ตอนที่ 141 สามีแต่งตัวให้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 141 สามีแต่งตัวให้
ต๭นที่ 141 สามีแต่งตัวให้ พระราชพิธีอภิเษกสมรสขององค์รัชทายาท มีการเฉลิมฉลองทั่วทั้งแผ่นเดิน ฮ่องเต้มีพระราชโองการพระราชทานอภัยโทษและลดหย่อนภาษีทั่วทั้งแผ่นดิน ราษฎรทุกคนต่างปลื้มปuติยินดีในพระมหากรุณาธิคุณ โดยเฉพาะองค์รัชทายาท ที่เป็นถึงมกุฎราชกุมารของหนานชู่ ผู้สืบทอดราชบัลลังก์ในอนาคต ราษฎรเหล่านี้จะต้องรู้สึกขอบคุณเขาอย่างแน่นอน ตำหนักเฉินกั๋วกงถูกตกแต่งใหม่แล้ว แม้แต่โคมไฟสีแดงที่แขวนอยู่ตรงประตูก็ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ หรูหราอย่างมาก เฉินกั๋วกงรู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จนี้อย่างมาก ลูกสาวของเขาเป็นถึงพระชายาขององค์รัชทายาท เป็นแม่ของแผ่นดินในอนาคต และฐานะของเขาก็ก้าวกระโดดจากขุนนางชั้นผู้ใหญ่กลายเป็นราชนิกุลคนสนิทของฮ่องเต้ มันทำให้เขาภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ขุนนางชั้นผู้ใหญ่หลายท่านต่างเตรียมของขวัญมาเพื่อแสดงความยินดี จนบนรถม้าเหล่านั้นบรรทุกเต็มไปด้วยของขวัญแทบจะล้นออกมาจากด้านหลัง ในบรรดาขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่ส่งของขวัญมาให้ แน่นอนว่าก็มีคนที่ ‘ไม่หวังอำนาจใด’ บางส่วน ตัวอย่างเช่น จางไท่ซือมอบแค่พระพุทธรูปหยกรูปหนึ่ง หลินหงหลินมอบไม้เกาหลังหยกคู่หนึ่งที่สวยงามและละเอียดประณีต พวกเขาไม่ได้เผยตัวแต่อย่างใด เพียงแค่ให้คนรับใช้ในตระกูลนำของขวัญมาส่งเท่านั้น พิธีอภิเษกสมรสขององค์รัชทายาทนี้ แน่นอนว่าจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองขึ้นในพระราชวัง ถ้าหากพวกเขาจะไปก็สามารถรอไปร่วมงานเลี้ยงในวังตอนค่ำได้เลย ไม่เหมือนกับพวกข้าราชการเหล่านี้ที่ต้องการเอาอกเอาใจถึงต้องมาทักทายด้วยตัวเอง ด้วยความถือตัวของพวกเขา จะมากระทำเรื่องชั่วร่วมกับคนเลวเหมือนคนพวกนี้ได้อย่างไร เฉินกั๋วกงกำลังพูดคุยอยู่กับขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่มีฐานะสองสามคนในห้องโถง ทุกครั้งเมื่อมีคนส่งของขวัญมา ก็จะถูกยกเข้ามาและอ่านรายการของขวัญ รวมไปถึงชื่อของผู้ที่ให้ของขวัญ ตอนที่อ่านชื่อของจางไท่ซือและหลินหงหลิน พวกเขาต่างพากันดูถูกเหยียดหยาม “เฉินกั๋วกง พวกเขาไม่เห็นท่านอยู่ในสายตามากเกินไปหน่อยแล้ว ถึงอย่างไรคุณหนูหลิงก็เป็นถึงพระชายาขององค์รัชทายาท ท่านก็เป็นพ่อตาในอนาคต พวกเขาคิดว่าตัวเองสูงส่งจนไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยหรือไงกัน? ” “ นั่นสิ ต่อให้หลานสาวของเขาแต่งงานกับท่านอ๋องชิงผินแล้วอย่างไรล่ะ จะให้พูดก็เป็นแค่ผู้นำทัพรบคนหนึ่ง ได้ยินมาว่าอ๋องชิงผินเกิดมาต่ำต้อย พ่อแม่เสียชีวิตทั้งคู่ มีโรคแปลกประหลาด และยังใบหน้าอัปลักษณ์อีก ข้าคิดว่า ตอนนี้มีเพียงแค่สองอย่างที่เป็นไปได้ หนึ่งคืออ๋องชิงผินเสียชีวิตในสนามรบ ทำให้นางอยู่เป็นม่ายไปตลอดชีวิต อีกอย่างหนึ่งคือนางถูกอ๋องชิงผินทรมานจนตาย ” “ ยังมีหลินหงหลินอีกคนหนึ่ง ต่อให้ลูกสาวของเขาจะถูกฮ่องเต้พระราชทานจัดงานแต่งงานกับองค์ชายสองแล้ว มีบุญวาสนาแต่ไร้โชคชะตา ไม่กี่วันก่อนเข้าวังไปหลังจากที่กลับมาก็ไม่รู้สึกตัวแล้ว ได้ยินมาว่าไม่สามารถรักษาได้แล้ว” “ นั่นสิ นั่นสิ ข้าคิดว่า การพึ่งพาตระกูลจางนั้นจะไม่มีจุดจบที่ดี นี่มันชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่รึ? ทั้งหมดล้วนเป็นผลกรรมของพวกเขา ” “ พูดถูกเกินไปแล้ว จะมาเทียบกับเฉินกั๋วกงได้อย่างไร ตัวเองเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ไม่พูดอะไร ลูกสาวยังเป็นแม่ของแผ่นดินในอนาคตอีก ช่างเป็นคนที่โชคดีอะไรขนาดนี้” เหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่พูดคุยกันอย่างจ้อกแจกจอแจ คำพูดในปากล้วนประจบประแจงเฉินกั๋วกงอย่างเห็นได้ชัดและเหยียบย่ำตระกูลจาง แสดงให้เห็นถึงการเลียแข้งเลียขาผู้ที่มีอำนาจอย่างมีความสุขเพลิดเพลิน แน่นอนว่า เมื่อเฉินกั๋วกงได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็มีความภาคภูมิใจอย่างเห็นได้ชัด แววตาดูถูกเหยียดหยามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฮึ...ตระกูลจาง อีกไม่นานก็จะถูกเขาเหยียบย่ำใต้แทบเท้าอย่างเกลียดชัง เมื่อถึงตอนนั้นเขาจะรอดูตอนที่พวกเขาร้องไห้กระดิกหางเหมือนหมาอย่างน่าสงสาร … เรื่องพิธีอภิเษกสมรสขององค์รัชทายาท ก็ถือว่าเป็นเรื่องของแผ่นดิน แม้แต่หันยี่ฉีก็ต้องมาร่วมงานด้วย จางยวี่โหร่วกำลังเลือกเสื้อผ้าหน้าตู้เสื้อผ้าของตัวเองอยู่ภายในห้อง ควรจะใส่ชุดไหนดีล่ะ? การแต่งกายก็ควรจะพิถีพิถันสักหน่อย โอกาสที่แตกต่างกันการแต่งกายก็ย่อมไม่เหมือนกัน วันนี้ถือว่าเป็นงานเลี้ยงฉลองของแผ่นดิน ควรจะใส่ชุดที่พิธีการเล็กน้อย เธอมีเสื้อผ้าสีแดงเยอะมาก ทุกตัวล้วนสวยงามหรูหรา แต่หากวันนี้ใส่สีแดง เกรงว่าจะไปชนกับสีของเจ้าสาว ถ้าหากถูกพวกบัณฑิตจงใจปล่อยข่าวลือว่าเธอจงใจตัดหน้าพระชายาอีก เช่นนั้นก็จะเป็นปัญหาแน่ เธอต้องการไปดูเรื่องสนุกๆ ไม่ได้ต้องการให้คนมอง ดังนั้นสายตาของจางยวี่โหร่วจึงเคลื่อนที่ไปชุดอื่น ในตอนนั้น จู่ๆก็มีคนใกล้เข้ามาจากด้านหลัง มือหนึ่งโอบรอบเอวบางๆของเธอไว้ อีกมือหนึ่งยื่นเข้าไปในตู้เสื้อผ้าของเธอ และหยิบชุดกระโปรงสีขาวบางที่สวยสง่างามตัวหนึ่งออกมา “ ใส่ชุดนี้เถอะ! ” จางยวี่โหร่วหันหน้ากลับไปอย่างงุนงง ไม่รู้ตัวเลยว่าเขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ทว่า ตอนที่สายตาของเธอเคลื่อนไปยังชุดนั้นอีกครั้ง ก็ตกใจในทันที ดวงตาเบิกกว้าง จนหยุดหายใจ ชุดนี้! ใช่ ชุดนี้นั่นก็คือชุดที่เธอใส่ไปตามนัดขององค์ชายสามในวันนั้น ผลสุดท้ายถูกเขาวางยาลอบทำร้ายและถูกคนแปลกหน้าคนหนึ่งช่วยชีวิตไว้ แต่ว่าเขากลับแย่งชิงความบริสุทธิ์ของเธอไป เมื่อตื่นขึ้นในวันถัดมา เธอพบว่าเสื้อผ้าของตัวเองถูกฉีกขาดกระจุยกระจาย