ตอนที่ 127 หงุข้าวสารให้เป็นข้าวสุก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 127 หงุข้าวสารให้เป็นข้าวสุก
ต๭นที่ 127 หงุข้าวสารให้เป็นข้าวสุก หลิงจือเห็นเขาเป็นแบบนี้ ในใจเต็มไปด้วยความกลัว ทั้งสำนึกเสียใจที่ทำไมตัวเองต้องพูดประโยคนั้น ตอนนี้ผลักตัวเองเข้าไปในสถานการณ์ที่ยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้น คมดาบเย็นยะเยือกวางขวางบนใบหน้านาง ราวกับว่ากำลังจะใช้แรงแทงเข้าไปในวินาทีถัดไป หลิงจือหลับตาลงแน่น ถ้านางถูกทำลายโฉมหน้าจริงแล้ว ถ้าเช่นนั้นนางก็ไม่เหมาะกับองค์ชายสอง แม้ว่าเขาไม่รังเกียจ นางก็มิอาจทอดทิ้งจากข้างกายเขาไปเด็ดขาด ฐานะเขาสูงศักดิ์ขนาดนั้น สูงส่งอยู่เบื้องบนเช่นนั้น สามารถอยู่กับเขา ได้รับความเมตตาจากเขา เป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดในชั่วชีวิตของนาง ภายภาคหน้านางไม่คิดทำให้เขาลำบากอีก ร่างนางสั่นสะท้านเล็กน้อย รอช่วงเวลาที่จะมาถึงนั้น แต่ไม่คิดว่าความเจ็บปวดในจินตนาการยังไม่ได้โจมตีเข้ามา คมดาบเย็นยะเยือกก็ได้ออกห่างจากแก้มนางไปแล้ว หรือว่า หล่อนไม่คิดจะปล่อยนางไปแล้ว? หลิงจือลืมตาขึ้น มองหล่อนอย่างไม่เข้าใจบ้าง วินาทีต่อมาสบตาเย็นชาของเฉินซูเสียน นางตกใจมากใจสั่นสะท้านไปครา ไม่ หล่อนไม่ปล่อยนางไปเด็ดขาด ลักษณะนางเช่นนี้ เป็นที่แน่ชัดว่าต้องมีแผนการที่ยิ่งใหญ่อะไรแล้ว คิดจะใช้วิธีที่น่ากลัวยิ่งกว่านี้มาจัดการนาง “เมื่อครู่เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่? รู้สึกใช่หรือไม่ หลังจากข้าใช้กริชนี้กรีดวาดใบหน้าของเจ้าให้เละ องค์ชายสองยังจะไม่ทิ้งไม่จากเจ้าไป ความจงรักภักดีต่อความรักของเจ้าไม่เสื่อยถอย? ข้ามาให้คำตอบนี้แก่เจ้า เขาทำเช่นนี้แน่นอน! องค์ชายสองที่ข้ารู้จักไม่เปลี่ยนใจเพราะเหตุนี้ เมื่อเกิดความรักแล้วก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตลอดไป ก่อนหน้านี้ข้ารักชอบเขาขนาดนั้น รู้จักเขาดีพอด้วย ดังนั้นข้ามักจะคิดตลอดเสมอมาว่าจะเป็นคนนั้นที่อยู่ในหัวใจของเขา” นี่ยังเหมือนกับสิ่งที่เฉินซูเสียนได้พูดออกมาอย่างแหบแห้งถึงที่สุดคนนั้นเมื่อครู่หรือ? ความดีขององค์ชายสอง พวกเขาเป็นหญิงด้วยกัน ต่างรับรู้ร่วมกัน นางยิ่งกล่าวเช่นนี้ หลิงจือยิ่งรู้สึกโชคดีมีสุข นางสามารถกลายเป็นคนนั้นในดวงใจขององค์ชายสอง เมื่อคิดถึงความดีที่เขากระทำแก่นาง ตอนนี้ความเจ็บปวดทั้งหมดบนร่างนางล้วนไม่ได้รู้สึกแล้ว เวลานี้ จู่ ๆ เฉินซูเสียนก็แสดงสีหน้าเย็นชาเหี้ยมโหดอย่างไร้เทียมทานออกมา “หลิงจือ เป็นเจ้าขโมยชิงความสุขของข้าไปแล้ว ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ ๆ ในเมื่อข้ารู้จักนิสัยขององค์ชายสอง ดังนั้นข้าจึงไม่ทำอย่างนั้น วิธีจัดการเจ้ามีมากมาย ทำลายโฉมหน้านับเป็นอะไร ถ้าสามารถทำลายร่างนี้ของเจ้าแล้ว องค์ชายสองนั่นจึงจะทอดทิ้งเจ้าจริง ๆ น่ะ? ที่จริงแล้วไม่มีชายคนใดสามารถทนได้ที่ภรรยาของตนถูกผู้อื่นทำลายเป็นมลทินไปแล้ว” อะไรนะ! หลิงจือมองหล่อนอย่างไม่อยากเชื่อเลย นางคิดไม่ถึง...