ตอนที่ 192 ยอมรับความจริงไม่ได้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 192 ยอมรับความจริงไม่ได้
ต๭นที่ 192 ยอมรับความจริงไม่ได้ “เจ้าพูดอะไร แรกเริ่มคนที่ช่วยชีวิตเจ้าคือจางไท่ซือ? เขาไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำเป็นคนที่พยายามจะฆ่าเจ้า ทำไมเขาถึงช่วยเจ้า?” ถึงแม้ว่าเขาจะเคยคิดเดาแบบนี้มาก่อนเขายังรู้สึกว่ารับไม่ค่อยได้บ้างเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ออกมา จางไท่ซือเป็นคนดี แรกเริ่มแม้ว่าเขาได้รับคำสั่งให้ทำตาม แต่เขาก็กลับไม่เต็มใจที่จะทำเช่นนั้น กระทั่งยังพยายามแนะนำสั่งสอนสุดกำลัง หลังจากแนะนำไม่เป็นผลแล้ว เขาก็ได้แต่ทำในสิ่งที่เขาสามารถทำได้บางอย่างสุดความสามารถเท่านั้น ดังนั้น...” ก่อนที่เขาจะจบคำพูดของเขา ก็ถูกเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งขัดจังหวะขึ้นแล้ว “หุบปาก แท้จริงเขาเป็นคนถ่อยต่ำต้อยที่น่ารังเกียจคนหนึ่ง เขาคิดว่าเขาทำแบบนี้ ก็จะสามารถชดเชยบาปกรรมความผิดที่เขาเคยก่อไว้ได้หรือ? ต่อให้ตายแล้วทิ้งเข้าไปในนรกชั้นที่สิบแปดก็ไม่มีวันได้ชดใช้หมดสิ้น” ชายชราเห็นสภาพอารมณ์เขาจู่ ๆ เปลี่ยนเป็นพลุกพล่านแบบนี้ จึงตกใจมากอย่างเห็นได้ชัด เดิมเขาถามเขาเรื่องเหล่านี้ ก็ทำให้เขารู้สึกไม่สามารถเข้าใจได้ ตอนนี้เขายังจู่ ๆ กลายเป็นพลุกพล่านมากเช่นนี้ หรือว่าเขายังมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือ? “ข้า...ก็แค่พูดความจริงออกมาเท่านั้น ในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าเป็นใครและรู้ตัวตนของข้า ตอนนี้ข้าบอกความจริงแก่เจ้า แต่เจ้ากลับไม่ยอมเชื่อ ข้าหลอกลวงเจ้ามีประโยชน์อันใดอีก? ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะความเมตตาของจางไท่ซือและความช่วยเหลือที่ได้รับจากเขามาหลายปีนี้ ข้าคงได้ตายไปนานแล้ว” ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่สามารถทำให้เขาเข้าใจจางไท่ซือผิดไปแล้วน่ะ คาดว่าผู้ชายในชุดสีขาว ได้พบว่าอารมณ์ของตนดูเหมือนได้เผยออกมาชัดเจนมากเกินไปบ้าง ซึ่งก็ไม่ควรยิ่งแล้วจริง ๆ เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ไปคำ หลังจากนั้นกล่าวว่า “เจ้ายังรู้อะไรบอกทุกอย่างที่เจ้ารู้ทุกอย่างออกมาให้หมด” แต่ตามปฏิกิริยาตอบสนองของเขาเมื่อครู่ ชายชรามีการตัดสินใจคร่าวๆในจิตใจของเขาแล้ว ดูเหมือนว่าเกี่ยวกับตำหนักจิ๊วซาเป็นพรรคกบฏในอดีตราชสำนัก กลับไม่ใช่เรื่องข่าวลือที่แพร่ออกมาโดยไม่มีมูลความจริง มิฉะนั้นจู่ ๆ เขาก็ถามเขาเรื่องเหล่านี้ทำไม? “จางไท่ซือไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตข้าแล้ว แต่ยังช่วยขุนนางที่ใจดีมีความสุขกับการช่วยเกื้อกูลในเวลานั้นบ้าง คิดว่าคนเหล่านั้นก็ต้องเป็นเหมือนข้าปิดบังชื่อแซ่หายไปในโลกนี้แต่ยังใช้วิธีการดำรงชีวิตที่แตกต่างกันในอีกรูปแบบหนึ่งน่ะ” ผู้ชายในชุดขาวไม่ฟังอีกต่อไปแล้ว เขาลุกขึ้นยืนทันที