จนไม่สามารถสวมใส่ได้ ดังนั้นชายคนนั้นจึงให้คนเอาเสื้อผ้าอีกชุดหนึ่งมาให้เธอ หลังจากที่เธอเปลี่ยนชุดเป็นนั้นก็ไม่เคยสวมใส่มันอีกเลย และไม่มีวันที่จะสวมใส่อีก เพราะว่าเมื่อเห็นชุดนี้ เธอก็จะนึกถึงความทรงจำที่อัปยศจนไม่สามารถมองย้อนกลับไปไม่ได้ ต่อมาหลังจากที่เปลี่ยนชุดอาบน้ำแล้ว เสี่ยวเฟิงน่าจะเอาไปไว้ในตู้เสื้อผ้าในมุมที่ไม่เด่นสะดุดตาที่สุด จนกระทั่งเธอลืมไปเรียบร้อยแล้ว เขาค้นพบได้อย่างไรกันถึงได้หยิบออกมา เพราะว่าต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ในขณะนั้นบนตัวจางยวี่โหร่วจึงสวมแค่เสื้อซับรัดรูปเท่านั้น และในตอนที่เธอตกตะลึง ชายหนุ่มก็ถอดเสื้อผ้าออกและลงมือสวมใส่ให้เธอด้วยตัวเอง เมื่อจางยวี่โหร่วมีปฏิกิริยาโต้ตอบกลับมา เขาก็ได้ผูกกระเป๋าให้เธอแล้ว เธอรู้สึกตัวชาไปทั้งตัวทันที เอื้อมมือไปจับมือของเขาไว้ ไม่เอา เธอไม่อยากใส่ชุดนี้ อยากจะถอดมันออกจริงๆ “ เป็นอะไรรึ? ” เมื่อเห็นปฏิกิริยาต่อต้านของเธอ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและถาม “ข้า...ข้าคิดว่า...” เรื่องแบบนี้จะให้เธอจะเอ่ยปากออกมาได้อย่างไร ถึงแม้เขาจะรู้เรื่องที่เธอไม่ได้บริสุทธิ์ ความบริสุทธิ์ของเธอถูกคนแย่งชิงไปแล้ว และเห็นได้ชัดว่าเขาก็ไม่ถือสา ตราบใดที่เธออยู่ข้างกายเขาได้ก็พอแล้ว แต่ว่าเธอต่อต้านและหลีกเลี่ยงปัญหานี้ในใจมากโดยตลอด นั่นเป็นฝันร้ายของเธอ! “ เจ้าคิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง? ข้ารู้สึกว่า ชุดนี้เหมาะกับเจ้ามากและสีชุดเข้ากับของข้าพอดี ใส่ชุดนี้เถอะ! มานี่ ข้าจะแต่งหน้าให้เจ้าเอง! ” อะไรนะ เขายังแต่งหน้าเป็นอีก? ไม่ถูก ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่เรื่องนี้ แต่เป็น... เธอไม่ต้องคิดอะไรแล้ว เพราะว่าชายหนุ่มได้ดึงเธอมายังด้านหน้าโต๊ะเครื่องแป้งเรียบร้อยแล้ว และกดเธอลงบนเก้าอีก นิ้วอันเรียวยาวก็เริ่มจัดการผมที่งดงามราวกับน้ำตาของเธอ การแต่งหน้าของเธอ เสี่ยวเฟิงเป็นคนจัดการมาตลอด และเธอก็คุ้นเคยกับการแต่งตัวของเสี่ยวเฟิงแล้ว แต่ตอนนี้ เธอกลับรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ในยุคที่ผู้ชายเหนือกว่าผู้หญิง มีสามีแต่งหน้าให้ภรรยาด้วยตัวเองที่ไหนกัน ประเด็นคือ...เขาทำเป็นไหม? ไม่นานนัก เธอก็รู้สึกว่าความคิดของตัวเองนั้นผิดอย่างมาก มือที่มีทักษะสองมือของเขา คล่องแคล่วมากกว่าเสี่ยงเฟิงเสียอีก นิ้วอันเรียวยาวที่ขยับไปมาระหว่างเส้นผมของเธอ ไม่นานก็มวยผมขึ้นมา สายตามองผ่านกล่องเครื่องประดับของเธอ หยิบกิ๊บดอกคามิเลียขึ้นมา จากนั้นก็ติดลงระหว่างจอนผม ขั้นตอนซับซ้อนไม่จำเป็นต้องเป็นความงามชนิดหนึ่งเสมอไป ความสูงส่งบริสุทธิ์และจิตใจโอบอ้อมอารีเช่นนี้ ดั่งเช่นบัวหิมะที่บริสุทธิ์และไร้ที่ติบนเทือกเขาเทียนซานหลายพันปีบานหนึ่งครั้ง แต่ “บริสุทธิ์” สองคำนี้ เธอไม่คู่ควรที่จะใช่มันแล้ว
已经是最新一章了
加载中