ตอนที่94 ตีงูตีเจ็ดนิ้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่94 ตีงูตีเจ็ดนิ้ว
ต๭นที่94 ตีงูตีเจ็ดนิ้ว “เจ้าวางใจแล้ว เขาไม่พูดเรื่องนี้ออกมาอย่างเด็ดขาด” จางยวี่โหร่วกล่าวอย่างมั่นใจมาก เป่ยจื่อห้าวเป็นคนชนิดมุ่งให้ความสำคัญแก่หน้าตาขนาดนั้น ถ้าข่าวเรื่องฝีมือต่ำช้าสามานย์ประเภทใช้วิธีวางยาแพร่ออกไป แม้ว่าฮ่องเต้จะปกป้องเขาโดยเห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันพ่อลูก แต่เขาก็จะสูญเสียความประทับใจในพระทัยของฮ่องเต้ไปจนสิ้นซาก เมื่อเป็นเช่นนี้ ความพยายามทั้งหมดที่เขาได้ทำมาหลายปีก็ไยมิใช่ไร้ประโยชน์ไปแล้วหรือ? เขาพยายามทุกวิถีทางที่จะดึงตระกูลจาง และดึงตำหนักเฉินกั๋วกงมาเป็นพรรคพวก แต่คนที่ตัดสินใจชะตากรรมสุดท้ายของเขาอย่างแท้จริง ก็คือฮ่องเต้ เป่ยจื่อห้าวต้องไม่กล้าเสี่ยงกับความเสี่ยงนี้เด็ดขาด คนตระกูลจาง ในใจคิดว่าดูเหมือนจะเป็นเช่นนี้ แต่ก็ย่อมมีความกังวลอยู่บ้าง แต่พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมโหร่วเอ๋อร์จึงได้เข้าใจองค์ชายสามดีขนาดนั้นได้อย่างไร แม้กระทั่งรู้ว่าในใจเขากำลังคิดสิ่งใดก็ชัดเจนแจ่มแจ้งมากน่ะ? “นั่นน่ะ...เรื่องนี้ควรทำอย่างไร?” “ไม่เพียงแต่เราไม่สามารถเปิดโปงเขาได้ แต่ยังต้องพูดสิ่งที่ดีเกี่ยวกับเขา เอี้ย ๆ ตอนนี้ท่านรีบเข้าไปในพระราชวังกราบทูลต่อฮ่องเต้อย่างชัดเจนทันที ว่าข้าได้พบกับมือสังหารขณะออกไปท่องเที่ยวกับองค์ชายสาม เพื่อช่วยข้า องค์ชายสามจึงได้รับบาดเจ็บ สำหรับเรื่องการนัดหมายอภิเษกสมรส ถ้าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ก็สามารถเอ่ยปากขึ้นมาตามสบายคราหนึ่ง ก็บอกว่าตอนนี้องค์ชายสามกับข้าได้เป็นเพื่อนที่ดีแล้ว เพื่อปกป้องชื่อเสียงของราชวงศ์นิกูล พวกเขาสามารถประกาศว่าเป็นองค์ชายสามไม่ต้องการนาง” พวกเขาตระกูลจาง อดทนต่อความคับข้องใจที่ยิ่งใหญ่มากเช่นนี้สักครา ทั้งยังต้องปกป้องหน้าตาของราชนิกูลไว้ สันนิษฐานว่าฮ่องเต้จะไม่ทรงตรัสพระดำรัสที่ก่อให้ลำบากใจอะไรออกมาอีก แต่นั่นไยมิใช่ให้เจ้ารับความคับข้องใจมากเกินไปแล้วหรือ? องค์ชายสามได้ทำสิ่งนี้กับเจ้า ก็ต่อให้เขาเป็นโอรสแท้ ๆ เราก็ต้องทวงความยุติธรรมคืนมาให้เจ้าอ่า?” สิ่งที่ไม่เป็นที่ยอมรับมากที่สุด ต่อให้พวกเขาไม่เปิดโปงเรื่องนี้ ก็ไม่อาจพรรณาเป่ยจื่อห้าวเป็นสุภาพบุรุษเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามคนหนึ่งไปได้ นั่นก็เป็นการดูถูกสุภาพบุรุษโดยสิ้นเชิงอ่า “แค้นนี้ไม่ช้าก็เร็วต้องชำระแก้แค้นแน่นอน เวลานี้ยังไม่ต้องรีบทำ พวกเจ้าก็ทำตามที่ข้าบอกเถอะ” คนตระกูลส่วนที่เหลือยังคงมีท่าทีปริศนาไม่เข้าใจ แต่จางไท่ซือกลับพยักหน้าแล้ว “ฟังโหร่วเอ๋อร์เถอะ ข้าแน่ใจว่านางทำเช่นนี้ย่อมมีเหตุผลของนางเอง” จางยวี่โหร่วมีความคิดของตัวเองจริง ๆ นางชัดเจนมาก คิดจะล้มเป่ยจื่อห้าวลง แค่อาศัยเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ก็เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสถานภาพการเป็นโอรสของเขา ไม่ว่าเขาจะทำอะไรผิดไปแล้ว