ตอนที่ 171 ซากมดในกากยา
1/
ตอนที่ 171 ซากมดในกากยา
พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 171 ซากมดในกากยา
ตนที่ 171 ซากมดในกากยา หลังจากเสวยพระกระยาหารเช้า จางยวี่โหร่วก็คิดจะไปดูจ้าวซินซิน ในเมื่อนางได้รั้งนางไว้ในพระตำหนักแล้ว ยังหาแพทย์มาช่วยนาง ถ้าเช่นนั้นถัดมาอาศัยความรักฉันพี่น้องของพวกนางไปดูนางก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผล ยาที่จ้าวซินซินต้องดื่มนางได้ให้คนเตรียมไว้แล้ว เพื่อแสดง “ความจริงใจ” ของตนเอง จางยวี่โหร่วไปที่ห้องครัวด้วยตัวเองแล้วเตรียมยกยาไปให้นาง เสี่ยวเฟิงที่ด้านข้างหน้านิ่วคิ้วขมวดตามอยู่ด้านหลังนาง ผ่านไปครึ่งวันสีหน้าของนางยังไม่ได้สงบลง ในที่สุดจางยวี่โหร่วก็ไม่สามารถดูต่อไปได้แล้ว หลังจากนั้นเอ่ยปากกล่าวว่า “ดีแล้ว ไม่ใช่ไม่ทันระวังจนทำให้ยาหกหรอกหรือ ไม่ใช่ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรทั้งนั้น ข้าดื่มน้อยไปครั้งหนึ่งก็ไม่มีอะไร เจ้าก็อย่าโทษตัวเองแล้ว!” “คุณหนู ขออภัย ท่านดูท่าน วันนี้ตื่นเช้ามายังรู้สึกร่างกายไม่ค่อยสบาย ตอนนี้หนูยังได้ทำให้ยาเสียหายแล้ว ยังต้องให้คนไปต้มใหม่อีก หนูช่างไร้ประโยชน์เกินไปแล้วจริง ๆ!” จนถึงตอนนี้นางไม่ได้ลืมเรื่องในตอนเช้าอ่า ช่างเป็นนังหนูที่โง่งม แต่ว่าไปแล้ว เวลานั้นนางมีความรู้สึกเวียนศีรษะตาลายชนิดหนึ่งจริง ๆ แต่ก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนั้น ราวกับไม่กี่วันนี้ ตื่นขึ้นมาทุกเช้าก็จะมีอาการเช่นนี้ปรากฏออกมา แต่ก่อนหน้านี้อาการค่อนข้างเบา วันนี้กลับชัดอีกนิดแล้วบ้างเท่านั้น หรือว่านางกังวลคิดเกินไปจริง ๆ จนร่างกายมีปัญหาอะไรออกมาแล้ว? ไม่กี่วันก่อน นางเพิ่งพบแพทย์ แพทย์ได้บอกเช่นนี้ ขอเพียงนางดื่มยาหมดแล้วพักฟื้นอย่างระมัดระวัง ก็ไม่ควรมีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น จางยวี่โหร่วเดินมาถึงห้องครัว ซักถามสาวใช้ก็รู้ว่ายาในหม้อยาต้มหม้อไหนเป็นยาที่จ้าวซินซินต้องดื่ม นางเพิ่งกำลังจะเดินผ่านไป จู่ ๆ นางหยุดฝีเท้ากะทันหัน ราวกับว่านางถูกเรื่องอะไรดึงดูดความสนใจไปแล้ว “คุณหนู ท่านเป็นอะไรแล้ว?” เสี่ยวเฟิงถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นนางหยุดไม่เดินแล้วในทันใด จางยวี่โหร่วไม่ได้รีบตอบคำถามของนังทันที แต่เดินไปในทิศทางอีกแห่ง หลังจากนั้นนางก็หยุดลงมาแล้ว สถานที่ที่นางยืนอยู่ เป็นหม้อต้มยาที่นังใช้ต้มยาทุกวัน “ยาข้างในนี้เป็นของใคร?” นางซักถาม “แน่นอนเป็นของคุณหนูท่าน ดังนั้นตอนนี้ต้องต้มใหม่อีกเพราะเมื่อครู่ยาชามนั้นได้ถูกตีแตกชำรุดแล้ว” อะไรนะ นี่เป็นหม้อยาของนางเหรอ?! เวลานี้ บนโต๊ะ กำลังมีซากมดหลายตัวนอนอยู่ แช่อยู่ในน้ำยาที่สกัดออกมา เพราะยาหม้อนี้ของนางเพิ่งเริ่มต้มเมื่อครู่ ดังนั้นนี่บ่งชี้ชัดว่าน้ำยาบนโต๊ะเป็นส่วนที่เหลือจากเมื่อก่อนนี้ เพราะมดเหล่านี้ดื่มน้ำยาที่หกออกมา ดังนั้นจึงตาย จางยวี่โหร่วใจสั่นสะท้านคราหนึ่ง จู่ ๆ มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีชนิดหนึ่ง เสี่ยวเฟิงที่ด้านข้างมองนางอย่างไม่เข้าใจ ทุกครั้งที่นังเห็นคุณหนูแสดงสีหน้าแบบนี้ ก็แสดงให้เห็นว่ามีเรื่องใหญ่อะไรจะเกิดขึ้น หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วหรือ? จางยวี่โหร่วมองนางอย่างใจจดใจจ่อบ้างพลางถามว่า “เจ้ายังจำได้ไหมว่าเจ้าได้ทำหม้อยาแตกที่ไหนหรือไหม?” “แน่นอนจำได้ ก็คือหลังจากออกประตูไปแล้วปากทางแยกเลี้ยวขวา คุณหนูที่แท้ท่านเป็นอะไรแล้วอ่า!” “ตอนนี้เจ้ารีบพาข้าไป ข้าคิดต้องการยืนยันเรื่องหนึ่ง หลังจากนั้นค่อยบอกเจ้าอีก!” เสี่ยวเฟิงเห็นสภาพการณ์ครานี้ ดูเหมือนร้ายแรงมาก ก็รีบเริ่มจริงจังขึ้นมาแล้ว หลังจากนั้นพยักหน้ากล่าวว่า “คุณหนู ท่านตามหนูมาเถิด!” พวกนางทั้งสองรีบออกจากห้องครัว หลังจากนั้นเดินตรงไปยังที่ทำชามยาแตกแล้ว ที่นั่นชิ้นส่วนที่แตกได้ถูกคนเก็บกวาดทำความสะอาดแล้ว แต่น้ำยาสีดำนั้นยังติดเหนียวเหนอะหนะอยู่กับพื้นผิวถนน ยังไม่ทันได้มีเวลาล้างทำความสะอาด จางยวี่โหร่วก้มลงไปดูคราหนึ่ง ได้เห็นซากมดมากมายในที่นั่นด้วยจริง ๆ สีหน้านางยิ่งหนักหน่วงมากขึ้นอีก คราวนี้ เสี่ยวเฟิงกลับได้เห็นซากมดเหล่านั้นชัดเจนแล้ว เห็นได้ชัดว่านังได้รับความตกใจแล้ว ร่างกายสั่นบ้างเล็กน้อยขึ้นมา เมื่อครู่นังอาจจะไม่ได้ไปสนใจอะไร แต่ตอนนี้ไฉนนังสามารถดูไม่เข้าใจ ทำไมถึงมีซากมดมากมายในยาเหล่านี้ นี่ไม่ใช่เป็นยาบำรุงทั่วไปหรอกหรือ? หรือว่า...ในยานี้มีพิษ? เมื่อคิดถึงสถานการณ์นี้ เสี่ยวเฟิงเพียงรู้สึกหนาวไปทั่วทั้งตัว “คุณหนู นี่...เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ยานี่...” วาจานังยังพูดไม่จบ จางยวี่โหร่วก็ได้ปิดปากนังไว้แล้ว “อย่าเพิ่งเอ็ดไป อย่างน้อยก็รอจนกว่าเราจะสืบให้แน่ชัดค่อยว่ากันอีก!” เสี่ยวเฟิงกำลังใกล้จะร้องไห้ออกมาแล้ว แต่เมื่อได้เห็นจางยวี่โหร่วดูท่าทีเคร่งขรึมมาก นังได้แต่พยักหน้า จู่ ๆ เกิดสภาพการณ์เช่นนี้ นางสามารถรับการโจมตีแบบนี้ได้อย่างไร แทบจะตกใจกลัวไปหมดแล้ว “ฟังนะ ตอนนี้เราแยกกันลงมือ แกล้งทำเป็นว่าเราไม่รู้อะไรเลย ข้าตอนนี้ต้องไปที่จ้าวซินซินนั่นก่อน เจ้าไปหากากยาที่ข้าต้มไปตอนเช้ากลับมาแล้วหาแพทย์ที่น่าเชื่อถือคนหนึ่งมาตรวจดูสักครา รอข้ากลับมาแล้วมารายงานผลให้ข้าอีก จำไว้ เรื่องนี้เจ้าต้องจัดการอย่างมิดชิดสักนิด อย่าเปิดเผยข้อมูลใด ๆ ทั้งสิ้น” “ค่ะ หม่อมฉันทราบแล้วค่ะ!” เสี่ยวเฟิงรู้สึกถึงความร้ายแรงในเรื่องราว รีบพยักหน้าอย่างหนักตกลงทันที ... เมื่อจางยวี่โหร่วเดินเข้ามาในห้องของจ้าวซินซิน นางได้ตื่นแล้วจริง ๆ ทันทีที่จ้าวซินซินได้เห็นนาง ก็คิดจะรีบลุกขึ้นจากเตียง แต่กลับถูกจางยวี่โหร่วรีบกดไว้ “เจ้ายังคงอย่าเพิ่งขยับเขยื้อนแล้ว แพทย์บอกว่าตอนนี้ร่างกายเจ้ากำลังอ่อนแอมาก ต้องพักฟื้นดี ๆ แน่นอน มิฉะนั้นจะทิ้งรากการเจ็บป่วยไว้ได้” จ้าวซินซินจ้องมองนางนิ่ง จู่ ๆ น้ำตาได้หลั่งลงมาแล้ว “ท่านพี่ ท่าน...ทำไมท่านถึงได้ดีต่อหม่อมฉันเช่นนี้?” เดิมนางคิดว่าหลังจากที่นางตื่นขึ้นมาแล้ว จางยวี่โหร่วต้องปฏิบัติต่อนางอย่างเย็นชา หรือทำการลบหลู่ทำความอัปยศซักถามสักรอบ ไม่คิดว่าพอนางเอ่ยปากพูดออกมาก็เป็นวาจาที่แสดงความห่วงใยอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทำให้นางแทบไม่อยากจะเชื่อ “เราเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน แม้ว่าก่อนหน้านี้มีความแค้นชิงชังกันมากมาย แต่เมื่อได้เห็นนางถูกผู้คนดูถูกทำร้าย ทำจนทั่วร่างเป็นบาดแผล ข้าที่เป็นพี่สาวคนนี้ไหนเลยจะสามารถดูต่อไปได้น่ะ? ความแค้นเคืองชิงชังระหว่างเราเป็นเรื่องของเราเอง แม้ว่าข้าโกรธข้าก็มาคิดบัญชีจัดการกับเจ้า คนอื่นไหนเลยมีคุณสมบัตินี้รังแกเจ้าได้?” ดังนั้นคำพูดในครั้งนี้ ก็ได้กำจัดข้อสงสัยในใจของจ้าวซินซินหมดไปอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้นางยังสงสัยว่าจางยวี่โหร่วแกล้งทำ แต่ตอนนี้นางกลับรู้สึกว่านางยังรู้จักห่วงใยความรักฉันพี่น้องของพวกนาง ถ้านางเกลียดชังนางจริง ๆ ได้เห็นนางทุกข์ทรมานมากเช่นนี้ก็สามารถซ้ำเติมนางดุจโยนหินใส่คนที่ตกลงไปในบ่อ ทำไมยังลงมือช่วยนางน่ะ? ก่อนหน้านั้นนางได้อยู่ข้างกายจางยวี่โหร่วมาหลายปีขนาดนั้น ได้รู้จักนิสัยของนางชัดเจนมานานแล้ว