ตอนที่67 อยู่ฝั่งไหนกันแน่
1/
ตอนที่67 อยู่ฝั่งไหนกันแน่
พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่67 อยู่ฝั่งไหนกันแน่
ตนที่67 อยู่ฝั่งไหนกันแน่ “ฝ่าบาท!” เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว ทุกคนก็อดที่เป็นกังวลถึงร่างกายของฮ่องเต้ขึ้นมาไม่ได้ เฉินกั๋วกงยิ่งตื่นตกใจเข้าไปใหญ่ ลูกสาวของเขาทำร้ายจางอวี่โหร่วยังถือว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าหากทำให้ฮ่องเต้โมโหขึ้นมาแล้ว ต่อให้ยึดทรัพย์สินและสั่งประหารทั้งตระกูลก็อาจจะยังไม่เพียงพอ ลูกสาวที่ไม่เชื่อฟังนี่ เดิมทีก็ไม่ชอบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียด และยังวุ่นวายมาถึงต่อหน้าฮ่องเต้ แล้วตอนนี้ก็ยังจะพูดจาหยาบคายต่อหน้าฮ่องเต้อีก เขาได้แต่เกลียดตัวเองที่ไม่ดูแลสั่งสอนเฉินซูเสียนให้ดี ถึงได้ทำให้เธอกระทำผิดใหญ่หลวงแบบนี้ เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นดังนี้ เฉินซูเสียนเองก็ตกใจจนไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก เพียงแต่เมื่อเห็นว่าตอนแรกเธอยังใบหน้าซีดเซียวโรยแรง แต่อยู่ๆ กลับมีกำลังมากขนาดนั้นขึ้นมา ใครๆ ต่างก็ดูออกว่าความจริงแล้วอาการบาดเจ็บของเธอมีความแสร้งทำปนอยู่เท่าไหร่ ในตอนนั้นหันยี่ฉีเพียงใช้กำลังภายในผลักเธอออก อย่างมากเธอก็แค่กระแทกลงไปเท่านั้น เดิมทีก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสขนาดนี้ “ท่านพ่อ!” ในตอนนั้นเอง น้ำเสียงรีบร้อนก็ดังขึ้นจากด้านนอกตำหนัก หลังจากนั้นร่างสวมชุดสีฟ้าก็วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เขาวิ่งเข้าไปที่ด้านข้างบันลังก์ของฮ่องเต้ และช่วยพยุงลูบอกของฮ่องเต้เพื่อช่วยในการหายใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล ที่แท้ก็คือ......เป่ยจื่อห้าว เขาก็มาแล้ว! เขามาช่วยร้องความเป็นธรรมแก่โหร่วเอ๋อร์หรือเปล่า? ภายในใจของจางไท่ชือและจางหาวอดที่จะรู้สึกว่าเขามาช้าไปเล็กน้อยขึ้นมาไม่ได้ ยังไม่ต้องพูดถึงหันยี่ฉี แม้แต่องค์ชายรองก็ยังมาช่วยยืนยันให้โหร่วเอ๋อร์ตั้งนานแล้ว จนตนนี้เรื่องเกือบจะจบลงแล้ว เขาเพิ่งมาก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร ทุกคนต่างก็คุกเข่าลงที่พื้น โดยเฉพาะจางไท่ชือ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโทษตัวเอง : “ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่ทราบว่าสุขภาพของฝ่าบาทไม่ดีนัก อีกทั้งยังทำให้ฝ่าบาทของลำบากใจเพราะเรื่องนี้ ทั้งฝ่าบาทควรจะรักษาสุขภาพให้ดี” นี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเสมอของฮ่องเต้ ถ้าหากว่าอารมณ์กดดันเครียดขึ้นมา มันก็จะปรากฏออกมาได้ง่าย ไม่นานนัก ในที่สุดเขาก็สงบลงได้ หลังจากนั้นก็โบกปัดมือไปมา : “ไม่เป็นอันใด!” ในตอนนั้น เป่ยจื่อห้าวแสดงท่าทีโมโหสุดฤทธิ์ออกมา เขามองลงไปยังบุคคลเบื้องล่าง และกล่าวขึ้นอย่างไม่เกรงใจ “จางไท่ชือ ท่านเป็นถึงขุนนางเคียงจักรพรรดิ ทำไมจึงไม่เป็นตัวอย่างที่ดี