ตอนที่ 53 แผนการทางธุรกิจทั้งหมด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 53 แผนการทางธุรกิจทั้งหมด
ต๭นที่ 53 แผนการทางธุรกิจทั้งหมด ใครก็มองออกว่าความสัมพันธ์ระหว่างจางยวี่โหร่วกับองค์ชายสามไม่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนั้นเหมือนแต่ก่อนแล้ว ก่อนหน้าในหนานชู่ไม่มีใครไม่รู้ว่า จางยวี่โหร่วคุณหนูคนโตของตระกูลจางรักองค์ชายสามจนยอมตายแทนได้ ถึงขนาดไปหาเขาที่ตำหนักสามทุกวัน แต่ทว่าตอนนี้ องค์ชายสามไปหาเธอที่ตำหนักไท่ซือหลายครั้ง แต่กลับไม่เห็นจางยวี่โหร่วมีท่าทีใดใด และทุกคนกลับได้ยินว่าเธอไปที่ตำหนักอ๋องชิงผินหลายครั้ง ช่างเป็นข่าวที่ทำให้คนตกตะลึงเป็นอย่างมากจริงๆ หรือเป็นเพราะว่าจางยวี่โหร่วได้เข้าพิธีแต่งงานกับอ๋องชิงผินและหัวใจก็ยอมรับเขาเรียบร้อย และทิ้งคนรักเก่าของเธอไปไว้ข้างหลัง? แน่นอนว่ายังมีข่าวลือบางอย่าง บอกว่าจางยวี่โหร่วไม่ได้บริสุทธ์และได้เป็นภรรยาของท่านอ๋องชิงผินในคืนแต่งงานแล้ว ไม่ได้มีคำกล่าวหนึ่งพูดไว้หรือว่า ร่างกายของผู้หญิงเมื่อให้ใครไป ใจของเธอก็ตกไปอยู่กับคนคนนั้น ตอนนี้ท่าทีของเธอที่มีต่ออ๋องชิงผินและองค์ชายสามไม่ใช่ข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนงั้นหรือ? เพียงแต่ใจของผู้หญิงคนนี้ช่างใหญ่จริงๆ องค์ชายสามทั้งรูปหล่อสง่างามเช่นนั้นและไม่รังเกียจที่เธอไม่บริสุทธ์แล้ว เธอยังไม่รู้จักทะนุถนอมไว้ให้ดีอีก กลับยังอยากแต่งงานกับอ๋องชิงผิน เธอไม่กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นผีที่ตายอย่างอนาถคนต่อไปหรือไงกัน? เธอยังอายุน้อยไม่รู้เรื่องรู้ราวนั้นไม่เท่าไหร่ แต่สิ่งที่ทำให้คนไม่เข้าใจก็คือ เหตุใดคนในตระกูลจางถึงไม่ออกหน้าหยุดยั้งไว้ พวกเขารักและทะนุถนอมคุณหนูผู้ล้ำค่าคนนี้เพียงคนเดียวมากที่สุดไม่ใช่หรือ? ไม่ใช่แค่พวกเขาไม่เข้าใจ เกรงว่าแม้แต่คนที่เกี่ยวข้องก็คงจะรับไม่ได้มากยิ่งขึ้นไปอีก? ลี่เฟยมองเห็นสถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ จึงกระสับกระส่ายเล็กน้อยในทันที หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เธอจะสามารถช่วยให้ลูกชายได้ครอบครองแผ่นดินทั้งหมดนี้ได้เมื่อไหร่กัน? เมื่อเห็นว่าสุขภาพร่างกายของฮ่องเต้ไม่ค่อยดีขึ้น ถึงเวลานั้นหากองค์รัชทายาทหรือองค์ชายสองได้สืบทอดราชบัลลังก์ เช่นนั้นโอกาสที่พวกเขาสองแม่ลูกจะได้เปลี่ยนฐานะก็คงจะยากขึ้นอีก การใช้ชีวิตในวังถึงแม้ว่าจะร่ำรวยมีเกียรติและหรูหราสะดวกสบาย แต่ว่าก็ใช้ชีวิตซ้ำซากแบบเดิมในทุกๆวัน