หล่อนคิดจะทำลายความบริสุทธิ์ของนาง “ไม่ ไม่ เจ้าไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ ข้าเป็นพระชายาองค์ชายสองที่ฮ่องเต้ทรงมีพระราชโองการให้อภิเษกสมรส เจ้าไม่กลัวว่าฮ่องเต้รู้เรื่องนี้เข้า เจ้าจะถูกลงโทษหรือ?” “ฮ่า ๆ นั่นเป็นเรื่องภายหลังแล้ว ตอนนี้...เพียงคิดต้องการทำลายเจ้าแล้ว!” ครั้งนี้หลิงจือจมอยู่ในความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจริง ๆ นางสามารถรับการดุด่า ดูถูกจากหล่อน แต่ในเรื่องเช่นนี้ สำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง นั่นเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากยิ่งกว่าชีวิตของนางเสียอีกอ่า! กล่าววาจานี้จบ คิดไม่ถึงเฉินซูเสียนก็หันหลังจากไป เมื่อหล่อนกลับมา ตนเองไม่ได้มาคนเดียว แต่พาอีกคนหนึ่งมาด้วย เมื่อหลิงจือได้เห็นเงาร่างในชุดงูเหลือมสีแดงคนนั้น พลันตะลึงจนถลึงตาโต ทำไมจึงเป็นเขา! ใช่แล้ว คนที่มาเป็นองค์รัชทายาท! ทันทีที่หลิงจือได้เห็นเขา พลันตกใจกลัวจนอดไม่ได้ตัวสั่น ได้คิดวาจาของเฉินซูเสียนเมื่อครู่ นางคงไม่คิด... เฉินซูเสียนที่เพิ่งดุร้ายไร้เทียมทานต่อหน้านาง ตอนนี้อยู่ข้างกายเป่ยจื่อเฉินกลับอ่อนโยนเชื่องอย่างไร้ที่เปรียบปาน ดุจนกน้อยคล้องแขนของเขา สีหน้าก็น่ารักมีเสน่ห์มากสุด ๆ “เสียนเอ๋อ เจ้าลงโทษเป็นอย่างไรแล้ว นางตื่นมารู้แจ้งความผิดพลาดของตนเองแล้วไหม?” “ไม่ ผู้หญิงคนนี้ปากแข็งมากนักน่ะ ตลอดเวลาอ้างแก้ตัวอย่างเจ้าเล่ห์ และยังอาศัยว่าตัวเองเป็นว่าที่พระชายาองค์ชายสองในอนาคตก็ไม่เห็นผู้อื่นในสายตา มองดูแล้ว ต้องรอองค์รัชทายาทออกโรงลงมือสั่งสอนด้วยตนเองจึงจะดีเพค่ะ” เป่ยจื่อเฉินเมื่อได้ยินพลันก็โกรธมาก “อะไร? ถึงตอนนี้ยังไม่สารภาพผิด นางก็บ้าอาละวาดเกินไปแล้ว!” แต่เมื่อเขาเข้าไปในห้อง เห็นหลิงจือถูกมัดไว้ ลักษณะน้ำตานองดูน่าสงสาร ในใจก็ไหวหวั่นคราหนึ่ง เฉินซูเสียนมองดูลักษณะเขาในเวลานี้ทั้งสิ้นอยู่ในสายตา ในใจดูหมิ่นดูแคลนเขาอย่างไร้ที่เปรียบปาน เป็นจริงอย่างที่คาดไว้ เขาเป็นเช่นนี้เมื่อเห็นสาวงามที่ยอดเยี่ยมก็อดใจไว้ไม่ไหว แต่นี่ก็ถูกใจหล่อนพอดี “ใช่อ่า นางเป็นผู้หญิงที่ไร้ระเบียบ ไหนเลยเหมาะกับองค์ชายสองเป็นพระชายาองค์ชายสองได้ องค์รัชทายาท พระองค์ท่านทรงเป็นพระเชษฐาคนโตขององค์ชายสอง ควรคิดเผื่อเขาดี ๆ มิอาจให้เขาอภิเษกสมรสกับผู้หญิงแบบนี้คนหนึ่งอ่า” เมื่อเป่ยจื่อเฉินได้ยินการยุแหย่ของหล่อน ก็รีบพยักหน้าทันที