ตอนที่403 สัมผัสถึงกระดูก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่403 สัมผัสถึงกระดูก
ตอนที่403 สัมผัสถึงกระดูก ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ช่วงกลางนัชชาหมดสติไปเพียงครั้งเดียว รอให้เธอตื่นขึ้นมา คนนี้ถึงจะดำเนินการต่อ จนในที่สุด เธอต้องร้องขอความเมตตา “ฉันง่วงแล้ว อยากหลับแล้ว” “เธอก็หลับไปสิ” “...” เขาเป็นอย่างนี้ เธอจะนอนหลับได้อย่างไร นัชชาร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา รู้ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นนี้ ไม่รู้สึกเขินอายอีกต่อไป คอก็ตะโกนร้องบอกเขา “เตชิต ให้ฉันนอนเถอะ ฉันเหนื่อยมาก” “ถ้ามีความสามารถก็ช่วยทำให้ผมเร็วหน่อยสิ ถ้าทำไม่ได้ก็อดทนหน่อย” เขาพูดขณะที่จูบหน้าผากเธอเบาๆ แม้ว่าจะพูดจาอย่างไร้เหตุผลแต่ก็ยังพยายามเอาใจเธออยู่ ไม่ใช่ไม่สามารถควบคุม ไม่ใช่ไม่รู้สึกแย่กับเธอ แต่ความจริงแล้ว….มันใช้เวลานานเกินไป เขาเป็นคนธรรมดาที่มีความต้องการ แต่เขาคิดว่าสิ่งนี้ควรทำกับคนที่รัก ไม่มีการตอบสนองกับคนอื่น แม้แต่ปรัณก็บอกว่าเขาเป็นนักพรตออกบวชไปแล้ว มีแต่เขาเท่านั้นที่รู้ว่าเมื่อเขานึกถึงนัชชาเขาได้สัมผัสถึงกระดูก มันยากที่จะมีโอกาสนี้ในตอนนี้ มันอดไม่ได้จริงๆ นัชชาไม่รู้ว่าเธอถูกโยนไปแล้วกี่ครั้ง ในที่สุดเธอก็ง่วงแล้วจริงๆ ไม่เหลือความแข็งแกร่งในร่างกาย คนที่หมอบอยู่บนร่างของเธอก็เหมือนสัตว์ร้ายที่ไม่คิดจะเหน็ดเหนื่อย และไม่มีความตั้งใจที่จะหยุด เธอต่อสู้กับเปลือกตาตัวเอง แต่ร่างกายถูกโยกโดยเขาจนนอนไม่หลับ เธอเห็นแสงไฟเล็กน้อยลอดผ่านม่าน ในที่สุด เมื่อฟ้าใกล้สว่าง ในที่สุดเตชิตก็ได้ทานอาหาร ปล่อยให้เธอฉีกขาดหันมาเขาผ้าขนหนูมาเช็ดตัวเธอเบาๆ นัชชาหลับตาไปเข้าเฝ้าแล้ว ไม่มีความรู้สึกอะไรทั้งนั้น ชายคนนั้นมองดูหญิงสาวที่ใบหน้าจมลงในหมอน ใบหน้ายังแดงอยู่ปากบวมเปิดหายใจเข้าออกโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว หายใจเข้า หายใจออก…. เตชิตรีบถอนสายตาออกจากเธอโดยเร็ว กลัวว่าตัวเองได้กลายเป็นสัตว์ร้ายไปแล้ว หูของเขากลับมาดังก้องถึงคำที่เธอร้องอยู่ข้างหูว่าขอความเมตตาและเขากลับรู้สึกว่าน่าขัน เขาเอื้อมมือออกไปห่มผ้าให้เธอ “ราตรีสวัสดิ์” … ตื่นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เป็นเวลาสิบโมงกว่า นี่เป็นวันที่นัชชาตื่นสายมากครั้งหนึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมา เธอยื่นมือออกไปหยิบมือถือ แต่กลับสัมผัสถูกวัตถุที่เป็นแก้วที่รู้สึกเย็น เธอชะงักและหันไปมอง เป็นขวดไวน์แดงที่ยังไม่ได้เปิด เมื่อคืนเธอไม่ได้เอาเข้ามา นั่นต้องเป็นเตชิตที่เอาเข้ามาแน่ เธออดไม่ได้ที่จะเหม่อลอย คิดถึงรูปร่างส่วนโค้งเว้าของเขาบนเตียงเมื่อคืนนี้ ค่อยๆพยายามทำความเข้าใจ คนคนนี้ต้องการที่จะเล่นสนุก และโกรธที่ถูกเธอขังอยู่ที่ด้านนอกประตู ต่อมาพอยู่บนเตียงก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้ว