ทุกข์ใจจนยากที่จะทนได้ หากว่าในวันหนึ่งเธอสามารถเป็นไทเฮ่าได้และได้นั่งอยู่บนบัลลังก์กับลูกชาย เช่นนั้นเธอก็คงจะได้ในสิ่งที่เธอต้องการจริงๆ ลี่เฟยได้รับป้ายคำสั่งออกจากวังเพื่อไปสวดมนต์ขอพรแก่แผ่นดินในนามของวัดผู่ถัวเมืองหลวง และตอนที่กลับมาก็ถือโอกาสแวะไปที่ตำหนักของลูกชายของตัวเองอยู่พักหนึ่ง ก็ไม่ได้เป็นเรื่องมากเกินไปอะไร เป่ยจื่อห้าวได้รับรายงานจากสาวใช้ข้างกายของลี่เฟย จึงเตรียมตัวตอนรับล่วงหน้าอย่างดีเพื่อต้อนรับการมาเยี่ยมของเสด็จแม่ จ้าวซินซินได้ยินข่าวเรื่องนี้จึงรีบมาที่ตำหนักสาม เพื่อต้องการแสดงออกให้เห็นอย่างดีต่อหน้าของลี่เฟยและทำให้เธอประทับใจ ตอนที่เธอมาตำหนักสามก่อนหน้านั้น ยังต้องหลบๆซ่อนๆเพราะกลัวว่าจะถูกคนเห็น แต่ว่าตั้งแต่ที่จางยวี่โหร่วให้เธอเป็นนางสนมขององค์ชายสาม เธอก็มาที่นี่ได้อย่างเปิดเผยและมีเกียรติ ไม่กลัวว่าจะเป็นที่ซุบซิบนินทาอีกต่อไป หลังจากที่ลี่เฟยมาถึงตำหนักสาม เป่ยจื่อห้าวก็สั่งให้สาวใช้ออกไปและเหลือเพียงแค่เขากับจ้าวซินซินอยู่ เห็นได้ชัดว่า พวกเขามีเรื่องสำคัญจะพูดคุยกัน ลี่เฟยมองจ้าวซินซิน เธอไม่เคยเห็นลูกสาวของผู้พิพากษาเมืองเล็กๆนี้อยู่ในสายตาตั้งแต่ไหนแต่ไรมา แต่ตอนนี้อาจถึงคราวที่จะต้องใช้งาน เธอจึงแสดงออกอย่างอ่อนโยนมาขึ้นกว่าเดิม “ ซินเอ๋อร์ ข้าได้ยินสิ่งที่ลูกชายพูดแล้วว่า เมื่อถึงเวลาที่ตกลงกันไว้ เจ้าก็จะได้แต่งงานกับลูกชายของข้าตามยวี่โหร่วและมีสามีคนเดียวกัน ตอนที่เจ้าอยู่กับยวี่โหร่วก่อนหน้านั้น ข้ารู้สึกว่าเจ้าอ่อนโยนน่าเอ็นดูและรู้เรื่อง หากเจ้าอยู่เคียงข้างกับลูกชายของข้าในภายภาคหน้า ข้าก็สามารถวางใจได้ ” เมื่อจ้าวซินซินได้ยินก็รู้สึกปลื้มใจทันทีและรีบพูดถ่อนตัวอย่างรวดเร็วว่า “ ขอบพระทัยลี่เฟยเพคะ สามารถปรนนิบัติรับใช้องค์ชายสามได้นั้นเป็นความโชคดีของซินเอ๋อร์ ซินเอ๋อร์จะไม่มีวันทำให้พระชายาผิดหวังและจะปรนนิบัติรับใช้องค์ชายสามอย่างดีเพคะ ” ลี่เฟยจับมือของเธอขึ้นมา มองเธอด้วยรอยยิ้มที่รักใคร่เอ็นดู “ โธ่ เด็กโง่เอ๋ย เจ้ายังต้องพูดเกรงอกเกรงใจข้าเช่นนี้? คำเรียกนี้...ควรจะเปลี่ยนได้แล้วไม่ใช่หรือ คราวหลังเรียกข้าว่าเสด็จแม่ตามองค์ชายสามเถอะ ” อะไรนะ เสด็จแม่!!! ถึงแม้เธอจะแต่งงานกับเป่ยจื่อห้าว ก็เพียงแค่ฐานะภรรยาเท่านั้น พูดตรงๆก็คือ เป็นแค่นางสนมคนหนึ่งเท่านั้น เธอมีสิทธิที่จะเรียกเช่นนั้นออกมาได้อย่างไรกัน? แต่ในเมื่อเธอเรียกร้องขนาดนี้แล้ว แน่นอนว่าจ้าวซินซินก็มีความสุขมาก ลี่เฟยชื่นชอบตัวเธอนั้นเป็นเรื่องที่ดี