ตอนที่113หมวกเขียวอีกหนึ่งใบ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่113หมวกเขียวอีกหนึ่งใบ
ต๭นที่113หมวกเขียวอีกหนึ่งใบ “ขอเพียงธิดาน้อยได้กลายเป็นพระชายาองค์รัชทายาทแล้วก็สามารถควบคุมองค์รัชทายาทได้เมื่อเป็นเช่นนี้ไยมิใช่เราใช้องค์รัชทายาทได้แล้วโดยตรงฝ่าบาทฮ่องเต้ทรงรักโปรดปรานองค์รัชทายาทปานนั้นดังนั้นไม่ว่าองค์รัชทายาทได้ทำเรื่องอะไรไปแล้วฮ่องเต้ล้วนมิอาจตำหนิกล่าวโทษลงมาได้แม้กระทั่ง...เราสามารถยืมมือขององค์รัชทายาทกำจัดตระกูลจางพ่ะย่ะค่ะ” เมื่อกล่าวถึงประโยคสุดท้ายดวงตาของเขาก็เปล่งประกายทะเยอทะยานสว่างขึ้นแวบผ่านไป อยู่ภายใต้ความกดดันตระกูลจางมานานหลายปีเช่นนี้เขาคิดจะแทนที่มานานแล้วขอเพียงกำจัดตระกูลจางแล้วถ้าเช่นนั้นราชสำนักทั้งหมดก็ตกอยู่ในกำมือของเขาทั้งสิ้น เขาคิดฝันเฟื่องถึงวันเช่นนี้ได้คิดมานานมากแล้ว ถึงแม้ว่าเป่ยจื่อห้าวรู้สึกว่าความคิดนี้ดีแต่เมื่อได้เห็นลักษณะของเฉินกั๋วกงแบบนี้ในใจอดที่จะรู้สึกแปลกๆไปบ้างมิได้ เฉินซูเสียนไม่ใช่ธิดาแท้ๆของเขาหรอกหรือ?ตอนนี้เขาคิดจะเสียสละความสุขของธิดาตนเองเพื่อตอบสนองความปรารถนาส่วนตัวของเขาหรือ? สุภาษิตว่าเสือร้ายยังไม่กินลูกน่ะเขากระทั่งธิดาแท้ๆของตนเองยังคิดใช้แผนเล่นงานยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นแล้ว คนพรรค์นี้เพียงสามารถใช้ชั่วคราวเท่านั้นแต่ไม่อาจเป็นพันธมิตรระยะยาวได้มิฉะนั้นไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถูกหันกลับมากัดคำหนึ่ง เพราะเป่ยจื่อห้าวตัวเองก็เป็นคนแบบนี้ดังนั้นเมื่อได้เห็นคนที่คล้ายกับเขาในใจจึงได้ระวังกลัวเช่นนี้ แต่ภายนอกเขากลับแสดงออกในลักษณะที่ชื่นชมอย่างมากสุดๆ “เฉินกั๋วกงมีวิสัยทัศน์สูงแท้จริงแต่ทำแบบนี้เกรงว่าจะทำให้ธิดาทองพันชั่งไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้วเปิ่นหวังรู้สึกปวดใจบ้างอ่า” ราวกับเฉินกั๋วกงได้ดีดลูกคิดเรียบร้อยตั้งนานแล้วยิ้มแย้มทั่วหน้ากราบทูลว่า“องค์ชายสามรักหยกถนอมบุปผาเช่นนี้เรื่องนี้ทำได้ไม่ยากขอเพียงหลังจากเรื่องราวสำเร็จพระองค์ค่อยอภิเษกสมรสธิดาน้อยเข้าประตูไยมิใช่เป็นศิริมงคลทุกอย่างแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ?” อะไรนะ!สีหน้าของเป่ยจื่อห้าวเกือบจะแขวนไม่อยู่แล้ว เขาถือว่าพระองค์เป็นอะไรแล้วได้แต่เก็บรองเท้าขาดที่หลงเหลือของผู้อื่นหรือ? ก่อนหน้านี้เพราะเรื่องของจางยวี่โหร่วรู้ทั้งรู้ว่านางได้เสียตัวแก่อ๋องชิงผินแล้วแต่เขากลับยังหลงใหลพัวพันไม่หยุดหย่อนบางทีเฉินกั๋วกงได้เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจและคิดจะยัดเยียดธิดาของตนให้เขาอีก เฉินซูเสียนคนนั้นแม้ว่ายังมีลักษณะที่ค่อนข้างดีบางส่วนแต่บุคลิกนิสัยที่เอาแต่ใจดื้อด้านในใจเขาก็ไม่ชอบแม้แต่น้อยทว่าหล่อนก็ยังมีชื่อเสียงด้านพรหมจรรย์บริสุทธิ์อีกทั้งคิดเผื่อแผนการอันยิ่งใหญ่เป่ยจื่อห้าวก็ยังยากที่จะยอมรับเรื่องนี้ได้ แต่ตอนนี้...