ตอนที่ 131 อยู่เคียงฮ่องเต้ดั่งอยู่เคียงพยัคฆา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 131 อยู่เคียงฮ่องเต้ดั่งอยู่เคียงพยัคฆา
ต๭นที่ 131 อยู่เคียงฮ่องเต้ดั่งอยู่เคียงพยัคฆา ฮ่องเต้เป็นคนฉลาดหลักแหลมถึงเพียงนั้น เขาก็นึกไม่ถึงได้อย่างไร ตอนนี้เมื่อจางอวี่โหร่วพูดย้ำเตือนขึ้นมา เขาก็น่าจะเข้าใจได้แล้ว นี่น่าจะเป็นเรื่องที่เฉินซูเสียนก่อขึ้น และลูกชายของเขาก็เป็นเพียงเครื่องมือของเธอ เดิมทีเขาอยากจะให้เฉินซูเสียนอภิเษกกับองค์รัชทายาท หากเป็นเช่นนั้นแล้วก็จะสามารถนำกำลังของตำหนักเฉินกั๋วกงมาเป็นกำลังสนับสนุน แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะคิดอะไรง่ายจนเกินไป เฉินซูเสียนคนนี้ไม่ค่อยจะรู้จักการอดทนนัก ตอนนี้เธอยังไม่ได้เป็นชายาขององค์รัชทายาท เธอก็กล้ากระทำก้าวร้าวเช่นนี้แล้ว หลังจากนี้ก็คงมีแต่จะหนักขึ้น แต่ว่าตอนนี้คำสั่งได้ออกไปแล้ว แม้ว่าจะมาเสียใจในภายหลังก็ไม่สามารถทำอะไรได้ทัน และอย่างรเขาก็ไม่ควรจะรู้สึก หลังจากนี้ค่อยๆ สั่งสอนเฉินซูเสียนไปก็ได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจเสียกำลังจากตำหนักเฉินกั๋วกงไปได้ เฉินซูเสียนคุกเข่าลงคำนับไปที่พื้น ก่อนจะเอ่ยอธิบายออกมา : “ฮ่องเต้โปรดเข้าใจกระจ่าง ข้าน้อยไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้นแม้แต่น้อย และท่านองค์รัชทายาทก็เพียงแต่ต้องการสั่งสอนนางเท่านั้น หลินจือไม่ยอมรับฟังที่เขาตักเตือน ดังนั้นถึงได้เกิดการตอบโต้ที่รุนแรง หลังจากนั้นก็ได้รับบาดเจ็บจนเป็นเช่นนั้น ท่านองค์รัชทายาทจะต้องไม่ได้ตั้งใจอย่างแน่นอน อย่างไรเขาก็รู้ดีอยู่ว่านางเป็นชายาขององค์ชายรองในอนาคต แล้วจะไปกระทำเช่นนั้นกับนางจริงๆ ได้อย่างไร?” ตอนนี้เธอและองค์รัชทายาทก็เหมือนลงเรือลำเดียวกันไปแล้ว ถ้าหากเธอไม่ออกหน้าช่วยอธิบายแทนเขา ไม่แน่ว่าเจ้าคนโง่เขลานี่อาจจะเปิดเผยเรื่องที่เธอยั่วยุให้เขาทำเรื่องสักครู่ออกมาจนหมดก็ได้ และตอนนั้นคนที่ซวยก็จะเป็นตัวเธอเอง ตอนนี้เป่ยจื่อเฉินต่างก็กระทำการไปตามสายตาของเฉินซูเสียน เมื่อเห็นเธอส่งสายตามาให้ เขาก็รีบพยักหน้ารัวๆ “ใช่แล้ว เป็นเช่นนั้น ท่านพ่อ ลูกเพียงอยากจะสั่งสอนนางเล็กน้อย แต่คิดไม่ถึงว่านางจะไม่ยอมรับผิดและแก้ไขตัวดีๆ นางไม่ทันระวังตัวถึงได้ไปชนเข้ากับเสา จนศีรษะได้รับบาดเจ็บ มันไม่ได้เกี่ยวกับลูกเลยแม้แต่น้อย” เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เป่ยจื่อหัวและจางอวี่โหร่วต่างก็โมโหจนร่างกายสั่นเทา นี่มันเกินไปหน่อยแล้ว มันเป็นการพลิกกลับจริงเท็จ เปลี่ยนดำเป็นขาวชัดๆ หลินจื่อถูกพวกเขาทำร้ายจนเป็นแบบนี้แล้ว พวกเขาไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อยหรือ? ภายในใจของฮ่องเต้จะต้องรู้กระจ่างอยู่ แต่ว่าเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็ทำเป็นขมวดคิ้วขึ้นมา ที่เขาเงียบและไม่ได้พูดอะไรมานานขนาดนี้ เห็นชัดว่าเป็นเพราะยังหาทางออกให้องค์รัชทายาทไม่ได้ “เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?” “ใช่แล้ว