ตอนที่ 125 สาบสูญไร้ร่องรอย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 125 สาบสูญไร้ร่องรอย
ต๭นที่ 125 สาบสูญไร้ร่องรอย เมื่อได้ยินวาจานี้ ในใจซูเฟยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบายใจบ้าง นางรีบลุกขึ้นทันที เดินไปมารอบ ๆ อย่างใจจดใจจ่อร้อนใจ “ตอนนี้ควรทำอย่างไร? จือเอ๋ออย่าได้เกิดเหตุเด็ดขาดจึงดีอ่า” จางยวี่โหร่วก็เป็นกังวลมาก ตอนนี้เหลือเพียงความหวังที่โชคดีมีสุขสักนิด ก็คือที่องค์ชายสองที่นั่น หวังว่าเขาสามารถมาบอกพวกเขาว่าแท้จริงหลิงจืออยู่ด้วยกับเขา ทุกอย่างล้วนเป็นเพียงการแสร้งตกใจฉากหนึ่งเท่านั้น เวลานี้ จู่ ๆ ข้างนอกมีเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งระลอกหนึ่งดังขึ้น เป่ยจื่อหัวไม่อาจรอรายงานแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก็บุกเข้ามาโดยตรง “พระมารดา จือเอ๋ออยู่ไหมเพค่ะ?” รอจนเขาเข้ามาจึงได้พบว่ามีเพียงจางยวี่โหร่วอยู่ที่นี่ ไม่เห็นร่องรอยหลิงจืออย่างสิ้นเชิง สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นซีดขาวไปทั่วทันที พวกเขาไม่กี่คนล้วนไม่มีข่าวของหลิงจือกันทั้งหมด นี่เห็นได้ชัดก็คือเกิดเรื่องแล้วอ่า จางยวี่โหร่วยืนยันอีกครั้งว่า “ปิงเอ๋อ เจ้าแน่ใจนะว่าคุณหนูของเจ้าไม่ได้ออกจากพระราชวังน่ะ?” “ใช่ บ่าวรออยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน คุณหนูไม่ได้ออกมาสักที ยังไปถามที่ประตูพระราชวังอื่นๆ ล้วนบอกว่าไม่เคยเห็นคุณหนู” ปิงเอ๋อรีบตอบทันที นี่ให้เห็นว่าตอนนี้ คนยังอยู่ในพระราชวัง นางต้องถูกคนจับไปแล้วแน่ ๆ ซูเฟยตบโต๊ะทันที กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ทหารรีบส่งไปหาแม่นางซิม ต้องหานางกลับมาให้จงได้” “ข้าไปด้วย!” เป่ยจือหัวก็นั่งไม่ติดโดยสิ้นเชิง เมื่อเขาได้ยินข่าวว่าหลิงจือหายตัวไปไร้ร่องรอย แทบกระวนกระวายใจดั่งไฟเผา รีบเร่งเข้าไปในพระราชวัง แต่กลับไม่เห็นนาง ยิ่งสังหรณ์ใจอย่างลึก ๆ รู้สึกว่านางเจออันตราย หัวใจของเขาก็มิอาจสงบลงมาได้ จือเอ่อ เจ้าต้องไม่เกิดเหตุเด็ดขาด! เจ้าเป็นหญิงคนแรกที่เปิ่นหวังรู้จักว่าสิ่งใดเรียกว่ารักแรกพบ เปิ่นหวังรักชอบคุณเจ้าขนาดนั้น ยังไม่ทันได้อภิเษกสมรสเจ้ากลับมาเป็นพระชายาของข้า เจ้ารับปากว่าภายภาคหน้าเราต้องได้อยู่ด้วยกัน เจ้ามิอาจผิดคำพูด ต้องจำสัญญาของเจ้าไว้จงได้อ่า คนมากมายเช่นนี้ล้วนถูกส่งออกไปแล้ว หลิงจือคนตัวโตขนาดนั้น เป็นไปได้อย่างไรไม่มีข่าวสักนิดน่ะ? คนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่ากลับมารายงานว่าพวกเขาต่างไม่เห็นนาง นี่เป็นไปได้อย่างไรน่ะ? ยิ่งเป็นแบบนี้ ก็แสดงให้เห็นชัดว่าในเรื่องนี้มีแยบยลอ่า พระราชวังทุกหนทุกแห่งต่างมีองครักษ์เฝ้าดูแลอยู่ นางกำนัลขันทียิ่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน เส้นทางที่หลิงจือเดินออกมาจากห้องบรรทมของซูเฟยมาถึงประตูพระราชวังนี้ก็ไม่มีสถานที่ห่างไกลเปล่าเปลี่ยวอย่างสิ้นเชิง นางจะถูกจับไปอย่างเงียบๆเป็นไปได้อย่างไร? ขณะที่พวกเขาแทบมิอาจยืนหยัดรอต่อไปได้อีก ทันใดนางกำนัลคนหนึ่งมารายงาน “พระนางซูเฟย คุณหนูหลินถูกองค์รัชทายาทจับไปแล้วเพค่ะ” “เจ้าพูดอะไร เจ้าแน่ใจหรือ?” ถึงแม้ว่าในใจพวกเขามีข้อสงสัยเช่นนี้จริง ๆ แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้เข้าจริง ในใจก็ยังตกใจทันที นางกำนัลคนนั้นดูไปแล้วกลัวมาก ทั่วร่างสั่นเทิ้มไปหมด เสียงพูดจาแฝงเสียงสะอื้นไห้ “พระนางซูเฟย บ่าวไม่คิดตาย พระองค์ต้องรับประกันชีวิตของบ่าวให้จงได้น่ะเพค่ะ!” นี่เป็นเรื่องยากที่จะให้ผู้คนเข้าใจว่าทำไมการเปิดโปงความลับนี้จึงเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ “ที่แท้เจ้ารู้อะไร รีบพูดออกมา ที่นี่ไม่มีผู้อื่น เจ้าสามารถพูดได้เต็มที่” เป่ยจื่อหัวไหนเลยยังมีความอดทนขนาดนั้นที่จะพูดคุยเงื่อนไขกับนางเกือบจะคว้าคอเสื้อนางโดยตรงตะโกนเสียงออกมาด้วยความโกรธแล้ว แต่ว่าเป็นตั้งแต่วัยเด็กถึงวัยผู้ใหญ่ได้รับการปลูกฝังมาอย่างดี เขาจึงไม่ได้ทำเช่นนี้ “ทุกวันบ่าวต้องไปห้องเครื่องพระเสวยตามเวลายกซุปบำรุงของพระนางซูเฟย วันนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น ผ่านสวนบุปผชาติหลวงในตอนเช้า ก็ได้เห็นคุณหนูหลินและองค์รัชทายาทกับคุณหนูเฉินเกิดข้อพิพาทขึ้นกัน เวลานั้นบ่าวก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น ก็ไม่กล้าผ่านเข้าไป เพียงเห็นคุณหนูหลินคุกเข่าบนพื้นและยอมรับผิดทูลขอการอภัยไม่หยุด แต่องค์รัชทายาทกลับได้สร้างปัญหาให้นางตลอด ในที่สุด...พวกเขาก็สั่งให้จับนางไปแล้วโดยตรงเพค่ะ” เป่ยจื่อหัวทั้งคนตกอยู่ในความตกใจอย่างขีดสุด ก้าวถอยหลังอย่างรุนแรง แทบมิอาจยอมรับความจริงนี้ได้ พวกเขาทั้งหมดเป็นพี่น้องกันแท้ ๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาได้พยายามที่จะเป็นมิตรกับน้องเคารพพี่ แม้ว่าโอกาสได้สัมผัสองค์รัชทายาทมีไม่มาก แต่ทุกครั้งที่พบหน้าก็เคารพเขายิ่งนัก เขาไม่ได้รู้หรือว่าจือเอ๋อเป็นผู้หญิงที่เขารักหรอกหรือ? ทำไมเขาถึงทำเรื่องแบบนี้ได้? จางยวี่โหร่วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ต้องเป็นเพราะเฉินซูเสียนยุแหย่แน่ ๆ ต้องเป็นเช่นนั้น ข้าก็รู้ว่าจุดประสงค์ที่นางอภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาทไม่ได้ง่ายดายอย่างนั้น นางคิดแก้แค้น” “แต่จือเอ๋อเป็นว่าที่พระชายาองค์ชายสอง พวกเขาทำไมจึงได้...” ซูเฟยก็มิอาจยอมรับได้แล้ว “พระนาง เวลานี้พูดสิ่งเหล่านี้ยังมีความหมายอะไรน่ะ? เขาเป็นองค์รัชทายาท ฐานะสูงส่งบารมีอำนาจก็ยิ่งใหญ่ อย่าว่าแต่ตอนนี้น้องหลินยังไม่ได้อภิเษกสมรสอย่างเป็นทางการกับพี่จื่อหัว ต่อให้นางได้เป็นพระชายาองค์ชายสองจริงแล้ว