ตอนที่115อุบายโฉดชั่วของตำหนักเฉินกั๋วกง
1/
ตอนที่115อุบายโฉดชั่วของตำหนักเฉินกั๋วกง
พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่115อุบายโฉดชั่วของตำหนักเฉินกั๋วกง
ตนที่115อุบายโฉดชั่วของตำหนักเฉินกั๋วกง “พระราชโองการยังไม่ประกาศลงมาเปิ่นหวังได้ยินมาจากเสด็จแม่ที่นั่นเรื่องนี้เจ้าอย่าเพิ่งบอกเล่าแก่คนภายนอกชั่วคราวตอนแรกที่เปิ่นหวังรับทราบก็แปลกใจบ้างตามที่กล่าวกันยังว่าเฉินกั๋วกงริเริ่มไปกราบทูลขอเสด็จพ่อทรงพระราชทานอภิเษกสมรสเสด็จพ่อก็ทรงเห็นด้วยแล้ว”เป่ยจื่อหัวเล่าเรื่องทุกอย่างที่เขารู้แก่นางตามความจริง อะไร?คิดไม่ถึงว่ายังเป็นพวกเขาริเริ่ม? เมื่อคิดถึงว่าเริ่มแรกเฉินซูเสียนรักชอบองค์ชายสองติดตามอย่างยากลำบากมาหลายปีแม้ว่านางไม่ชอบเฉินซูเสียนแต่นางยังรู้สึกชื่นชมบ้างในความเพียรส่วนนี้ของหล่อน ตอนนี้จู่ๆหล่อนกำลังจะอภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาทอย่างกะทันหันเช่นนี้ย่อมทำให้ผู้คนอดที่จะคิดถึงเรื่องที่ไม่ค่อยดีบ้างมิได้ มองดูสีหน้าของหลิงจือเห็นได้ชัดว่าวิตกกังวลเป่ยจื่อหัวรีบปลอบใจ “จือเอ๋อเจ้าอย่ากลัวเปิ่นหวังรู้ว่าพวกเจ้ามีความขัดแย้งกันมาก่อนต่อให้หล่อนได้เป็นพระชายาองค์รัชทายาทเปิ่นหวังก็ไม่ปล่อยให้หล่อนแกล้งรังแกเจ้าเด็ดขาดด้วย” แต่ว่า...เมื่อเรื่องได้มาถึงจุดนั้นถึงแม้ว่าเขาไม่คิดแต่ก็มิอาจยับยั้งไว้ได้แล้วอ่า ก่อนหน้านี้เฉินซูเสียนเป็นเพียงคุณหนูใหญ่ของตำหนักเฉินกั๋วกงเท่านั้นก็หยิ่งยะโสวางก้ามเขื่องโขขนาดนั้นไม่เห็นใครอยู่ในสายตาภายหน้าได้เป็นพระชายาองค์รัชทายาทเช่นนั้นแล้วไยมิใช่ยิ่งเป็นนักเลงโตมากขึ้นแล้ว และสถานะของพระชายาองค์รัชทายาทก็เปี่ยมด้วยบารมีสูงส่งไร้เทียมทานถึงเวลานั้นยิ่งไม่มีใครสามารถต้านหล่อนได้แล้ว แต่ตอนนี้นางกลับไม่สามารถพูดคำพูดเหล่านี้กับเป่ยจื่อหัวได้ องค์รัชทายาทเป็นพระเชษฐาองค์โตของพระองค์เฉินซูเสียนกำลังจะเป็นพระเชษฐนีของพระองค์นางไม่คิดอยากให้พวกเขาทะเลาะกันเพื่อนางเอง “อืมหม่อมฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับหล่อนมากนักวันข้างหน้าก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกันอีกหล่อนไม่น่าจะทำอะไรหม่อมฉันได้น่ะเพค่ะ” สีหน้าของหลิงจือเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ในใจกลับมิอาจที่จะไม่วิตกกังวลมิได้ ... หลังจากเป่ยจื่อหัวจากไปแล้วแน่นอนสิ่งแรกที่นางต้องทำคือรีบไปพระตำหนักอ๋องชิงผินทันทีเพื่อบอกเล่าเรื่องนี้แก่จางยวี่โหร่ว อาศัยอยู่ในพระตำหนักอ๋องชิงผินได้หลายวันแล้วจางยวี่โหร่วได้เริ่มค่อยๆคุ้นเคยกับจังหวะของชีวิตในที่นี่อีกทั้งยังชินกับสถานะของพระชายาอ๋องชิงผินนี้ด้วย หันยี่ฉีดีกับนางจริงๆบ่าวไพร่ในพระตำหนักนี้ก็เคารพยกย่องให้เกียรตินางด้วยอีกครั้งที่นางรู้สึกว่าทางเลือกของตนเองไม่ได้ผิดดีร้ายอย่างไรตอนนี้นางอยู่ที่นี่มีความรู้สึกของการเป็นสมาชิกมีที่พักพิงมีความรู้สึกของการมีครอบครัวแล้ว มีเพียงสิ่งเดียวคือมีใครบางคนที่หยิบฉวย“ไร้ขีดจำกัด”กับนางในยามค่ำคืนจนกระทั่งทุกๆเช้านางมักจะหลับถึงตะวันสายโด่จึงลุกขึ้นจากเตียงแม้จะลุกขึ้นมาก็เจ็บหลังปวดเอว คิดถึงเรื่องเหล่านี้ในใจของจางยวี่โหร่วก็ทั้งโกรธขึ้งทั้งอับอายแต่ว่านางดันได้เข้ามาในรังหมาป่าแล้วออกมาไม่ได้อีกแล้ว แต่ว่าลักษณะนางในตอนนี้ดูงดงามมากขึ้นกว่าเดิมเห็นได้ชัดว่ามีความเป็นผู้หญิงมากขึ้นหลายส่วนเวลาเยื้องย่างยกมือยกไม้ได้แผ่ซ่านความรักและความเย้ายวนเห็นได้ชัดว่าเป็นผลจากการหล่อเลี้ยงซึบซับด้วยความรักอ่า ได้ยินเสี่ยวเฟิงรายงานว่าหลิงจือมาเยี่ยมนางแล้วจางยวี่โหร่วมีความสุขมากรีบให้คนไปเชิญนางเข้ามา ตั้งแต่ที่นางย้ายเข้ามาอยู่ในพระตำหนักอ๋องชิงผินพี่น้องสองสาวก็ไม่ได้เจอกันมาหลายวันแล้วจางยวี่โหร่วยังคิดถึงนางมากจริงๆไม่ทันรอให้นางเดินเข้ามาตนเองรีบไปห้องโถงด้านหน้าโดยตรงเพื่อทักทายต้อนรับ หลิงจือเห็นสีหน้านางดูมีความสุขมากเช่นนี้ทั่วใบหน้าปกคลุมไปด้วยรอยยิ้มที่อิ่มเอมใจในความรักก็รู้สึกปลื้มปีติยินดีไปกับนางด้วยจากส่วนลึกในหัวใจ “ยวี่โหร่วตอนนี้เจ้าได้อภิเษกสมรสกับคู่ครองที่เหมาะสมจริงๆแล้วสมดังใจปรารถนาข้าดูแล้วช่างน่าชื่นชมนัก” “น่าชื่นชมอะไรกันเจ้ามิใช่มีองค์ชายสองแล้วหรอกหรือ?พี่จื่อหัวอ่อนโยนสุภาพดั่งหยกอีกทั้งสง่างามผ่าเผยเขาจึงเป็นสามีตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบที่สุด” จางยวี่โหร่วหัวเราะพลางเล่นตลกกับนางจึงไม่เหมือนหันยี่ฉีที่น่าตายคนนั้นทุกครั้งเมื่อถึงยามค่ำคืนก็จะเปลี่ยนเป็นคนละคนเช่นนั้นทำเองนางเหนื่อยจนแทบตายคาเตียงไม่ถนอมเห็นใจร่างนางสักนิด “ข้านี่ยังไม่ได้ออกเรือนหรอกน่ะแน่นอนเรื่องนี้ต้องรอวันหน้าค่อยว่ากันอีก”จางยวี่โหร่วแสดองออกอย่างเห็นได้ชัดหลิงจือก็ได้เปิดเผยอย่างโจ่งแจ้งกล้าแสดงความในใจของตนออกมาด้วย “ทำไมนี่เจ้ารอไม่ไหวแล้วเหรอ?