ตอนที่ 107 ใบหน้าภายหลังหน้ากาก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 107 ใบหน้าภายหลังหน้ากาก
ต๭นที่ 107 ใบหน้าภายหลังหน้ากาก แสงแดดในยามเช้าค่อยๆส่องแสงสว่างขึ้นภายในห้อง แต่ลมหายใจอันคลุมเครืออย่างหนักแน่นภายในห้อง กลับไม่ได้หายไป ตามคำสั่งของหันยี่ฉี ห้องนี้ถูกตกแต่งให้เป็นห้องมงคลอย่างเป็นพิเศษ ทุกหนทุกแห่งล้วนเต็มไปด้วยผ้าม่านสีแดงแขวนอยู่ แม้แต่ผ้าห่มก็เป็นสีแดง ส่องแสงภายใต้แสงแดดยามเช้าน่าปิติยินดีโดยเฉพาะ เทียนคู่มังกรและฟีนิกซ์เผาจนเกือบหมดแล้ว เมื่อเทียบกับช่วงเวลาของเมื่อคืนวาน “ อู้ย...” จางยวี่โหร่วส่งเสียงร้อง ตื่นขึ้นมาและค่อยๆรู้สึกถึงความปวดเมื่อยของร่ายกายเล็กน้อย เธอดึงสติออกมาจากภวังค์อีกครั้ง จากนั้นก็ค่อยๆลืมตาขึ้น ห้องที่แปลกตาแต่คุ้นเคย ด้านข้างมีร่ายกายที่แข็งแรงกำยำนอนอยู่ มือของเขายังคงโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนแน่นตรงเอวของเธอ อุณหภูมิร่ายกายของเขาถ่ายทอดมายังร่ายกายของเธอ ทำให้เธอรู้สึกถึงความปลอดภัยอย่างไม่มีใครเทียบ เมื่อคิดถึงความยอดเยี่ยมในคืนนั้น ใบหน้าของจางยวาโหร่วก็แดงขึ้นมาทันที ต่อให้เธอไม่อยากจะกลับไปนึกถึงอีก แต่ความทรงจำเหล่านั้นก็ยังคงอยู่ในหัวของเธอเต็มไปหมด ย้ำเตือนเธอถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เมื่อวานเขาอ่อนโยนมากจริงๆ ใส่ใจกับความรู้สึกของเธอตลอดเวลา เพียงแต่เมื่อถึงตอนสุดท้ายเขากลับสูญเสียการควบคุมเล็กน้อย ในตอนสุดท้าย เธอร้องไห้และขอให้เขาหยุดครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็ไม่ยอมปล่อยเธอไป เห็นได้ชัดว่าร่ายกายเหนื่อยล้าจนถึงที่สุดแล้ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถลำลึกเข้าไปในความเร่าร้อนของเขา เขามีสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขจริงๆ ถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขนแบบนี้ จางยวี่โหร่วรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก มองดูหน้ากากหมาป่าสีบรอนซ์อันดุร้าย เห็นได้ชัดว่าเมื่อก่อนเวลาเห็นเธอรู้สึกกลัวมาก แต่ตอนนี้กลับคิดว่าเป็นกันเองอย่างมาก ราบกับว่าสัญลักษณ์บางอย่างของผู้ชายคนนี้ได้รวมเข้ากับตัวเขาไปแล้ว เขา...