ตอนที่ 185 ในใจมีสิ่งกีดขวาง
1/
ตอนที่ 185 ในใจมีสิ่งกีดขวาง
พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 185 ในใจมีสิ่งกีดขวาง
ตนที่ 185 ในใจมีสิ่งกีดขวาง “เจ้าน่าจะรู้ว่า การเป็นผู้หญิงของข้า เป็นตำแหน่งที่คนมากมายต้องการแต่กลับไม่อาจได้ ถ้าหากไปกับข้า ความแค้นของเจ้า ข้าก็สามารถแก้แค้นแทนได้ และยังเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายดายดั่งเป่าฝุ่น เป็นอย่างไร?” เขาพูดเย้ายวนข้อดีต่อ ถ้าหากเขาเป็นคนของตำหนักจิ๊วซาจริง เธอก็เชื่อว่าเขามีความสามารถเช่นนั้น แต่ว่าความแค้นของเธอ เธอจะต้องเป็นคนไปแก้แค้นเอง เธอไม่อยากจะเป็นคนอ่อนแอที่ได้แต่อาศัยหลบอยู่ข้างหลังผู้ชาย เธอจะต้องแข็งแกร่งขึ้นมาถึงจะสามารถปกป้องตัวเอง และครอบครัวของเธอได้ “ขอโทษท่านจริงๆ ข้าทำได้เพียงปฏิเสธความปรารถนาดีของท่าน หวังว่าท่านจะสามารถพาข้ากลับไปส่งที่เดิมได้ ข้าควรจะกลับบ้านแล้ว ไม่อย่างนั้นสามีของข้าจะต้องเป็นห่วงแน่” ในครั้งนี้ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่ได้โมโหอะไร เขาเพียงพูดออกมาเรียบๆ “หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็หวังว่าเจ้าจะทำการเลือกของเจ้าในวันนี้เอาไว้ หวังว่าหลังจากนี้ ทางที่ดีเจ้าอย่าได้มาขอร้องข้า” ขอร้องอะไรเขา เธอเพียงหวังว่าจะไม่ต้องพบเจอเขาอีกเลย เพียงเท่านั้นเธอก็ขอบคุณฟ้าดินมากแล้ว ....... หลังจากกลับมาถึงตำหนักแล้ว ในที่สุดจิตใจของจางอวี่โหร่วก็สงบลง เมื่อเทียบกับห่อเครื่องเทศซื่อแล้ว สิ่งที่ทำให้เธอไม่สงบใจก็คือที่มาของชายผู้นั้น เธอพยายามที่จะลืมเลือนเรื่องนี้ไปแล้ว แต่ทำไมอยู่ๆ เขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีก และเขาก็ยังมีสถานะที่น่ากลัวเช่นนั้น ถ้าหากเขาจะทำอะไรเธอจริง เดิมทีเธอก็ไม่อาจจะขัดขืนได้เลย ตอนนี้เธอเพียงหวังว่าเขาจะสูงส่งพอ และไม่ถือสากับเรื่องนี้ เข้ามารุกร้ำชีวิตของเธออีก ส่วนเรื่องอื่น ตอนนี้เธอก็ไม่ได้ร้องขออะไรแล้ว เมื่อกลับมาถึงห้อง เธอตั้งใจจะเข้าไปสงบใจสักหน่อย แต่เมื่อหันหน้ากลับไปกลับชนเข้ามาอ้อมอกของผู้หนึ่งในทันที เมื่อเงยหน้าขึ้น และได้พบกับหน้ากากเขี้ยวหมาป่าทองแดงอันดุร้ายนั่น จางอวี่โหร่วก็ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือลังเลขึ้นมาดี “เจ้าไปที่ไหนมาอีกเล่า ทำไมถึงเหงื่อออกมากมายเช่นนี้?” เขาเห็นท่าทางวุ่นวายของเธอก็รีบขมวดคิ้วเอ่ยถาม “ข้า......