ท่านพ่อทำงานดูแลแคว้นทุกวันก็ลำบากมากพอแล้ว พวกท่านยังหาเรื่องราวเหล่านี้มาทำให้ท่านลำบากอีก ท่านกับเฉินกั๋วกงต่างก็เป็นขุนนางคนสำคัญ ขุนนางไม่สามัคคีกันทำให้ตำหนักจางเองก็ไม่ปรองดอง และยังนำมาสู่ความไม่มั่นคงของบ้านเมือง ท่านรู้ความผิดของตนหรือไม่?” “ข้าทราบแล้ว!” เมื่อเห็นว่าร่างกายของฮ่องเต้อ่อนแอถึงเพียงนี้ เดิมทีจางไท่ชือก็รู้สึกผิดมากอยู่แล้ว แต่ว่าเมื่อคำพูดนี้ออกมาจากปากของเป่ยจื่อห้าว มันก็ทำให้ยิ่งรู้สึกเหนื่อยใจ ที่เขามาในวันนี้ เขามาเพื่อร้องความเป็นธรรมแก่โหร่วเอ๋อร์หรือไม่กันแน่ ในตอนนั้นเอง เป่ยจื่อห้าวก็ว่ากล่าวออกมาด้วยความโมโหอีกครั้ง : “เฉินกั๋วกง ท่านสั่งสอนลูกสาวไม่ดี จนลูกสาวกระทำตัวร้ายกาจ อีกทั้งหลังจากเกิดเรื่องแล้วก็ยังรีบมากล่าวหาใส่ร้ายตระกูลจางก่อน ห้องส่วนตัวที่หอเทียนเซียงในวันนั้น ข้าเป็นคนจองให้แก่โหร่วเอ๋อร์ คุณหนูเฉินบุกเข้าไปและยังทำร้ายคนอื่น ไม่เพียงแค่เป็นการมองข้ามตระกูลจาง แต่ยังไม่ได้เห็นข้าอยู่ในสายตาด้วยใช่หรือไม่?” ในยามปกติ เฉินกั๋วกงไม่เคยสนใจเป่ยจื่อห้าวอยู่แล้ว ท่าทีของเฉินซูเสียนก็เป็นผลมาจากท่าทีของเขา แต่แน่นอนว่าในตอนนี้เขาไม่มีทางจะยอมรบ “ข้ามิอาจ ข้าไม่ได้มีเจตนาจะกระทำผิดต่อองค์ชายสาม เรื่องทั้งหมดนี้มีที่มาที่ไป มันเป็นเพราะข้าสั่งสอนลูกสาวได้ไม่เข้มงวดพอ ขอให้คิดเสียว่าลูกข้ายังเด็กไม่รู้อะไรและปล่อยนางไปสักครั้ง หากจะลงโทษก็ลงโทษข้าเถอะ” ในที่สุดเฉินกงกั๋วก็คุกเข่าลงเอ่ยขอร้อง การกระทำนี้ของเขาไม่ใช่การบอกว่าทุกคนต่างก็กระทำผิดหรอกเหรอ? เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีต่อตัวเขา เฉินกั๋วกงก็ได้แต่คำนับขอให้อภัยโทษ เป่ยจื่อห้าวพูดออกมาอย่างเรียบเชียบ : “ความจริงแล้วเรื่องนี้ก็เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ เรื่องหนึ่ง ไม่ได้จำเป็นจะต้องวุ่นวายมาถึงตำหนักจาว คนที่ท่านควรจะขออภัยไม่ใช่ข้า แต่เป็นจางไท่ชือ ลูกสาวของท่านทำร้ายจางอวี่โหร่ว ทำร้ายจนตอนนี้นางก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมา และในเมื่อได้กระทำผิดลงไปแล้ว ก็ควรที่จะเอ่ยขออภัยจากใจจริง เพียงเท่านี้เรื่องใหญ่ก็จะกลายเป็นเรื่องเล็กแล้ว ท่านพ่อของข้าจะได้ไม่ต้องกังวลใจ และก็จะทำให้ตำหนักจาวสงบเรียบร้อย เพราะถ้าหากถึงเวลาที่เป็นเช่นนั้น ท่านก็คงไม่อาจจะอดแทนได้ไหว” แน่นอนว่าเฉินกั๋วกงไม่ใช่คนโง่ เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ เขาก็รีบลุกขึ้นไปประกบมือเคารพต่อหน้าพ่อลูกตระกูลจาง “จางไท่ชือ ท่านจาง เป็นเพราะในตอนแรกข้าไม่เข้าใจเหตุการณ์กระจ่างดี เชื่อคำพูดของลูกสาวเพียงฝ่ายเดียว และเข้าใจเรื่องของคุณหนูจางผิดไป ข้าขออภัยในความผิดครั้งนี้แทนลูกสาวข้า ข้าจะพานางไปขอโทษที่บ้านอย่างแน่นอน” ตอนนี้.......