ฐานะขององค์รัชทายาทก็ยังเหนือนางอ่า” จางยวี่โหร่วพูดคำเหล่านี้ตามฐานันดรสูงศักดิ์ต่ำต้อย แต่ในสายตาของซูเฟยและเป่ยจื่อหัว พวกเขาเห็นได้ชัดว่ายิ่งเป็นกังวลในเรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัวมากกว่า ในพระราชวังที่ดูเหมือนจะสงบแต่เต็มไปด้วยวิกฤตอยู่ทั่วไปเน้นเรื่องความรัก ไม่ตลกไปหน่อยแล้วหรือ ซูเฟยที่ได้อยู่วังหลังมานานไม่แน่ว่าจะไม่เข้าใจเหตุผลนี้ เพียงแต่นางอาจจะไม่คิดว่าเป่ยจื่อเฉินจะทำเกินไปเช่นนี้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าหลิงจือเป็นลูกสะใภ้ในอนาคตของนาง เขายังทำเช่นนี้ การเคลื่อนไหวของเขาเช่นนี้ ก็เป็นการตบใส่หน้าพวกเขาอย่างแรงโดยสิ้นเชิง “ขวัญกล้าบังอาจนัก ในเมื่อเจ้ารู้เรื่องนี้มานาน ทำไมไม่พูดออกมาก่อน!” เป่ยจื่อหัวกล่าวอย่างโกรธกริ้ว มิฉะนั้นเขาก็ไม่ถึงกับเพิ่งมารู้ข่าวนี้ในตอนนี้แล้ว” พอคิดถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับจือเอ๋อในช่วงเวลานี้ ในใจเขาก็อัดแน่นเต็มไปด้วยไฟโกรธ แทบมิอาจควบคุมตัวเองได้แล้ว “พระนางซูเฟยไว้ชีวิต องค์ชายสองไว้ชีวิต ไม่ใช่บ่าวไม่คิดอยากพูด แต่เป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท ถ้าใครกล้าเปิดโปงความลับนี้ ก็หมายเอาศีรษะใครคนนั้น บ่าวไม่อยากตาย แต่เห็นพวกท่านเป็นกังวลเพื่อคุณหนูหลินขนาดนั้น บ่าวยังคงขวัญกล้าที่จะรายงานเรื่องนี้” กล่าวโดยสัตย์จริง นางกำนัลคนนี้ พวกเขายังไม่พบอะไรผิดปกติในนางจริง ๆ ในพระราชวังนี้ นางเพียงแค่คิดปกป้องตัวเองเท่านั้นเอง แต่ในที่สุดนางก็พูดความจริงออกมาแล้ว แม้ว่าจะสายไปแล้วบ้าง แต่ถ้านางไม่พูด ตอนนี้พวกเขายังไม่รู้ควรจะทำยังไงดีน่ะ เพียงแต่เป่ยจื่อเฉินบ้าคลั่งสุดขีดจริง ๆ แม้ว่าเขาเป็นองค์รัชทายาท ก็ไม่อาจกำเริบสืบสานขนาดนี้เถอะ ก่อนหน้านี้เพียงคิดว่าเขาเป็นคนธรรมดาไร้ความสามารถ ยากที่จะทำการใหญ่ แต่ตอนนี้เขาได้ตกกลายเป็นเครื่องมือที่ถูกผู้อื่นใช้ ถ้าเช่นนั้นก็เป็นการข่มขู่ที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งจริง ๆ สำหรับพวกเขาอ่า เป่ยจื่อหัวไม่อาจนั่งได้ติดอีกต่อไปแล้ว เขาสลัดแขนเสื้อคราหนึ่งหันหลังเตรียมจากไป “เปิ่นหวังตอนนี้ก็จะไปตำหนักดองกงขอคนจากพระเชษฐา จือเอ๋อเป็นพระชายาในอนาคตของเปิ่นหวัง เปิ่นหวังต้องไม่ให้นางรับความไม่เป็นธรรมเด็ดขาด จือเอ่อใจดีอ่อนโยนเข้าใจเหตุผล ทำไมเป็นไปได้ว่าทำผิดพลาดอะไร ต้องเป็นพวกเขาจงใจหาเรื่องทำให้นางลำบากใจ แม้ว่าจะก่อเหตุวุ่นวายไปถึงเสด็จพ่อที่นั่น เปิ่นหวังก็ต้องทวงความยุติธรรมคืนให้นางแน่นอน” “หยุดเดี๋ยวนี้!” จางยวี่โหร่วกล่าวเสียงดังว่า “ถ้าเจ้าไม่คิดทำร้ายนางตาย ทางที่ดีก็อย่าทำแบบนี้” เขามิใช่คิดดูตัวเองใหญ่มากเกินไปแล้ว ถ้าก่อเหตุวุ่นวายไปถึงฮ่องเต้ด้านนั้น ไม่เพียงแต่มิอาจช่วยหลิงจือ ตำแหน่งของเขาเองก็จะถูกคุกคามไปด้วย 
已经是最新一章了
加载中