วันนี้เธอวิ่งมาคอยเอาอกเอาใจเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพื่อสิ่งนี้หรอกเหรอ ดูเหมือนว่าตอนนี้ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามอย่างที่ใจเธอต้องการ เธอจะไม่มีความสุขได้อย่างไรกัน “ เพคะ เสด็จแม่! ” เป่ยจื่อห้าวได้ยินเธอเอ่ยปากเรียกออกมาเช่นนั้นจริงๆ สายตาก็มีประกายเย็นชาออกมาแวบหนึ่ง เธอเป็นใคร มีค่าพอที่ไหน? แต่พอคิดทบทวนดูเสด็จแม่ทำเช่นนี้จะต้องมีเจตนาของเธอเป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงอดทนไว้ในใจชั่วคราว ในขณะนั้น จู่ๆลี่เฟยก็ถอดกำไลหยกคู่หนึ่งที่ตัวเองใส่อยู่ออกมา จากนั้นก็สวมใส่ไปที่ข้อมือของจ้าวซินซินด้วยตัวเอง “ ต่อไปนี้เจ้าก็เป็นลูกสะใภ้ของข้าแล้ว เมื่อแม่สามีเจอลูกสะใภ้ก็ควรจะมีของขวัญให้ นี่ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆของข้าแล้วกัน ” ลี่เฟยดีกับเธอเกินไปไหม? ดีจนเธอรู้สึกว่ามีพายตกลงมาจากฟ้าและกระแทกเข้าที่หัวของเธออย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าจ้าวซินซินจะมีความสามารถ แต่ก็ไม่ได้โง่เขลา เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรไม่ธรรมดาขึ้นมาทันที “ ของมีค่าเช่นนี้ ซินเอ๋อร์จะรับไว้ได้อย่างไรกันเพคะ และถึงแม้ว่าเสด็จแม่อยากจะมอบให้ ก็ควรจะมอบให้ท่านพี่ยวี่โหร่วนะเพคะ ” เธอกัดฟันและทำท่าทางต้องการจะเอากลับคืน ในตอนนั้นก็มีอีกมือหนึ่งดึงมือของเธอและหยุดเธอไว้ เมื่อเธอเงยหน้ามองก็เห็นเป็นองค์ชายสาม หรือว่าเขาก็หวังว่าเธอจะยอมรับกำไลหยกคู่นี้ไว้? เป่ยจื่อห้าวพูดเบาๆว่า “ ในเมื่อเป็นน้ำใจจากเสด็จแม่ เจ้าก็รับไว้เถอะ? ” จ้าวซินซินพยายามปิดบังความปีติยินดีในใจย่างสุดความสามารถ เธอจะอยากคืนกำไลนี้กลับไปจริงๆได้อย่างไรกัน นอกเสียจากเธอกังวลว่าองค์ชายสามจะคิดว่าเธอไม่รู้จักมีมารยาท ตอนนี้แม้แต่เขาก็พูดขนาดนี้แล้ว เช่นนั้นเธอก็รับไว้อย่างสบายใจในได้ทันที เมื่อเห็นแก่สิ่งที่ลี่เฟยกับองค์ชายสามดีกับเธอขนาดนี้ แม้พวกเขาจะต้องการให้เธอช่วยทำอะไร เธอก็จะทำอย่างไม่ลังเลแน่นอน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนที่มีความสามารถมากคนหนึ่งและยังรู้วิธีในการใช้เพื่อเอาใจคน เมื่อให้ความหวานเพียงพอแล้ว เช่นนั้นต่อมาก็ถึงเวลาที่จะตรวจสอบและยอมรับผลลัพธ์ ตัวของจ้าวซินซินเองก็เข้าใจในเหตุผลนี้ ดังนั้นจึงได้เตรียมใจไว้ “ ดีมาก ต่อจากนี้พวกเราก็เป็นครอ0บครัวเดียวกันแล้ว ซินเอ๋อร์ เจ้าเป็นหญิงสาวที่ฉลาด คาดว่าเจ้าคงจะเข้าใจความหมายของคำพูดที่ข้าจะพูดต่อจากนี้ หลังจากนี้เป่ยจื่อห้าวเป็นสามีของเจ้า ในฐานะที่เป็นผู้หญิง ความมีเกียรติและเสื่อมเกียรติของสามีก็คือความมีเกียรติและความเสื่อมเกียรติของเรา หากไม่ต้องการอยู่ในตำแหน่งอันต่ำต้อย ก็ควรจะแย่งมาเพื่อตัวเอง ในวันหน้าสามีของตัวเองเจริญก้าวหน้า เช่นนั้นฐานะของเจ้าก็จะไม่เหมือนกับในวันนี้อย่างแน่นอน ” ถึงแม้ว่าจ้าวซินซินจะไม่ได้อ่านหนังสือมามากมาย แต่เธอก็ไม่ได้โง่เขลา คำพูดของลี่เฟยนี้หมายถึงอะไร เธอฟังเข้าใจอย่างแน่นอน เป่ยจื่อห้าวเป็นถึงองค์ชายสามแล้ว เขายังต้องการเจริญก้าวหน้าอะไรอีก? เจริญก้าวหน้าขึ้นไปอีก นั่นก็คือบัลลังก์ของฮ่องเต้ไม่ใช่หรือ? ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นจ้าวซินซินจะรู้ว่าตลอดว่าเป่ยจื่อห้าวคอยติดตามจางยวี่โหร่วอยู่บ่อยครั้ง และยังให้เธอรายงานทุกอย่างเกี่ยวกับจางยวี่โหร่ว แต่เขากลับไม่เคยยอมรับด้วยตนเอง ตอนนี้ลี่เฟยพูดเรื่องนี้ออกมาตรงๆ จ้าวซินซินจึงหน้าซืดเล็กน้อยเมื่อได้ยิน เธอมีความทะเยอทะยาน แต่เธอก็กลัวเล็กน้อย พวกเขาเพียงแค่ต้องการหาอำนาจเพื่อแย่งชิงบัลลังก์? หรือว่าต้องการก่อกบฏกันแน่? หากล้มเหลวขึ้นมา ตัวเองก็จะต้องถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยไม่ใช่เหรอ นั่นคือโทษประหารเก้าชั่วโคตรเลยนะ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วเธอก็รู้สึกขาอ่อนแรงเล็กน้อย แต่ลองคิดดูอีกที ถ้าหากสำเร็จล่ะ องค์ชายสามก็จะขึ้นครองราชย์บัลลังก์กลายเป็นฮ่องเต้และเธอก็จะได้เป็นพระสนมเอกของเขา การเป็นผู้หญิงของพระจักรพรรดิฮ่องเต้นั้นจะฐานะสูงส่งและมีความสุขมากขนาดไหน พอนึกถึงแล้วใจของเธอก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เหมือนอย่างที่เขาพูดกันว่า ไม่เข้าถ้ำเสือ แล้วจะเจอเสือได้อย่างไร? เธอจะต้องมีความเชื่อมั่นใจองค์ชายสาม และนี่ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะแสดงความภักดีของเธอ จ้าวซินซินถอยหลังไปสองก้าวทันที จากนั้นคุกเข่าและก้มหัวลงกับพื้นเพื่อแสดงความจงรักภักดี “ ซินเอ๋อร์เข้าใจแล้วเพคะ ในวันหน้าองค์ชายสามจะเป็นสามีของซินเอ๋อร์ ซินเอ๋อร์ยินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้องค์ชายสามบรรลุเป้าหมาย ” ช่างเป็นผู้หญิงที่รู้จักวางตัวเสียจริง ก่อนหน้านั้นเธออยู่ข้างกายจางยวี่โหร่วมาโดยตลอด เธอจะสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้อย่างมากแน่ๆ “ ข้าได้ยินมาว่า ตอนนี้จางยวี่โหร่วมีน้องสาวที่ดีคนใหม่คนหนึ่ง