ตอนที่116เมื่อเร็วๆนี้พระชายาที่รักกำเริบสืบสานมากนัก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่116เมื่อเร็วๆนี้พระชายาที่รักกำเริบสืบสานมากนัก
ต๭นที่116เมื่อเร็วๆนี้พระชายาที่รักกำเริบสืบสานมากนัก “เจ้าแน่ใจเรื่องนี้เป็นจริง?”หลังจากคิดใคร่ครวญตลบหนึ่งจางยวี่โหร่วสีหน้าเคร่งขรึมถามไถ่วาจาออกมา “เป็นองค์ชายสองบอกข้าพระองค์ท่านก็ยังได้รู้จากพระนางซูเฟยที่นั่นนี่ต้องไม่มีอะไรผิดแล้วแน่นอน” แม้ว่าหลิงจือก็วิตกกังวลมากในเรื่องนี้ด้วยแต่สัญชาตญาณขอเพียงนางบอกเรื่องนี้แก่ยวี่โหร่วยวี่โหร่วนางต้องมีวิธีแน่ๆ “ดูเหมือนพวกเขานี่คิดจะเป็นสุนัขจนตรอกแล้ว!” แม้ว่านางได้มีประสบการณ์จากภพที่แล้วรู้ทุกสิ่งที่ได้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้แต่ภายใต้การแทรกแซงแต่เนิ่นๆของนางในชั่วชีวิตนี้หลายเรื่องได้เปลี่ยนไปแล้ว ก็ดั่งเช่นองค์รัชทายาทในภพที่แล้วองค์รัชทายาทได้ถูกวางยาตายในงานเลี้ยงวันฉลองครบรอบพระชนมพรรษาของพระนางเสียนเฟยแล้วไหนเลยจะยังมีชีวิตรอดอยู่จนถึงตอนนี้ได้? เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่นางไม่อาจคาดเดาได้ดังนั้นจึงต้องคิดหาทางออกอย่างแน่นอน “ยวี่โหร่วตอนนี้เราควรจะทำยังไงเฉินซูเสียนเกลียดเราเข้ากระดูกดำก่อนหน้านี้หล่อนรักชอบองค์ชายสองขนาดนั้นหล่อนต้องเกลียดข้าที่แย่งชิงคนที่นางรักไปแค้นจนแทบจะจัดการข้าให้ได้อย่างรวดเร็วยังมีเจ้าวันนั้นหล่อนและพ่อของหล่อนได้รับความอัปยศอดสูที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นในใจพวกเขาพ่อลูกต้องเกลียดแค้นเจ้าแน่ๆดังนั้นวันใดที่หล่อนได้เป็นพระชายาองค์รัชทายาทแล้วเราก็จะไม่มีวันสงบตลอดกาล” จางยวี่โหร่วคิดอย่างรอบคอบในเรื่องนี้ตลบหนึ่งรู้สึกว่าวาจาของหลิงจือมีเหตุผลมาก ก่อนหน้านี้เฉินซูเสียนดูถูกองค์รัชทายาทแต่ตอนนี้กลับริเริ่มเสนอขอพระราชโองการพระราชทานอภิเษกสมรสแสดงให้เห็นว่าหล่อนมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าโดยสิ้นเชิงหล่อนพุ่งเป้าใส่พวกนางมาคิดแก้แค้น หล่อนได้เป็นพระชายาองค์รัชทายาทถ้าเช่นนั้นสถานะของหล่อนอยู่เหนือพวกนางแล้วถึงเวลานั้นหากต้องการที่จะแก้แค้นอะไรสถานภาพนี้ก็จะเอื้อความสะดวกสบายแก่หล่อนมากแน่นอน ถึงแม้ว่าพระราชโองการยังไม่ได้ออกมาแต่จางยวี่โหร่วรู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มิอาจเปลี่ยนทวนกลับคืนได้แล้วพวกเขาก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะกราบทูลขอให้ฮ่องเต้ทรงคืนพระราชดำรัสได้ บางทีฮ่องเต้ก็ทรงยินดีที่จะเห็นความสำเร็จนี้อย่างที่สุดรู้สึกว่าตำแหน่งฐานะตระกูลจางผลงานสูงส่งสะท้านสะเทือนเจ้าเหนือหัวจงใจคิดสนับสนุนตระกูลเฉินโจมตีตะกูลเฟิง “เจ้าอย่าตึงเครียดเรื่องถึงตอนนี้ได้แต่เดินทีละก้าวคิดวางแผนทีละก้าวแล้วแม้ว่าหล่อนได้เป็นพระชายาองค์รัชทายาทจริงแล้วเป็นอย่างไรได้อีกถึงเวลานั้นหล่อนติดตามองค์รัชทายาทอาศัยอยู่ในตำหนักดองกงส่วนเจ้ากลับอาศัยอยู่ในตำหนักองค์ชายสองที่นอกพระราชวังโอกาสจะได้พบเห็นกันมีไม่มากหล่อนอย่างมากที่สุดก็ได้แต่เป็นเพียงพระเชษฐนีของเจ้าเท่านั้นมิอาจทำอะไรเจ้าได้” แต่ว่า...