พวกเขากลับยังคิดให้เฉินซูเสียนอภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาทแล้วยังคิดให้พระองค์อภิเษกสมรสกับหล่อนอีกเล่นตลกอะไรกัน? เฉินกั๋วกงมองดูพระองค์ไปครึ่งวันไม่พูดจาสีหน้าพลันสลดลงเล็กน้อย “ทำไมองค์ชายสามไม่เต็มใจหรือ?ถ้าองค์ชายสามรังเกียจธิดาน้อยแล้วถ้างั้นกระหม่อมก็ได้แต่ต้องเลือกลูกเขยที่ดีให้หล่อนใหม่อีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเฉินกั๋วกงได้วางกับดักขนาดใหญ่ต่อพระองค์แล้วอีกทั้งยังได้วางเหยื่อล่อที่น่าเย้ายวนมากแม้ว่าพระองค์ทรงรู้ว่าต้องหลงกลแต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะกระโดดออกไปอีกครั้งแล้วแน่นอน “เปิ่นหวังไม่ได้หมายความว่าอย่างนี้แน่นอนเฉินกั๋วกงได้คิดใคร่ครวญเพื่อแผนการยิ่งใหญ่แก่เปิ่นหวังเช่นนี้ถึงกับไม่ลังเลยอมปล่อยให้ธิดาของตนเองได้รับความอยุติธรรมเปิ่นหวังรู้สึกซาบซึ้งพระทัยอย่างสุดซึ้งวันข้างหน้าต้องปฏิบัติต่อแม่นางเฉินอย่างดีแน่นอน” พระองค์ได้ทรงสวมใส่หมวกเขียวไปแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่คิดว่าต้องใส่ใบที่สองต่ออีก ครั้งแรกเป็นพระองค์ทรงสวมใส่ด้วยตัวเองแต่ครั้งที่สองนี้กลับถูกผู้อื่นบังคับเย้ายวนให้ทำพระองค์ทรงเป็นองค์ชายสามแท้ๆไหนเลยจะรับความไม่เอาไหนเช่นนี้ได้? “เพื่อเห็นแก่การอภิเษกสมรสงานยิ่งใหญ่ทั้งชีวิตของธิดาน้อยกระหม่อมมิอาจทำอย่างระมัดระวังรอบคอบพูดปากเปล่าไร้ประกันยังคงขอให้องค์ชายสามทรงจารึกพระอักษรประทับตราไว้เป็นหลักฐานถ้าองค์ชายสามยอมตกลงวันข้างหน้าทั้งตำหนักเฉินกั๋วกงล้วนเคลื่อนไหวทำการตามพระทัยองค์ชายสามพ่ะย่ะค่ะ” นี่ก็เป็นสนธิสัญญาที่อยุติธรรมน่าอับอายชัดๆแต่นำมาซึ่งผลประโยชน์อันไม่มีที่สิ้นสุดแก่พระองค์ ทางเลือกของเป่ยจื่อห้าวสามารถจินตนาการได้ในที่สุดเฉินกั๋วกงจากไปด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้มแต่พระองค์กลับพิโรธจนทรงกัดพระทนฐ์เงินแตกไปทั้งพระโอษฐ์ มีหลายสิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ซึ่งทำให้เขาสูญเสียมากเขาต้องดึงเฉินกั๋วกงมาเข้าเป็นพรรคพวกด้วยกันแล้วเพื่อเห็นแก่สถานการณ์โดยรวมเพื่อการนี้พระองค์สามารถไม่เสียดายต้องจ่ายมูลค่าใดๆ ขอเพียงสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ให้สำเร็จแล้ววันข้างหน้าพระองค์ทรงสามารถนั่งในตำแหน่งสูงสุดนั้นถึงเวลานั้นก็เป็นมือเดียวปิดฟ้าแล้วใครเล่าสามารถบังคับให้พระองค์ทรงทำสิ่งที่พระองค์เองไม่เต็มพระทัยได้ เกรงว่าเมื่อถึงเวลาหลังจากที่พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์แล้วคนแรกที่ต้องซ่อมแซมก็คือเฉินกั๋วกงแล้วน่ะ ... ตำหนักหลิน ศาลาขนาดเล็กแต่กลับไม่สูญเสียความสง่างามแสดงให้เห็นว่าเจ้าของเรือนหลังนี้เป็นคนที่มีคุณภาพสูงจริงๆแม้ว่าลักษณะพื้นที่ไม่ใหญ่โตแต่แต่ละแห่งหนของเรือนหลังนี้ล้วนถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการสืบทอดความรู้และวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามจากบรรพบุรุษสู่ลูกหลานอย่างแข็งแกร่ง