ตอนที่ 176 โฉมหน้าภายใต้หน้ากาก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 176 โฉมหน้าภายใต้หน้ากาก
ต๭นที่ 176 โฉมหน้าภายใต้หน้ากาก เกี่ยวกับเรื่องอะไรหรือ หนึ่งนางไม่คิดกล่าวคำเท็จมาหลอกเขา สองไม่คิดจะพูดความจริงที่ทำให้เขาลำบากใจ ดังนั้นนางจึงเริ่มเปลี่ยนเรื่องสนทนา “เจ้ากลับมาดึกป่านนี้ พอมาถึงปุ๊บก็ซักถามว่ากลางวันข้าไปที่ไหน หรือว่าข้าตอนนี้ไม่มีอิสระสักนิดแล้วหรือ?” นางแกล้งทำเป็นโกรธหันหน้าหนีไปไม่มองเขา บอกตามตรง เขาให้อิสระกับนางมากเพียงพอกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ได้แต่งงานกันไปแล้ว เมื่อผู้หญิงได้แต่งงานกับผู้ชายไปแล้วทันที ก็ควรต้องอยู่ในเหย้าเรือนช่วยสามีสอนลูกดี ๆ ไม่เหมาะที่จะไปปรากฏตัว เหมือนนางเอะอะก็วิ่งออกไปข้างนอกโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เขาได้ดีต่อนางมากแล้ว “แน่นอนไม่ใช่ นี่ไม่ใช่ข้าก็กลัวว่าเจ้าต้องเผชิญอันตรายหรอกน่ะ?” ต่างก็เป็นคนฉลาด ในเมื่อนางไม่คิดอยากจะพูด เขาก็เข้าใจความหมายนี้แน่นอน เพียงแต่ที่แท้มีเรื่องอะไรกัน นางถึงกับยังปิดบังเขาด้วย แม้ว่านางจะไม่ได้พูดกับเขาในรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องขององค์รัชทายาท เรื่องขององค์ชายสาม แต่เขารู้ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ แม้แต่ความลับที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ นางก็สามารถให้เขารู้ได้ทั้งหมด ถ้างั้นยังมีเรื่องอะไรที่ต้องปกปิด? มนุษย์ทุกคนต่างมีความอยากรู้อยากเห็น ยิ่งนางไม่พูด ก็ยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกแปลก ดูไปแล้ว เขาต้องใช้คนไปตรวจสอบเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด ว่าที่แท้นางออกไปพบใครในวันนี้ แพทย์คนนั้นไม่น่าเป็นเพียงแพทย์อย่างเดียวเท่านั้นน่ะ นอกจากนี้ ตลอดที่ผ่านมา เขาก็รู้สึกดูเหมือนจางยวี่โหร่วจะมีความลับอะไรบางอย่างกำลังปกปิดเขาไว้ ถึงแม้ว่าเขาได้ตรวจสอบเรื่องก่อนหน้านี้ทั้งหมดของนางทุกอย่างแล้วไปรอบหนึ่ง และไม่พบข้อสงสัยอะไร แต่บางครั้งความเกลียดชังและความเฉยเมยในสายตาของนางที่ปรากฏหลั่งออกมาไม่เหมือนผู้หญิงอายุเท่านางควรมีได้โดยสิ้นเชิง เขาต้องรู้ความจริงของทุกอย่างให้จงได้แน่ ๆ ในเมื่อเขาไม่ได้ติดตามตรวจสอบ ถ้างั้นจางยวี่โหร่วก็โล่งใจแล้วเป็นธรรมดา รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขา ทำหน้าที่การเป็นภรรยาคนหนึ่งอย่างสุดกำลังให้ดีที่สุด “น้ำอาบน้ำพร้อมแล้ว เจ้ารีบไปเถอะ!” นางเสร็จงานแล้ว หันหลังจะจากไป กลับถูกเขาจับลากกลับมาคราหนึ่ง “ทำไม เจ้าไม่ไปด้วยกับเปิ่นหวังหรอกหรือ?” “ไม่เอาน่า หม่อมฉันอาบน้ำแล้ว นี่ดึกป่านนี้แล้ว ท่านรีบอาบน้ำแล้วพักผ่อนให้สบายเถิดเพค่ะ” ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ฝืนบังคับอีก แต่ก็ไม่คิดต้องการปล่อยนางไปอย่างง่ายดาย “ถ้างั้นดีแล้ว เจ้าก็มาปรนนิบัติเปิ่นหวังอาบน้ำ” นี่กลับได้ไม่เป็นไร