ตอนที่ 144 องค์รัชทายาทเสียชีวิตกะทันหัน

ต๭นที่ 144 องค์รัชทายาทเสียชีวิตกะทันหัน เมื่อแสงท้องฟ้ายามเย็นมาถึง เหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ยังคงดื่มสุราอย่างสนุกสนาน แต่ในเวลานั้นเป่ยจื่อเฉินดื่มเหล้าไม่ไหวตั้งนานแล้ว ฮ่องเต้เป็นห่วงลูกชาย แน่นอนว่าจึงทนปล่อยให้เขาดื่มต่อไปไม่ไหว จึงรีบเรียกนางกำนัลสองคนมาประคององค์รัชทายาทกลับไปที่วังตะวันออกทันที หลังจากกลับไป ยังมีประเพณีอื่นอีกเล็กน้อย ค่ำคืนแรกของการแต่งงานนี้ ไม่ควรพลาดอย่างแน่นอน สายตามองดูองค์รัชทายาทจากไป ลี่เฟยใช้สายตาส่งสัญญาณกับเป่ยจื่อห้าวทันที การส่งข้อความแสดงให้เห็นว่าแผนการชั่วร้ายของพวกเขาสามารถเริ่มต้นได้แล้ว จางยวี่โหร่วรีบส่งสายตาการโต้ตอบของพวกเขาไปยังเสียนเฟยทันที เสียนเฟยส่งสายตาวางใจกลับมา เพื่อบอกเธอว่าทุกอย่างพร้อมเรียบร้อยแล้ว จางยวี่โหร่วหยิบแก้วขึ้นมาและดื่มไวน์ผลไม้ในแก้วอึกหนึ่ง ในความหวานมีกลิ่นหอมขององุ่นเบาๆ ปลิวไปตามสายลมเย็น ๆ เธอรู้สึกสะดวกสบายทั่วร่างกาย เธออดทนดื่มเหล้าอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งวัน ถ้าหากไม่ใช่เพราะคิดถึงแผนการใหญ่ตอนกลางคืน เธอคงจะอดทนไม่ไหวตั้งนานแล้วแน่ เธอร้อนใจ แต่หลินจือจะต้องร้อนใจยิ่งกว่าเธอแน่ เพราะว่าหลินจือไม่รู้เลยว่าแผนการคืออะไรจนถึงตอนนี้ ยวี่โหร่วแค่บอกกับเธอว่าให้รอดูอะไรน่าสนุกก็พอ แล้วการแสดงนี้จะเริ่มเมื่อใดกันล่ะ? เธอรับประกันได้ว่าการแสดงนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่นงั้นรึ? นี่ไม่ใช่การเล่นครอบครัวของเด็กๆ และก็ไม่ใช่เล่นเพื่อความสนุกสนาน สิ่งที่หลินจือกังวลใจที่สุดก็คือ ยังไม่ทันจะดูการแสดงเสร็จ ตัวยังต้องมีส่วนร่วมในการชดใช้ด้วย ผู้ที่รู้เรื่องทั้งหมดกับผู้ที่รู้ครึ่งเดียวใช้เวลาผ่านไปด้วยความวิตกกังวลและกระสับกระส่าย เหตุใดยังไม่มีข่าวคราวอีก ผ่านไปอีกสักพักหนึ่ง งานเลี้ยงเฉลิมฉลองก็จะจบลงแล้ว เวลาผ่านไปประมานหนึ่งชั่วยาม ทันใดนั้นก็มีนางกำนัลคนหนึ่งวิ่งออกมารายงานอย่างเร่งรีบ “ แย่แล้ว! แย่แล้ว!” จางยวี่โหร่วร้อนใจทันที ทุกอย่างจะเริ่มขึ้นหรือยัง? “ มีอะไร เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นรึ? ” เมื่อฮ่องเต้เห็นนางสนมคนนั้นคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างมาก เป็นนางสนมที่รับใช้อยู่ในวังตะวันออก จึงรีบถามอย่างร้อนใจทันที ตอนที่นางสนมคนนั้นวิ่งมาก็ตรงเข้ามาคุกเข่าด้านหน้าทันที พูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ องค์รัชทายาท... ท่าน...” “ เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับเฉินเอ๋อร์? ” เมื่อได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับองค์รัชทายาท ฮ่องเต้ก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ดูเหมือนกระดาษสีขาวเทา สูญเสียเลือดทั้งตัวไปโดยสิ้นเชิง เพราะว่าเขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีในใจแล้ว “ องค์รัชทายาท ท่านเสียชีวิตแล้ว! ” “ ปัง! ” มือของฮ่องเต้ตบลงโต๊ะอย่างรุนแรง ทุกคนเงียบสงบลง ไม่กล้าแม้แต่หายใจ ขณะเดียวกัน สีหน้าของพวกเขาส่วนใหญ่มีความหวาดกลัวมากกว่าความตกใจ ทุกคนต่างรู้ว่า องค์รัชทายาทเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของฮองเฮาองค์ก่อน ฮ่องเต้รักใคร่เอ็นดูลูกชายคนโตเพียงคนเดียวเป็นอย่างมาก รักเขามากยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง วันนี้เป็นวันอภิเษกสมรสที่มงคลขององค์รัชทายาท ก่อนหน้านั้นหนึ่งชั่วโมงเขายังดื่มเหล้าสนุกสนานกับพวกเขาอยู่ที่นี่ เพิ่งจะกลับไปเมื่อครู่นี้ จะเกิดเรื่องขึ้นได้อย่างไรกัน? เจ็บป่วยเล็กน้อยฮ่องเต้ก็ทุกข์ใจแล้ว ตอนนี้กลับมาบอกว่า “ ตายกะทันหัน! ” ช่างเป็นสองคำที่น่ากลัวอะไรขนาดนี้ คนที่ปกติดีอยู่ จะมาบอกว่าเกิดเรื่องขึ้นก็เกิดเรื่องขึ้นจริงได้อย่างไรกัน ถ้าหากมีคนจ้องมองสีหน้าของฮ่องเต้ในตอนนี้ ก็จะเห็นว่า ตอนที่เขาได้ยิน ‘ ตายกะทันหัน ’ สองคำนี้ ลูกตาดำหดตัวอย่างฉับพลัน ทั้งตัวก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว จากนั้นตัวก็สั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อย “ บังอาจ เจ้าพูดอะไร? ” เขาโมโหเดือดดาลขึ้นมาทันที จนทำให้ผู้คนตกใจกลัว และก็ทำให้นางสนมที่รายงานด้านหน้าตกใจกลัวเช่นกัน “ ข้าน้อยมิบังอาจกล้าปิดบังฝ่าบาท หลังจากที่องค์รัชทายาทเสด็จกลับก็เข้าห้องหอ นางกำนัลสองสามคนกล่าวคำมงคล จากนั้นทุกคนก็ถอยตัวออกไป ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของพระชายาดังมาจากด้านใน ตอนที่พวกเราเข้าไป ก็เห็นองค์รัชทายาทล้มลงบนเตียง เลือดไหลออกจากช่องทั้งเจ็ดตายและพระชายาก็ยืนสีหน้าหวาดกลัวอยู่ข้างๆเพคะฝ่าบาท ” นี่อยู่ต่อหน้าองค์จักรพรรดิผู้สูงส่งเลยนะ ถึงแม้ให้เธอยืมความกล้ามาร้อยคน เธอก็ไม่กล้าพูดหลอกลวงออกมา ดังนั้นจึงพูดได้ว่า องค์รัชทายาทเสียชีวิตจริงๆ! หลังจากที่ยืนยันข่าวนี้แล้ว ทุกคนต่างเสียงดังเกรียวกราว ยืนตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี ในตำหนักแห่งนี้มีคนอยู่หนึ่งร้อยคน แต่ตอนนี้กลับเงียบสงบ ทุกคนไม่กล้าส่งเสียงหายใจออกมาแม้แต่นิดเดียว ราวกับว่าแม้แต่เสียงของเข็มที่ตกลงมาบนพื้นก็ได้ยินชัดเจน ไม่มีใครกล้าพูดแม้แต่คำเดียว หากใครพูดก่อน ก็อาจจะถูกปืนยิงหัวได้ ในตอนนั้น ลี่เฟยที่อยู่เงียบๆมาตลอด กลับเอ่ยปากพูดก่อน “ ฝ่าบาท ตอนนี้พวกเราไปดูที่วังตะวันออกก่อนดีกว่าเพคะ จะรีบตัดสินกับคำพูดของสาวใช้แค่คนหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างไรกัน