ตอนที่ 58 ฮ่องเต้โปรดพระราชทานงานอภิเษกสมรส
1/
ตอนที่ 58 ฮ่องเต้โปรดพระราชทานงานอภิเษกสมรส
พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 58 ฮ่องเต้โปรดพระราชทานงานอภิเษกสมรส
ตนที่ 58 ฮ่องเต้โปรดพระราชทานงานอภิเษกสมรส ในตอนนี้หลินจือตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อเล็กน้อย ทั้งเขินอายทั้งตื่นเต้น ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีจนลืมต่อสู้ดิ้นรน และยืนให้เป่ยจื่อหัวกอดอยู่ในอ้อมแขนอย่างโง่เขลา ราบกับว่าสวรรค์ได้นำความโชคร้ายทั้งหมดมาไว้ที่ตัวเธอทันที และทำให้เธอประหลาดใจอย่างมาก จางยวี่โหร่วหัวเราะและหยอกล้อเธออยู่ข้างๆว่า “ เด็กโง่เอ๋ย ยังไม่รีบตอบตกลงอีก หญิงสาวที่สามารถทำให้องค์ชายสองสารภาพรักได้นั้น เจ้าเป็นเพียงคนเดียวเลยนะ ” หลังจากนั้น หลินจือก็ยิ่งหลบอยู่ในอ้อมแขนของเป่ยจื่อหัว อายจนหน้าแดงไปทั่วใบหน้าและไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง หันยี่ฉียืนมองดูละครที่น่าสนใจอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ และรู้สึกว่าคนที่แนะนำให้หลินจือกับองค์ชายสองรู้จักกัน กลับดีใจมากกว่าพวกเขาเสียอีก ไม่รู้จริงๆว่าในหัวของเธอคิดอะไรอยู่กันแน่ หรือเพียงเพื่อชดเชยเท่านั้น? เพียงแต่ว่าตอนนั้นหลินจือไม่ต้องการแต่งงานกับเขาตั้งแต่แรก! เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขากลับรู้สึกไม่สามารถจินตนาการได้จนถึงตอนนี้ หากพวกเธอไม่ได้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวผิดในตอนแรก ผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วยก็คือหลินจือ ไม่ใช่จางยวี่โหร่ว เรื่องทั้งหมดจะเป็นอย่างไร “ ท่านพี่จื่อหัว ในเมื่อท่านชอบน้องหลิน เช่นนั้นก็ต้องมีชื่อให้นางด้วย นางจะได้ไม่ต้องถูกรังแกอีก ” เป่ยจื่อหัวพูดว่า “ แน่นอนอยู่แล้ว พรุ่งนี้ข้าจะเข้าวังไปเรียนกับเสด็จพ่อว่าขอแต่งงานกับหลินจือและให้นางเป็นพระชายา จะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจไปชั่วชีวิต ” ด้วยฐานะสูงส่งอย่างเป่ยจื่อหัว กลับมีความรักและความรู้สึกรับผิดชอบเช่นนี้ ช่างหาได้ยากยิ่งนัก จางยวี่โหร่วจ้องมองดูจนรู้สึกอิจฉาเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้และนึกถึงความทุกข์ยากที่ตัวเองได้รับในชาติก่อน ก็รู้สึกขมขื่นอยู่ในใจ เธอนั้นสูญเสียลักษณะนิสัยที่มีความสุขไปตั้งนานแล้ว แต่ว่าตอนนี้เห็นหลินจือกับท่านพี่จื่อหัวมีความสุขมาก ตัวเธอเองก็รู้สึกปลาบปลื้มใจ ในขณะนั้น เธอกลับถูกดึงเข้าไปในอ้อมแขนที่แข็งแรงในทันที ลมหายใจอันอบอุ่นและคุ้นเคยลอยมา