ตอนที่70 ข่าวดีและข่าวร้าย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่70 ข่าวดีและข่าวร้าย
ต๭นที่70 ข่าวดีและข่าวร้าย ในตอนนี้ ณ ห้องหนังสือตำหนักสาม สาวงามผิวขาวนวลเนียนกำลังนอนเย้ายวนอยู่ในอ้อมอกของเป่ยจื่อห้าว ในตอนนั้นเองอยู่ๆ ประตูก็ถูกเปิดออก เรือนร่างงดงามในชุดกระโปรงสีขาวเดินผ่านเข้ามา เมื่อเป่ยจื่อห้าวมองเห็นเธอ เขาก็อดที่จะขมวดคิ้วเล็กๆ ขึ้นมาไม่ได้ ทำไมเธอถึงได้ไม่เข้าใจกฎเกณฑ์และเข้ามาผลีผลามโดยไม่แจ้งก่อน? ตอนนี้ทั้งตำหนักสามต่างก็รู้ฐานะของจ้าวซินซินแล้ว แม้ว่าองค์ชายสามจะยังไม่ได้รับเธอเข้ามาเป็นชายาอย่างเป็นทางการ แต่มันก็เป็นเรื่องที่จะต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้นทุกคนจึงทำอะไรโดยมองจากสีหน้าของเป่ยจื่อห้าว เมื่อเห็นว่าเขารักเอ็นดูจ้าวซินซินมาก เวลาพบเจอเธอก็จะต้องให้ความเคารพ ไม่อาจจะหมางเมินได้ แต่ว่าที่ทางเป่ยจื่อห้าวนั้น ความรักและเอ็นดูของเขามีจำกัด ไม่อาจจะไม่เคารพกฎของเขาเช่นนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่พอใจกับการเสียมารยาทของจ้าวซินซินเป็นอย่างมาก หลายวันที่ผ่านมานี้เป่ยจื่อห้าวยุ่งวุ่นวายมาก สาวงามหวังหาโอกาสเข้ามาเกาะแกะเขาได้อย่างยากลำบาก แน่นอนว่าเธอจะต้องต้องการรั้งตัวเขาเอาไว้ และให้เขาไปเดินสนุกกับตัวเองในยามค่ำคืน แต่ว่าในตอนที่เธอกำลังพยายามใช้กำลังทั้งกายในการแสดงความสามารถ จ้าวซินซินก็พุ่งตัวเข้ามารบกวนช่วงเวลาดีๆ ของเธอเสียก่อน แน่นอนว่าสาวงามหวังไม่พอใจเป็นอย่างมาก และเพื่อสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจของเป่ยจื่อห้าวเช่นกัน เธอก็รีบอาศัยหาประโยชน์จากสถานการณ์ทันที “แม้ว่าอีกไม่นานน้องจ้าวก็จะเขาสู่ตำหนักหลวงแล้ว หลังจากนี้ทุกคนก็จะกลายเป็นพี่น้อง แต่ว่าตามกฎของตำหนักสาม น้องจ้าวก็ยังควรจะเคารพรักษาเอาไว้ให้ดี ด้วยตัวข้าที่เป็นพี่ ข้าจึงอดเอ่ยตักเตือนไม่ได้ ห้องหนังสือห้องนี้เป็นสถานที่สำคัญของตำหนักสาว ไม่สามารถเข้ามาตามใจโดยไม่แจ้งได้ น้องทำตัวไม่สนใจกฎเกณฑ์เช่นนี้ ถ้าหากไปยั่วยุทำให้องค์ชายสามโกรธเข้าคงจะไม่ดีนัก” เห็นได้ชัดว่าสาวงามหวังพูดความในใจของเป่ยจื่อห้าวออกมา ในตอนนี้สีหน้าของเขามืดมนลงทันที เพียงแค่มองดูสาวงามหวังก็รู้แล้วว่าเขากำลังโกรธ ภายในใจของเธอรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก แต่สีหน้ากลับยังคงดูเต็มไปด้วยความสงบนิ่งราวกับไม่รับรู้ถึงความโมโหของเป่ยจื่อห้าว มันไม่ได้ดูเหมือนกับความน่าสงสารราวกับกระต่ายขาวตัวน้อยในยามปกติของเธอเลย “ข้าขออวดดีเอ่ยถามองค์ชายสาม กฎของตำหนักหลวงสำคัญ หรือแผนการใหญ่ขององค์ชายสามสำคัญกว่า? ซินเอ๋อร์มาที่นี่ก็เพราะมีเรื่องจะมารายงาน ถ้าหากท่านต้องการจะว่ากล่าวลงโทษ สู้รอให้ลงโทษเสร็จแล้วค่อยดูว่าซินเอ๋อร์จะยังมีกำลังพูดหรือไม่จะดีกว่า” อะไรที่เรียกว่ามีกำลังสนับสนุนไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใด ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะเธอมีหมากตัวสำคัญอยู่ในกำมือ เธอจะกล้าองอาจได้ขนาดนี้? สีหน้าของเป่ยจื่อห้าวสั่นไหวไปเล็กน้อย ก่อนที่จะรีบเอ่ยพูดออกมา : “ไม่มีกฎอะไรที่ไม่ครอบคลุม แต่ว่ากฎในตำหนักหลวงนั้นมีเอาไว้เพียงจำกัดพวกคนที่ไม่ฟังทำสั่งสอน ซินเอ๋อร์เป็นแก้วตาดวงใจของข้า นิสัยนุ่มนวลอ่อนโยน แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องถูกกฎเหล่านั้นจำกัดเอาไว้ หลังจากนี้ซินเอ๋อร์อยากจะเข้ามาในห้องหนังสือนี้เมื่อไหร่ก็สามารถมาได้ตามต้องการ ผู้ใดก็ไม่อาจขวางกั้น” อะไรที่ว่าพลิกหน้าไวยิ่งกว่าพลิกหน้ากระดาษ ท่าทีก่อนหน้าและภายหลังของเป่ยจื่อห้าวเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถปรับรับได้ทัน โดยเฉพาะสาวงามหวัง เธอแทบไม่เชื่อหูของตัวเอง ทำไมองค์ชายสามถึงพูดออกมาเช่นนี้ เมื่อสักครู่เขาไม่ได้กำลังโมโหมากอยู่หรอกหรือ? ทำไมเพียงเจ้าคนเลวนี่พูดเพียงไม่กี่คำก็...... “โอ้ เช่นนั้นหรือ? ที่แท้ซินเอ๋อร์ก็มีความสำคัญในใจขององค์ชายสามถึงเพียงนั้น แต่ว่าเท่าที่ซินเอ๋อร์มองดูแล้ว ในใจขององค์ชายสามคงจะไม่ได้รักเอ็นดูเพียงแค่ซินเอ๋อร์” ด้วยนิสัยใจแคบของจ้าวซินซินแล้ว เมื่อสักครู่สาวงามหวังยั่วยุให้เป่ยจื่อห้าวลงโทษเธอ เธอจะปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไร? ในตอนที่เธอพูดประโยคนี้ออกมา สายตาของเธอก็มองไปยังสามงามหวัง และซ่อนความนัยเอาไว้โดยไม่จำเป็นต้องพูดออกมา ในตอนนั้นสาวงามหวังยังคงอยู่ในอ้อมอกของเป่ยจื่อห้าว แต่ตอนนี้ร่างของเธอกลับถูกผลักออกมาในทันที หลังจากนั้นเขาก็ยังตบลงไปบนใบหน้าของเธออย่างรุนแรงจนตัวเธอล้มลงไปที่พื้น ยังไม่ปล่อยให้เธอได้ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น น้ำเสียงที่เย็นชาของเป่ยจื่อห้าวก็ดังขึ้นมา : “สาวงามหวังฝ่าฝืนกฎบุกเข้ามาในห้องหนังสือ จะต้องถูกปรับเงินเป็นเวลาหนึ่งเดือน และห้ามเข้ามาที่นี่เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม ยังไม่ไสหัวออกไปอีก” “องค์ชายสาม......” สาวงามหวังอยากจะขอร้องอ้อนวอน แต่เป่ยจื่อห้าวกลับใช้สีหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจมองไปที่เธอ สุดท้ายเธอก็ทำได้เพียงปิดหน้าร้องไห้จากออกไป สาวงามหวังบุกเข้ามาในห้องหนังสือ แต่ว่าก่อนที่จ้าวซินซินจะมา ท่าทีของเขาก็ไม่ได้เป็นแบบนี้เลยแม้แต่น้อย เกรงว่าทุกคนอาจจะจินตนาการได้ยากว่า ตอนนี้สาวงามหวังที่ยามปกติได้รับความรักความเอ็นดูจากเป่ยจื่อห้าวที่สุดจะถูกคำพูดเพียงไม่กี่คำของจ้าวซินซินทำให้พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากนั้นต่อไปเธออาจจะไม่สามารถพลิกตนกลับมาได้อีกเลยด้วยซ้ำ หลังจากที่สาวงามหวังจากออกไป เป่ยจื่อห้าวก็ลุกยืนขึ้นมาและเดินไปยังข้างกายของจ้าวซินซิน หลังจากนั้นก็ยื่นมือออกไปรั้งตัวเธอเข้ามาในอ้อมกอดเบาๆ “เป็นอย่างไร พอใจแล้วหรือไม่?” พอใจ แน่นอนว่าพอใจมาก