หน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่นะ? ทุกคนต่างเล่าต่อๆกันว่าท่านอ๋องชิงผินหน้าตาอัปลักษณ์ ดังนั้นจึงปิดบังใบหน้าด้วยหน้ากาก เช่นนั้นภายใต้หน้ากากของเขาล่ะ จะมีหน้าตาแบบไหน? ไม่ว่าเขาจะมีหน้าตาแบบไหน จางยวี่โหร่วก็ไม่สนใจ เดิมทีแล้วเธอคิดว่าความเจ็บปวดในชาติก่อนทำให้เธอไม่สามารถเชื่อใจผู้ชายและไม่เชื่อในความรู้สึกอีก แต่เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงถลำลึกลงไปอย่างอดไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่ตัวเธอเองก็คิดไม่ถึง เธอเป็นคนเริ่มยั่วยวนเขาก่อนเองในตอนแรก เพียงแค่ต้องการใช้เขาเรื่องการแต่งงานกับเป่ยจื่อห้าว แต่กลับไม่คิดว่าจะทำให้ชะตากรรมของพวกเขาทั้งคู่พัวพันกันแน่น เขาทำสิ่งต่างๆเพื่อเธอมากมาย ช่วยเธอแก้ไขปัญหาซ้ำแล้วซ้ำเล่ามากกว่าเป่ยจื่อห้าวไม่รู้ตั้งกี่เท่าต่อกี่เท่า จางยวี่โหร่วรู้สึกว่าครั้งนี้ตัวเองได้พบกับคนที่ใช่จริงๆ ในเมื่อตอนนี้พวกเขาเป็นคู่สามีภรรยาที่แท้จริงแล้ว เช่นนั้นเธอก็สามารถมองดูใบหน้าหลังหน้ากากของเขาอย่างดีได้แล้วสิ ถึงแม้ใบหน้าที่แท้จริงของเขาจะอัปลักษณ์อย่างมาก เธอก็จะไม่รังเกียจอย่างแน่นอน ฉวยเวลาในขณะที่เขาหลับสนิทและยังไม่ตื่น เธอค่อยๆเอื้อมมือเล็กๆออกไป ต้องการที่จะถอดหน้ากากออก แต่ยังไม่ทันจะแตะโดน กลับถูกหยุดไว้กลางอากาศ “ เจ้ากำลังทำอะไร? ” เสียงเยือกเย็นและแหบเล็กน้อย จางยวี่โหร่วถูกทำให้ตกใจในทันที ทันทีที่เงยหน้าก็สบตากับเขา เธอถึงจะพบว่าดวงตาที่หลับอยู่คู่นั้นลืมตาขึ้นมาแล้วไม่รู้ตอนไหน และมองเขาด้วยแววตาเป็นประกาย “ ข้า...” จางยวี่โหร่วรีบดึงมือตัวเองกลับทันที ราบกับเด็กคนหนึ่งที่ทำอะไรผิดอย่างหวาดกลัว “ เหตุใดจึงไม่นอนพักอีกสักหน่อย ตื่นนอนเร็วขนาดนี้? ดูเหมือนว่าเมื่อคืนนี้ข้าคงไม่ได้ทำให้เจ้าพอใจ คงจะต้องเพิ่มแรงให้มากขึ้นอีก ” ภายใต้ผ้าห่ม มือของเขาลูบไล้ไปมาบนร่างกายของเธออย่างกระสับกระส่าย จนทำให้จางยวี่โหร่วอยากจะรีบห้ามอย่างรวดเร็ว แต่ว่าห้ามไปมือหนึ่งก็ยังมีมืออีกข้างหนึ่ง เธอไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลย เขารักผิวพรรณอันละเอียดอ่อนและบอบบางของเธอมาก รักจนไม่อาจปล่อยมือได้ เหมือนกับปีศาจที่สามารถบีบเลือดของคนจนหมดสิ้น ทำให้คนแทบจะเคลิบเคลิ้มไปกับเรือนร่างของเธอ “ ท่าน...ท่านหยุดเล่นได้แล้ว ข้าเหนื่อยแล้ว ” ตอนนี้ร่ายกายของเธอเหนื่อยล้าจนไม่ต้องการแล้ว แทบอยากจะรีบไปอาบน้ำอุ่น ผ่อนคลายอย่างสบายใจสักหน่อย ไม่รู้ว่าชายหนุ่มมีหัวใจเชื่อมโยงกับเธอหรือเปล่า ความคิดนี้ในหัวของเธอเพิ่งจะแวบขึ้นมา มือใหญ่ๆที่กำลังลูบไล้อยู่บนตัวของเธอก็หยุดลง นวดลงที่ข้างเอวของเธอเบาๆ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีฝีมือการนวดแบบนี้ด้วย มันสบายมากจริงๆ “ ลำบากเจ้าหน่อยนะเมื่อคืน ” เขาประทับรอยจูบบนในหน้าของเธออย่างสงสาร คนตัวเล็กที่น่าสงสาร จนถึงตอนนี้ดวงตาของเธอยังคงบวมแดงอยู่ เธอร้องไห้ขอร้องเขามาตลอดจนถึงตอนสุดท้าย แต่ว่าเขากลับไม่อยากปล่อยเธอไป เขาไม่ใช่คนที่มีความต้องการง่าย แต่หลังจากที่ได้สัมผัสกับเธอแล้ว ความสงบและความมีเหตุผลทั้งหมดก็กลายเป็นเมฆลอย เพียงแค่อยากจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเธอทุกเวลาเท่านั้น ใบหน้าของจางยวี่โหร่วแดงระเรื่อทันทีและพูดอย่างน่ารักว่า “ ท่าน...