รู้สึกสมเหตุสมผลยิ่งนัก “ถ้างั้นตามที่เจ้าดู เจ้ารู้สึกว่าควรทำอย่างไรน่ะ?” เฉินซูเสียนมองดูลักษณะของหลิงจือที่ตกใจกลัวในเวลานี้ หยักมุมปากขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจ “ตามที่หม่อมฉันดู มิฉะนั้นฝ่าบาทองค์รัชทายาทองค์ชายจับนางเข้าพระราชวัง ภายหลังก็สามารถสั่งสอนนางด้วยพระองค์ในทุกเวลาแล้ว เสียนเอ๋อก็สามารถช่วยเฝ้าดูแลอยู่ข้าง ๆ องค์รัชทายาทสละชีวิตเพื่อผู้คน ยังเพื่อปกป้องพระอนุชาของตนเอง นี่ก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลทั้งหมดน่ะเพค่ะ” “นี่..ไม่ดีเหรอ?” ไม่ว่ากล่าวอย่างไรนางยังเป็นผู้หญิงที่พระอนุชาสองรักเป็นที่สุด ถ้าทำแบบนี้เกรงว่าอาจจะทำลายความสัมพันธ์ได้ ถึงแม้ว่าเป่ยจื่อเฉินเริ่มต้นรวนกวนหลิงจือ แต่ท้ายสุดเขาเป็นคนขี้ขลาด มิกล้าก่อเรื่องใหญ่เกินไป ยังไม่ต้องพูดถึงคนอื่น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขากลัวจะทำให้เสด็จพ่อโกรธกริ้วอ่า “องค์รัชทายาทวาจานี่ไกลเกินไป พระองค์ท่านก็เพื่อให้เขาดี ช่วยกำจัดเภทภัยให้เขา ถ้าให้เขาอภิเษกสมรสกับองค์ชายสองจริง นั่นจึงเป็นการทำร้ายเขาน่ะ องค์ชายสองเป็นคนฉลาดปานนั้น ต้องสามารถรับรู้ถึงความตั้งใจที่ดีขององค์รัชทายาทเพค่ะ” นี่...กล่าวได้มีเหตุมีผลด้วยอ่า! เมื่อคิดถึงวันนั้นที่งานเลี้ยงในพระราชวัง ท่าเต้นรำอันสง่างามกินใจของหลิงจือ เขายังรู้สึกจิตใจชื่นมื่นจริง ๆ สาวงามเช่นนี้ไยมิอาจเป็นของเขา ในเมื่อเฉินซูเสียนก็ใจกว้างแบบนี้แล้ว ยังพยายามช่วยคิดวิธีผลักดันให้หลิงจือเข้าสู่อ้อมอกเขา ทำไมเขาถึงต้องปฏิเสธเล่า? ยังไง ๆ ก็วาจาอำลาก็ได้คิดดีแล้ว ขวัญของเป่ยจื่อเฉินก็เริ่มกล้าขึ้นมาแล้ว “ถ้างั้นในความเห็นของเจ้า ฝ่าบาทข้าควรทำเรื่องนี้อย่างไร ถ้าทั้งเสด็จพ่อและพระอนุชาสองล้วนไม่ยินยอม ควรทำอย่างไรดีน่ะ?” เฉินซูเสียนยิ้มพลางกล่าวด้วยว่า “นี่เป็นเรื่องง่ายมากอ่า ขอเพียงข้าวสารกลายเป็นข้าวสุก ก็มิอาจยอมให้พวกเขาไม่เห็นด้วยหรือไม่” ใช่ กล่าวไม่ผิด ขอเพียงหลิงจือกลายเป็นผู้หญิงของเขา หรือพระอนุชาสองยังสามารถชิงจากข้างกายเขาไปหรือ? เมื่อถึงเวลา เขาไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีกเพราะพระองค์ทรงเป็นองค์รัชทายาท หลิงจือเห็นพวกเขาทั้งสองทำราวกับนางไม่ได้ดำรงอยู่ปานนั้น หารือในปัญหาดังกล่าวโดยตรงอย่างคิดไม่ถึง ช่างน่าอัปยศอดสู โกรธขึ้งนัก พวกเขาทำเกินไปแล้ว ทำไมถึงได้น่ารังเกียจไร้ยางอายอย่างนี้น่ะ? นางเห็นพวกเขาในที่สุดก็ได้ตกลงร่วมกัน ทำราวกับนางเป็นของขวัญชิ้นหนึ่งปานนั้นที่จะยกให้ไปอย่างตามใจ เฉินซูเสียนซ้ายจากไป เวลานี้ที่นี่ก็เหลือเพียงนางกับเป่ยจื่อเฉินสองคน หลิงจือนี่จึงรู้ว่าอะไรเรียกว่าความกลัวที่แท้จริง 
已经是最新一章了
加载中