จางยวี่โหร่วก็ไม่ได้คัดค้านอะไรเลย เวลานี้ บนร่างเขาเพียงเหลือเสื้อตัวกลางสีขาวตัวหนึ่ง เสื้อผ้าเปิดกว้าง เผยหน้าอกที่แข็งแกร่งทั้งแผ่นคราหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด จางยวี่โหร่วหน้าแดงเล็กน้อย พวกเขาแต่งงานกันมานานขนาดนี้แล้ว แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นเขาแบบนี้ นางยังอดไม่ได้ที่จะเขินอายจนหน้าแดงไปหมด การเต้นของหัวใจก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มเต้นเร็วขึ้น จนร่างของเขาได้แช่อยู่ในน้ำร้อนนี่ความร้อนบนใบหน้าของนางจึงได้ลดลงเล็กน้อย จางยวี่โหร่วเดินไปข้างถังไม้ หยิบเอาผ้าฝ้ายขึ้นมาเช็ดถูให้เขา การดูจากด้านข้างแบบนี้ ผิวของเขาแน่นขาวนวล กระดูกไหปลาร้าก็ดูดีมาก แม้ว่าบนใบหน้าจะสวมหน้ากาก แต่ไม่สามารถปกปิดโฉมหน้าที่งดงามปราณีตสมบูรณ์แบบของเขาใบนั้นได้หมด “ข้ามีบางสิ่งที่ไม่เข้าใจบ้างจริง ๆ...” นางเอ่ยปากพูดเบา ๆ ว่า “คนที่สามารถเป็นจอมทัพได้โดยทั่วไปไม่ควรที่จำกำยำแข็งแรงดุจหลังเสือเอวหมีตลอดร่างมีพลังหรอกหรือ? ที่เลวร้ายที่สุดบนร่างก็ต้องมีบาดแผลจากกระบี่ดาบบ้าง สมญานามของเจ้าเรียกเทพแห่งสงคราม คาดไม่ถึงมีผิวละเอียดอ่อนเนื้อนุ่ม ร่างกายเบาบาง ดูแล้วไม่น่าเหมือนบ้างจริงอ่า!” เขามีผิวที่ดีกว่านาง นี่ไหนเลยเหมือนลักษณะซึ่งควรเป็นของคนที่วิ่งตะบึงไปในสนามรบคนหนึ่ง ผู้ชายขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ หันกลับไปมองนาง “นี่เจ้าใช้คำเรียกอะไร ผิวละเอียดอ่อนเนื้อนุ่ม ไม่ใช่ควรพรรณนาผู้ดูแลตามหอนางโลมหรือขันทีเหล่านั้น เจ้ากลับกล้าใช้คำแบบนี้มาแสดงลักษณะพระสวามีของเจ้า?” จางยวี่โหร่วก็หัวเราะ “คิกคัก” เสียงหนึ่งออกมาทันที นางกลับไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นจริง ๆ แต่เมื่อเขากล่าวเช่นนี้ทันที กลับยังรู้สึกว่ามีเล็กน้อยจริง ผิวเขาดีแบบนั้น แทบทำให้ผู้หญิงต่างอิจฉาไปหมด “ฮ่า... ดูเหมือนว่าเปิ่นหวังเมตตาต่อพระชายาที่รักในช่วงไม่กี่วันนี้ ดังนั้นวันนี้คืนนี้ เปิ่นหวังต้องให้เจ้าทราบว่าที่แท้เปิ่นหวังใช่ไม่ใช่เป็นผู้ชาย!” “อย่า หม่อมฉันแค่ล้อเล่น พระองค์ท่านอย่าจริงจังเพค่ะ!” นางไม่คิดอยากตายคาเตียงอ่า นางผิดไปแล้ว ถึงแม้ว่าดูไปแล้ว เขาไม่ได้เป็นประเภทมีพลังตลอดทั่วร่าง แต่พลังร่างนั้นก็ไม่ใช่เป็นสิ่งที่มนุษย์ธรรมดาสามารถไปถึงได้โดยสิ้นเชิง เพื่อเป็นที่โปรดปรานของเขา นางได้แต่ต้องกล่าววาจาเหล่านั้นที่เอาใจผู้คนให้มีความสุข “ความหมายของหม่อมฉันคือ พระองค์ท่านพระสวามีต้องมีวิทยายุทธ์สูงส่งแข็งแกร่งแน่ ๆ วางแผนในกระโจม ศัตรูเหล่านั้นไหนเลยมีโอกาสที่จะได้เข้าใกล้พระวรกายของพระองค์ท่าน ก็ถูกท่านฟันตกจากม้าก่อน ขอเพียงมีเจ้าอยู่เฝ้าเขตชายแดน แค้วนเย่นแค้วนเซียวสองประเทศมิกล้าบุกรุกโจมตี พระองค์ท่านเป็นผู้ที่ร้ายกาจที่สุดจริง ๆ เพค่ะ” นางลงทุนไปชมสุดใจขนาดนี้แล้ว ก็ไม่เห็นว่าอารมณ์จิตใจของเขาจะเปลี่ยนเป็นดีขึ้นมา