อีกฝ่ายได้ขอโทษออกมาแล้ว ถ้าหากว่ายังคงดึงดันต่อไป ตระกูลจางของพวกเขาก็คงจะดูใจแคบ และตอนนี้สุขภาพของฮ่องเต้ก็ไม่สู้ดี หากจะดึงดันต่อไปก็คงจะไม่ดีนัก ในตอนนั้นเอง น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกของหันยี่ฉีก็ดังขึ้นมา : “เพียงการขอโทษอย่างไม่ใส่ใจนักก็สามารถทดแทนความเจ็บปวดที่ชายาของข้าได้รับได้แล้วหรือ? ถ้าเช่นนั้นหากผู้อื่นลอกเลียนทำร้ายผู้อื่นตามใจ หลังจากนั้นก็เอ่ยคำขอโทษและจบลงโดยไม่มีอะไรเปลี่ยน แบบนั้นมันจะไม่ทำให้กฎของแคว้นพังและกลายเป็นสิ่งที่ไร้ความสำคัญไปหรือ?” นี่......พูดเสียดูร้ายแรงมากทีเดียว ในใจของจางไท่ชือปิติยินดีขึ้นมา หลานเขยคนนี้ไม่ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ “เป็นเพราะข้าไม่ทันคิดให้ดี รอให้คุณหนูจางหายดี ข้าจะพาลูกสาวไปเยี่ยมเยียนให้คุณหนูได้ว่ากล่าวระบายอารมณ์จนกระทั่งสามารถยกโทษให้ได้จึงหยุด ท่านว่าอย่างไร?” เฉินกั๋วกงไม่อาจจะทำอะไรได้ เขาจึงทำได้เพียงพูดเช่นนี้ออกไป ถ้าหากยังคงสืบสาวต่อ นั่นก็ไม่ใช่รอให้ลูกสาวของเขาติดคุกหรือ? “ท่านพ่อ ข้าไม่ไป!” เฉินซูเสียนโต้แย้งขึ้นมาด้วยความโมโหในทันที เธอจะต้องเอ่ยขอโทษต่อคนเลวๆ อย่างจางอวี่โหร่ว นั่นไม่ใช่ว่ายากจะยอมรับเสียกว่าฆ่าเธออีกหรือ? ภายในสายตาของหันยี่ฉีประกายความคิดขึ้นมา : “ดูเหมือนว่าคุณหนูเฉินจะไม่ได้รู้สึกถึงความผิดของตัวเองเลย” สีหน้าของเฉินกั๋วกงที่เป็นพ่อที่ใจดีต่อหน้าลูกสาวมาโดยตลอดนิ่งไปในทันที จากนั้นเขาก็ตบลงบนใบหน้าของเฉินซูเสียนอย่างรุนแรง “เงียบเสีย เจ้าลูกสาวไม่รักดี ทุกอย่างเกิดขึ้นก็เพราะเจ้า กระทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้ จนถึงตอนนี้ยังไม่คิดสำนึกผิดแก้ไข เป็นเพราะพ่อตามใจเจ้าจนเสียคนไปแล้ว วันนี้พ่อจะบอกกับเจ้าเอาไว้ แม้เจ้าจะอยากไปหรือไม่อยากไป เจ้าก็ต้องไป ไม่เช่นนั้นพ่อจะไล่เจ้าออกจากบ้าน และหลังจากนี้จะไม่ถือว่าเจ้าเป็นลูกสาวอีก” เห็นได้ชัดว่าเฉินซูเสียนตกใจจนนิ่งไป เธอประคองใบหน้าที่ปวดร้าวเอาไว้ แววตาของเธอประกายความไม่อยากจะเชื่อออกมา และตอนนี้เธอก็พูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว เมื่อได้เห็นการตบแทนการชดเชยความรู้สึกนี้ ภายในใจของคนตระกูลจางก็รู้สึกดีขึ้นมามาก ตอนนี้เฉินกั๋วกงก็เสียหน้าไปมากแล้ว แต่ว่าทุกอย่างก็เป็นเพราะพวกเขาสองพ่อลูกโต้แย้งกันเอง ไม่อาจจะกล่าวโทษใครได้ ในตอนนั้นเอง เป่ยจื่อห้าวก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง : “ในเมื่อเฉินกั๋วกงได้แสดงความรับผิดชอบอย่างสาสมแล้ว ข้าก็วางใจ ส่วนคุณหนูเฉิน ก็ต้องขอรบกวนเฉินกั๋วกงกลับไปสั่งสอนให้ดีด้วย หลังจากนี้นางจะได้ไม่ก่อเรื่องอะไรอีก” เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการมอบหนทางออกจากสถานการณ์แสนอึดอัดนี้ให้กับพวกเขา เฉินกั๋วกงเงยหน้าขึ้นมองไปยังเป่ยจื่อห้าวเล็กน้อย ภายในสายตาปรากฏความมืดมิดไม่ชัดเจนขึ้น “รับทราบ!” เขาประกบมือเคารพแก่ทุกคนอีกครั้ง จากนั้นก็ให้คนยกเปลหามขึ้นมา และรีบพาเฉินซูเสียนออกจากที่นี่ไป
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่67 อยู่ฝั่งไหนกันแน่
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A