เมื่อคิดถึงเมื่อคืน ก็นึกออกอย่างเป็นฉากที่ไม่ต่อเนื่อง นัชชาหน้าแดงขึ้นอีกครั้งและส่ายหัวพยายามกำจัดภาพที่ติดเรทออกไปจากหัวสมอง เธอวางมือทั้งสองอยู่บนเตียงเตรียมตัวที่จะลุก อย่างไรก็ตามเพียงแค่ขยับเท่านั้น ตรงนั้นก็รู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เธอทนไม่ได้และร้องออกมา นัชชาโก่งคิ้วและไม่สามารถขยับเขยื้อน เธอหายใจด้วยปาก พยายามที่จะลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ ประตูห้องถูกผลักออกจากทางด้านนอก ลมหอบหนึ่งพัดมา เธอไม่ได้พูดอะไรได้แต่ใช้ผ้าห่มปกปิดร่างกายเอาไว้ เตชิตมองดูผู้หญิงที่ห่อหุ่มตัวเองด้วยผ้าห่มอย่างเคร่งขรึม มีร่องรอยของความกังวล “ตื่นแล้วหรอ ธีมนต์ร้องหาคุณ พูดอย่างไรก็ไม่ฟัง โกรธผมอยู่ในห้องนอนน่ะ” พูดจบ เขาก็กัดฟันตัวเอง “ต้องพยายามเปลี่ยนนิสัยนี้นะ ปล่อยไว้นานไปจะไม่ดี” นัชชามองเขาอย่างเย็นชา คิดถึงเมื่อคืนที่เธอขอร้องเขาแต่เขากลับไม่ฟัง เธอรู้สึกรำคาญใจเล็กน้อย หันไปมองค้อนเขา “คุณออกไปซะ” เตชิตเพิ่งจะอารมณ์เสียกับลูกชายมาไม่น้อย ไม่คิดว่าพอเข้ามาในห้องยังต้องมารองรับอารมณ์โกรธอีก เขารู้สึกหงุดหงิด “เช้านี้อะไรกันเนี่ย” “คุณว่ายังไงนะ” นัชชาพูดจบก็อดไม่ได้ที่จะต่อว่าเขาเรื่องเมื่อคืน “เมื่อคืนคุณ...คุณทำอย่างนั้น ตอนนี้ฉันเจ็บมาก” เจ็บรึ ผู้ชายขมวดคิ้ว จากนั้นก็ดึงผ้าห่มห่มไปบนร่างเธอ นัชชาสังเกตการณ์เคลื่อนไหวของเขา เธอรีบกลิ้งตัวไปทางด้านข้าง แม้ว่าการกระทำเช่นนี้จะทำให้เธอเจ็บปวดจนอยากจะกรีดร้องออกมา “คุณทำอะไรน่ะ” “ไม่ได้ทำอะไร เอามือออกไป” นัชชางอตัวแน่นและจ้องมองเขา “ไม่เอา!” “คนดี ฟังผมนะ ให้ผมดูหน่อย” เป็นไปได้ว่าอาจจะคิดได้ว่าตัวเองทำเกินไปเมื่อคืนนี้ เขาไม่โกรธ แต่ว่าพูดโน้มน้าวอย่างอดทน “ไม่ต้องดู กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว จะดูอะไร” ตอนนี้เธอไม่เชื่อคำพูดใดๆของเตชิตทั้งนั้น เมื่อคืนกลายเป็นบทเรียนที่เข้าไปในเส้นเลือดแล้ว จะว่าไป เขาแค่ไม่ได้ทำเรื่องนี้มานานแล้ว เขาต้องการมันมาก นี่ก็เป็นเรื่องปกติ ร่างกายที่สูงใหญ่โน้มไปข้างหน้าเล็กน้อย มือทั้งสองข้างเอื้อมไปที่ด้านข้างของร่างกายเธอ ขังเธอเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนีไปไหน เขาจับข้อมือเธอเอาไว้และทันใดนั้นในวินาทีต่อมา เขาดึงผ้านวมออกและโยนมันทิ้งไป นัชชามองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “คุณ!” สายตาชายคนนั้นมองตรงไปบนร่างใต้ผ้าห่ม ผิวสีขาวปรากฎให้เห็นรอยที่เกิดจากการทำลายล้างของเขาอย่างชัดเจน รอยแดงและรอยฟกช้ำปรากฎอยู่ทั่วผิวขาวของเธอ เห็นแล้วเขารู้สึกอายยิ่งนัก ผิวหนังของเธอบอบบาง เมื่อถูกบีบรัดข้อมือเป็นเวลานานก็มักจะขึ้นรอยแดงอยู่เป็นเวลานาน แต่ว่าเขาจะตั้งใจยังยั้งเรื่องเมื่อคืนนี้ แต่ว่า...