แม้ว่าภายหลังเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้นบ้างในนาง แต่ที่จ้าวซินซินนี่ ตั้งแต่ต้นจนจบ มักจะรู้สึกว่าแม้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่ดีขึ้นอีก ก่อกวนจนคราเดียวมิอาจควบคุมได้อีก แต่เมื่อถึงเวลาที่กองทัพเข้าสู้รบกันขั้นนั้น นางยังสามารถปล่อยนางไปได้ เพราะก่อนหน้านี้จางยวี่โหร่วดีต่อนางขนาดนั้น จ่ายราคาให้นางอย่างแทบไม่มีเงื่อนไข นางเชื่ออย่างมั่นคงว่านางจริงใจกับนางในตอนนั้น ดังนั้นความรู้สึกระหว่างพวกนางจะไม่สิ่งใดที่ก้าวไปถึงขั้นสิ้นหวังได้ ในใจจ้าวซินซินภูมิใจมาก ดูเหมือนว่าแผนการกลยุทธ์ทรมานกายในครั้งนี้ทำงานเกิดผลดีมาก นางเองรู้ว่านางได้ทำสิ่งที่มากเกินไปในครั้งนี้ ไม่ง่ายที่จะได้รับการอภัยโทษจากจางยวี่โหร่ว ดังนั้นนางจึงคิดหนักจนสมองแทบระเบิด พยายามทุกวิถีทาง ถึงกับอำมหิตทำร้ายตัวเองอย่างไม่คิดเสียดาย ด้วยความเห็นแก่ตัวของจ้าวซินซิน นางจึงไม่ยินยอมเสียสละตัวเอง แต่คิดถึงบัลลังก์ของพระชายา คิดแล้วว่าในอนาคตนางมีโอกาสที่จะเป็นพระมเหสี นั่นเป็นผู้หญิงที่เปี่ยมบารมีมั่งคั่งที่สุดทั่วใต้หล้าอ่า! ด้วยความทะเยอทะยานของนาง แม้ว่าเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ก็ไม่ยินยอมละทิ้งโอกาสครั้งนี้ เพราะอำนาจ บารมี ความมั่งคั่งและเกียรติยศเป็นสิ่งล่อใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับนาง จ้าวซินซินแสดงสีหน้าที่ซาบซึ้งใจมากสุดออกมา “ขอบคุณท่านพี่ หม่อมฉันก็รู้ว่าในโลกนี้มีเพียงท่านพี่ดีต่อข้าที่สุด ไม่ว่าหม่อมฉันทำผิดเรื่องอะไรไปแล้ว พี่ท่านล้วนยอมยกโทษให้หม่อมฉัน ให้โอกาสหม่อมฉันแก้ตัวใหม่อีกครั้ง” แต่ในเวลานี้ สีหน้าจางยวี่โหร่วกลับจู่ ๆ เย็นชาลงมาแล้ว “ใครบอกว่าข้าจะให้อภัยเจ้า ข้าแค่รู้สึกว่าข้าเองสามารถจัดการกับความแค้นระหว่างเรา แต่ไม่ใช่พึ่งพาคนอื่นมาสอดมือ ช่วยเจ้าเป็นเนื่องมาจากความสัมพันธ์ในก่อนหน้านี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าข้าสามารถให้อภัยสิ่งที่เจ้าได้ทำไปก่อนหน้านั้น” “ท่านพี่...” รอยยิ้มบนใบหน้าของจ้าวซินซินแช่แข็งไปทันที ตกตะลึงพรึงเพริด ไม่รู้จะทำอย่างไรดีไปบ้าง ประกายตามองนางอย่างค่อนข้างสับสน “ตอนนี้ ข้าสามารถให้เจ้ามีโอกาสแก้ตัวครั้งหนึ่ง ก่อนหน้านี้ข้ามักจะรู้สึกว่ามนุษย์ล้วนรู้จักขอบพระคุณ ข้าดีกับเจ้า เจ้าก็รู้ว่าสิ่งใดที่เรียกว่าทดแทนคืนกลับเป็นธรรมดา