เค้าหน้าที่สวยงามที่สุดในเวลานี้เต็มไปด้วยชี่พิฆาตอันหนาวเหน็บ แววตาก็เย็นยะเยือกน่ากลัว “พอแล้ว ไม่ต้องพูดต่อไปแล้วต่อให้สิ่งที่เจ้าพูดเป็นความจริงเขาทำแบบนี้ ก็เพราะเขารู้สึกผิดละอายแก่ใจ คิดอยากได้ความปลอบประโลมใจเท่านั้น สถานภาพที่เขาอยู่ในตอนนี้ มาจากการเหยียบย่ำโลหิตของชาวแคว้นแย่มากมายเท่าไรที่ได้สั่งสมกองขึ้นมา คนแบบเขานี้ไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ถ้าเจ้าเป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์คนหนึ่ง ก็ต้องรู้ว่าตนเองไม่ควรเข้าร่วมกับโจรกบฏ” ใช่ซิ สำหรับแคว้นแย่จางไท่ซือเป็นโจรกบฏจริงๆ ครั้งแรกก็เป็นเขาร่วมมือกับฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งราชวงศ์หนานหชู่ จึงได้นำไปสู่การล่มสลายของแคว้นแย่ ในใจเขาไหนเลยไม่โกรธแค้น? เดิมคิดว่าเขามาวันนี้ ก็จะรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์บางอย่างแต่ไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เขาได้รู้ในวันนี้ เป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถยอมรับได้จริง ๆ อย่างสิ้นเชิง ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาได้ตั้งข้อกล่าวหาแก่จางโม่เย้นแล้ว เขาไม่เคยคิดว่าเขายังมีความเป็นมนุษย์อะไรอีกต่อไปเมื่อเขาเป็นโจรกบฏ คนทรยศร่วมมือกับศัตรูเป็นไส้ศึกหักหลังประเทศชาติ โทษสมควรตายหมื่นครั้ง แต่คาดไม่ถึง เขาได้ช่วยชีวิตแพทย์หลวงหลี่ ยังได้รู้จากปากของเขาว่าเขาได้ช่วยชีวิตขุนนางที่สำคัญคนอื่น ๆ อีกหลายคน ซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่เขาได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงยอมรับไม่ได้ “เรื่องวันนี้ถ้าเจ้ากล้าแพร่งพรายต่อผู้อื่นแม้สักครึ่งคำไม่ว่าจะเป็นเจ้าหรือตระกูลจาง ข้าผู้เปี่ยมบารมีต้องให้เจ้าตายโดยไร้ที่ฝังศพ” ทิ้งคำเตือนหนึ่งประโยคเช่นนี้ไว้ เงาร่างชุดขาวสง่างามก็ได้หายไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว ท่าทีสายตาของเขาเมื่อครู่นั้น ทำให้คนรู้สึกหนาวเหน็บเข้าไปถึงไขกระดูก ในเวลานี้เขาเป็นเหมือน “เทพสังหาร”ที่กุมความเป็นความตายของมนุษย์ทุกคนจริง ๆ มองดูเงาหลังที่เขาจากไป ผู้เฒ่าได้แต่เพียงทอดถอนหายใจคราหนึ่ง ตอนนี้เขาไม่ได้ต้องการอะไรอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประเทศหรือความโกรธแค้นของตระกูล นั่นล้วนเป็นสิ่งที่ผ่านไปนานแล้ว บางทีเวลาสามารถเปลี่ยนทุกอย่างได้จริง ๆ แม้แต่สภาวะจิตใจอารมณ์ของมนุษย์ หลายปีนี้ เขาได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านภูเขาเล็ก ๆ แห่งนี้มาตลอด เผชิญหน้ากับชาวบ้านที่เรียบง่ายเหล่านี้ เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสาบและภูเขาจิตใจนี้ก็ได้สงบลงในที่สุด ถ้าทุกคนสามารถทำเช่นนั้นได้แล้ว ถ้าเช่นนั้นจะไม่มีการต่อสู้แย่งชิงวางแผนกุมอำนาจเหล่านั้น ใคร่ได้ผลประโยชน์มัวเมาในโลกียะ ใต้หล้านี้สงบสุข