ห้ามพูด ” มันน่าอายมากเกินไป เธอนั้นเป็นผู้หญิง จะพูดคุยกับเขาด้วยหัวข้อนี้อย่างสบายๆได้อย่างไร? “ เหตุใดจึงพูดไม่ได้? เราเป็นสามีภรรยากันแล้ว ทำเรื่องเช่นนี้ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมแล้วไม่ใช่หรือ มีอะไรน่าอายกัน ข้าชอบเจ้าเมื่อคืนมากกว่า ออดอ้อนและมีเสน่ห์มาก ทำให้ข้าอยากจะครอบครองเจ้าอย่างมาก เจ้าอาจไม่รู้ว่า เมื่อข้าได้ยินเสียงของเจ้า ก็ยิ่งควบคุมแรงกระตุ้นที่ต้องการเจ้าไว้ไม่อยู่ ” ใบหน้าของจางยวี่โหร่วแดงขึ้นยิ่งกว่าเดิม บอกแล้วไม่ให้พูด เหตุใดผู้ชายคนนี้ถึงทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีก? เมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเขินอายและประหม่าที่ถูกเขาแกล้งของเธอ ชายหนุ่มก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างอดไม่ได้ ดวงตาและหางคิ้วเผยให้เห็นรอยยิ้มอย่างชัดเจน เธอไม่รู้หรือว่า ยิ่งเธอมีท่าทางแบบนี้ เขาก็ยิ่งอยากจะแกล้งเธอมากขึ้น? ความรู้สึกที่ได้แกล้งเธอนั้นไม่เลวเลยจริงๆ และยิ่งทำให้ติดเป็นนิสัยง่าย เมื่อคืนเธอน่าอายขนาดนี้ ไม่สามารถปล่อยวางอะไรได้ แม้ว่าเขาจะพยายามชี้นำเธออย่างดีที่สุดก็ไม่สามารถทำได้ เมื่อถึงนาทีสุดท้าย เขาจงใจอยากจะลงโทษเธอ เห็นได้ชัดว่าตัวเองก็อดทนอย่างลำบาก กลับจงใจยืดเวลาเพื่อให้เธอขอร้องเขา ในตอนนั้นจางยวี่โหร่วถูกความปรารถนาทรมานจนไม่มีสติแล้ว ภายใต้อำนาจเผด็จการของเขาจึงทำได้เพียงประนีประนอมเท่านั้น ในตอนนี้กลับถูกชายหนุ่มจับจุดอ่อนของเธอไว้ เธออายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้วจริงๆ แทบอยากจะหาซอกเข้าไปหลบอยู่ในนั้น ระดับความร้อนกำลังพอดีแล้ว หากทำต่อไปคาดว่าตัวเธอคงจะสุกแน่ ในที่สุดชายหนุ่มก็ปล่อยเธออย่างใจว้างและจบลงด้วยเสียงหัวเราะ จากนั้นลุกขึ้นจากเตียง พร้อมกับสั่งให้คนเอาน้ำเข้ามา ดูแลล้านหน้าล้างตาและเปลี่ยนเสื้อผ้าเธอ เมื่อสาวใช้เหล่านั้นเห็นจางยวี่โหร่วห่มตัวอยู่ในผ้าห่ม ผิวที่เปิดเผยออกมามีรอยประทับสีแดงอย่างชัดเจน จนพากันหน้าแดงทุกคน สีหน้าของจางยวี่โหร่วก็ไม่ได้ดีไปกว่าพวกเธอ เธอดึงผ้าห่มอย่างแน่น ให้ตายก็ไม่ยอมให้พวกเธอถึงออกและต้องการไล่พวกเธอออกไป หากถูกคนอื่นเห็นร่องรอยบนตัวเธอแบบนั้น สู้เธอเอาหัวชนตัวเองตายเสียดีกว่า 
已经是最新一章了
加载中