ตอนที่ 199 สี่ประเทศอภิเษกสมรสเชื่อมสัมพันธ์

ต๭นที่ 199 สี่ประเทศอภิเษกสมรสเชื่อมสัมพันธ์ ข่าวเรื่องฮ่องเต้ทรงประชวรหนัก ในไม่ช้าก็ไม่สามารถปิดบังได้แล้ว มาถึงขั้นนี้ ดูเหมือนการปิดบังซ่อนเร้นไม่ได้มีความหมายอะไรอีก ฮ่องเต้ไม่ออกว่าราชการมาหลายวัน เหตุการณ์สำคัญของบ้านเมืองถูกกองทิ้งไว้ไม่มีใครจัดการ ถ้าหากพระวรกายสุขภาพดีจริงแล้ว ไฉนจึงเป็นเช่นนี้อีกน่ะ? ในที่สุด ราชวงศ์ก็ปล่อยข่าวออกมาแล้ว องค์ชายสองเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน องค์ชายสามเป็นผู้ช่วย พระราชกฤษฎีกาประกาศออกมา ทั้งราชสำนักก็วุ่นวายไปทั่วทันที คิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้ทรงประชวรหนักขนาดนั้นจริง แต่ถ้าให้องค์ชายสองเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน ถ้าเช่นนั้นไยมิใช่หมายความว่าต้องการให้องค์ชายสองเป็นองค์รัชทายาทโดยตรงหรอกหรือ? คราวนี้ ขุนนางใหญ่ที่ได้กบฏและสนับสนุนองค์ชายสามแล้ว ในใจก็ได้กลัวอีก เพียงแค้นที่ตนเองยืนผิดแถวไปแล้ว ตอนนี้ ต้องทำอย่างไรอีกกันดีน่ะ? เพียงแต่ตอนนี้พวกเขาไม่ได้มีเวลาที่จะไปกังวลปัญหานี้แล้ว เพราะมีเรื่องใหญ่อีกเรื่องที่กำลังใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว ถนนใหญ่เทียนเจ๋อนี้ สี่อาณาจักรเก้าทวีป สี่อาณาจักร คือ แคว้นเย่น แคว้นเซียว หนานหชู่ และแคว้นเหลียง แรกเริ่มขณะที่แคว้นแย่ยังอยู่ก็สนิทกับแคว้นเหลียงมาก แต่ต่อมาภายหลังเกิดสงครามขึ้น แคว้นเหลียงกลับชิงตีตนออกห่าง มองดูแคว้นแย่ตกเข้าสู่ทางตัน จนกระทั่งถูกตีเมืองแตก ประเทศล่มจมครอบครัวสูญเสีย ตามคำร่ำลือว่าพระมเหสีแคว้นเหลียงและพระมเหสีแคว้นแย่เคยเป็นเพื่อนสนิทในเรือนหอ พวกนางเคยได้ตกลงสัญญากันไว้ ในอนาคตลูกของพวกนางหลังจากที่กำเนิดมาแล้ว จะอภิเษกสมรสเป็นครอบครัวเดียวกัน เนื่องจากมีความสัมพันธ์ดังกล่าวนี้แล้ว ทำไมเมื่อแรกที่แคว้นเย่น แคว้นเซียวสองประเทศจู่โจมแคว้นแย่ แคว้นเหลียงกลับไม่ยื่นมือออกช่วยเหลือน่ะ? มีคนกล่าวว่า เพราะเวลานั้นได้สายเกินไปแล้ว แคว้นแย่ถูกทำลายอย่างรวดเร็วเช่นนี้ เพราะมีคนทรยศที่ไม่เพียงแต่ส่งข่าวให้ศัตรู แต่ยังเปิดประตูเมืองให้ทหารของศัตรูเข้ามาในเมือง แม้ว่าแคว้นเหลียงคิดจะช่วยเหลือ ก็มีใจไร้เรี่ยวแรง มีคนบอกว่าแคว้นเหลียงมีกำลังทหารอ่อนแอที่สุดในทั้งสี่อาณาจักร ถ้าพวกเขาส่งทหารออกไป ถ้าเช่นนั้นพวกเขาก็ล่วงเกินแคว้นเย่นและแคว้นเซียวโดยตรง ไม่เพียงแต่ไม่สามารถช่วยแคว้นแย่ แต่กระทั่งตัวเองก็ต้องติดพันเข้าไปด้วย แคว้นเหลียงตั้งอยู่ในชายแดนภาคเหนือ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นถิ่นทถรกันดารทะเลทรายโกบี รกร้างมาก ซึ่งเป็นเหตุผลที่แม้ว่าแคว้นเหลียงอ่อนแอแต่ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นหนามในดวงตาของแคว้นเย่นและแคว้นเซียวทั้งสองประเทศ ถ้าต้องใช้จ่ายเงินกำลังทหารก่อสงคราม ในที่สุดกลับเก็บเกี่ยวสถานที่ที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้ นั่นไม่คุ้มค่าเกินไปแล้ว