ก่อนหน้านี้เธอถูกสาวงามหวังพูดจาดูถูกที่ตำหนักสามมาไม่น้อย เรื่องในวันนี้ทำให้เธอรู้สึกดีมากทีเดียว จ้าวซินซินอิงแอบเข้าสู่อ้อมอกของเป่ยจื่อห้าวราวกับลูกนกตัวน้อยในทันที เธอใช้มือลูบไล้ไปยังหน้าอกของเขาเบาๆ การกระทำทั้งหลายล้วยเต็มไปด้วยการเย้ายวน สายตาที่มองไปยังเป่ยจื่อห้าวก็เต็มไปด้วยความดึงดูดเช่นกัน สาวงามอยู่ในอ้อมอก แต่ตอนนี้เป่ยจื่อห้าวมีความคิดอะไรแบบนั้นเสียทีไหน เขาอยากจะถามเธอออกไปในทันทีเลยด้วยซ้ำว่าเธอนำข่าวอะไรมา แต่จ้าวซินซินกลับยกยิ้มที่ดูลึกลับขึ้นมาเย้าแหย่ความสนใจของเขา : “สำหรับท่านแล้ว เรื่องนี้ถือเป็นข่าวดี และก็ถือเป็นข่าวร้ายเช่นกัน” ข่าวดีข่าวร้ายอะไรกัน มันมีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ? “รีบว่ามา เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” จ้าวซินซินเขย่งปลายเท้าขึ้น จากนั้นก็จรดริมฝีปากที่ใบหูของเขา ก่อนจะเอ่ยความลับที่ได้รู้มาออกไป ตัวของเป่ยจื่อห้าวนิ่งแข็งไป หลังจากที่ได้สติกลับมา เขาก็รีบสั่นไหวไหล่ของจ้าวซินซินอย่างรุนแรง : “เจ้าพูดจริงหรือไม่?” “แน่นอนว่าเป็นความจริง ซินเอ๋อร์จะหลอกลวงท่านได้อย่างไร?” เป่ยจื่อห้าวนิ่งไปอีกชั่วครู่ ก่อนที่แววตาของเขาจะประกายความมืดมนไม่ชัดเจนออกมา สุดท้ายเขาก็กำหมัดแน่น และขบฟันพูดขึ้น : “เจ้าคนชั่วสมควรตายนั่น ที่แท้ก็หลอกลวงข้า” จ้าวซินซินพูดขึ้นทันที : “ในตอนแรกที่ข้าได้รู้เรื่องนี้เข้า ข้าก็ตกใจมากเช่นกัน เดิมทีท่านพี่ก็ไม่ได้เสียตัวแก่ท่านอ๋องชิงผิง แล้วเหตุใดจึงต้องหลอกลวงท่าน? หรือว่าจะเป็นเพราะ......นางจะไม่อยากแต่งงานตั้งแต่แรก และการแต่งงานที่ผิดพลาดทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงการแสดงทั้งหมด? เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเป่ยจื่อห้าวก็มืดมนลงไปอีก จ้าวซินยกมือขึ้นปิดปากของตัวเองด้วยความตื่นตกใจ หลังจากนั้นก็รีบคุกเข่าลงไปที่พื้น : “ซินเอ๋อร์พลั้งพูดออกไปแล้ว เมื่อก่อนท่านพี่รักท่านถึงเพียงนั้น นางจะไม่ยินดีแต่งงานกับท่านได้อย่างไร บางที......อาจจะมีความลับที่ปิดบังเอาไว้อย่างอื่น อาจจะเป็นเพราะถูกท่านอ๋องชิงผิงบังคับเอาก็ได้ องค์ชายสามอย่าได้โทษท่านพี่เลย” เดิมทีการ “อธิบาย” นี้ของเธอก็ไม่อาจจะทำให้ความโมโหในใจของเป่ยจื่อห้าวสงบลงได้ อีกทั้งยังทำให้มันยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ ด้วย “ความลับ? หึ......ในวันถัดจากคืนวิวาห์ที่ห้องหนังสือหลวงต่อหน้าท่านพ่อ นางจะมีความลับอะไรไม่อาจพูดออกมาต่อสาธารณะได้ ข้ากับท่านพ่อจะไม่ช่วยร้องความเป็นธรรมแก่นางหรือ? อีกทั้งนางยังเป็นคนในตระกูลจางที่ร่ำรวยมากด้วยเงินทอง ถ้าหากนางไม่อยากแต่งใครจะสามารถบังคับนางได้ เจ้าคนชั่วสมควรตายนี่จะต้องหักหลังข้าอย่างแน่นอน” เป่ยจื่อห้าวโมโหจนตัวสั่น เขาอยากจะไปที่ตำหนักไท่ชือตอนนี้ และฉีกร่างของจางอวี่โหร่วให้แหลกละเอียดไปเสียให้ได้
已经是最新一章了
加载中