ตอนที่408 เรียกพ่อเป็นครั้งแรก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่408 เรียกพ่อเป็นครั้งแรก
ตอนที่408 เรียกพ่อเป็นครั้งแรก นัชชาลูบหัวตุ๊กตาน้อย “ไว้เรากลับไปคุยกันนะคะ ต้องถามความเห็นของลูกด้วย” ผู้อำนวยการสำทับ “ได้ครับ ไม่มีปัญหา นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ” นอกจากนั้นก็ยังเดินรอบโรงเรียนอีกสองรอบ ผู้อำนวยการเดินมาส่งพวกเขาเป็นการส่วนตัว เตชิตรู้สึกเกรงใจเป็นอย่างมาก หายากที่จะดูแลทั่วถึงเช่นนี้ เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองได้ทำหน้าที่พ่อขึ้นมา หลังจากที่ขึ้นรถแล้ว นัชชามองไปที่ชายที่กำลังจะสตาร์ทรถ เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้น “อีกสักครู่คุณไปส่งฉันกลับไปที่หมู่บ้านมีสุขหน่อยนะคะ ตอนเย็นจะกลับไปทานข้าวกับแม่ฉันค่ะ” เตชิตเลิ่กลั่กดูเวลา ยังเช้าอยู่ เมื่อคิดว่าเธอไม่ได้กลับไปสักพักแล้ว ก็ได้แต่รับปากตกลง ขับไปเกือบสี่สิบนาที รถก็จอดที่ด้านล่างของหมู่บ้านมีสุข เตชิตอุ้มลูกที่นั่งทางเบาะหลังลงจากรถ ตอนที่ธีมนต์อยู่ในรถก็งัวเงียเล็กน้อย เขายกมือขึ้นขยี้ตา พูดด้วยสัญชาตญาณอย่างครึ่งหลับครึ่งตื่น “ขอบคุณครับพ่อ” สี่พยางค์นี้ทำให้เตชิตรู้สึกประสบความสำเร็จ เขานิ่งอึ้งจนไม่สามารถขยับได้ ตัวแข็งทื่อ จากนั้นเลือดลมในร่างกายก็สูบฉีดไปที่ศีรษะ เขาแทบจะได้ยินเสียงของหลอดเลือดในร่างกายของเขา หัวสมองมึนๆงงๆ คนก็มึนๆงงๆ การตอบสนองใดๆก็ลืมไปจนหมด น่าอายมากเมื่อเห็นใบหน้าของตัวเองเลิ่กลั่กเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่า ธีมนต์จะยังไม่เข้าใจว่าตัวเองพูดอะไรออกมา เขาแค่ง่วงมากจนตาแทบจะปิด นัชชาก็ยืนอึ้งอยู่กับที่เช่นกันเมื่อได้ยินคำพูดของเขา ผ่านไปนานเตชิตจึงได้สติกลับมา เขาตื่นเต้นเกินไปจนดูผิดปกติ “หนู เมื่อครู่หนูเรียกลุงว่ายังไงนะ” เสียงของเขาสั่น ทุกคำแทบจะพูดออกมาได้ไม่เต็มเสียง ประโยคสั้นๆแต่ว่าเขาใช้พลังทั้งหมดในตัวของเขากว่าที่จะพูดออกมาได้ เมื่อธีมนต์นึกขึ้นได้ถึงคำพูดของตัวเองเมื่อสักครู่ เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองเรียกเขาว่าอะไร เขาก็เริ่มระวังตัวขึ้น สายตาเล็กๆหันไปทางนัชชาเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อแม่เข้าใจก็รีบเข้ามาอุ้มเด็กออกจากเขาและพูดเบาๆ “คุณอย่าทำให้เด็กตกใจสิคะ” เตชิตหลับตาลง กลัวว่าความรู้สึกของตัวเองจะทำให้เด็กตกใจกลัว เขากดนิ้วไปที่ตำแหน่งพระอาทิตย์ของตัวเอง เมื่อกดแล้วก็สะดุ้งทำให้ได้สติของตัวเองกลับคืนมา เขารู้สึกตื่นเต้นมาก เขาไม่ได้ฟังผิด ธีมนต์เพิ่งเรียกเขาว่าพ่อ ตอนที่เขาไม่รู้เนื้อรู้ตัว จู่ๆก็โพล่งออกมา ดังนั้นเขาสามารถสรุปตามนี้ได้หรือไม่ว่าเด็กได้ยอมรับในตัวเขาแล้ว เตชิตไม่กล้าที่จะสร้างสมมติฐานเช่นนี้ เขามีความสุขเป็นบ้า เขาไม่เคยเรียกร้องให้ธีมนต์เรียกเขาว่าพ่อ เขารู้ว่าตัวเองเป็นหนี้ลูกอยู่ ไกลเกินไป เขาพร้อมที่จะยืนหยัดเป็นเวลานาน