เธอกลับมีความรู้สึกปลอดภัยอย่างอธิบายไม่ถูก เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับดวงตาที่เยือกเย็นลึกซึ้งคู่นั้น เขามองเธออย่างมั่นคง ราวกับว่าจะดูดกินวิญญาณของเธอเข้าไป ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หัวใจของเธอจึงสั่นเทาและไม่สามารถควบคุมการเต้นของหัวใจได้ เขาเพียงแค่สบตากับเธอเท่านั้น ไม่นานก็ละสายตาไป แต่มือยังคงโอบเอวเธอไว้แน่นและกำชับเธอเข้ามาในอ้อมแขนของตัวเอง เขาไม่ชอบให้เธอมองคนอื่นด้วยตาแบบนั้น เขาที่เป็นสามียังอยู่ตรงนี้ เธอยังมีอะไรจะต้องอิจฉา หันยี่ฉีเอ่ยปากพูดเบาๆว่า “ องค์ชายสองอย่าทำอะไรโดยไม่คิดจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นเมื่อถึงเวลามีแต่จะขายหน้าตัวเองและได้ไม่คุ้มเสีย ” เมื่อเป่ยจื่อหัวได้ยินคำพูดนี้ ก็ไม่พอใจเล็กน้อยในทันที เขาตัดสินใจจะแต่งงานกับหลินจือแล้ว แต่หันยี่ฉีกลับพูดคำพูดเช่นนี้ออกมา เขาฟังแล้วรู้สึกว่าไม่ได้มีความหวังดีอะไร และยังมีความสงสัยในคำพูดประชดประชัน เหตุใดเมื่อฟังแล้วทำให้คนรู้สึกว่าไม่สบายใจเล็กน้อยกัน? “ ท่านอ๋องชิงผินหมายความว่าอย่างไรกัน? ” แม้ว่าเขาจะยังคงสุภาพ แต่น้ำเสียงที่พูดกลับเย็นชาอย่างชัดเจน แม้แต่จางยวี่โหร่วก็มองเขาอย่างไม่เข้าใจและรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เขาไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นมาตลอดไม่ใช่เหรอ? แม้แต่คำพูดแบบนี้ เขาก็ไม่เคยใส่ใจที่จะพูดออกไป แต่ตอนนี้กลับพูดแทรกขึ้นมาทันที หมายความว่าอย่างไรกัน? “ ข้าเพียงแค่เตือนด้วยความหวังดีเท่านั้น ที่รัก เจ้าลืมที่พนันกับคนบางคนไว้แล้วใช่ไหม? ” จางยวี่โหร่วไม่ได้ลืมอย่างแน่นอน เธอพนันกับเฉินซูเสียนไว้ เธอจะต้องช่วยหลินหาการแต่งงานที่ดีกว่าและให้เธอแต่งงานออกเรือนไปให้ได้ เธอพาหลินจือมาที่นี่ในวันนี้ ไม่ใช่เพื่อเรื่องนี้หรือ? โดยเฉพาะ ต้องการที่จะตบหน้าจ้าวซินซินแรงๆ! เป่ยจื่อห้าวนั้นเป็นคนจิตใจเคียดแค้นมาก เพราะการปฏิเสธของหลินจือในวันนั้นทำให้เขารู้สึกอับอายขายหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะทำเหมือนไม่บีบบังคับหลินจืออีก แต่ในใจจะต้องพยายามคิดหาหนทางจัดการกับเธอแน่ ยิ่งกว่านั้นจะไม่มีวันปล่อยให้หลินจือได้แต่งงานกับองค์ชายสองอย่างสมหวังและกลายเป็นพี่สะใภ้ของเขาอย่างแน่นอน คาดว่าตอนนี้จ้าวซินซินคงจะนำเรื่องที่เธอรับปากว่าจะใส่ร้ายหลินจือต่อหน้าองค์ชายสองไปบอกข้างๆหูเป่ยจื่อห้าวแล้ว และยังคิดว่าตัวเองทำให้พวกเขาสมหวังในความปรารถนาได้อย่างเต็มไปด้วยความหวัง หากสามารถส่งข่าวที่องค์ชายสองต้องการจะแต่งงานกับหลินจือไปได้อย่างรวดเร็ว เป่ยจื่อห้าวจะต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างแน่นอน จ้าวซินซินก็จะไม่ได้เจอผลลัพธ์ที่ดีเช่นเดียวกัน และยังจะถูกเป่ยจื่อห้าวลงโทษที่ทำงานไม่สำเร็จ จางยวี่โหร่วรู้สึกว่าความคิดของตัวเองนั้นช่างเหมือนกับการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวและปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ แต่ตอนนี้...สายตาของเธอยังคงสับสนเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด และฟังความหมายลึกซึ้งของคำพูดเขาไม่เข้าใจ “ การพนันของเจ้ากับคุณหนูตำหนักเฉินกั๋วกงได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งนานแล้ว หากตอนนี้องค์ชายสองแต่งงานกับหลินจือ เจ้าคิดว่านางจะจัดการอย่างไร? ” เรื่องนี้ เป่ยจื่อหัวได้ยินมาอย่างชัดเจนเช่นกัน แต่ในความเห็นของเขา นั่นเป็นเพียงแค่คำพูดล้อเล่นระหว่างผู้หญิงเท่านั้น และไม่ได้สนใจอะไร และถึงอย่างไรเขาก็จะแต่งงานกับหลินจือ จะไม่ยอมให้เธอกับจางยวี่โหร่วถูกเอาเปรียบอย่างแน่นอน เรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องกังวล จางยวี่โหร่วมีสติกลับมาและพูดอย่างเย็นชาว่า “ กล้าพนันก็กล้าแพ้ ข้าเกลียดคนที่ชอบพูดลับหลังมากที่สุด ข้าจะจัดการลิ้นของนางแน่ ” มีเพียงแต่การลงโทษเฉินซูเสียนเท่านั้น เธอถึงจะสยบคำพูดทั้งในและนอกเมืองหลวงได้สำเร็จ และให้บทเรียนแก่เฉินซูเสียน ใครกล้าพูดอะไรไร้สาระอีก คือรนหาที่ตายเท่านั้น เมื่อเห็นจางยวี่โหร่วเป็นแบบนี้ เป่ยจื่อหัวก็ตกใจเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะไม่คิดว่าผู้หญิงบอบบางคนหนึ่งจะจิตใจแน่วแน่ขนาดนี้ แต่พูดตามตรง เฉินซูเสียนนั้นมากเกินไปจริงๆ ก่อนหน้านั้นคอยก่อกวนเขาและทำให้เขาประสาทเสียทุกวัน และยังสร้างปัญหาลับหลังเขาสารพัด สมควรจะได้รับโทษ เพียงแต่หากตัดลิ้นออกจริงๆ มันจะรุนแรงมากเกินไปหน่อยหรือไม่ “เฉินซูเสียนนั้นเป็นถึงคุณหนูคนโตของตำหนักเฉินกั๋วกง เมื่อถึงตอนนั้นเฉินกั๋วกงจะยอมจบด้วยดีงั้นรึ? เมื่อถึงตอนนั้นเกรงว่าเขาจะแตกหักกับตระกูลจางโดยสิ้นเชิง เจ้าทำเรื่องไม่ดีออกไปแล้วแต่เจ้าเคยคิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมาบ้างไหม? ” คำถามนี้ จางยวี่โหร่งนั้นไม่ได้ระวังอย่างแน่นอน ตระกูลจางของพวกเขานั้นไม่ได้กลัวเฉินกั๋วกงเลย แต่ยอมทำให้สุภาพบุรุษไม่พอใจ ดีกว่าทำให้คนต่ำต้อยไม่พอใจ เมื่อถึงเวลานั้นเขาแค้นเคียงและขัดขาตระกูลจางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างลับๆ แต่หากจะให้เธอปล่อยเฉินซูเสียนเพราะเรื่องนี้ เธอก็ไม่สามารถทำได้ หากเป็นเช่นนั้นเธอจะขายหน้ามากขนาดไหนกัน “ งั้นท่านคิดว่าตอนนี้ควรจะทำเช่นไร? ” ในเมื่อเขาพูดขนาดนี้ คงจะต้องคิดวิธีการแก้ปัญหาออกแล้วอย่างแน่นอน ในขณะนั้น เขาก็หันไปมองที่เป่ยจื่อหัว “ ตามที่ข้าทราบ คุณหนูเฉินชอบพอองค์ชายสองมานาน ถึงขนาดจะฆ่าตัวตายเรียกร้องความสนใจ ก่อนหน้านั้นองค์ชายสองยังไม่แต่งงานกับใครและก็ไม่ได้ยอมรับผู้หญิงคนไหนสักคน พวกเขาจะรีบร้อนขนาดไหนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ หากท่านแต่งงานกับหลินจือตอนนี้ เช่นนั้นสาส์นกราบกูลของเฉินกั๋วกงก็จะไปถึงฮ้องเต้ทันทีว่าต้องการจะให้ลูกสาวแต่งงานเข้าตำหนักสองพร้อมกัน เฉินกั๋วกงนั้นถือว่าเป็นผู้ก่อตั้งประเทศเช่นกัน พวกท่านคิดว่าฮ่องเต้จะตัดสินใจอย่างไรล่ะ? ” เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เป่ยจื่อหัวกับจางยวี่โหร่วสีหน้าเปลี่ยนไปในเวลาเดียวกัน ทำไมพวกเขาถึงคิดไม่ถึงกัน รับมือกับเฉินซูเสียนนั้นง่ายดาย แต่กลับไม่สามารถมองข้ามตำหนักเฉินกั๋วกงเบื้องหลังของเธอได้ ถึงแม้จะไม่เกินกำลังของตระกูลจาง แต่ยังคงเป็นที่น่าหวาดกลัวอยู่ในราชสำนัก ต่อให้องค์ชายสองไม่อยากจะแต่งงานอย่างไร เกรงว่าเมื่อถึงตอนนั้นก็จะถูกบังคับโดยสถานการณ์และก็ไม่สามารถตัดสินใจเองได้ จางยวี่โหร่วพูดด้วยความโกรธ “ ตามที่ท่านพูดมา ข้าชนะพนันอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้กลับยังจะต้องถูกคนจูงจมูก จะมีเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรกัน? ” “ นั่นคือสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าเจ้าจะยอมรับหรือไม่ ก่อนหน้าที่เจ้าไม่มีกำลังจะโค่นล้มศัตรูได้ ทำการใดก็ต้องระวังระวังรอบคอบ เดินหมากไม่ระวังเพียงหมากเดียวก็สามารถพ่ายแพ้ทั้งกระดานได้” นี่คือประสบการณ์ต่างๆมากมายที่เขาได้รับมา และตอนนี้เขาจะถ่ายทอดประสบการณ์ของเขาให้แก่เธอ ตอนนี้แม้แต่สายตาของเป่ยจื่อหัวที่มองหันยี่ฉีก็เต็มไปด้วยทัศคติที่เปลี่ยนแปลงไป ก่อนหน้านั้นคิดว่าเขาเย็นชาไร้มนุษยธรรมและยังมีเจตนาไม่ดี ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะใช้จิตใจของคนต่ำต้อยมาวัดจิตใจของสุภาพบุรุษซะแล้ว “ คำพูดของท่านอ๋องมีเหตุผลเป็นอย่างยิ่ง เมื่อครู่นี้ข้าไม่ระวังเกินไป เช่นนั้นตามความหมายของท่านอ๋อง เรื่องการแต่งงานของข้ากับหลินจือควรจะพูดขึ้นมาเมื่อใด ถึงจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด? ” แรงกดดันทางด้านเฉินกั๋วกงมีมากเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าเป่ยจื่อหัวจะไม่รู้ ก่อนหน้านั้นเสด็จพ่อเรียกเขาเข้าพบหลายครั้งเพราะเรื่องนี้ หวังว่าเขาจะแต่งงานกับเฉินซูเสียนในเร็ววัน ถึงแม้เขาจะยังตอบตกลง เกรงว่าในสายตาของคนอื่นจะมองว่าเธอเป็นพระชายาของเขาเรียบร้อยแล้ว เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้ เป่ยจื่อหัวก็รู้สึกกลัดกลุ้มใจไม่หยุดหย่อน หันยี่ฉีกลับไม่ได้ตอบคำถามเขาในทันที แต่ค่อยๆหยิบถ้วยชาขึ้นมา ปลายนิ้วอันเรียวยกขึ้นมาเบาๆ จากนั้นก็ก้มหน้าดื่ม ทุกการเคลื่อนไหวล้วนสง่างามอย่างเป็นธรรมชาติ “ ถามท่านน่ะ ได้ยินหรือไม่ ยังไม่รีบตอบอีก! ” จางยวี่โหร่วพุ่งเข้าไปแย่งถ้วยชาของเขาวางลง ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเร่งด่วนเช่นนี้เขาต้องการอะไรกันแน่ ไม่รู้ว่าพวกเขาใจร้อนจะแย่แล้ว เขาขมวดคิ้วบางๆ และกวาดสายตาไปที่ใบหน้าของจางยวี่โหร่ว ริมฝีปากบางๆก็กระตุกขึ้น “ เจ้ารีบร้อนอยากจะล้างความสัมพันธ์กับข้ามาตลอดไม่ใช่หรือ เหตุใดข้าต้องช่วยพวกท่าน? ” ผู้ชายคนนี้ ทำไมชอบมากเกินไปเช่นนี้ ช่วงเวลาเร่งด่วนยังจะเอาเรื่องนี้มาบีบบังคับเธอ ก็แค่ในวันนั้นเขาได้ยินเธอกับเย่นอิ่งพูดคุยกันเรื่องความเป็นความตายในตำหนัก ลงโทษเขาก็ลงโทษแล้วไม่ใช่หรือไง ตอนนี้ยังกังวลอะไรอีก เป่ยจื่อหัวกับหลินจือไม่เข้าใจแน่นอนว่าพวกเขากำลังพูดคุยเรื่องอะไรกันแน่และเบิกตามองพวกเขาด้วยความแปลกใจ ภายใต้สายตาอันตกตะลึงอย่างมาก จางยวี่โหร่วหัวแข็งทื่อและเดินมาข้างๆหันยี่ฉี เอื้อมมือมาดึงแขนเสื้อของเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยท่าทางออดอ้อนของเด็กน้อย “ ท่านอ๋อง สามี ข้าผิดไปแล้ว ท่านมองข้ามความผิดพลาดไปและให้อภัยข้าได้มั้ย? ” แค่กแค่ก ฉากฉากนี้ ทำให้สองคนที่ดูอยู่ข้างๆตกใจอย่างมาก รู้จักจางยวี่โหร่งมาตั้งหลายปี ต่อให้ปฏิบัติกับองค์ชายสามก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยเห็นท่าทางแบบนี้ของเธอเลย เหมือนกับบทสนทนาของคู่สามีภรรยาทั่วไปที่รักใคร่กันอย่างลึกซึ้ง ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอ๋องชิงผินนั้นจะลึกซึ้งเกินกว่าที่พวกเขาคิดไว้อย่างมาก ภายใต้การโจมตีของจางยวี่โหร่ว นั้นได้ผลกับชายหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด เขาอารมณ์ดีและพูดในสิ่งที่พวกเขาอยากรู้ออกมาอย่างไม่ลังเล “ ทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับสาระสำคัญ อันดับแรกพวกท่านต้องเข้าใจให้ชัดเจนก่อนว่า ใครคือคนที่ตัวเองควรจะรับมือกันแน่! ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 58 ฮ่องเต้โปรดพระราชทานงานอภิเษกสมรส
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A