แต่ข้าไม่เคยคิดเลยว่าในที่สุดที่ทรยศหักหลังวางแผนทำร้ายข้าอย่างลับ ๆ กลับเป็นน้องสาวที่ดีที่ข้าไว้ใจมาตลอด เจ้ารู้ไหมว่าเจ้าทำให้ใจข้าหนาวเหน็บมากเพียงไร?” บางทีอาจเป็นสีหน้าของจางยวี่โหร่วเคร่งขรึมเกินไป คาดไม่ถึงจ้าวซินซินขมขื่นจนส่งเสียงออกมาโดยตรงแล้ว นางลุกขึ้นจากเตียงแล้วคุกเข่าลงบนพื้นโขกคำนับนางเสียงดังหลายครั้ง “ท่านพี่ เป็นข้าผิดต่อเจ้า ถึงแม้องค์ชายสามขู่จะฆ่าหม่อมฉัน หม่อมฉันก็ไม่ควรถูกเขาบังคับหลอกล่อให้ทำสิ่งที่ไม่เป็นผลดีต่อท่านพี่ เป็นข้าที่หน้ามืดไปแล้วในเวลานั้น” จางยวี่โหร่วหรี่ตาขึ้นมามองดูนาง “เจ้าพูดว่าอะไร เขาใช้ชีวิตของเจ้ามาขู่เจ้า?” “ใช่อ่าฐานะข้าต่ำต้อย แต่เขาเป็นองค์ชายสามแท้ ๆ ถ้าเขาคิดฆ่าข้าไยมิใช่เรื่องง่ายมากหรอกหรือ? พี่ท่าน ตอนนั้นข้ากลัวมากจริง ๆ แต่ก็ไม่กล้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา ข้าเป็นคนขี้ขลาด กลัวตาย ยังทำร้ายพี่สาวที่ดีมากต่อข้าเช่นนี้ ข้าสมควรตายจริง ๆ แล้ว!” นางทางหนึ่งพูดพลาง ทางหนึ่งตบใบหน้าตนเองอย่างสุดชีวิต ตบจนแก้มสองข้างบวมแดงก็ยังไม่เคยหยุดลง จนใบหน้าของนางเริ่มปรากฏเส้นเลือดฝอย จางยวี่โหร่วจึงได้เอื้อมมือไปรั้งให้นางหยุด “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็มีอารมณ์ที่ไม่เป็นตัวของตนเอง ข้าไม่ควรโทษเจ้าแต่อย่างใด เจ้าเป็นน้องสาวที่ดีของข้า ถ้าข้ารู้เรื่องนี้ในตอนนั้น ประมาณว่าก็จะสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้าด้วย แต่ไม่สามารถเพราะความเห็นแก่ตัวของข้าเพียงคนเดียว ทำร้ายจนเจ้าต้องสูญเสียชีวิต ถ้าเช่นนั้นข้ายังมีคุณสมบัติเป็นพี่สาวของเจ้าหรือ?” คำพูดประโยคเหล่านี้ของจางยวี่โหร่วน่าซาบซึ้งใจคนจริง ๆ ถ้ารู้ว่าเพราะการให้ร้ายของจ้าวซินซิน นางสูญเสียความบริสุทธิ์ที่มีคุณค่ามากที่สุดของผู้หญิงไปแล้ว ตอนนี้ไม่คาดคิดว่านางยังให้อภัยหล่อนได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ได้แล้วหรือ? จ้าวซินซินหลั่งน้ำตามองนางอย่างน่าสงสาร “พี่ท่าน เจ้าพูดเช่นนี้ข้ายิ่งละอายใจไร้ที่ซ่อนแล้ว พี่ท่านใจกว้างมากขนาดนี้ แต่ข้าล้มเหลวทรยศความไว้วางใจของท่าน ทำร้ายท่านแล้ว ข้าสมควรตายอ่า!ท่านช่วยข้าทำไม มิเช่นนั้นให้ข้าเกิดขึ้นเองดับสูญเองเถิด!”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 171 ซากมดในกากยา
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A