองคงจะไม่มองท่านพี่อย่างประทับใจเช่นนี้ ” เธอพูดถึงองค์ชายสองบ่อยๆเช่นนี้ ก็เพียงแค่ต้องการกระตุ้นความเกลียดชังของเป่ยจื่อห้าวที่มีต่อหลินจือเท่านั้น และป้องกันไม่ให้เขาแต่งงานกับหลินจือจริงๆ ช่างเป็นความคิดที่ลึกซึ้งอย่างมาก อย่างไรก็ตามนี่เป็นสิ่งที่ตรงกับความตั้งใจของจางยวี่โหร่ว เธอจะปล่อยให้ผู้หญิงดีๆอย่างหลินจือถูกหมาป่ากินคนอย่างเป่ยจื่อห้าวย่ำยีได้อย่างไรกัน ดังนั้นฉวยโอกาสรีบตัดความคิดในใจของเป่ยจื่อห้าวตอนนี้จะดีกว่า จะได้ทำให้หลินจือสบายใจขึ้นเล็กน้อย “ นั่นสิ ข้ารู้จักกับองค์ชายสองมาหลายปีและค่อนข้างรู้จักนิสัยของเขาเล็กน้อย สำหรับข้าแล้ว องค์ชายสองก็เหมือนกับพี่น้องที่สนิทสนม สิ่งที่เขาชื่นชมมากที่สุดก็คือคนที่ความสามารถทางด้านวรรณกรรมอย่างยอดเยี่ยมหรือคนที่มีคุณธรรมสูงส่ง คำพูดนั้นของน้องหลิน ‘ออกมาจากโคลนโดยไม่เปรอะเปื้อน น้ำล้างออกอย่างสะอาดโดยไม่หลง หัวใจของข้าเหมือนดั่งดอกบัว’ บอกได้ถึงความในใจของเขาอย่างสมบูรณ์จริงๆ ” วันนั้นเธอตั้งใจพาหลินจือเข้าวัง เพราะว่าหลังจากที่เธอสนิทสนมกับหลินจือ เธอค้นพบว่าหลินจือกับเป่ยจื่อหัวเป็นคู่ที่เหมาะสมกับอย่างแท้จริง ดังนั้นเธอจึงยื่นมือเข้าช่วยจับคู่ด้ายสีแดงเส้นนั้น อีกทั้งเธอยังพนันกับเฉินซูเสียนอยู่ จะปล่อยให้คนอื่นมาทำลายเรื่องดีๆของเธอได้อย่างไรกัน หลินจือนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก พอได้ยินยวี่โหร่วพูดเช่นนี้ เธอก็ค่อยๆเผยสีหน้าหวาดกลัวในทันที “ ท่านพี่ยวี่โหร่ว ท่านอย่าหยอกข้าเล่นเลย ข้าได้สูญเสียชื่อเสียงไปแล้ว จะสามารถคบกับคนที่มีฐานะสูงส่งอย่างองค์ชายสองเช่นนั้นได้อย่างไรกัน ” เธอชื่นชมเป่ยจื่อหัวจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่ไป “สมาคมกวี” ที่เขาก่อตั้งขึ้น และนับถือในความปราดเปรื่องและอุดมการณ์ของเขาเป็นอย่างมาก แต่ทว่าเธอกลับใจไม่กล้าพอ เธอสามารถเข้ามาเรียนที่สมาคมกวีได้ ก็พอใจเป็นอย่างมากแล้ว จางยวี่โหร่วมองเธอ สายตาไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งแต่อย่างใด “ องค์ชายสองมีอุดมการณ์สูงส่ง หากเจ้าคิดว่าเขาจะมาสนใจกับเรื่องเช่นนี้ เช่นนั้นก็คงมององค์ชายสองเรียบง่ายไปหน่อยแล้วล่ะ ” หลังจากที่...รู้จักกันมาสองวัน หลินจือรู้อยู่แล้วว่า เป่ยจื่อหัวเป็นคนดีคนหนึ่งจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาเป็นองค์ชายที่สูงส่ง แต่ก็ไม่เคยถือตัวใดใด อีกทั้งยังพูดกับเธอบ่อยๆว่ามนุษย์ไม่ได้มีความแตกต่างกันแต่อย่างใด และก็พูดปลอบใจเธอว่าไม่ต้องไปยึดติดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุเท่านั้น เมื่อได้ยินการโต้ตอบระหว่างจางยวี่โหร่วกับหลินจือ เป่ยจื่อห้าวกับจ้าวซินซินอับอายมากยิ่งขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย จ้าวซินซินยังพูดอย่างถ่อมตนอีกว่า ถึงแม้เธออิจฉาที่หลินจือได้รับความชื่นชอบจากองค์ชายสอง แต่เมื่อเทียบกับการที่เธอได้แต่งงานกับองค์ชายสามและอยู่เหนือหลินจือในอนาคตแล้ว เธอยอมให้หลินจือแต่งงานกับองค์ชายสองดีกว่า เรียกได้ว่าเป็นการเลือกสิ่งที่จะได้รับความบาดเจ็บน้อยที่สุด แต่เป่ยจื่อห้าวก็อึดอัดใจอย่างมาก ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าจางยวี่โหร่วยังอยู่ตรงนี้ เขาก็คงจะฟาดโต๊ะให้แยกออกจากกันตรงๆ จากนั้นก็สะบัดแขนจากไปด้วยความโกรธไปแล้ว สมควรตายไปให้หมด จางยวี่โหร่วก็แย่แล้ว ตอนนี้แม้แต่หลินจือก็ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาและเลือกคนที่มีฐานะสูงส่งกว่า หลีกเลี่ยงเขาด้วยความกลัวอย่างเทียบไม่ได้ เขาจะลดความโกรธนี้ลงได้อย่างไรกัน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 51 รสชาติของการเสียหน้า
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A