ตอนที่ 126 ไม่ได้ครอบครองก็ทำลายเจ้าแล้ว
1/
ตอนที่ 126 ไม่ได้ครอบครองก็ทำลายเจ้าแล้ว
พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 126 ไม่ได้ครอบครองก็ทำลายเจ้าแล้ว
ตนที่ 126 ไม่ได้ครอบครองก็ทำลายเจ้าแล้ว อะไร? เห็นได้ชัดว่าเป่ยจื่อหัวมิอาจยอมรับได้แล้วโดยสิ้นเชิง! จือเอ๋อเป็นพระชายาในอนาคตของเขา หรือว่ากระทั่งสิทธิที่จะปกป้องผู้หญิงของตนเอง เขาก็ล้วนไม่มีแล้วหรือ? ทุกคนต่างเป็นพี่น้องกัน พระเชษฐามักจะไว้หน้าเขา และเสด็จพ่อก็เปี่ยมด้วยความรักเมตตา ไม่ถึงกับไม่สามารถช่วยเขาได้น่ะ ในมุมมองของเขา นี้เป็นเรื่องที่แก้ปัญหาได้ง่ายมากเรื่องหนึ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมจางยวี่โหร่วจึงกล่าวอย่างเคร่งเครียดขนาดนั้น ในความเป็นจริง ปกติเขาไม่ได้ใช้ความคิดความอ่านใจเย็นไปคิดใคร่ครวญเรื่องนี้ เพราะตอนนี้เขาห่วงใยกังวลหลิงจือมากเกินไปจริง ๆ ใจร้อนดุจไฟเผา ไม่ทันได้มีเวลาคิดไตร่ตรองแล้ว ซูเฟยเห็นสภาพ สีหน้าเคร่งขรึมไปบ้าง “ลูกเอ๋ย จางยวี่โหร่วกล่าวไว้ไม่ผิด เขาเป็นองค์รัชทายาท เป็นพระเชษฐาของเจ้า ไม่ว่าเขาทำเรื่องอะไรเจ้ามิอาจไม่ให้เกียรติเคารพเขา แม้ว่าเขาจะทำสิ่งที่ผิดไปแล้ว” นางอยู่ในวังหลังมาเป็นเวลาหลายปี ไหนเลยจะมองลักษณะเกมในเรื่องนี้ไม่ชัดได้ ขอเพียงฮ่องเต้อยู่ในตำแหน่ง พระองค์ต้องทรงพยายามสุดแรงสุดชีวิตปกป้ององค์รัชทายาทไว้ให้จงได้ สนับสนุนให้องค์รัชทายาทขึ้นสู่บัลลังก์ ดังนั้นตลอดที่ผ่าน ซูเฟยไม่เคยคิดเพ้อเจ้อต้องการตำแหน่งองค์รัชทายาท พวกเขาแม่ลูกเพียงต้องการปกป้องตัวเองเท่านั้น การต่อสู้ทั้งในที่แจ้งการแก่งแย่งในที่ลับอื่น ๆ รวมถึงการดึงเข้าพรรคพวกของข้าราชบริพารส่วนตัว พวกเขาล้วนไม่ริเริ่มเข้าร่วมมาก่อนตลอดมา พวกเขามิอาจเป็นปรปักษ์กับองค์รัชทายาทเด็ดขาด มิฉะนั้นผลบั้นปลายมิอาจคาดคิดได้ “เหตุใดแม้กระทั่งพระมารดาก็ทรงตรัสเช่นนี้ หรือว่าทั่วจักรวาลเจิดจ้าแจ่มจรัสสาดส่อง ก็สามารถไม่ต้องใช้หลักยุติธรรมแล้วหรือ?” ซูเฟยถอนหายใจแล้วส่ายหน้า “ตั้งแต่โบราณกาลมา การต่อสู้แย่งชิงในราชวงศ์แต่ละยุคสมัย เลือดเนื้อเชื้อไขเข่นฆ่ากันเอง โหดร้ายทารุณไร้เมตตา เจ้ามีความหยั่งรู้สูงส่ง ทำไมจึงไม่เข้าใจหรือ?” ประโยคนี้ ยิ่งทำให้เป่ยจื่อหัวตกใจมากถึงขีดสุด เขาถามตัวเองว่าตลอดที่ผ่านมาตนเองเคร่งครัดตามกฎข้อห้ามของตนเอง มิละอายใจต่อตนเอง แต่ว่าเขาไม่ได้ไปยั่วผู้คน ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่มาทำร้ายเขา บางครั้งทำตัวอยู่เหนือปัญหา ไม่ขอเกี่ยวข้อง ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ถูกชักจูงเข้าสู่เรื่องราวด้วยอ่า “ถ้างั้น ตอนนี้ควรทำอย่างไร?” เวลานี้ เขาไม่มีเวลาที่จะคิดไตร่ตรองปัญหาเหล่านี้แล้ว ต้องรีบหาวิธีที่จะช่วยหลิงจือโดยเร็วอ่า จางยวี่โหร่วคิดแล้วคิด หลังจากนั้นกล่าวว่า “ตอนนี้ท่านไปที่ตำหนักดองกงเข้าพบองค์รัชทายาทขอคน