หากฝ่าบาทไม่เชื่อก็ลองไปถามจากเหล่าข้ารับใช้หรือขันตีในราชวังที่ผ่านไปมาตอนนั้นได้ พวกเขาสามารถเป็นพยานได้ว่าในตอนแรกหลินจื่อจงใจมองข้ามท่านองค์รัชทายาทก่อน ดังนั้นถึงได้ทำให้ท่านองค์รัชทายาทโมโหขึ้นมา” เฉินซูเสียนพูดเสริมในทันที “ท่านพ่อ สถานการณ์ในตอนนั้นท่านก็ได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้ว จื่อเอ๋อร์ถูกทำร้ายให้อับอายเช่นนั้น เมื่ออยู่ในช่วงอารมณ์สิ้นหวัง นางจึงเลือกที่จะหาหนทางตาย ท่านจะต้องเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่นาง” เป่ยจื่อหัวพูดกระตุ้นขึ้นมา “เมื่อสักครู่เฉินเอ๋อร์ไม่ได้บอกว่านางไม่ระมัดระวังเองจนล้มไปได้รับบาดเจ็บหรือ เหตุใดเจ้าจึงบอกว่านางหาหนทางตายเหล่า หรือว่าเจ้าเห็นด้วยตาของเจ้าเอง?” “นั่น......” เห็นได้ชัดว่าเป่ยจื่อหัวไม่คิดว่าเขาจะพูดเช่นนี้ ทำให้ในตอนนั้นไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรต่อไปดี เมื่อจางอวี่โหร่วได้เห็นสถานการณ์เช่นนี้ เธอก็เข้าใจแล้ว เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้ต้องการจะหาช่องโหว่ของเรื่องนี้เพื่อเข้าข้างองค์รัชทายาท นี่มันกระทำเกินไปแล้ว น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าขาเป็นฮ่องเต้ที่ดีมีความเป็นธรรมมาโดยตลอด แต่ว่านั่นก็เป็นเพียงเฉพาะเรื่องอื่น ขอเพียงมันเกี่ยวข้างกับลูกจากชายาหลักเพียงคนเดียวของเขา ฮ่องเต้ก็จะกลายเป็นคนที่ไม่สนใจอะไรอีกคนไปได้ ดูเหมือนว่าในใจของทุกคนต่างก็มีสิ่งต้องห้ามที่ไม่ควรแตะต้องอยู่ แต่ว่าเขาคิดว่ากระทำเช่นนี้จะดีต่อองค์รัชทายาทหรือ? เขาไม่ได้กำลังช่วยเหลือ แต่เป็นทำร้ายต่างหาก ซูเฟยเฝ้ามองอย่างร้อนรนอยู่ข้างๆ แต่กลับไม่อาจจะช่วยเหลืออะไรได้ อย่างไรเรื่องนี้แต่เดิมก็ต้องอาศัยดูจากท่าทีของฮ่องเต้ “เมื่อสักครู่ในห้องมีเพียงเฉินเอ๋อร์กับหลินจื่อสองคน ด้านในนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างพวกเราต่างไม่อาจรู้กระจ่าง แม้ว่าจะจัดการก็ต้องรอให้หลินจื่อฟื้นขึ้นมาก่อนจึงจะรู้ความจริง ถ้าหากตอนนี้สรุปอะไรลงไป ไม่ว่าจะไม่ยุติธรรมต่อเฉินเอ๋อร์หรือกล่าวโทษหลินจื่อต่างก็ไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการจะเห็น” รอให้หลินจื่อฟื้นขึ้นมา? แต่ว่าหมออหลางเพิ่งจะพูดไปว่า อาการบาดเจ็บของหลินจื่อนั้นสาหัญมาก จะฟื้นขึ้นมาตอนไหนก็ยังไม่อาจรู้ได้ แล้วถ้าหากหลินจื่อไม่อาจฟื้นขึ้นมาได้อีกแล้วล่ะ เรื่องนี้ก็จะจบลงไปโดยไม่ได้แก้ให้กระจ่างหรือ? แม้ว่าในใจของทุกคนจะเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง แต่ว่าใครจะกล้าแสดงออกมาตรงๆ ว่าไม่เชื่อฟังคำพูดของฮ่องเต้กัน? เฉินซูเสียนพูดออกมาอย่างอวดดีในทันที : “ฮ่องเต้โปรดกระจ่าง ท่านองค์รัชทายาทเป็นผู้สืบบันลังก์ของแคว้น การกระทำทุกสิ่งแสดงถึงภาพลักษณ์หนานหชู่ของพวกเรา และเกี่ยวข้องกับอนาคตของบ้านเมือง ถ้าหากมีคนต้องการป้ายชื่อเสียแก่องค์รัชทายาท