การเร่งรัดภายในคืนหนึ่ง ปรากฎเป็นรอยเข้มและลึก คิ้วของชายขมวดเป็นปม ทำได้แต่ลดแรงที่จับตรงข้อมือให้หลวมขึ้น นัชชารีบห่อตัวเองใหม่ในทันที เธอเฝ้ามองเขาอย่างระวังตัว “คุณจะไม่….อีกใช่ไหม” เธอยังพูดไม่ทันจบ เตชิตก็เข้าใจแล้ว ความจริงคิดเอาไว้แต่แรกแล้ว ไฟที่สะสมมาห้าปี ภายในคืนหนึ่งจะดับลงได้อย่างไร แต่เมื่อเห็นร่างที่บอบช้ำของเธอ ในใจก็ไม่กล้าคิดถึงครั้งต่อไป เขารู้สึกปวดใจ ในขณะที่นัชชาตกอกตกใจ คิดหาวิธีว่าจะแก้ไขกับเขาอย่างไรนั้น พลังอันอ่อนโยนก็ซบลงบนศีรษะของเธอ เธอมองขึ้นไปก็เห็นฝ่ามือใหญ่ของชายคนนั้น เหมือนกับการสัมผัสสัตว์เลี้ยงตัวน้อย เขาลูบหัวของเธอไปมาอย่างอ่อนโยน นัชชานิ่งอึ้งด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนของเขา มีบางอย่างที่ไม่ปกติ นี่เป็นคนละคนกับสัตว์ป่าที่ดุร้ายเมื่อคืนนี้ และประโยคต่อไปก็ไม่ต้องสงสัยเลยเพราะทำให้นัชชานั้นยิ่งคาดไม่ถึง แค่เห็นเขาลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน เขาโทษตัวเองและเปิดปากอย่างอึดอัดใจ “ผมขอโทษ ผมพยายามทุกอย่างแล้วที่จะควบคุมตัวเอง แต่ก็ยังพลั้งไปทำร้ายคุณ???” นัชชากะพริบตา บางคนก็เปลี่ยนไม่ได้จริงๆ ดังนั้นเขาจึงขอโทษเธอในสิ่งต่างๆที่เขาทำไปเมื่อคืนอย่างนั้นรึ การขอโทษสำหรับสิ่งนี้…. ความอึดอัดและความคับข้องใจที่นัชชาเก็บสะสมอยู่ก็ค่อยๆคลายลง มันเป็นความน่าอายและความอัปยศที่เธอแทบจะทนไม่ได้ เธอลังเลอยู่เป็นเวลานานก่อนที่ฝืนพูดประโยคนี้ออกมา “ไม่เป็นไรหรอก คุณไม่ได้ตั้งใจ” เขาเงยหน้าไม่ขึ้น เหมือนกับว่าคนที่ทำผิดก็รู้ตัวอยู่แล้วว่าได้ทำอะไรลงไป ถึงแม้เตชิตจะไม่ได้แสดงอาการตกใจทางสีหน้า แต่ในใจกลับรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ถ้าหากว่าทำให้เธอขุ่นเคืองใจในตอนนี้ หลังจากนี้ชีวิตทางเพศของเขาคงไม่มีอะไรรับประกันได้อีก “น้ารินไม่อยู่ อีกสักพักผมจะพาธีมนต์ไปซื้ออะไรกลับมาทาน แล้วจะแวะซื้อยาและครีมแก้ปวดให้กับคุณ” นัยน์ตาสีดำลึกจ้องมองไปที่เธอเบาๆ นัชชาพยักหน้ารับคำ “อื้อ ระวังตัวด้วย ดูแลลูกให้ดีล่ะ” “ผมไม่เป็นห่วงลูกหรอก” เขาเอนกายลงและจูบเบาๆบนริมฝีปากของเธอ “คนที่ผมเป็นห่วงคือคุณต่างหาก” ลำคอของนัชชาแห้งผาก เธอชักสีหน้าดุร้ายอย่างรวดเร็วและเร่งเขา “คุณรีบไปเถอะค่ะ” เขาตอบสนองเธอด้วยการจูบที่ร้อนแรง เธอหรี่ตาลงและเห็นแสงที่ส่องสว่างผ่านทางผ้าม่านด้านหลังชายคนนั้น ร่างของเขาบดบังร่างของเธอไว้ ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก ชั่วขณะหนึ่ง เมื่อจูบเสร็จสิ้นแล้ว นัชชาก็หายใจเข้า ชายคนนั้นก็หันกายออกจากห้องไป เห็นได้ชัดว่าเป็นมนุษย์ที่อายุยี่สิบแปดปีแล้ว หลายปีมานี้เธอมีอิสระอย่างมากมาย เธอเชื่อว่าตัวเองไม่ค่อยได้มีพฤติกรรมและการกระทำที่ไร้สาระ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เธอกลับเหมือนกลายเป็นเด็กน้อยที่อายุเพียงห้าขวบ นัชชายกมือขึ้นและสัมผัสไปที่แก้มอันร้อนฉ่าของตัวเอง “ตื่นได้แล้ว ตื่น ตื่น!”
已经是最新一章了
加载中