องค์รัชทายาทเป็นถึงมกุฎราชกุมารของหนานชู่ มีความคุ้มครองของฮ่องเต้ปกปักรักษา จะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอนเพคะ ” พูดได้ถูกต้อง ตอนนี้พวกเขาควรจะรีบไปดูก่อนถึงจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ การยืนนิ่งอยู่ที่นี่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย. ดังนั้น ขบวนเสด็จจึงออกเดินทางสู่วังตะวันออกทันที แน่นอนว่า ครอบครัวของเหล่าขุนนางจะต้องอยู่ที่นี่ แม้ว่าพวกเขาอยากจะไปก็ไม่มีคุณสมบัติพอ คนที่ไปด้วยจะขาดหันยี่ฉี จางยวี่โหร่ว องค์ชายสองและหลินจือไปไม่ได้ เมื่อจางยวี่โหร่วได้ยินนางกำนัลมารายงาน ก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนหลินจือ เดิมทีแล้วเธอไม่รู้อะไรเลย แต่ตอนนี้ก็พอจะคาดเดาในใจได้แล้วว่าแผนการของยวี่โหร่วคืออะไรกันแน่ ศัตรูที่ดูถูกเหยียดหยามเธอและเกือบจะช่วงชิงความบริสุทธิ์ของเธอไปคนนั้นตายแล้ว หลินจือก็รู้สึกสบายใจอย่างมากเป็นธรรมดา แต่นี่ไม่ได้หมายถึงจุดจบ องค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ถึงจะเป็นความน่ากลัวอย่างแท้จริง จะต้องมีคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้แน่นอน เพราะฮ่องเต้ไม่มีวันที่จะปล่อยเรื่องนี้ไปแน่ ไม่นานนัก ขบวนเสด็จเดินอย่างเร่งรีบเข้าไปในวังตะวันออก เรือนหลังใหม่ที่ได้ตกแต่งอย่างมีความสุข แสงจากโคมไฟสว่างไสว แต่ด้านในกลับมีเสียงร้องไห้ที่ไม่สอดคล้องกับบรรยากาศอย่างมากดังมา เมื่อพวกเขาเข้าไปแล้ว ก็เห็นนางสนมกับขันทีคุกเข่าลงกับพื้นในห้องทันที เฉินซูเสียนก็ตัวสั่นเทาและขดตัวอยู่ที่มุมห้อง บนตัวเธอยังสวมใส่ชุดแต่งงานสีแดงอยู่ เพียงแต่ผมของเธอยุ่งเหยิง เสื้อผ้ายับยู่ยี่ เสื้อผ้าถูกฉีกขาดตรงหัวไหล่ ไหล่ขาวราวหิมะจึงถูกเปิดเผย เห็นได้ชัดว่า เป่ยจื่อเฉินเสียชีวิตอย่างฉับพลันตอนที่พวกเขากำลังเข้าเรือนหอ เฉินซูเสียนยังไม่ได้มีความสุขในคืนวันแต่งงาน สามีที่เพิ่งจะแต่งงานด้วยของตัวเองก็ตายอย่างฉับพลันแล้ว เมื่อครู่นี้ เธอยังมีความสุขกับสายตาจับจ้องของผู้คนและกลายเป็นผู้หญิงที่ฐานะสูงส่งที่สุดของหนานชู่อยู่เลย อารมณ์ที่มีความสุขแบบนี้ยังไม่ทันจะอยู่ได้นาน จู่ๆกลับต้องมาเจอกับข่าวร้ายแบบนี้ เฉินซูเสียนตกใจจนบ้าแล้ว เมื่อเห็นผู้คนมากมายเข้ามา คนที่เดินนำมาก็คือฮ่องเต้ เธอโผเข้าหาและล้มลงต่อหน้าฮ่องเต้ทันที และเริ่มก้มหัวลงกับพื้นอย่างสุดชีวิต “ ฝ่าบาทเพคะ มีคนต้องการปรงพระชนองค์รัชทายาท ฝ่าบาทจะต้องทวงความยุติธรรมคืนแก่องค์รัชทายาทนะเพคะ ” เมื่อฮ่องเต้เห็นบนเตียงว่า องค์รัชทายาทเป็นเหมือนอย่างที่นางกำนัลคนนั้นพูดจริงๆ ลักษณะสีหน้ากลายเป็นสีฟ้า เลือดไหลออกช่องทั้งเจ็ดจนตาย ทั้งตัวรู้สึกราวกับว่าถูกสวรรค์ลงโทษ จะไปฟังสิ่งที่เฉินซูเสียนพูดออกมาได้อย่างไรกัน