คนผู้นี้จะต้องมีเจตนาที่ไม่อาจคาดเดาได้” ตอนนี้พวกเขาไม่เพียงแต่จะไม่สามารถเรียกร้องความเป็นธรรมแก่หลินจื่อได้ แต่ยังถูกลอบกัดกลับมาอีกครั้ง มันช่างเป็นเรื่องที่เอาเปรียบกันเกินไปแล้ว “เจ้าเงียบปากไปเสีย ข้าออกคำสั่งให้เลือกชายาแก่องค์รัชทายาทเพื่อหาชายาที่รักความถูกต้องมีจิตใจดีมาครองคู่คอยช่วยเหลืออยู่เคียงข้าง ไม่ใช่ก่อกวนสร้างความร้าวฉานอยู่ทุกวัน เจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าที่หลินจื่อเป็นเช่นนี้เพราะการกระตุ้นเย้าแหย่ของเจ้า ถ้าหากยังมีครั้งหน้าอีก ข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่” เฉินซูเสียนที่ก่อนหน้านี้ยังอวดดีเกินกว่าอะไรเก็บสีหน้าท่าทางกลับมาราวกับไก่ชนที่ตีแพ้ในทันที หลังจากถูกฮ่องเต้ว่ากล่าวไป “รับทราบ!” เรื่องนี้จะจัดการอย่างไร ในใจของฮ่องเต้ก็มีความคิดขึ้นมาแล้ว “เอาเถอะ หัวเอ๋อร์ เจ้าพาหลินจื่อกลับไปพักรักษาตัวให้ดีก่อน เรื่องในวันนี้นางเป็นฝ่ายเสียมารยาทก่อน แม้ว่าจะเป็นชายาขององค์ชายรองแล้ว เมื่อพบกับองค์รัชทายาทก็ต้องทักทายไปตามกฎที่ควรจะเป็น ส่วนเฉินเอ๋อร์ ครั้งนี้เจ้ากระทำเกินกว่าเหตุไป เจ้าจงไปรับโทษไตร่ตรองที่ตำหนักดองกง 3 วัน ตั้งใจเรียนรู้วิธีของสัตบุรุษ เจ้าจำเป็นต้องเจ้าใจมนุษยธรรม หลังจากนี้จึงจะสามารถเป็นผู้นำที่หลักแหลมและดีงามได้” คนที่ปกติดีอย่างหลินจื่อ เมื่อเข้ามาในตำหนักดองกงเพียงครั้งเดียวก็กลายเป็นเช่นนี้ไป คนที่ไม่ได้ตาบอดต่างก็เห็นว่าเธอถูกเป่ยจื่อเฉินทำให้กระทำข่มเหง ดังนั้นจึงพยายามรนหาความตายเพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ของตัวเอง นี่เป็นเรื่องที่หนักหนาและย่ำแย่มาก แต่ว่ากลับถูกฮ่องเต้พูดออกมาง่ายๆ เพียงไม่กี่ประโยค หลังจากนั้นก็เพียงลงโทษให้เขาเก็บตัวไป 3 วัน มันช่างไร้ความเป็นธรรม “ท่านพ่อ.......” เป่ยจื่อหัวอยากจะพูดอะไรออกมา แต่จางอวี่โหร่วกลับดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาทำอะไรโดยไม่คิดให้ดี และเลิกดิ้นรนอย่างไรประโยชน์ต่อไป เพียงฮ่องเต้ลงโทษเขา 3 วันก็เป็นการให้หน้ามากแล้ว ถ้าหากยื้อโต้แย้งต่อไปไม่เพียงแต่จะไม่มีผลอะไร แต่อาจจะลำบากตัวพวกเขาเองอีกด้วย เมื่อเห็นว่าในที่สุดเรื่องราวก็ถูก “จัดการ” ลง เป่ยจื่อเฉินก็ถอนหายใจออกมา เขารู้ว่าท่านพ่อจะต้องปกป้องเขาแน่ แต่ว่าเมื่อสักครู่เขาก็ตกใจจนตัวสั่น แม้ว่าเฉินซูเสียนจะถูกฮ่องเต้ว่ากล่าว แต่สำหรับเธอแล้วก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย เธอยังรักษาสถานะชายาขององค์รัชทายาทเอาไว้ได้ อีกทั้งยังสามารถทำให้จางอวี่โหร่วและหลินจื่อเสียหายอย่างหนัก เมื่อเห็นหลินจื่อโขกศีรษะจนเลือดไหลออกมา เธอก็เหมือนถูกฆ่าตรงๆ แล้ว แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ตาย แต่หมอหลวงก็ไม่ได้บอกไปแล้วหรือว่า ชีวิตนี้เธออาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก? หากเป็นแบบนั้นก็จะดีที่สุด เพราะเธอก็จะไม่อาจอยู่คู่กับองค์ชายรองได้อีก ชายที่เธอไม่อาจได้ครอบครอง เธอก็ไม่มีทางยอมยกให้กับผู้อื่น! 
已经是最新一章了
加载中