ประชาทวยราษฎร์ก็สามารถใช้ชีวิตที่เงียบสงบและมีความสุข แต่นี่กลับเป็นเพียงความหวังสูงส่งของเขาคนเดียวเท่านั้น บอกไม่ได้ว่าเป็นเวลาใด วันนี้จึงเปลี่ยนแล้วจริงๆ ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร แต่เขาเพียงหวังว่าสิ่งเหล่านั้นที่เขาได้พูดไปเมื่อครู่ จะช่วยให้เขาคลี่คลายความโกรธแค้นเกลียดชังไปได้ ... ม่านอันอบอุ่นลายดอกพุดตาน ทั่วห้องเต็มไปด้วยสีสันยามวสันต์ ในม่านบางเบา เสียงหอบหายใจอย่างแผ่วเบาและเสียงครางอู้อี้ของหญิงสาวดังมา “อย่า...” จางยวี่โหร่วอดไม่ไหววิงวอนขอร้องความเมตตาแต่เห็นได้ชัดว่าผู้ชายบนร่างไม่เต็มใจที่จะปล่อยนาง ไม่รู้ว่าทำไม ในวันนี้ เขาจึงได้แตกต่างอย่างมากกับวันอื่น ๆ เมื่อครู่ที่กลับมา ก็ไม่กล่าววาจากอดนางไว้แน่น นางเพิ่งเริ่มถามเขาไปประโยคหนึ่ง จูบของเขาก็ได้ระดมลงมาแล้ว หลังจากนั้นก็กดนางลงไปบนเตียงโดยตรง ลักษณะเขาดูเหมือน...อารมณ์ไม่ค่อยดี หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วหรือ? ความคิดนี้เพิ่งแวบผ่านเข้ามาในห้วงสมอง เขาก็ไม่ได้ให้โอกาสนางไปครุ่นคิดต่อไปอีก วันอื่น ๆ เขายังรู้จักว่าสิ่งใดเรียกว่าความอ่อนโยนควบคุมตนเอง แต่ดูเหมือนว่าวันนี้เขากลับสูญเสียสติสัมปชัญญะไปหมดในทันใด เพียงรู้จักครอบครองนางอย่างอำมหิตเท่านั้น ราวกับเพียงคิดระบายความใคร่ของตนเองบนร่างนางเท่านั้น หรือถึงกับกล่าวได้ว่าระบายอารมณ์บางชนิด นางไม่ได้เสพสุขเลยตั้งแต่ต้นจนจบ เพียงรู้สึกตนเองเจ็บปวดมาก แต่เขากลับไม่ใส่ใจความรู้สึกของนางทั้งสิ้น และไม่ได้สนใจเห็นใจในการร้องไห้วิงวอนร้องขอความเมตตาของนางทั้งสิ้น คิดจะต้านขัดขืน มือทั้งคู่กลับถูกเขาล็อกไว้บนศีรษะอย่างแน่นหนา นางไม่มีช่องว่างเหลือที่จะต่อต้านอย่างสิ้นเชิง “เจ็บมาก...” น้ำตาร่วงลงมาจากหางตาของนางหยดหนึ่ง จูบของเขาระดมลงไปบนตัวนาง ที่แท้ก็คือกำลังขบกัดทิ้งรอยเขียวอมม่วงบนผิวบอบบางของนางเป็นเส้น ๆ ถึงกับมีบางแห่งแฝงเลือดฝอย วันนี้เขาน่ากลัวมาก ผิดปกติแทบไม่ใช่บุคคลแต่เป็นสัตว์ป่าดุร้ายตัวหนึ่ง จางยวี่โหร่วไม่สามารถหยุดเขาได้อย่างสิ้นเชิง เพียงแต่รู้สึกเสียใจมาก พระสวามีของตนเองยึดถือนางเป็นเครื่องมือสำหรับระบายอารมณ์และความใคร่ชิ้นหนึ่ง สำหรับนางกล่าวไปแล้วที่เจ็บปวดที่สุดไม่ใช่ร่างกายแต่เป็นหัวใจ ในสภาพจิตใจที่สิ้นหวังเช่นนี้ ในที่สุดนางก็หมดสติไปแล้ว รอจนเขาได้ระบายความใคร่ของตนเสร็จสิ้นในที่สุด มองดูหญิงสาวที่ถูกเขาทำลายป่นปี้ยับเยินจนทนดูไม่ได้ข้างใต้ร่าง เขาเพียงรู้สึกว่าสมองของตนว่างเปล่าไปแถบหนึ่ง ระเบิดตูมดังสนั่น ที่แท้เขาได้ทำอะไรไปแล้ว แม้ในใจจะรู้สึกไม่พอใจไปอีกอย่างไร ไหนเลยสามารถระบายความอัดอั้นคับข้องใจของตนไปบนร่างของหญิงสาวคนหนึ่งได้อีก แต่กล่าวไปแล้ว ผู้หญิงผู้หญิงตระกูลจาง เดิมไม่ใช่มีไว้ให้เขาระบายหรอกหรือ? แม้ว่าให้นางยอมรับสิ่งเหล่านี้ ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
已经是最新一章了
加载中