ตอนที่91 ประมุขที่ถูกทอดทิ้ง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่91 ประมุขที่ถูกทอดทิ้ง
ต๭นที่91 ประมุขที่ถูกทอดทิ้ง ห้องโถงหรูหรางดงามทางด้านข้างที่ข้างนอก หชู่ถันมองดูชายคนนั้นที่ “ทำงานหนัก” อย่างเห็นได้ชัดมาแล้วทั้งคืน แต่ดูไปกลับยิ่งสง่างามยืนหยัดต้านลม เค้าหน้าฉายรัศมีส่องสว่างยิ่งมากขึ้น ก้นบึงดวงตามีแววยิ้มเยาะเย้ยเล็กน้อยแวบผ่านไป “ประมุขเมื่อคืนยังผ่านไปสบายดีไหม?” เชียนแย่ซิ้วเหลือบมองเขาปราดเดียวอย่างเฉยเมย ไม่พูดไม่จา แต่หชู่ถันก็ได้รู้อยู่แก่ใจ  เกรงว่าเมื่อคืนผ่านอย่างสบายดียิ่ง แต่เช้าวันนี้กลับผ่านอย่างไม่ค่อยดีเท่าไรนัก พวกเขาวุ่นวายปั่นป่วนเสียงดังมากขนาดนั้นเมื่อคืน ผู้คนที่ได้ยินเสียงต่างรู้สึกหน้าแดงหูแดงเทือกกันไปหมด เพื่อหลีกเลี่ยงให้ผู้คนได้ยินตรงมุมผนังกันแล้ว หชู่ถันก็ได้ส่งทุกคนที่นี่กระจายออกไปกันหมด ไปยังห้องหออื่น ๆ จนถึงวันนี้รุ่งเช้า พวกเขาจึงได้กลับมา ตามมาด้วย ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องตกใจและเสียงทะเลาะกันของผู้หญิงดังมาจากในห้องชั้นบน ประมุขของพวกเขาเฉลียวฉลาดปราดเปรื่องเป็นเทพยุทธ์ กลับกลายเป็น “โจรลามก” และ “เดรัจฉาน” ในปากของผู้หญิงคนนั้น หชู่ถันสาบานได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เห็นสิ่งที่น่าสนใจดังกล่าว หลังจากติดตามอยู่ข้างกายเขามาหลายปีเช่นนี้ ผู้หญิงคนนี้ แน่นอนทำให้เขาต้องมองด้วยสายตาอันน่าทึ่ง เมื่อเห็นลักษณะรอยฝืนยิ้มบนใบหน้าของเขา เชียนแย่ซิ้วอดไม่ได้ถลึงตาใส่เขาคราหนึ่ง เขารีบพยายามที่จะปรับแต่งสีหน้าของตนเองให้ดี แต่เห็นได้ชัดว่าก็สุดกลั้นโหดไปแล้ว ใบหน้าที่เผยออกมาด้านหนึ่งของเขา กล้ามเนื้อสั่นเป็นพัก ๆ มิอาจควบคุมได้โดยสิ้นเชิง หลังจากรอไปแล้วสักครู่ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆดังมาจากข้างนอก ต่อจากนั้น เขาก็เห็นสาวใช้สองคนพาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา สิ่งแรกที่เขาสังเกตเห็นคือท่าทางเดินของผู้หญิงคนนั้น แปลกมาก ๆ ถึงกับสะดุดฝีก้าวไปบ้าง แน่นอนเหตุผลในเรื่องนี้ หชู่ถันรู้ชัดเจนอย่างแน่นอน ในใจอดไม่ได้แอบยิ้ม แต่เหน็ดเหนื่อยสาวเจ้าแล้ว เมื่อคืนไม่รู้ว่าใครได้เปรียบกว่าใครน่ะ ประมุขพวกเขาได้ละเว้นกิเลสตัณหามาได้ยี่สิบกว่าปี ไม่เคยมีผู้หญิงมาก่อน เพิ่งได้ลิ้มลองรสชาติอันหวาน ดังนั้นเป็นเรื่องที่ได้แตะก็ยากที่จะเก็บคืน กลับทำให้สาวเจ้าเหนื่อยจนกลายเป็นแบบนี้ เดินเหินก็เดินไม่ดี “ประมุข ผู้หญิงคนนั้นได้ถูกนำตัวมาแล้ว” เวลานี้ จางยวี่โหร่วได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวเสร็จยืนอยู่ตรงนั้น ถึงแม้ว่านางจะไม่เต็มใจที่จะมาอีกครั้ง ไม่คิดจะเห็นโจรลามกคนนี้อีก แต่คิดว่าตัวเองตอนนี้ไม่รู้ว่ากำลังอยู่ที่ไหน รอบ ๆ ตัวเขาล้วนเป็นคนของเขา คิดจะจากไปยังต้องหาเขาช่วยเหลือ ภายใต้ความจนใจจางยวี่โหร่วได้แต่ทนความอัปยศนี้เท่านั้น เชียนแย่ซิ้วมองไป ก้นบึงดวงตามิอาจมีประกายตกใจเล็กน้อยแวบผ่านไป ก่อนหน้านั้นเห็นนางสวมใส่ชุดสีแดงมาตลอด สง่างามสูงส่งสวยงามเหมือนหงส์ที่อาบไฟเกิดใหม่ตัวหนึ่ง แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นชุดสีขาวทั้งตัว กลับขับสริมความงามของนางเด่นออกมา ลักษณะที่งามบริสุทธิ์พ้นจากโลกีย พิสุทธิ์ดุจหิมะ เพราะเสื้อผ้าของนางถูกฉีกขาดแล้ว มิอาจสวมใส่ได้อย่างสิ้นเชิง ดังนั้นที่นางสวมใส่ตอนนี้เป็นชุดที่ให้คนซื้อมาชั่วคราว แต่ขอเพียงเป็นคนที่สวยงาม สวมใส่อะไรล้วนงามน่าดู บางครั้งเปลี่ยนรูปแบบบ้าง แทบให้คนรู้สึกว่างามน่าตะลึงไร้เทียมทาน “ตั้งสำรับเถอะ” ในเมื่อนางได้มาแล้ว เชียนแย่ซิ้วก็ได้สั่งการลงไปโดยตรง ในไม่ช้าก็มีคนยกสำรับข้าวปลาอาหารที่ไอร้อนกรุ่นขึ้นมา สี่จานหนึ่งซุป อุดมสมบูรณ์ กลิ่นหอมนั้น ก็ทำให้คนได้กลิ่นต้องเคลื่อนนิ้วชี้เป็นการใหญ่ จางยวี่โหร่วถูกทำกันวุ่นทั้งวันทั้งคืน ไม่เพียงแต่โครงร่างกายสลายแล้ว ท้องยังหิวร้องกู ๆ แต่นางเป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรี ของของเขา นางจึงจะไม่กินอะไรเลย นางกล่าวอย่างเย็นชาโดยตรง “รีบส่งหม่อมฉันกลับบ้านเถอะ” นางรอไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ข้างนอกได้ค้นหานางพลิกแผ่นดินแล้ว นางมิกล้าจินตนาการได้ว่าคนในครอบครัวของนางเป็นห่วงจนเป็นลักษณะใด นางต้องรีบกลับไปให้จงได้ เชียนแย่ซิ้วเลิกคิ้วเล็กน้อย หลังจากนั้นมองดูนาง “นี่เจ้ากำลังสั่งเปิ่นจุนหรือ?” จางยวี่โหร่วแทบจะมิอาจควบคุมความโกรธของตนได้ทั้งหมด แต่คนอยู่ใต้หลังคาเรือน มิอาจไม่ก้มศีรษะลง ตอนนี้เพื่อที่จะสามารถกลับไปได้โดยเร็ว นางไม่สามารถเกิดข้อขัดแย้งกับเขาได้อีก “ขอท่านช่วยส่งหม่อมฉันกลับบ้าน หรือบอกหม่อมฉันว่าที่นี่คือที่ไหน จะออกไปได้อย่างไรกัน?” “ถ้างั้นนั่งลง กินข้าวเถอะ” ความหมายนี้ของเขา ขอเพียงนางกินข้าวเสร็จ เขาก็ส่งนางกลับบ้านแล้ว ? จางยวี่โหร่วมองเขาไปปราดหนึ่ง หลังจากนั้นตนเองดึงเก้าอี้ตัวหนึ่งนั่งลง หชู่ถันมองดูปฏิสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ยิ่งรู้สึกว่าน่าตลกมาก นับเป็นครั้งแรกที่เขายังได้เห็นเวลาที่ประมุขของตนเองไม่อยู่ในสายตาผู้คนถึงที่สุดขนาดนี้ ดีร้ายอย่างไรเมื่อคืนพวกเขาทั้งสองก็ได้ร่วมรักเสพสมกันทั้งคืนแล้ว ได้ทำเรื่องระหว่างชายหญิงที่ใกล้ชิดที่สุด ทำไมหลับไปหนึ่งตื่นขึ้นมาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาเช่นนี้ ราวกับลูกสะใภ้น้อยที่ได้รับความโกรธจากการกินอิ่มแล้วไม่จดจำบัญชี แน่นอน นี่เป็นเพียงความคิดในใจของเขาเอง และถ้าพูดออกมา ประมุขยังไม่ฉีกหนังของเขาชั้นหนึ่งออกโดยตรงอ่า “แค๊ก ๆ ...” เขาไอเบาๆ ทำลายความเงียบบนโต๊ะอาหาร “ขอถามแม่นางชื่อเสียงนามใด?” นี่ไม่ใช่คำถามที่รู้อยู่แก่ใจถามหรือ แต่แน่นอนพวกเขาไม่สามารถให้นางได้รู้ว่าจริง