ก็คือหลินจือลูกสาวของเฉินหานหลินขุนนางคนใหม่ ในวันงานเลี้ยงฉลองพระราชวัง ข้าได้เห็นหน้าเธอครั้งหนึ่ง และเห็นว่าเธอกับจางยวี่โหร่วมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก แต่เธอกับถูกทิ้งไว้อยู่ข้างๆ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่งั้นรึ? ” ขิงแก่ยังเผ็ดอยู่จริงๆ ลี่เฟยลงมือพูดถึงความเจ็บปวดของคนอื่นในทันที เดิมทีแล้วจ้าวซินซินก็เกลียดชังเพราะเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เมื่อลี่เฟยพูดขึ้นมาในตอนนี้เธอก็ตาแดงกล่ำขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ทันที “ ข้าฐานะต่ำต้อย ไม่อาจไปเทียบกับพวกนางได้ ในตอนนี้ท่านพ่อของคุณหนูหลินก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ฐานะของนางก็สูงส่งขึ้นตามไปด้วย ข้าจะไปเทียบอะไรได้กัน? ” ลี่เฟยขมวดคิ้วมองจ้าวซินซิน ตอนนี้เธอต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่ว่าเพราะเหตุใดจ้าวซินซินกับจางยวี่โหร่วถึงกลายเป็นแบบนี้ เธอจะต้องคิดหาวิธีทำให้จ้าวซินซินได้รับความเชื่อใจจากจางยวี่โหร่วใหม่ให้ได้ “จางยวี่โหร่วปฏิบัติต่อเจ้าในฐานะน้องสาวที่ดีมาตลอดไม่ใช่รึ? เมื่อก่อนไม่ว่าจะไปที่ใดก็พาเจ้าไปด้วย เหตุใดในตอนนั้นไม่เคยเห็นจางยวี่โหร่วรังเกียจฐานะของเจ้าเลยล่ะ? เจ้าบอกความจริงกับข้ามาตรงๆว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเจ้ากันแน่ เจ้าปิดบังอะไรเราอยู่ใช่หรือไม่? ” เป่ยจื่อห้าวเคยพูดกับเธอว่าให้ใช้ประโยชน์จากจ้าวซินซินตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขารู้สึกว่าหมากตัวนี้เริ่มสูญเสียคุณค่ามากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงต้องรีบหาวิธีแก้ไข เมื่อจ้าวซินซินได้ยินก็รีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ เปล่านะเพคะ ซินเอ๋อร์จะกล้าหลอกลวงลี่เฟยกับองค์ชายสามได้อย่างไรกัน ? ก่อนหน้านั้นเรายังดีกันอยู่จริงๆ แต่เมื่อวันที่เธอแต่งงานวันนั้น ข้าก็รู้สึกว่าเธอไม่เหมือนเดิมเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เริ่มห่างเหินกับข้าเหมือนไม่ตั้งใจ ซินเอ๋อร์ไม่รู้จริงๆว่าเกิดอะไรขึ้นเพคะ! ” ลี่เฟยกับเป่ยจื่อห้าวสบตากันและกัน ใตร่ตรองคำพูดของเธอ เพราะแม้แต่พวกเขาก็รู้สึกว่าจางยวี่โหร่วในตอนนี้ ดูแปลกไปเล็กน้อย แต่ไม่พูดไม่ออกเหมือนกันว่ามีอะไรผิดปกติไปกันแน่ ตอนนี้หลังจากที่ซักถามอย่างละเอียด ทันใดนั้นพวกเขารู้สึกว่าอาจได้รับเบาะแสอะไรบางอย่างที่สำคัญจากคำพูดของจ้าวซินซิน 
已经是最新一章了
加载中