เพิ่งออกไปข้างนอกมารอบหนึ่ง อากาศไม่เลวเลย จึงพาเสี่ยวเฟิงออกไปเล่น” เธอพยายามที่จะทำให้ตัวเองสงบใจลง หลังจากนั้นก็ตอบกลับไป “ที่แท้เป็นเช่นนี้ อากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ระวังร้อนจนเป็นลมไปด้วย!” เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเช่นนี้ของเขา ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนเธอจะต้องรู้สึกว่าอบอุ่นยินดีภายในใจมากแน่ แต่ว่าตอนนี้เมื่อได้ยินแล้ว ในใจของเธอกลับสับสนไปหมด เธอถอยหลังไปอีกก้าว หลังจากนั้นก็จ้องมองไปที่เขา “เหตุใดวันนี้ท่านจึงกลับเร็วเพียงนี้ ไม่ใช่ว่ามีเรื่องมากมายต้องไปจัดการหรือ?” “ยุ่งมาก แต่ข้าคิดว่าหลายวันมานี้ ข้าละเลยเจ้าไป ข้ารู้สึกว่าจะปล่อยต่อไปไม่ได้ เมื่อมีเวลาว่างจึงรีบกลับมาอยู่กับเจ้า” ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เพียงแต่ตอนนี้ในใจของจางอวี่โหร่วกลับไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนัก เมื่อคิดไปถึงห่อผงเครื่องเทศซื่อที่ตกลงมาจากเสื้อผ้าของเขา เธอก็ถึงรู้สึกเย็นสันหลังขึ้นมา ไม่รู้ว่าควรจะเผชิญหน้าเขาด้วยอารมณ์จิตใจแบบใด “ใช่แล้ว วันนี้เช้าตรู่ ข้านำเสื้อผ้าของท่านออกไป บ้างก็พึ่งแดด บ้างก็เอาไปซัก วางเอาไว้ในตู้ตลอดจะเกิดเชื้อราได้ เมื่อสวมใส่ก็จะไม่สบายตัว” ตอนที่เธอพูดประโยคนี้ออกมา เธอก็มองไปที่ดวงตาของเขา อยากจะหาเบาะแสจากสายตาของเขาเสียหน่อย นั่นเป็นของของเขา เขาควรจะรู้ คนเรานั้นถ้าหากถูกพูดความลับอะไรออกมาโดยไม่ได้เตรียมใจเอาไว้ก่อน ก็จะต้องแสดงความวุ่นวายใจออกมาเล็กๆ มันคือสัญชาตญาณหนึ่ง แต่ว่าเมื่อมองไปยังดวงตาของเขากลับผมว่าสายตาของเขานั้นสงบปกติเกินกว่าอะไร เดิมทีก็ไม่เห็นร่องรอยใด “ดูเหมือนว่าข้าจะแต่งกับชายาที่ขยันทำงานเสียจริง ลำบากชายาแล้ว” “แล้วก็มีชุดขุนนางตัวนั้นของท่านด้วย ไม่ได้สวมใส่มานานหลายวันแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจวางทิ้งไว้ตามใจได้ ข้าจัดการเก็บมันให้ดีแทนท่านแล้ว” จางอวี่โหร่วหลุบใบหน้าลงราบเรียบ หลังจากนั้นก็พูดขึ้น “รับทราบ ในฐานะสามี ข้าจะจำเอาไว้ มีภรรยาที่ดีเช่นเจ้า ข้าก็ไม่ต้องคอยกังวลอะไรอีกแล้ว” ทำอย่างไรดี ดูเหมือนว่าจะถามอะไรไม่ได้เลย หรือว่า......