ดังนั้นนี่คือเหตุผลหลักที่แคว้นเหลียงมีความมั่นคงตลอดในเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ ในเมื่อเริ่มแรกแคว้นเหลียงคิดต้องการที่จะอยู่ห่างจากปัญหา ถ้าเช่นนั้นก็ต้องพัฒนาแบบนี้ต่อไปตลอด แต่ในเวลานี้ พวกเขากลับได้สร้างชื่อใหม่ออกมาชื่อหนึ่ง แคว้นเย่นและแคว้นเซียวทั้งสองประเทศจู่ ๆ ได้ปลุกระดม “สนธิสัญญายุติสงคราม” โบกสะบัดธงอภิเษกสมรสเชื่อมสัมพันธ์ คิดจะสร้างสันติภาพกับหนานหชู่ หลายปีมานี้ พวกเขาพยายามคิดจะกลืนหนานหชู่มาตลอด สงครามก็ได้รบกันมานานหลายปีเช่นนี้แล้ว ทั้งสองฝ่ายได้มาถึงจุดเจ้าตายข้ารอดอย่างสิ้นเชิง คาดไม่ถึงเวลานี้พวกเขากลับยังวิงวอนขอสันติภาพ นี่แทบจะเป็นเรื่องตลกทั่วใต้หล้า แต่ถึงรู้ชัดว่าเป็นกับดัก พวกเขากลับมิอาจไม่ยอมรับ ไม่ว่ายังไงก็ต้องให้คำอธิบายแก่ราษฎรเถิด ใครบ้างที่ไม่หวังให้ทั่วหล้าสงบสุข ไม่มีสงครามหรือการฆ่าฟัน ถ้าพวกเขาไม่ยอมรับ “สนธิสัญญายุติสงคราม” ถ้าเช่นนั้นประชาชนต้องบ่นต่อว่าเนืองแน่นเป็นธรรมดา แคว้นเย่นและแคว้นเซียวเพื่อแสดงความจริงใจ ได้ส่งโอรสและองค์หญิงตนเองมาเพื่อเยี่ยมเยียนและอภิเษกสมรส จัดอภิเษกสมรสเชื่อมสัมพันธ์สี่อาณาจักร ทั้งยังดึงแคว้นเหลียงมาด้วยกัน แคว้นเหลียงอ่อนแอ ไม่กล้าต่อต้าน ได้แต่เชื่อฟังและทำตามเท่านั้น ที่มากันครั้งนี้ มีองค์ชายใหญ่แคว้นเย่น องค์หญิงสามแคว้นเซียว และองค์หญิงใหญ่แคว้นเหลียง หนานหชู่ได้มีปัญหาภายในและภายนอกแล้ว ตอนนี้คาดไม่ถึงว่ายังมี “พระพุทธรูปที่ยิ่งใหญ่” สามองค์เช่นนี้มาแล้ว ที่แท้มีใจคิดปองสิ่งใดน่ะ? ... เมื่อจางยวี่โหร่วได้ยินเรื่องนี้แล้ว แน่นอนก็รู้สึกว่าไม่ได้ง่ายอย่างนั้น องค์ชายองค์หญิงเหล่านี้มา เพื่อค้นหาความลับของหนานหชู่ ยังจงใจใส่ร้ายป้ายสี คิดเร้าให้เกิดสงคราม อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่นางสามารถแน่ใจ นี่ต้องไม่ใช่เรื่องดีอะไรเด็ดขาด ดูเหมือนว่านางต้องคิดหาวิธีป้องกัน ตอนนี้องค์ชายสองตรวจการแผ่นดิน ตระกูลจางช่วยเต็มที่ นางต้องให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่เกิดเรื่องเด็ดขาด ยามวิกาล ถึงเวลาที่จะเข้านอน แต่นางกลับพลิกไปมา ทำอย่างไรก็ไม่สามารถนอนหลับได้ เพราะนางรู้สึกว่าพายุคลื่นลูกหนึ่งกำลังจะมาถึงอีกแล้ว นางเคลื่อนไหวไปมาดังกล่าว ย่อมส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของผู้อื่นที่นอนอยู่ข้าง ๆ แน่นอน ในที่สุด เขาก็ทนไม่ได้ จับโอบเอวของนางไว้ และกดนางลงไว้ใต้ร่าง “เมื่อครู่เปิ่นหวังคิดอยากสัมผัสเจ้า เจ้าก็ตะโกนว่าเหนื่อยจึงได้ปล่อยเจ้าไป ตอนนี้เปิ่นหวังกลับเห็นเจ้ามีชีวิตชีวามากน่ะ” นังหนูนี่รู้หรือไม่ว่า ร่างปานหยกอ่อนนุ่มอบอุ่นในอ้อมอกร่างหนึ่งคิดอยากสัมผัสกลับไม่สามารถสัมผัสเป็นรสชาติใด นางเคลื่อนไหวอย่างไร้สำนึกที่เขานี่ ล้วนเป็นความเย้ายวนทนโท่น่ะ “ไม่ใช่..