แต่ขอท่านจำไว้ว่าท่าทีต้องมีมารยาทให้ความยำเกรงเคารพ อย่าได้เกิดข้อขัดแย้งใด ๆ กับองค์รัชทายาทเด็ดขาด พระนางซูเฟย ตอนนี้พระองค์ท่านทรงไปที่ห้องทรงพระอักษรเข้าเฝ้าฮ่องเต้ แต่ดำรัสวาจาต้องระมัดระวังให้มาก ฮ่องเต้ทรงรักโปรดปรานองค์รัชทายาท ด้านวาจาต้องไม่ให้เกิดข้อขัดแย้งใด ๆ ต่อองค์รัชทายาทโดยเด็ดขาด ไม่ว่าฮ่องเต้ทรงดำริคิดปกป้ององค์รัชทายาทอย่างไร แต่ก็มิควรทรงทำมากเกินเลยไปเพค่ะ” “ได้ ข้าเข้าใจแล้ว” ซูเฟยและเป่ยจื่อหัวรีบแยกย้ายกันลงมือปฏิบัติการทันที แต่ในใจจางยวี่โหร่วยังคงมีความกังวลบางอย่าง องค์รัชทายาทยังพอพูดได้ เขาโง่และขี้ขลาดขนาดนั้น ขอเพียงไปหาถึงที่ เขาต้องมอบคนออกมาให้ทันทีแน่นอน แต่ปมสาเหตุของเรื่องราวยังอยู่กับเฉินซูเสียน ขอเพียงมีนางอยู่ข้าง ๆ องค์รัชทายาท นางก็ต้องจงใจยุแหย่แน่นอน ใช้อุบายแผนชั่ว ที่แท้สามารถช่วยชีวิตหลิงจือออกมาอย่างปลอดภัยไหม นางไม่กล้ารับประกันจริง ๆ ... เวลานี้ ในตำหนักดองกง ในที่มืดสลัวมากในห้องหนึ่ง หลิงจือถูกมัดไว้กับเสาอย่างหนาแน่น สีหน้านางดูเศร้าโศกสลดใจ บนใบหน้าเปื้อนรอยคราบน้ำตา เฉินซูเสียนยืนอยู่ต่อหน้านาง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจไร้ที่เปรียบปาน “หลิงจือ เจ้าคงไม่คิดถึงว่ามีวันหนึ่งต้องตกมาอยู่ในมือของข้า เจ้ากับจางยวี่โหร่วนั่นล้วนเป็นนังสารเลว คิดว่าตนเองเป็นอะไร ยังกล้ามานั่งบนศีรษะข้า” แม้ว่าจะถูกผู้อื่นควบคุมไว้ แต่แววตาของหลิงจือที่มองหล่อนกลับเต็มไปด้วยความไม่ยอมอ่อนข้อ “เจ้าว่าข้าได้ แต่ห้ามว่าจางยวี่โหร่ว ข้าฐานะต่ำต้อยแล้วอย่างไรอีก แต่ยวี่โหร่วจึงเป็นหงส์ในที่สูงส่ง เจ้าไม่สามารถเปรียบเทียบกับนางได้ตลอดไป” “สมควรตาย เจ้าพูดว่าอะไร?” เฉินซูเสียนตบหน้าหลิงจืออย่างรุนแรงไปครั้ง ด้วยแสงตะเกียงอันบางเบาอ่อนจางในห้อง สามารถเห็นวงหน้าของหลิงจือได้ลาง ๆ ในเวลานี้ ถูกตบตีจนบวมแดงไปตั้งนานแล้ว เลือดฝอยไหลออกมาจากมุมปาก เห็นได้ว่าในช่วงเวลานี้ นางรับการทรมานจากเฉินซูเสียนไม่น้อย “ข้าบอกเจ้า ฮ่องเต้ได้มีพระราชโองการพระราชทานให้ข้าอภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาทแล้ว ในไม่ช้าข้าก็จะเป็นพระชายาองค์รัชทายาท พระมเหสีในอนาคตของหนานหชู่นี้ ภายภาคหน้าเมื่อเจ้ากับจางยวี่โหร่วได้เห็นข้าล้วนต้องหมอบคลานอยู่ใต้เท้าของข้า กระดิกหางขอร้องข้าเหมือนสุนัข” วาจานี้ไม่รู้ว่ากำลังพูดให้หลิงจือฟังหรือพูดให้ตัวเองฟัง ขอเพียงหลิงจือได้เห็นลักษณะนี้ของนาง ก็จะรู้สึกเศร้าใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจริง ๆ “ฮ่า ๆ ต้องการได้ใจคน ๆ หนึ่ง ยามเฒ่าชราผมหงอกทั้งศีรษะก็ไม่ห่างหายจากกันไป สิ่งที่ข้าและยวี่โหร่วมีในตอนนี้ เจ้าจะไม่มีวันได้รับตลอดไป” การเป็นพระชายาองค์รัชทายาทก็ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่อะไร แม้แต่พระมเหสี นางก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยากได้ เพียงได้อยู่ร่วมกับชายที่ตนเองรัก นั่นจึงเป็นความสุขที่แท้จริงน่ะ คาดไม่ถึงพอเฉินซูเสียนได้ยินคำพูดนี้ แทบจะบ้าคลั่งบ้างขึ้นมาโดยพลัน หล่อนคว้าเสื้อตรงหน้าอกของหลิงจือทันที ตบไปบนใบหน้าของนางอย่างรุนแรงอีกสองสามครั้ง ในน้ำเสียงลึก ๆ ก็แหบแห้งไปบ้าง “นี่เจ้ากำลังโอ้อวดอะไรกับข้า โอ้อวดว่าเจ้าได้รับความรักความโปรดปรานจากเขาหรือ? หลิงจืออีนังสารเลวเจ้านี่ ข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่!” จู่ ๆ นางก็เอื้อมมือไปบีบคอของหลิงจือ ในดวงตาเต็มไปด้วยความพยาบาทรุนแรง คิดจะฆ่านางให้ถึงที่ตายสถานเดียวจริง ๆ “แค้ก...แค้ก ๆ ปล่อยมือ!” นางไม่สามารถหายใจได้อีกต่อไปแล้ว แต่ตอนนี้มือเท้าของนางดันถูกมัดไว้ ต่อให้ดิ้นรนไปก็มิอาจทำได้ เมื่อครู่หลิงจือเพิ่งไปกระตุ้นถูกจุดตายของเฉินซูเสียนเข้าจริง ๆ หล่อนรักองค์ชายสองมานานขนาดนั้น แต่เขากลับไม่เหลียวแลหล่อนสักนิด ต่อมาถึงกับยืนอยู่ตรงข้ามหล่อน เป็นปฏิปักษ์คิดจะให้หล่อนตายสถานเดียว ความรักในอดีตได้กลายเป็นความเกลียดชังในวันนี้ เมื่อใดก็ตามที่หล่อนคิดว่าหลิงจือได้อยู่กับเขา ได้รับความรักความโปรดปรานทั้งหมดจากเขาตอนนี้หล่อนก็ยิ่งเพิ่มพูนความอิจฉาอย่างพลุ่งถึงขีดสุด ยิ่งเคียดแค้นชิงชังต่อพวกเขามากขึ้น คิดถึงสายตาที่อ่อนโยนรักโปรดปรานของเขาซึ่งทำให้หล่อนคิดถึงมานาน แต่นั้นล้วนเป็นประกายที่มองดูหลิงจือ หล่อนก็ยิ่งแค้นจนอยากฆ่านางโดยตรงแล้ว “เจ้านังสารเลวนี่ ล้วนเป็นเพราะเจ้า มิฉะนั้นเขาจะไม่โหดร้ายใจเหี้ยมกับข้าขนาดนั้น ข้ารักเขามานานหลายปีขนาดนั้น ต่อให้เขาไม่ตอบสนองอะไรต่อข้า แต่เห็นแก่ความจริงใจของข้าก็ไม่ควรทำกับข้าแบบนั้น ล้วนเพราะเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้าแล้ว!” ในห้องที่มืดครื้ม แววตาน่าสะพรึงกลัวของเฉินซูเสียนดูทะมึนน่ากลัวจริงๆ ทำให้ผู้คนสยดสยองไม่ได้ หลิงจือถูกหล่อนบีบจนแทบขาดใจแล้ว ในขณะที่นางคิดว่าตนเองมิอาจรอดชีวิตได้แล้วจริง ๆ จู่ ๆ เฉินซูเสียนก็ได้หยุดลงมาอีก นางสูดหายใจคำโต ๆ ไอไม่หยุด เมื่อครู่นางยังคิดว่าตนเองกำลังจะตายแล้วจริง ๆ แต่ใครจะรู้ตอนนี้เป็น “กำลังหนีจากความตายรอดชีวิต” หรือถูกผลักเข้าไปในนรกที่ยิ่งลึกขึ้นน่ะ? ฝันร้ายของนางยังไม่จบ เพราะเวลานี้ จู่ ๆ เฉินซูเสียนก็เอากริชเล่มหนึ่งออกมาจากโต๊ะที่อยู่ด้านข้าง หลังจากนั้นวางขวางไปบนใบหน้าของหลิงจือ “โอ้ เขาชอบเจ้าก็เพราะใบหน้าที่สวยงามนี้ของเจ้าหรือ? เจ้าบอกซิ ถ้าข้ากรีดไปบนนี้สองสามดาบอย่างรุนแรง ให้ผิวขาวผ่องละเอียดอ่อนนี้กลายเป็นผิวหนังฉีกขาดเนื้อกระจุย เลือดสดสาดกระเซ็น เขายังจะชอบไหม?” เฉินซูเสียนกล่าวพลางทำไม้ทำมือกรีดไปพลาง ในก้นบึงดวงตามีประกายความตื่นเต้นดีใจระยิบระยับ เหมือนคนบ้าคนหนึ่งเป็น ๆ
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 126 ไม่ได้ครอบครองก็ทำลายเจ้าแล้ว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A