ในเรือนหลังศาลาแห่งหนึ่งมีเสียงเพลงอันไพเราะเสนาะหูระลอกหนึ่งดังมางดงามประดุจดนตรีจากฟ้าสวรรค์ฉวยโอกาสนี้ดื่มด่ำกับอารมณ์เช่นนี้ทัศนียภาพเช่นนี้ยิ่งตรึงใจผู้คนแทบจะเป็นการเสพสุขที่สุดยอดชนิดหนึ่ง ลมโชยพัดเบาๆพาผมนางพลิ้วขึ้นเผยให้เห็นโฉมหน้าที่งามเด่นล้ำสดใสใบหนึ่งคนงามดังนี้ทำให้ใจคนตื่นเต้นหลงใหลใฝ่หา ตอนนี้จางยวี่โหร่วได้ย้ายไปยังพระตำหนักอ๋องชิงผินกลายเป็นพระชายาอ๋องชิงผินอย่างเป็นทางการแล้วซึ่งแสดงให้เห็นว่าความปรารถนาในใจได้สมมาดตามความมุ่งหวังแล้ว หลิงจื่อรู้สึกดีใจกับนางจริงๆตลอดที่ผ่านมาหินก้อนใหญ่ที่ทับหนักอกในใจก็ได้หลุดพ้นหล่นลงพื้นแล้ว เพียงแต่เมื่อก่อนที่นางอยู่ในตำหนักไท่ซือนางยังมักจะวิ่งไปหานางตอนนี้นางได้อภิเษกสมรสเป็นภรรยาของผู้อื่นถ้านางยังไปมาบ่อยมากเกรงว่าไม่ค่อยเหมาะสมแล้ว ไม่ว่าอย่างไรขอเพียงตอนนี้นางมีชีวิตที่มีความสุขแล้วอ๋องชิงผินดีกับนางเช่นนั้นนางควรจะมีความสุขเบิกบานใจไปกับนางด้วยจึงถูกอ่า เมื่ออารมณ์จิตใจนี้สบายดีแล้วความสำนึกคิดในการดีดพิณก็ดีขึ้นด้วยแล้ว เสียงพิณผลิตออกมาจากใจมีแต่เสียงพิณสอดคล้องกับสภาพจิตใจของมนุษย์ท่วงทำนองเพลงที่บรรเลงออกมาจึงจะยิ่งสวยงามซาบซึ้งกินใจผู้คนมากขึ้น ใต้บันไดของห้องหอผู้ชายสวมเสื้อสีม่วงทั่วร่างเต็มไปด้วยบารมีสูงส่งคนนั้นได้ยืนอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานแล้ว เสียงเพลงอันงดงามล้ำเกินเขามิอาจอดที่จะไปรบกวนคนงามอ่อนช้อยกว่าดอกไม้เขายิ่งมิอาจไปทำให้ตื่นตระหนกได้เพียงแต่ประกายตาที่มองดูนางเปี่ยมด้วยความรักโปรดปรานอันไม่มีที่สิ้นสุด เพลงหนึ่งจบแล้วหลิงจื่อค่อยๆลืมตาขึ้นเวลานี้ได้เห็นปิงเอ๋อคนรับใช้ที่ใกล้ชิดแสดงออกทั่วหน้าอดกลั้นอยากกล่าววาจาแต่ยับยั้งไว้ นี่นางเป็นอะไรกันแล้ว? หลิงจื่อมองตามสายตาผ่านไปก็ได้เห็นเป่ยจื่อหัวยืนอยู่ตรงนั้นดูเหมือนจะมาเป็นเวลานานแล้ว นางรีบลุกขึ้นคำนับทันที“จือเอ๋อไม่ทราบว่าองค์ชายสองทรงเสด็จมาไร้มารยาทแล้ว” แล้วนางก็มองไปที่ปิงเอ๋อซึ่งอยู่ด้านข้างบ่นพึมพำประหลาดกล่าวว่า“เจ้านังนี่เป็นเรื่องอะไรกันองค์ชายสองทรงเสด็จมาทำไมเจ้าไม่เตือนข้าสักคราน่ะ?” ปิงเอ๋อแสดงออกถึงความคับข้องใจทั่วใบหน้าเพียงแต่ก่อนที่นางจะได้มีเวลาอธิบายเป่ยจื่อหัวก็ได้เอ่ยปากพูดขึ้นมาก่อนก้าวหนึ่ง “เจ้าอย่าโทษนางเลยเป็นเปิ่นหวังบอกให้นางอย่าส่งเสียงเมื่อครู่เปิ่นหวังได้เห็นเจ้าเล่นพิณมีสมาธิปานนั้นก็ไม่คิดรบกวนเจ้าและเกรงรบกวนเสียงไพเราะอ่อนหวานเสนาะหูปานเสียงจากฟ้าสวรรค์เช่นนั้น “เสียงไพเราะอ่อนหวานเสนาะหูปานเสียงจากฟ้าสวรรค์อะไรกันองค์ชายสองเยินยอเกินแล้วเพค่ะ!”หลิงจื่อกัดริมฝีปากอย่างอึดอัดเดิมนางเป็นผู้หญิงที่หน้าบางอายง่ายมากสุดๆตอนนี้จู่ๆก็ได้เห็นเขาไม่มีการเตรียมใจทั้งสิ้นเครียดจนไม่รู้ว่าจะวางมือไปไว้ที่ไหนแล้ว เมื่อเทียบกับความอายและความตึงเครียดของนางเป่ยจื่อหัวกลับดูเปิดเผยมากกว่าอย่างชัดเจนเดินมาตรงหน้านางโดยตรงแล้ว 
已经是最新一章了
加载中