เครื่องเทศซื่อนั่นจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา? หรือว่าเย่นหลิงจะกลัวเธอสงสัยเขา ดังนั้นก็เลยจงใจวางแผนนี้ขึ้นมา? หรือบางทีอาจจะเป็นแผนการของผู้อื่น แต่ว่าวิชาของเขาสูงส่งเพียงนั้น อีกทั้งยังประสาทเฉียบคมว่องไว ถ้าหากมีคนทำอะไรจริง เขาจะไม่รู้หรือ? ในตอนนั้นใจของจางอวี่โหร่วนิ่งชาไปอีกครั้ง อยู่ๆ เขาก็เดินเข้ามาใกล้เธอ และรั้งตัวเธอเข้าไปในอ้อมอก “หืม? ก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้มอบปิ่นปักผมหงส์ให้เจ้า แล้วเจ้าก็ประดับมันไว้บนหัวตลอดหรือ เหตุใดวันนี้จึงไม่เห็นแล้วเล่า?” เขามองไปยังเรือนผมของเธอ ก่อนจะพบว่าปิ่นปักผมทองที่เด่นสะดุดตานั้นหายไปแล้ว หลังจากนั้นจึงถามออกมา ปิ่นปักผมหงส์? สีหน้าของจางอวี่โหร่วเปลี่ยนไป เธอคิดขึ้นมาได้แล้ว ปิ่นปักผมหงส์นั้น...... ในตอนนั้นเธอถูกชายสมควรตายผู้นั้นทำให้ตกใจ และต้องการจะเอาความตายมาขู่ไม่ให้เขาทำอะไรแปลกๆ แต่ใครจะคิดว่าวิชาความสามารถของเขาจะน่ากลัวเช่นนั้น ถึงได้ทำให้ปิ่นปักผมทองของเธอกลายเป็นผุยผงทั้งที่ยังเว้นระยะห่าง เมื่อเขาพูดขึ้นมาเช่นนี้ เธอก็คิดขึ้นมาได้ ปิ่นปักผมหงส์นั้นเป็นสิ่งที่เขาให้เธอมา “เรื่องนี้ ข้า......”เธอไม่รู้ว่าควรจะเปิดปากอธิบายเรื่องนี้กับเขาอย่างไร ในตอนแรกเธอถูกช่วงชิงความบริสุทธิ์ไป แต่เขากลับยอมรับเธอโดยไม่ได้ละทิ้ง มองดูเธอราวกับสมบัติล้ำค่า ถ้าหากตอนนี้ปล่อยให้เขารู้ว่า วันนี้ตัวเองไปพบกับชายผู้นั้น และยังเกิดการปะทะกันเกิดขึ้น เขาคงจะต้องโกรธมากแน่ ตอนนี้ปัญหาที่ตัวเองสงสัยเขายังไม่แก้กระจ่าง แต่กลับถูกเขาสงสัยขึ้นมาอีก อยู่ๆ จางอวี่โหร่วก็รู้สึกว่าการไปสงสัยผู้อื่นนั้นไม่ใช่เรื่องดีเลย “เจ้าออกไปเล่นมากมายจนทำหายหรือ? ไม่เป็นไร เดี๋ยวครั้งหน้าข้ามอบให้เจ้าใหม่ก็พอแล้ว!” เขาลูบเรือนผมของเธอด้วยความรักใคร่เอ็นดู แม้ว่าจะมองไม่เห็นสีหน้าของเขา แต่ว่าภายในแววตาของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น นี่หมายความว่าเขาจะไม่ถามอะไรต่อแล้ว? จางอวี่โหร่วถอนหายใจออกมา ถ้าหากว่าเขาเอ่ยถามขุดรากถอนโคนอย่างในวันนั้น เธอก็คงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีแล้ว “เป็นเพราะข้าไม่ระวังจึงทำมันหายไป หาอยู่นานแต่ก็ไม่พบ ข้ายังกังวลว่าท่านจะว่ากล่าวข้าอยู่เลย” “จะเป็นไปได้อย่างไร? ก็เพียงแต่ปิ่นปักผมทองอันหนึ่งไม่ใช่หรือ เจ้าเป็นภรรยาของข้า ไม่ว่าเจ้าอยากได้อะไร ข้าก็จะทำให้ได้ตามปรารถนา ช่างเถอะ อย่างไรก็กลับมาแล้ว เช่นนั้นก็ควรพักผ่อนให้ดี