ดูไปแล้วข้าควรต้องเร่งพี่จื่อหัวดีๆสักคราให้เขารีบจัดการเรื่องนี้โดยเร็วแล้วจื่อเอ๋อที่สวยงามเช่นนี้ถ้าเขาไม่รีบอภิเษกสมรสกลับบ้านถูกคนอื่นปล้นชิงไปข้าก็จะปวดใจแทนเขาไปหมดสิ้น” จางยวี่โหร่วกล่าวประโยคนี้กลับกล่าวได้จี้จุดทันทีถ้าเป็นก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่นางล้อเล่นหลิงจือนางต้องเขินอายมากแน่นอนแต่คราวนี้การแสดงออกของนางกลับเปลี่ยนเป็นดูจริงจังมากขึ้นบ้าง “ยวี่โหร่วครั้งนี้ข้ามาที่นี่เพื่อบอกเล่าเรื่องนี้แก่เจ้าการอภิเษกสมรสของข้ากับองค์ชายสองต้องล่าช้าออกไปสักพักหนึ่งแล้ว” “นี่เป็นเพราะอะไรหรือว่าความรู้สึกระหว่างพวกเจ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นแล้วหรือยังเป็นพี่จื่อหัวเขารังแกเจ้าแล้ว?เจ้าบอกข้าข้าต้องช่วยทวงความยุติธรรมคืนเจ้าให้จงได้”จางยวี่โหร่วไล่ตามซักถามอย่างรีบร้อน แต่คิดๆดูก็ไม่ควรอ่าพี่จื่อหัวสุภาพมีมารยาทขนาดนั้นไม่เคยวางเขื่องท่าทีองค์ชายอะไรทั้งสิ้นหลิงจือก็เป็นคนหนึ่งที่มีนิสัยอ่อนโยนอบบอุ่นมีเมตตาพวกเขาทั้งสองรวมกันเป็นหนึ่งเดียวถึงแปดร้อยปีก็ไม่มีทางที่จะกระทบกระทั่งจนเกิดไฟอะไรลุกออกมาได้เพราะพวกเขาทั้งสองต่างมีนิสัยชนิดที่อ่อนโยนเกินไปอย่างนั้นอ่า “ไม่ใช่อย่างนั้นวันนี้ข้ามาที่นี่มีเรื่องเร่งด่วนจะบอกเจ้าฮ่องเต้จะทรงให้องค์รัชทายาทอภิเษกสมรสพระชายาแล้ว” จางยวี่โหร่วหยิบถ้วยชาขึ้นมาหลังจากนั้นจิบคำหนึ่งไม่ได้แสดงการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงใดๆ “นี่ไม่ใช่เป็นเรื่องปกติมากหรือเมื่อไม่กี่วันก่อนงานอภิเษกสมรสยิ่งใหญ่องค์ชายสามหลังจากนั้นก็เป็นเจ้ากับพี่จื่อหัวองค์รัชทายาทยังทรงเป็นพระเชษฐาองค์โตของพวกเขาพระชนมพรรษาก็ไม่น้อยแล้วฮ่องเต้ย่อมต้องกระวนกระวายในเรื่องใหญ่ของชีวิตคือการอภิเษกสมรสของพระองค์อ่า” “ถ้างั้นเจ้ารู้ไหมว่าพระชายาองค์รัชทายาทในอนาคตท่านนี้คือใคร?” มือที่ถือถ้วยน้ำชาของจางยวี่โหร่วพลันค้างเล็กน้อยคราหนึ่งแล้วค่อยๆวางลงอีก “ต้องเป็นคุณหนูที่คัดสรรออกมาจากครอบครัวขุนนางหรือท่านอ๋องคนหนึ่งฮ่องเต้ทรงรักโปรดปรานองค์รัชทายาทพระทัยเดียวมุ่งมั่นวางแผนเพื่ออนาคตให้เขากระทั่งทรงดำริช่วยเลือกพระชายาให้เขาก็ต้องแน่ใจว่าเบื้องหลังครอบครัวฝ่ายหญิต้องมีอำนาจที่จะสามารถช่วยองค์รัชทายาทแต่ว่าตอนนี้ข้ากลับมิอาจคิดได้บ้างว่าในราชสำนักยังมีบุคคลที่มีความสามารถเช่นนี้” “เจ้าพูดไม่ผิดถ้าเจ้ารู้ว่าคนนี้คือใครเจ้าต้องตกใจแน่ๆเพราะคนนี้ไม่ใช่คนอื่นเป็นเฉินซูเสียนที่มีปัญหากับเรานั่นเอง!” “คาดไม่ถึงว่าเป็นหล่อน!”สีหน้าจางยวี่โหร่วเปลี่ยนทันทีเห็นได้ชัดว่าค่อนข้างตกใจบ้าง เฉินซูเสียนนั้นหยิ่งยะโสโอหังตลอดมาไม่ได้เห็นองค์รัชทายาทซึ่งดูธรรมดาไร้ความสามารถอยู่ในสายตาแต่ตอนนี้กลับยังเต็มใจยอมที่จะอภิเษกสมรสกับพระองค์? “หรือว่า...เป็นฮ่องเต้ทรงพระราชทานอภิเษกสมรสหรือ?เป็นฮ่องเต้ที่ทรงดำรัสคิดหยิบยืมอาศัยอำนาจของตำหนักเฉินกั๋วกงมาเสริมสร้างฐานะขององค์รัชทายาทหรือ?” เรื่องนี้ทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัดตลอดหลายปีเหล่านี้ฮ่องเต้ได้ทรงใช้ตระกูลจางอย่างมากตอนนี้ทั้งๆที่รู้ว่าตระกูลจางและตำหนักเฉินกั๋วกงมีข้อพิพาทบาดหมางลึกมากแต่ยังให้เฉินซูเสียนเป็นพระชายาองค์รัชทายาทถ้าคิดออกไปไกลๆอีกมากพฤติกรรมดังกล่าวของเขาเช่นนี้ไยมิใช่คิดจะต่อกรกับตระกูลจางหรอกหรือ? เมื่อคิดถึงจุดนี้ในใจของจางยวี่โหร่วจมดิ่งวูบไปคราหนึ่งทันที เดิมทีคิดว่าโชคร้ายของตระกูลจางเริ่มจากเป่ยจื่อห้าวสืบทอดตำแหน่งต่อตอนนี้ดูไปแล้วกลับมิใช่เช่นนี้ หลังจากที่นางได้บังเกิดใหม่กลับมาในครั้งนี้ได้เตือนเอี้ยๆและบิดาให้เก็บประกายคมอย่าได้มีผลงานดีเด่นสะเทือนเจ้าเหนือหัวแต่สิ่งที่นางกังวลใจมากที่สุดยังคงเกิดขึ้นแล้ว “ไม่ไม่ใช่ฮ่องเต้ทรงเป็นผู้ริเริ่มเอ่ยขึ้นแต่เป็นเฉินกั๋วกงไปทูลขอฮ่องเต้ว่าธิดาของเขาตอนนี้ได้ตกลงปลงใจกับองค์รัชทายาทและกราบทูลขอพระราชทานอภิเษกสมรส” นี่ก็...ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อมากขึ้นแล้วก่อนหน้านี้เห็นได้ชัดว่าเฉินซูเสียนนี่ไม่ได้สนใจองค์รัชทายาทสักนิดอ่า
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่115อุบายโฉดชั่วของตำหนักเฉินกั๋วกง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A