ตราบใดที่เขายังเป็นโอรสของฮ่องเต้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีอิทธิพลต่อตำแหน่งของเขา แต่ไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าความผิดพลาดของเขาสั่นคลอนภูผามหานทีไปแล้ว ถึงกับคุกคามผลประโยชน์ของราชวงศ์แล้ว ถ้างั้นฮ่องเต้จะยังคงประทับนั่งเฉย ๆ ไม่สนใจได้หรือ? เป็นที่รู้จักกันดีว่าในหมู่โอรส ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานองค์รัชทายาทมากที่สุด แม้ว่าองค์รัชทายาทจะไร้คุณธรรมธรรมดา เขาก็ทรงรักโปรดปรานโอรสองค์นี้มาก เขาถือว่าเขาเป็นทายาทสืบราชบัลลังก์ของตนเอง ไม่ทรงอนุญาตให้ผู้ใดเขย่าตำแหน่งชองเขา แม้ว่าองค์ชายสอง เป็นตัวเลือกองค์อุปถัมภ์ที่เหมาะสมที่สุดในจิตใจของทุกคน ไยฮ่องเต้เองไม่ทรงทราบได้เล่า? ฮ่องเต้ในทุกยุคสมัย ผู้เป็นปราชญ์มีความสามารถดำรงอยู่ได้ แต่ฮ่องเต้ก็ทรงกังวลอย่างเห็นได้ชัดว่าถ้าพระองค์ทรงจากไปแล้ว องค์รัชทายาทจะถูกโอรสองค์อื่น ๆ ใส่ร้ายได้ ฉะนั้นพระองค์ทรงยินยอมที่จะตัดสินพระทัยทำเช่นนี้ออกมา องค์ชายสอง องค์ชายสามล้วนเป็นเช่นนี้ จางยวี่โหร่วมีชีวิตอยู่สองชั่วชีวิต นางย่อมรู้เรื่องนี้ชัดเจนได้ดีกว่า ด้วยใจทะเยอทะยานของเป่ยจือห้าว ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องทำการบีบคั้นให้องค์รัชทายาททรงสละบัลลังก์ออกมา และสิ่งที่นางทำได้คือรวบรวมหลักฐาน จับจุดตายของเขาไว้ ตีงูก็ให้ตีเจ็ดนิ้ว นางต้องให้เป่ยจื่อห้าวล้มลงจากจุดที่สูงที่สุดอย่างรู้ตัวเอง ยิ่งปีนขึ้นไปสูงกว่า ก็ยิ่งล้มลงได้เจ็บช้ำสังเวชมากกว่า ... หลังจากที่จางยวี่โหร่วได้มอบหมายชี้แจงเรื่องเสร็จแล้ว ก็กลับไปที่ห้อง หลิงจือก็ตามนางกลับไปด้วย ตอนนี้เธอได้ใกล้ชิดกับตระกูลจางซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ยิ่งกว่านี้นางเป็นกังวลห่วงใยจางยวี่โหร่วมาแล้วหนึ่งวันหนึ่งคืน ตอนนี้นางกลับมาแล้วอย่างยากลำบาก นางก็ไม่คิดกลับไปเช่นนี้ วันนี้ก็อยู่ในตระกูลจางเป็นเพื่อนนางให้รู้แล้วรู้รอดไป จางยวี่โหร่วเห็นใบหน้าซีดเซียวของหลิงจือ รีบกล่าวว่า “เจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงข้า ตอนนี้ข้าไม่เป็นไรแล้ว” หลิงจือยังเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมากคนหนึ่งด้วย บางอย่างก็มิอาจผ่านไปได้อย่างสับสนเช่นนั้นได้ “ยวี่โหร่ว เจ้าบอกข้ามาตรง ๆ ว่าใช่เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วหรือไม่ หลังจากที่คนนั้นได้ช่วยเจ้าไป ทุกอย่างไม่ได้ง่ายอย่างที่เจ้าพูดเช่นนั้น ใช่หรือไม่?” วันเวลาเหล่านี้ นางได้เข้าร่วมเรื่องราวของจางยวี่โหร่วไม่น้อย รู้จักอุปนิสัยนางมากด้วย เมื่อครู่นางได้ดึงความสนใจของคนในครอบครัวนางออกไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งไม่ได้บ่งชี้ให้ชัดเจนว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นหลังจากที่นางถูกคนช่วยเหลือไปแล้ว ดังนั้นนางรู้สึกว่านางต้องมีเรื่องปกปิดบางอย่างแน่นอน จางยวี่โหร่วหยุดลงเล็กน้อยทันที ในเมื่อนางถามแล้ว