จางยวี่โหร่วบุ้ยริมฝีปาก ในใจแอบกระซิบกับตัวเองคำหนึ่งอ้ายขี้งก ก็ช่วยเช็ดหลังให้เขาอย่างทำตามหน้าที่บ่นคับข้องใจไปพลาง ในใจแอบสงสัยว่าวาจาของนางเมื่อครู่ ได้ทำร้ายศักดิ์ศรีของผู้ชายที่ยิ่งใหญ่แบบเขาเกินไปแล้วหรือไม่? ไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีจริงที่จะเปรียบเทียบพระสวามีกับเจ้าหนุ่มหอนางโลม ตอนนี้จางยวี่โหร่วอดไม่ไหวที่จะอยากรู้อยากเห็นอีก โฉมหน้าหลังหน้ากากของเขา ที่แท้มีหน้าตาเป็นยังไง บางครั้งในใจนางพยายามจงใจหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ยังไง ๆ ก็ไม่ว่าโฉมหน้าเขาเป็นอย่างไร นางเพียงแค่รู้ว่าเขาเป็นพระสวามีของนางก็ดีแล้ว นางไม่สนสักนิดว่าที่แท้เขามีลักษณะอย่างไร แต่ตอนนี้ในเมื่อพวกเขาเป็นสามีภรรยากันแล้ว ถ้างั้นต่อให้นางมองดูสักคราก็ไม่เป็นไรน่ะ ถ้าเขามีองคภาพที่อัปลักษณ์น่าเกลียดจริง ๆ นางก็จะไม่รังเกียจเด็ดขาด นางเพียงแค่กลัวมาก มีวันหนึ่งเขาหายตัวไปแล้ว แม้ว่านางจะเจอเขาที่ถนนก็ไม่สามารถจำเขาได้อย่างสิ้นเชิง เพราะนอกจากหน้ากากใบนี้แล้ว นางก็ไม่รู้ว่าจะสามารถแยกแยะจดจำเขาได้อย่างไร มือของจางยวี่โหร่วค่อย ๆ ยกขึ้นมาแล้ว เป้าหมายคือหน้ากากใบนั้นอย่างเห็นได้ชัด พลังการรับรู้ของผู้ชายเฉียบแหลมเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่อย่างที่นางสามารถจินตนาการได้ วินาทีต่อมา ข้อมือของนางก็ถูกหยุดลงอย่างแรงทันที “เจ้าทำอะไร?” เรื่องแบบนี้ในเมื่อนางลงมือทำแล้ว นั่นก็ต้องโอ่อ่าเปิดเผยแล้วแน่นอน นางไม่รู้สึกว่านี่นับเป็นเรื่องลับ ๆ ล่อ ๆ อะไรกัน “หม่อมฉันคิดดูใบหน้าของพระองค์ท่านสักคราเพค่ะ!” นางกล่าวเอ่ยวาจาออกมาตรง ๆ แล้ว “ทำไมจู่ ๆ เจ้าถึงอยากรู้เรื่องนี้แล้ว?” พวกเขาได้อยู่ด้วยกันมานานเช่นนี้ นางแทบจะไม่ได้เอ่ยถึงปัญหานี้มาก่อน ในใจเขาก็มีสัญชาตญาณแจ้งเตือนขึ้นมาเล็กน้อย นางได้สงสัยอะไรแล้วหรือ? “ไม่ใช่จู่ ๆ สงสัย แต่ได้สงสัยมาโดยตลอด เราต่างเป็นสามีภรรยากันแล้ว ยังมีสิ่งใดที่หม่อมฉันไม่สามารถยอมรับได้ พระองค์ทรงเป็นพระสวามีของหม่อมฉัน เราต่างก็ใกล้เป็นคนที่คุ้นเคยซึ่งกันและกันมากที่สุด หม่อมฉันไม่คิดเห็นทั้งวันคือหน้ากากอันเย็นยะเยือกของพระองค์ใบนี้ มีเพียงพระองค์ภายใต้หน้ากาก จึงเป็นของจริงเพค่ะ” นางจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา คิดหาคำตอบสักเล็กน้อยจากประกายตาของเขา แต่น่าเสียดายที่นางไม่สามารถอ่านความหมายใด ๆ ที่เขาคิดจะก้าวถอยหลังจากประกายตาของเขาเลย “เจ้าไม่ใช่ได้รู้จักข่าวลือเหล่านั้นมานานแล้ว ถ้าได้เห็นโฉมหน้าของเปิ่นหวังแล้ว ถ้างั้นเจ้าอาจจะตายถึงแก่ชีวิตเหมือนกับผู้หญิงเจ็ดคนก่อนหน้านี้ ถึงเป็นเช่นนี้ เจ้ายังคิดต้องการเห็นโฉมหน้าของเปิ่นหวังหรือ?” มนุษย์ล้วนไม่มีใครไม่กลัวความตาย เขาก็ไม่เชื่อว่านางจะยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อตอบสนองความอยากรู้ของตนเอง
已经是最新一章了
加载中