ๆ พวกเขาได้รู้จักฐานะของนางแล้ว ไม่นำให้นางเกิดความสงสัยเด็ดขาด “จางยวี่โหร่ว” “ที่แท้เป็นแม่นางจาง ขอถามแม่นาง ตอนนี้รู้สึกร่างกายเป็นอย่างไร ยังรู้สึกมีที่ไหนไม่สบายไหม?” จางยวี่โหร่วได้ยินวาจา เงยหน้าขึ้นถลึงตามองเขาอย่างดุร้ายไปครา เกือบจะขว้างตะเกียบในมือไปบนศีรษะของเขาโดยตรงแล้ว “แม่นางอย่าเข้าใจผิด ข้าแซ่หชู่ เป็นแพทย์คนหนึ่ง เมื่อวานได้เห็นในร่างแม่นางถูกยาพิษเสน่ห์แต่ไร้ยาแก้ถอนพิษ ในใจรู้สึกสำนึกผิดละอายแก่ใจ ดังนั้นตอนนี้คิดจะช่วยตรวจจับชีพจรให้แม่นาง ดูว่ามีสารพิษตกค้างในร่างกายหรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บของร่างกายอ่า” ที่แท้เป็นแพทย์ จางยวี่โหร่วรีบขอโทษ “ยวี่โหร่วไร้มารยาทแล้ว ตอนนี้ร่างกายไม่ได้มีอุปสรรคอะไรมาก ขอบคุณแพทย์หชู่ที่ห่วงใย” เวลานี้ คนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามส่งเสียงหัวเราะเบา ๆ มาเสียงหนึ่ง “เจ้าคิดมากไปแล้ว เมื่อวานเป็นเปิ่นจุนได้ช่วยแก้พิษนางด้วยพระองค์เอง หรือว่าเจ้ายังสงสัยความสามารถของเปิ่นจุน?” ที่นี่ยังมีผู้อื่น เขากลับส่งเสียงดังสนั่นกล่าววาจาเช่นนี้ออกมาโดยตรง จางยวี่โหร่วทั้งโกรธทั้งขุ่นเคือง ไหนเลยยังจะกินข้าวได้ลง “เจ้าไม่กล่าววาจาไม่มีใครถือว่าเจ้าเป็นคนใบ้” หชู่ถันอดไม่ได้ต้องหัวเราะคิกออกมาโดยตรงอีกต่อไป “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” เขาสาบาน เขายังไม่เคยเห็นเรื่องที่น่าสนุกเช่นนี้มาก่อน รอบนี้ติดตามประมุขออกมาไม่เปล่าดายจริง ๆ อ่า จางยวี่โหร่วถือว่าอาหารในจาน ยังมีข้าวในชามล้วนเป็นไอ้ระยำนั้นทั้งหมด ยกขึ้นกระแทก ใช้แรงเคี้ยวอย่างหนัก ถึงกับสามารถได้ยินเสียงฟันขบกัดกันทั้งหมด กระทั่งหชู่ถันที่อยู่ด้านข้างได้ยินแล้วก็ตกใจเนื้อเต้น ในที่สุดก็กินเสร็จแล้ว นางมิอาจทนได้อีกลุกขึ้นยืนโดยตรง ตบโต๊ะอย่างหนักหน่วงครั้งหนึ่ง “ครั้งนี้เจ้าปล่อยให้ข้ากลับไปแล้วเถอะ” หชู่ถันเลิกคิ้วอย่างอดไม่ได้มองดูนาง “เดี๋ยวก่อน ประมุขเราปีนี้อายุยี่สิบสามปี ยังไม่ได้แต่งงานมีภรรยา ในเรื่องวงศ์ตระกูลหรือ เพียงพอให้เจ้ามีกินมีใช้เครื่องนุ่งห่มหรูหราอาหารอุดมสมบูรณ์ ไร้กังวลชั่วชีวิต เจ้าไม่คิดให้เขารับผิดชอบจริง ๆ หรือ?” นางเป็นสาวเจ้าคนหนึ่ง ตอนนี้ได้สูญเสียความบริสุทธิ์ไปจนสิ้น ปฏิกิริยาแรกของนางหรือว่าไม่ใช่ร้องไห้ตีโพยตีพายเรียกร้องให้รับผิดชอบหรือ? นางแน่ใจนะว่าจะกลับไปแบบนี้? จางยวี่โหร่วกลับค้อนตาขาวขวับไปครั้งโดยตรงแล้วส่งเสียงฮึ่มคราหนึ่งหันตัวจากไป นี่หมายถึง...ประมุขพวกเขาที่หล่อเหลาสง่างาม คิดไม่ถึงว่ากลับถูกทอดทิ้งแล้ว! สีหน้าเชียนแย่ซิ้วได้หม่นหมองลงมาแล้ว มองเขาอย่างเย็นชาไปครา “ให้เจ้าสอดรู้สอดเห็น” หชู่ถันลูบคลำจมูกอย่างไร้ความผิด ถุย ตนเองถูกหญิงสาวทอดทิ้ง ยังใช้เขามาระบายความโกรธ แต่ได้เห็นลักษณะที่ประมุขถูกบีบคั้นให้ยอมแพ้ นั่นก็คุ้มค่าแล้ว 
已经是最新一章了
加载中