ตอนที่ 79 เราสามคน ต้องอึดอัดใจ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 79 เราสามคน ต้องอึดอัดใจ
ต๭นที่ 79 เราสามคน ต้องอึดอัดใจ หลังจากซือซือพูดจบ เธอก็ไม่สนว่าผู้ชายคนนั้นจะว่ายังไง เธอเตรียมตัวหันหลังเพื่อที่จะจากไป สะอิดสะเอียนหรอ ตอนนี้เขาทำให้เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างนั้นเรอะ สายตาถังฉีตงเต็มไปด้วยคำพูดเยาะเย้ยตัวเอง ร่างสูงโน้มเอียงไปพิงประตูใหญ่ มองเงาที่ต้องการอย่างแน่วแน่ที่จะไป ซือซือบอกกับตัวเองว่าเธอจะใจอ่อนไม่ได้ อย่าทำผิดพลาดซ้ำสอง ไม่ว่าเธอจะเช็ดไปแล้วกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง น้ำตาของเธอก็ไม่สามารถหยุดไหลออกมาได้ ในที่สุดเธอก็หลุดออกมาจากหุบเหวนั้นแล้ว เธอไม่ต้องการที่จะหวนระลึกถึงวันคืนอันเจ็บปวดเหล่านั้นอีก ซือซืออารมณ์ไม่ได้จึงพาตัวเองไปดื่มที่บาร์ หลังจากเมาแล้วเธอก็โซเซกลับไปที่อพาร์ทเม้นต์ของตัวเอง เธอเหลือบไปมองที่ห้องของเป้ยฉ่ายเวยและรุ่ยรุ่ย เธอเดินเรื่อยเปื่อยไปจนถึงห้องของตนเอง เธอเขียนโน้ตหาเวยเวยเงียบๆ เพื่อที่ล่อถังฉีตงออกไปเธอใช้พละกำลังเป็นอย่างมาก พรุ่งนี้ พรุ่งนี้เวยเวยจะต้องชดเชยให้กับเธอ เมื่อถึงเวลาตื่นตอนเช้า เป้ยฉ่ายเวยเห็นรองเท้าที่ซือซือถอดอยู่ที่หน้าประตู เธอคิดว่าหล่อนน่าจะกลับมาดึก ถึงได้ไม่เคาะประตูเรียกเธอ รุ่ยรุ่ยลูบใบหน้าอันง่วงเหงาหาวนอนของเขา และพูดขึ้นด้วยเสียงไร้เดียงสา “แม่ครับ วันนี้ต้องไปโรงเรียนแล้วหรอ” เป้ยฉ่ายเวยละสายตากลับมา เธอลูบหัวเขาและพูดว่า “อื้อ แม่จะไปทำอาหารเช้า รุ่ยรุ่ยไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเองได้ไหมครับ” “อื้อ ไม่มีปัญหา” รุ่ยรุ่ยสวมรองเท้าในบ้านรูปเป็ดน้อยสีเหลืองน่ารัก “แต๊กแต๊กแต๊ก” เสียงวิ่งกลับไปที่ห้อง เป้ยฉ่ายเวยยิ้มแล้วยิ้มอีก เธอหยิบผ้ากันเปื้อนมาเพื่อเตรียมทำอาหารเช้าให้รุ่ยรุ่ย เมื่อเธอทำอาหารเสร็จ รุ่ยรุ่ยก็นั่งอยู่ที่เก้าอี้อย่างเรียบร้อยแล้ว เห็นเขาทั้งน่ารักทั้งสับสน เป้ยฉ่ายเวยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามันช่างน่าขัน “ปัง”เสียงประตูห้องนอนเปิดออกจากทางด้านใน ซือซือสวมชุดนอนเดินออกมา เธอเห็นเป้ยฉ่ายเวยถืออาหารเช้าอยู่ในมือ ก็พูดขึ้นอย่างเกียจคร้าน “เวยเวย เตรียมให้ฉันด้วยอีกที่ ฉันหิวแล้ว” “วางใจเถอะ ฉันเตรียมไว้ให้เธออีกชุดแล้ว ตื่นมาทานด้วยกันพอดีเลย” ซือซือพยักหน้าและเดินผ่านเป้ยฉ่ายเวยไป “คุณป้า เหม็นเหม็น” รุ่ยรุ่ยขมวดคิ้วและบีบจมูก เป้ยฉ่ายเวยหันไปทางห้องน้ำอย่างกังวล ตัวซือซือยังมีกลิ่นเหล้าแรงมาก จนถึงเช้าแล้วยังไม่จางหายไป เมื่อวานหล่อนดื่มเข้าไปมากขนาดนี้ ใจเธอยังคงเป็นห่วงเพื่อน เธอนำอาหารเช้าไปวางไว้บนโต๊ะและพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “รุ่ยรุ่ยทานเองก่อนนะครับ เดี๋ยวแม่มา” “อื้อ” รุ่ยรุ่ยพยักหน้า เป้ยฉ่ายเวยยังคงไม่วางใจซือซือ เมื่อเธอเดินไปที่ประตูห้องน้ำก็ได้ยินเสียงหล่อนอาเจียน เธอจึงรีบเคาะประตูอย่างเร่งรีบ “ซือซือ เธอไม่เป็นไรนะ เปิดประตูให้ฉันเข้าไปหน่อย” เสียงชักโครกด้านในดังขึ้น ไม่นานนักก็มีคนมาเปิดประตูและพูดขึ้นอย่างเกียจคร้าน “เวยเวยเช้าตรู่ก็ยังจะไม่ให้คนเข้าห้องน้ำอีกหรอ” เป้ยฉ่ายเวยมองดูซือซือที่พิงประตูอยู่ครึ่งตัวอย่างสงบนิ่ง “อย่ามาแกล้งทำเลย เกิดอะไรขึ้นเมื่อวานถึงได้ดื่มเยอะขนาดนี้” “ฉันจะเป็นไรได้ แค่ล่อถังฉีตงออกไป แต่ฉันต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก เธอต้องชดเชยให้ฉัน” ซือซือเดินไปที่อ่างล้างหน้าและถือแปรงสีฟันด้วยมือเดียว และบีบยาสีฟันลงไปเล็กน้อย แปรงฟันและมองกระจก “ซือซือ ถ้าเธอไม่เป็นไรคงจะไม่…” เมาเละกลับมาเหมือนตอนที่ถังฉีตงจากไปเมื่อแปดปีก่อน ทำให้คนเป็นห่วงนัก “ฉันไม่ได้เพิ่งเคยเมาเป็นครั้งแรก ไม่ต้องทำมาเป็นตกอกตกใจหรอกน่า เธอออกไปก่อนฉันจะแปรงฟัน เดี๋ยวค่อยว่ากัน” ซือซือเร่งเป้ยฉ่ายเวยให้ออกไป เธอกลั้วน้ำและบ้วนน้ำในปากออกมา เป้ยฉ่ายเวยเห็นเธอไม่เต็มใจจะพูดก็ไม่อยากจะฝืน เธอหันหลังจะเดินออกไป ให้หล่อนได้อยู่ตามลำพัง ซือซือจ้องมองผู้หญิงที่แทบจะไม่ได้นอนในกระจกและถอนหายใจออกมา เธอเป็นเหมือนหญิงแก่ ไม่สามารถสู้สาวๆได้แล้วล่ะ ไม่ได้นอนเพียงแค่คืนเดียว ใบหน้าก็กลายเป็นน่าเกลียดเหลือเกิน ดูเหมือนว่าเธอควรจะทำตามความปรารถนาของชายชราแต่งงานและมีลูกซะ เป้ยฉ่ายเวยดูแลจัดการให้รุ่ยรุ่ยทานอาหารเสร็จแล้ว ซือซือจึงกลับมานั่งที่เก้าอี้และเริ่มทานอาหารเช้า “ฉันไปส่งรุ่ยรุ่ยที่โรงเรียนก่อน ที่เหลือเธอจัดการเลยนะ” เป้ยฉ่ายเวยหยิบกระเป๋านักเรียนออกมาจากห้อง “รู้แล้วน่า” ซือซือพูดและโบกมือ เป้ยฉ่ายเวยมองหล่อนอย่างอดไม่ได้และได้แต่พารุ่ยรุ่ยเดินออกไป โรงเรียนอนุบาลอยู่ไม่ไกลจากที่พักของซือซือนัก เป้ยฉ่ายเวยพารุ่ยรุ่ยเดินไปสิบนาทีก็ถึง “รุ่ยรุ่ย ตอนเย็นแม่มารับนะครับ ถ้ามีอะไรก็บอกกับคุณครูนะครับ รู้ไหม” “แม่ ผมรู้แล้ว แม่รีบไปเถอะ ผมจะเข้าเรียนแล้ว” รุ่ยรุ่ยพูดพร้อมโบกมือน้อยๆให้ ก่อนที่จะไปเป้ยฉ่ายเวยกระซิบบอกเขาและไม่สบายใจที่จะจากไป เป้ยฉ่ายเวยกลับมาที่อพาร์ทเม้นต์หลังจากที่ส่งรุ่ยรุ่ยเสร็จ เธอเห็นซือซือนั่งอึนอยู่บนโซฟา หล่อนหยิบรีโมทมาเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยๆ “ซือซือ วันนี้เธอไม่ออกไปไหนหรอ” โดยปกติแล้วเธอแทบจะไม่อยู่บ้าน “ไม่อยากไปไหน วันนี้ฉันอยากอยู่บ้าน” ซือซือพูดโดยไม่เงยหน้า ทั้งสองสนทนากันไปมา “เวยเวย ตอนนี้เธอถูกพักงานแล้วจะทำอะไร” “หางานใหม่” เป้ยฉ่ายเวยพูดตามความจริง เธอไม่โง่พอที่จะรอผลการประเมิน ไม่รู้ว่าต้องรอถึงปีไหน “จะว่าไป เงินเดือนงานนั้นของเธอก็ไม่เลว แต่ว่าทุกวันก็เหนื่อยสายตัวแทบขาดถ้าอย่างนั้นสู้ไม่ทำดีกว่า แบบนี้ก็ดีแล้ว ฉันไม่ต้องบอกก็ไม่ต้องไปแล้ว” อยู่ๆซือซือก็รู้สึกสนุก หล่อนลุกขึ้นจากโซฟา ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองเธออย่างสดใส “เวยเวยเธอจะหางานใหม่ไม่ใช่หรอ” “อื้อ เธอมีคำแนะนำอะไรไหม” เป้ยฉ่ายเวยเปิดแท๊บเล็ต เพื่อต้องการดูว่ามีงานอะไรน่าสนใจบ้างและส่งเรซูเม่ออกไปบ้าง “มีสิมีสิ” ซือซือพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “พี่ทำงานพี่ชายฉันกำลังหาเลขาอยู่ ทำไมเธอไม่ไปทำกับพี่ชายฉันล่ะ” เป้ยฉ่ายเวยหยุดการเคลื่อนไหว หล่อนมองไปที่ซือซือด้วยความตื่นเต้น และพูดกับหล่อนด้วยความงงงวย “ซือซือ ทำไมเธอถึงอยากให้ฉันไปหาพี่เฮ้าล่ะ เธอมีแผนไม่ซื่ออะไรอยู่รึเปล่า” “เปล่าซะหน่อย ฉันก็หวังดีกับเธอตลอดไม่ใช่หรอ” เธอแสดงออกอย่างชัดเจนขนาดนั้นเลยหรอ เป้ยฉ่ายเวยมองเธออีกครั้งอย่างสงสัย “ซือซือ เรารู้จักกันมานาน เธอคงไม่คิดทำอะไรไม่ดีกับฉัน ไม่กล้าพูดหรอ” “จะเป็นไปได้ยังไง ก็แค่เป็นเลขา จะไปยากอะไร พี่ชายฉันอยู่เธอยังกลัวมีปัญหาอีกหรอ” ซือซือพูดกระตุ้นขึ้นอีกครั้ง ในใจหล่อนคิดว่า พี่ชาย ฉันทำเพื่อพี่มากมายขนาดนี้ พี่ก็อย่าทำให้เสียเรื่องก็แล้วกัน “ในเมื่อเธอว่าอย่างนั้น แต่ว่าฉันไม่ต้องการใช้เส้นสายเพื่อเข้าไป มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ” ได้ทำงานในออฟฟิตก็เป็นเรื่องที่ดี เวลาเข้าออกงานก็ค่อนข้างแน่นอน เงินเดือนก็ไม่น้อย แต่ว่าไปทำงานกับพี่เฮ่า เป้ยฉ่ายเวยยังรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง 
已经是最新一章了
加载中