เช่นนั้นก็ไม่สามารถปิดบังซ่อนไว้อีกต่อไป “ผงร่วมสุข” นางพูดสามคำนี้เบา ๆ ออกมา ทันทีที่หลิงจือได้ยิน สีหน้าพลันขาวซีดแล้ว แม้แต่ผ้าเช็ดหน้าในมือก็หลุดตกลงไปบนพื้นในบัดดล “แล้วเจ้า...” ถึงแม้ว่านางจะเป็นผู้หญิงที่ยังไม่ได้ออกเรือน นางก็รู้ว่าที่แท้สิ่งนั้นคืออะไร ถ้าเป็นยาเสน่ห์ทั่วไปก็แล้วกันไปเถอะ ผงร่วมสุขนั้นจัดเป็นยาเสพร่วมรักที่มีพิษมากผิดปกติ ถ้าทำไม่ดี ก็จะก่อให้ถึงแก่ความตายได้ องค์ชายสามต่ำช้าสามานย์น่ารังเกียจเกินไปแล้ว กลับวางยาของสิ่งนี้แก่นาง แย่ยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน “พี่ยวี่โหร่ว...” หลิงจือก้าวไปข้างหน้ากุมจับมือนางไว้ สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกสำนึกผิดและละอายใจ พลันน้ำตาร่วงเผาะลงมา “ล้วนเป็นข้าไม่ดี ข้าไม่สามารถพาคนไปช่วยเจ้าให้ทันเวลา แล้วเจ้า เจ้าตอนนี้...” พิษของยาเสน่ห์ผงร่วมสุขไม่มียาที่จะแก้ได้ มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น นางไม่กล้าคิดและไม่กล้าพูดออกมาจากปาก มีรอยยิ้มเล็กน้อยแผ่ซ่านปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของจางยวี่โหร่วอย่างฝืนใจ หลังจากนั้นกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ถึงยังไง ๆ ก็ข้าได้กลับมาแล้วสำหรับเรื่องอื่น ๆก็ไม่มีความหมายอะไร อย่างน้อยข้าควรจะดีใจที่ข้าไม่ได้ตกอยู่ในมือของเป่ยจื่อห้าว มิฉะนั้นผลลัพธ์เลวร้ายมากจนมิกล้าคิดจินตนาการได้” ดังนั้น...ตอนนี้นางมีความสนุกสนานในความทุกข์ยากหรือ? สูญเสียความบริสุทธิ์ นี่เป็นสิ่งที่เจ็บปวดมากเท่าใดต่อผู้หญิงคนหนึ่ง นางสามารถทำมีทีท่าสงบเฉยเมยเช่นนี้ได้อย่างไรน่ะ? แต่นางก็เข้าใจว่านี่เป็นเพียงผิวเผิน เพราะความเจ็บปวดที่ได้หลั่งไหลออกมาจากก้นบึงในดวงตาของนาง ก็มิอาจหลบหนีไปจากสายตาของเขาอย่างสิ้นเชิง “ยวี่โหร่ว คนที่ช่วยเจ้าไว้ที่แท้เป็นคนอย่างไร เขาคิดช่วยเจ้าจริง หรือยังเป็นการฉวยโอกาสในยามที่คนตกอยู่ในอันตราย ภายภาคหน้าเขาจะมาสร้างความยุ่งยากไหม? ยังมีทางด้านอ๋องชิงผิน...” เรื่องเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน นางตกใจไปบ้างแล้วจริงๆ นางไม่สามารถจินตนาการได้ว่านางจะพังทลายถึงขั้นใดถ้าเปลี่ยนเป็นเขาเอง นางจะไม่มีวันได้สงบเฉยเมยเหมือนยวี่โหร่วเช่นนี้ จางยวี่โหร่วไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องอื่นใดอีก แต่เมื่อนางได้ยินคำว่า “อ๋องชิงผิน” สามคำนี้ปั๊บ พลันนางก็ชะงักอึ้งไปแล้ว นางล้วนไม่ได้ร้องไห้ เมื่อนางได้รับมลทินและสูญเสียความบริสุทธิ์ของกายไป แต่เมื่อได้ยินคำสามคำนั้น พลันน้ำตาคริสตัลก็กลิ้งไหลลงมาจากดวงตา วันเวลาเหล่านี้ หลิงจือติดตามอยู่ข้างกายนาง เหตุไฉนจึงมองไม่ออกถึงความรู้สึกรักที่แท้จริงราวกับมีราวกับไม่มีระหว่างนางกับอ๋องชิงผิน ตอนนี้อ๋องชิงผินกายอยู่ที่ชายแดนอันไกลโพ้น ถ้าเขารู้เรื่องนี้ ผลบั้นปลายมิอาจกล้าจินตนาการได้ นางรู้สึกปวดร้าวรานใจปวดใจมากต่อยวี่โหร่ว ทำไมนางต้องทนรับความทุกข์ยากแบบนี้ นี่ช่างโหดร้ายเกินไปจริง ๆ แล้ว 
已经是最新一章了
加载中