ข้ายังมีเรื่องต้องไปจัดการ ตอนเย็นจะกลับมาอยู่กับจ้าอีก!” เมื่อพูดจบ เขาก็หมุนตัวจากไป จางอวี่โหร่วรู้ดีว่าเขาจะต้องยุ่งมากแน่ จากสถานการณ์ในตอนนี้ เขาจะต้องยุ่งจนไม่มีเวลาทำอะไรแน่ แต่ว่าเขาก็ยังหาเวลาในความยุ่งวุ่นวายเหล่านั้นออกมาอยู่กับเธอ แต่เธอกลับไปสงสัยเขา มันค่อนข้างที่จะไม่สมควรหรือไม่? เธอพยายามที่จะกดความสงสัยของตัวเองลงไปลึกในใจ และลอบสาบานว่า ความไม่ชัดเจนที่นานทีจะพบ เธออย่าได้ไปคิดมากกับเขาเลยจะดีกว่า สถานการณ์ในตอนนี้วุ่นวายมากแล้ว พวกเขามีภรรยาควรจะจับมือกันต่อต้านศัตรู ไม่ใช่สงสัยกันเอง ไม่อย่างนั้นพวกคนต่ำช้าอาจจะถือโอกาสได้ ....... สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ หลังจากที่ชายหนุ่มออกมาแล้ว เขากลับตรงไปที่เรือนด้านหลัง ในตอนนี้คนที่เขาต้องการตามหาคงจะยังไม่ได้ไปทำงาน ตอนนี้เย่นอิ่งกำลังนั่งตากแดดอยู่บนเก้าอี้หวายภายในเรือน เมื่อหลายวันก่อนเธอแสดงท่าทีเจ็บป่วยเพื่อร้องความเห็นใจจากพี่ชาย วันเวลาที่อยู่ในห้องเช่นนั้นอุดอู้จนแทบจะทนไม่ไหว แต่ว่าตอนนี้ เธอรู้แล้วว่าเย่นหลิงน่าจะถูกผู้หญิงคนนั้นทำเอาสับสน ดูเหมือนว่าจะไม่อาจทำร้ายเธอได้อีกแล้ว เย่นอิ่งจึงตั้งใจจะไปลงมือด้วยตัวเอง ดังนั้นแน่นอนว่าเธอจะต้องรักษาร่างกายในแข็งแรงขึ้นมา แน่นอนว่าเย่นหลิงไม่ใช่คนโง่ เมื่อเห็นการกระทำของเธอก็น่าจะรู้แล้วว่าเธอทำเช่นนี้เพื่ออะไร เพียงแต่ในใจเกิดความเจ็บช้ำและผิดหวังเท่านั้น อยู่ๆ ร่างสูงโปร่งในชุดขาวก็เดินเข้ามา เมื่อเย่นอิ่งเห็นเขา ภายในแววตาก็เปล่งประกายออกมาทันที “ท่านอ๋อง!” ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอยังนึกถึงร่างกายที่เจ็บป่วยของตน ดูเหมือนว่าเธอจะพุ่งออกจากเก้าอี้หวายเข้าไปหาเขาแล้ว “ท่านอ๋องมาเยี่ยมข้าหรือ?” เดิมทีสายตาของชายหนุ่มก็ไม่ได้ทอดมาที่ตัวเธอ เขาตรงเข้าไปในห้องกลางทันที เขาจะมาเยี่ยมเธอได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่าเขามาหาพี่ชายของเธออย่างเย่นหลิง ภายในใจของเย่นอิ่งผิดหวังมาก และยังโมโหมากด้วย เธออยู่ข้างกายเขามานานขนาดนั้น เขากำจัดความสามารถทางการต่อสู้ของเธอ ทำให้ร่างกายของเธอเป็นเช่นนี้ หรือว่าในใจของเขาจะไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย? ....... เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจากภายนอก เย่นหลิงก็เดินออกมาทันที ในตอนที่เขาเห็นผู้มาเยือน เขาก็ค้อมตัวทำความเคารพ “เคารพท่านอ๋อง” ท่านอ๋องมาหาเขาด้วยตัวเองได้อย่างไร นี่ใช่ว่าจะให้เกียรติเขาเกินไปหรือ? เพียงแต่เมื่อเห็นความไม่พอใจ และความโมโหอันเยือกเย็นในแววตาแล้ว เขาก็อดที่จะสั่นไหวขึ้นมาไม่ได้ หรือว่า.......จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น? “เจ้ากล้ามาก ถึงได้กระทำเรื่องเช่นนี้ภายใต้สายตาของข้า สมควรตายจริงๆ!” เย่นหลิงนิงไป อยู่ๆ ก็เข้าใจได้แล้วว่าเขาหมายความว่าอย่างไร ไม่ใช่ว่า......เรื่องนั้นถูกเปิดเผยแล้วหรือ? เขาไม่อธิบายอะไรมากมาย เพียงแค่คุกเข่าลงบนพื้นรอการตัดสินจากท่านอ๋อง “ข้าให้เจ้าไปตรวจสอบเรื่องหลี่ชิงซิ้ว นอกจากตัวตนของเจ้าแล้ว ยังมีอะไรที่เจ้าไม่ได้รายงานต่อข้าอีกหรือไม่?” ....... เย่นหลิงอดที่จะก้มหน้าลงอีกไม่ได้ “ข้ารู้ผิดแล้ว!” “ดี เช่นนั้นเจ้าก็บอกกับข้ามาในตอนนี้ ชายาไปพบหมอหลี่เพราะอะไรกันแน่? ข้าต้องการให้เจ้ารายงานมาตามจริง!” ในตอนนั้นเย่นอิ่งที่อยู่ด้านข้างก็หัวเราะออกมา “ท่านพี่ เห็นแล้วหรือไม่? ท่านไม่ได้คิดว่าหญิงผู้นั้นจิตใจกว้างขวางหรอกหรือ หลังจากนั้นนางก็ลอบกัดท่านเสียแล้ว ตอนนี้ท่านคงจะเชื่อคำพูดของข้าได้แล้วหรือไม่?” เธอไม่ได้รู้เลยว่าอะไรคือการราดน้ำมันลงไฟ หากเธอพูดเช่นนี้ก็ไม่เท่ากับยอมรับเรื่องที่เย่นหลิงวางยาจางอวี่โหร่วหรือ? ชายหนุ่มมองไปยังเย่นอิ่งด้วยสายตาเย็นยะเยือก น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความโมโห “เจ้าหุบปาก!” ในใจของเย่นอิ่งสั่นไหว ไม่กล้าพูดอะไรอีก แต่ว่าในใจกลับยิ่งไม่พอใจขึ้นมา “ท่านอ๋องลงโทษข้าเถอะ ชายาไปหาหมอหลี่เพราะรู้ว่าในยาของนางถูกกระทำอย่างอื่น เป็นเพราะข้าไม่ชอบใจที่นางเป็นหญิงจากตระกูลจาง แต่กลับได้รับการรักใคร่เอ็นดูจากท่านอ๋องเพียงนี้ ดังนั้นข้าจึงใส่เครื่องเทศซื่อลงในยาของนาง......” เขายังพูดไม่ทันจบ ตัวของเขาก็ลอยออกไปอย่างหนัก และกระแทกกับกำแพงด้านนอก ในตอนที่ล้มลงสู่พื้น เขาก็กระอักเลือดออกมา เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บไม่เบา แต่เขากลับไม่ได้สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเอง และพยายามที่จะคุกเข่าข้างเดียวลง “ข้ายอมรับผิด เรื่องนี้ข้ากระทำตามใจ ท่านอ๋องโปรดลงโทษ!”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 185 ในใจมีสิ่งกีดขวาง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A