ขอเพียงหลิงจือได้คิดถึงความดุร้ายของเฉินซูเสียนก่อนหน้านี้ปุ๊บก็ย่อมอดที่จะเกิดเงาทะมึนใส่หล่อนมิได้ ในเมื่อก่อนหน้านี้บนร่างนางก็ได้ถูกเอาเปรียบกินไปคำใหญ่โตแล้ว “แม้ว่าเป็นเช่นนี้แต่เราก็ควรต้องป้องกันดีๆไว้ล่วงหน้าสักคราเฉินซูเสียนคิดจะจัดการเรานี่เป็นสิ่งที่แน่นอนแล้วเราไม่สามารถตกอยู่ในสถานะถูกกระทำไปเรื่อยๆไม่มีอะไรที่จะต่อสู้ใช้แรงเอาคืนกลับน่ะ” “พูดไปก็ใช่เพียงแต่ก่อนที่หล่อนยังไม่ทันได้ทำอะไรเราก็ไม่สามารถทำอะไรกับหล่อนได้ได้แต่ดูกระบวนท่าคลี่กระบวนท่าหล่อนได้เป็นพระชายาองค์รัชทายาทฐานะสูงส่งกว่าพวกเราขั้นหนึ่งคิดจะต่อกรกับหล่อนเพียงอาสัยการก่อกวนเล็กๆน้อยๆใช้ไม่ได้ก็เหมือนครั้งก่อนเรื่องที่ข้าวิวาทต่อสู้กับหล่อนที่เทียนเวียงโหลวพระทัยฮ่องเต้ทรงกระจ่างดุจกระจกในที่สุดกลับให้แล้วกันไปนี่แสดงให้เห็นว่าไม่คิดจัดการตำหนักเฉินกั๋วกงอย่างสิ้นเชิงนอกจากพวกเราสามารถกุมจุดอ่อนอะไรที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาไว้ได้อาจไม่ลงมืออาจโจมตีคราเดียวต้องทำลายสิ้นมิฉะนั้นเราทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะอดทนไว้ก่อน”จางยวี่โหร่วแนะนำเตือนอย่างจริงจัง “ใช่ข้ารู้แล้วข้าฟังเจ้าทุกอย่าง” ยวี่โหร่ววิเคราะห์ดังนี้ทันทีนางรู้สึกว่ามีเหตุผลมากทันใดนางคิดจะทำอะไรถ้าเช่นนั้นตนเองพยายามที่จะให้ความร่วมมืออย่างสุดกำลังก็ดีแล้ว หลังจากที่หลิงจือไปแล้วจางยวี่โหร่วจึงได้แสดงให้เห็นถึงแววตาที่หนักหน่วงมาก เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่นางเพียงปลอบหลิงจือเท่านั้นเพื่อให้นางสามารถสบายใจขึ้นเล็กน้อยแต่ในความเป็นจริงเรื่องนี้ร้ายแรงมากกว่าที่คิดจินตนาการได้อ่า อีกไม่นานราชสำนักก็ต้องยุ่งเหยิงใหญ่โตแล้วนี่ไม่เพียงเป็นความวุ่นวายของราชสำนักการต่อสู้แย่งชิงระหว่างอำนาจของฮ่องเต้และขุนนางแต่ยิ่งกว่านี้อาจชักนำให้เกิดความวุ่นวายที่ยิ่งใหญ่ทั่วหนานหชู่ถึงกับยังชักนำให้เกิดการจลาจลทั้งสี่ประเทศ ถัดมาการประหัตประหารอย่างบ้าคลั่งเลือดเนื้อกลิ่นคาวสาดกระเซ็นได้เป็นสิ่งที่นางสามารถคาดไว้กลับมิใช่เป็นสิ่งที่ผู้อื่นใดสามารถคิดจินตนาการได้ นางเพียงต้องการทำจนสามารถปกป้องตระกูลจางไว้ได้ปกป้องคนข้างกายนางที่ห่วงใยสามารถถอนออกอย่างปลอดภัยทั่วร่างได้ส่วนคนอื่นๆล้วนไม่มีความสัมพันธ์กับนางทั้งสิ้น ... หันยี่ฉีเป็นท่านอ๋องเทพยุทธ์แห่งสงครามมีงานหลวงต้องทำการทุกเช้าตรู่ตื่นมาก็ไม่เห็นเงาร่างของเขาในตอนเย็นดึกดื่นมืดค่ำยามวิกาลจึงกลับมาแม้แต่อาหารเย็นก็ไม่สามารถร่วมเสวยกับนางด้วยกัน ดูเหมือนว่าทั่วตำหนักอ๋องชิงผินทุกคนต่างกำลังยุ่งกับเรื่องของตัวเองและนางพระชายาองค์นี้เป็นคนที่ว่างสบายที่สุด