ข้าเหนื่อยมาก แต่ข้านอนไม่หลับอีกแล้ว” นางก็ไม่มีทางเลือกอื่นน่ะ “ทำไมเจ้าถึงนอนไม่หลับ หรือว่าเจ้ามีอะไรในใจ?” จางยวี่โหร่วพยักหน้า หลังจากนั้นมองไปที่เขา กล่าวว่า “ข้ากำลังคิด พวกเขาได้ส่งองค์ชายและองค์หญิงมาอภิเษกสมรส คิดสานสัมพันธ์เรื่องดีงามสันติภาพนับร้อยปี พวกเขานี่เป็นอีเห็นมามอบของขวัญปีใหม่ให้แก่ไก่ ดุจคนชั่วมามอบของบางสิ่งให้ เพราะมุ่งหวังสิ่งตอบแทนที่ล้ำค่ากว่าอย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่ข้าคิดไม่ออก เป้าหมายที่พวกเขาทำเช่นนี้เพราะอะไร? หลายปีมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างหนานหชู่และพวกเขาล้วนเป็นชักดาบปะกันน้าวเกาทัณฑ์ต่อกัน ความทะเยอทะยานของพวกเขาเห็นได้ชัดเจน ถ้าพวกเขาต้องสู้กันตามพละกำลังที่แท้จริงของพวกเขา หนานหชู่อาจจะไม่สามารถต้านรับไว้ได้ ไฉนพวกเขาต้องมีเคลื่อนไหวมากขึ้นอีกครั้งเล่าน่ะ?” ที่แท้ นางกำลังกังวลเรื่องนี้ ผู้ชายมองนางด้วยสายตาที่สดใส “ทำไม เจ้ากังวลเรื่องการอยู่รอดของหนานหชู่? เปิ่นหวังไม่รู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่เจ้าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งควรกังวล?” “ข้าไม่ควรคิดมากเช่นนี้ ไม่สำคัญหรอกว่าหนานหชู่จะอยู่รอดหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับข้าใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ข้าต้องการที่จะปกป้องครอบครัวของข้า ถ้าหนานหชู่ถูกโค่นล้างทำลายสิ้นแล้ว ถ้าเช่นนั้นพ่อแม่และครอบครัวของข้า พวกเขาควรทำอย่างไรดี?” ตามนิสัยจงรักภักดีรักชาติปานนั้นของปู่นาง ถึงเวลาเขาต้องต่อสู้กับศัตรูสุดชีวิตเจ้าตายข้ารอด แม้กระทั่งพลีชีพเพื่อชาติ เดิมทีนางกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เพียงต้องการที่จะแก้แค้นเป่ยจื่อห้าว เพื่อให้เขาไม่อาจได้ตายดี แต่เรื่องเกิดขึ้นมากเกินไป ถึงกับหลายอย่างอยู่นอกเหนือการควบคุมของนางแล้ว เพราะก่อนหน้านี้นางไม่ได้คิดเรื่องปัญหาของศัตรู นางมีวิสัยทัศน์ที่เล็กเกินไป และเรื่องราวได้พัฒนา กลับเหมือนก้อนหิมะที่ยิ่งกลิ้งยิ่งโตขึ้นไม่ได้เป็นผู้หญิงเล็ก ๆ คนหนึ่งสามารถควบคุมได้ “เจ้าเคยได้ยินประโยคที่เรียกว่า “ฮวงจุ้ยเปลี่ยนผันหมุนวนไป” บางทีนี่อาจเป็นหายนะของหนานหชู่และผลกรรมของพวกเขา” กรรมตามสนอง กรรมตามสนองอะไร?! สีหน้าจางยวี่โหร่วเปลี่ยนไปทันที ถลึงตาโตจ้องมองเขา “วาจานี้ของเจ้าหมายถึงอะไร?” “ไม่มีอะไร ข้าแค่รู้สึกว่ามีเหตุมีผลมีเวียนว่ายตายเกิด อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจคำหนึ่งแล้ว วุ่นวายนี่ ช้าเร็วต้องวุ่นวายขึ้นมา เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น ความนัยในเรื่องนี้ เขารู้ชัดเจนดีมากจริง ๆ เมื่อแรก ฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งหนานหชู่ได้ร่วมมือกับศัตรูทรยศประเทศ หักหลังแค้วนแย่ สัญญากับแคว้นเย่น แคว้นเซียวสองประเทศได้รับประโยชน์มากมาย หลังจากที่ได้สืบทอดราชบัลลังก์แบ่งดินแดนชดใช้เมือง จึงได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขา แต่ตอนนี้ ลูกหลานชนรุ่นหลังของเขา กลับได้เดินในทางเดิมของเขา แผนการครั้งนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเป่ยจื่อห้าวอย่างหลุดไม่พ้นจากความสัมพันธ์อย่างสิ้นเชิง