ไม่นางไม่ได้ว่างมากขนาดนั้นเพราะผู้ชายคนนั้นได้มอบหมายหน้าที่ซึ่งยากลำบากเหลือขนาดเรื่องหนึ่งให้นางแล้วกล่าวว่าคิดอยากให้นางกำเนิดบุตรคนหนึ่งให้เขาช่วยสืบเชื้อขัตติยวงศ์ ด้วยเหตุผลนี้นางจึงไม่สามารถปฏิเสธคำขอที่โหดร้ายไร้คุณธรรมตลอดคืนของเขา ไม่รู้จริงๆว่าแต่ละวันเขาต้องยุ่งเรื่องหลายอย่างขนาดนั้นหรือว่าไม่เหนื่อยไม่คิดอยากจะพักผ่อนดีๆหรือ? นางเพียงรู้ว่าทุกวันตนเองเหนื่อยแทบตายไม่มีสักวันที่ไม่ปวดเอวเมื่อยหลังกายภาพระหว่างชายหญิงแตกต่างกันมากขนาดนั้นหรือ? หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจางยวี่โหร่วเปลี่ยนเป็นชุดนอนผ้าบางๆบนร่างมีกลิ่นหอมสดชื่นฟุ้งตลบของกลีบดอกไม้หลังจากอาบน้ำและกลิ่นหอมของเรือนร่างที่อ่อนๆซึบซาบเข้าสู่จิตใจผู้คน ผิวกายนางขาวยิ่งกว่าหิมะกระโปรงบางเบาปกปิดเรือนร่างอันงดงามไม่มิดจึงไม่สงสัยเลยว่าทำไมหันยี่ฉีมิอาจควบคุมต่อนางได้ทุกครั้งที่เขาเห็นนางลักษณะนี้ล้วนคิดอยากอุ้มนางไว้แนบอกรักอย่างลึกซึ้งดุเดือดสักรอบ สังเกตว่าข้างนอกยังไม่มีการเคลื่อนไหวในใจจางยวี่โหร่วรู้สึกสูญเสียบางอย่างบางทีวันนี้เขาอาจกำลังยุ่งงานใหญ่อะไรน่ะ ค่อยๆเป่าตะเกียงดวงเดียวตรงหน้าหน้าต่างดับไปแสงสว่างในห้องพลันมืดสลัวลงบางส่วน ดึกปานนี้มากแล้วเขายังไม่ได้กลับมาบางทีเขาอาจจะไม่ได้กลับมาคืนนี้ถ้างั้นนางได้แต่ต้องพักผ่อนเองก่อนแล้ว ถอนหายใจเล็กน้อยนางก็เตรียมหันหลังเดินกลับไปที่เตียงแต่เวลานี้จู่ๆก็มีมือคู่ใหญ่คู่หนึ่งรวบจับเอวของนางไว้แล้วนางก็พิงทั้งตัวเข้าไปในอ้อมกอดที่แข็งแกร่งอันหนึ่ง ในห้องนี้ก็ไม่มีใครคนอื่นทั้งสิ้นไม่มีแม้แต่เสียงประตูเปิดแล้วทำไมถึงได้... แต่จางยวี่โหร่วกลับไม่ได้ตะโกนออกมาเพราะอ้อมกอดนี้คุ้นเคยกับนางมากขนาดนั้นแล้วไหนเลยที่นางจะไม่สามารถจดจำออกมาได้น่ะ? ทุกครั้งผู้ชายคนนี้ล้วนไร้ร่องรอยเช่นนี้อาศัยวิทยายุทธ์ที่ดีของเขาเองก็สามารถข่มขวัญให้ผู้คนตกใจเช่นนี้หรือ? ตอนแรกประมาณว่านางอาจจะยังถูกข่มขวัญให้กลัวบ้างแต่ตอนนี้ได้เคยชินมานานแล้วนางเอื้อมมือออกไปบิดเอวของเขาโดยตรงหลังจากนั้นก็ดิ้นหลุดออกจากอ้อมอกของเขา “ดึกขนาดนี้เจ้ายังกล้ามีเหตุผลกลับมาคาดไม่ถึงยังกล้าทำให้หม่อมฉันตกใจกลัว!” “ทำไมนี่เจ้าคิดถึงสามีแล้วหรือ?ถ้างั้นก็ดีเปิ่นหวังสัญญากับเจ้าภายหน้ากลับมาเช้าหน่อยเป็นเพื่อนเจ้า” จางยวี่โหร่วส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว“ไม่ได้ไม่ได้ท่านมีหลายเรื่องที่ต้องทำมากมายขนาดนั้นแน่นอนยังเป็นงานหลวงต้องสำคัญที่สุดนอกจากนี้...ใครคิดถึงท่านแล้วหม่อมฉันเพียงกล่าวว่าท่านไปมาไร้ร่องรอยทำให้คนตกใจสะดุ้งไปคราท่านอย่าได้หลงตัวเองแล้วเพค่ะ” กลิ่นไออันตรายแวบเข้ามาในดวงตาของผู้ชายทันทีหลังจากนั้นค่อยๆเดินเข้ามาใกล้นาง “อย่าหลงตัวเองเหรอ?ดูไปแล้วเร็วๆนี้พระชายาที่รักช่างกำเริบสืบสานบังอาจนักกลับกล้าใช้เสียงแบบนี้กล่าววาจากับเปิ่นหวัง”
已经是最新一章了
加载中