และเชื่อว่าวันหนึ่งจะยอมรับในตัวเขา แต่ไม่คาดคิดว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วเช่นนี้ กะทันหันเช่นนี้ นัชชามองไปที่ชายที่หน้าแดงเล็กน้อย เธอกัดริมฝีปากและพูด “ฉันพาเด็กขึ้นไปก่อนนะคะ” “อื้อ” เขารับคำ หน้าอกที่แข็งแกร่งเห็นชัดถึงการเต้นของหัวใจ ในเวลานี้ถูกเขาพยายามสะกดเอาไว้ “ตอนเย็นผมมารับพวกคุณนะ” “ไว้โทรคุยกันค่ะ ฉันขึ้นข้างบนแล้วนะคะ” “โอเค” พอเสียงจบลง เด็กน้อยที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังนัชชาก็ตกตะลึง โผล่ออกมาครึ่งหัวและพูดอย่างรวดเร็ว “เจอกันครับพ่อ” วินาทีถัดไป ร่างเล็กๆก็หายไปตามทางเดิน ได้ยินแต่เสียงฝีเท้าที่กำลังเดินขึ้นไปชั้นบน เตชิตเหมือนกำลังถูกฆ่าให้ตายโดยการล้อเล่น เขาคว้าแขนของนัชชา ความแข็งแกร่งของพละกำลังทำให้เธอเจ็บโดยไม่รู้ตัว “คุณได้ยินที่ธีธีเรียกผมเมื่อครู่ไหม” นัชชามองไปที่ชายเบื้องหน้าเธอด้วยสายตาที่ซับซ้อน ดวงตาคู่นั้นทำให้เขาตื่นเต้นและประหลาดใจ ท่ามกลางสิ่งต่างๆเหล่านั้นก็มีสายตาแห่งความระมัดระวังตัวอยู่ด้วย เด็กกลัวการที่จะยอมรับซึ่งๆหน้า เขาไม่สามารถทำใจให้สงบได้ มันทรมานมาก ทันใดนั้นก็รู้สึกทนไม่ไหว เตชิตรู้สึกยากที่สงบจิตใจตัวเองลงจากความตื่นเต้นจนสุดขีดนี้ “นัชนัช เขาเรียกผมว่าพ่อใช่ไหม” นัชชาหายใจเข้าลึกๆ ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อเห็นเขาตาแดง ตัวเองก็ตาแดงขึ้นมาเช่นกัน “ใช่ค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบแล้ว เตชิตก็ดึงเธอเข้ามากอด “ลูก….ยอมรับผมเป็นพ่อแล้ว ใช่ไหม” นัชชารู้สึกถึงร่างกายที่กอดแน่นและการหายใจที่สั่นไหว เธอรู้สึกถึงหัวใจของเขา แต่เมื่อคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่าง ก็อดไม่ได้ที่จะทำอารมณ์ร้ายใส่เขา “ชอบใจอะไร นี่แค่จุดเริ่มต้น หนทางยังอีกยาวไกล” “ไม่รีบ ค่อยๆไปทีละขั้น” เขาไม่สนใจ แค่คำว่า “พ่อ” คำนี้ก็คุ้มค่าแล้ว “เขาเรียกผมว่าพ่อก็เพียงพอแล้ว ผมไม่เคยคาดหวังว่าลูกจะยอมรับผมเป็นพ่อได้ ผมทำอะไรให้เขาน้อยมาก เป็นหนี้พวกคุณอยู่มาก นี่เป็นเรื่องที่ผมประหลาดใจมาก” นัชชาลังเลใจ ในที่สุดก็ยกมือขึ้นตบไปที่บ้าอันกว้างใหญ่นั้น “คุณคือพ่อของธีมนต์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอดีตก็ตาม ยังไงคุณก็คือพ่อของเขา” ดังนั้นเขาไม่ต้องระวังเนื้อระวังตัว และไม่ต้องรู้สึกตัวเองต่ำต้อยสำหรับเด็ก เขาเป็นบิดาของธีมนต์ เขามีสิทธิ์ในตัวลูก และมีสิทธิ์ที่จะอบรมสั่งสอน หัวใจของคนนั้นไม่สามารถสงบลงได้อยู่เป็นเวลานาน รู้สึกสะเทือนใจ “นัชชา ขอบคุณที่คุณให้กำเนิดเขามา ชีวิตนี้ผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจอีกเลย” เขาไม่ลืม ที่เขามีทุกอย่างได้อย่างเช่นตอนนี้ก็เพราะว่านัชชาเสี่ยงอันตรายนำพามาให้เขา เพื่อได้ยินประโยคนี้ น้ำตาทั้งสองสายของนัชชาก็ไหลออกมา “คุณรู้ก็ดีแล้ว” ทั้งสองกอดกันเงียบๆอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อคิดถึงลูก นัชชาก็รีบปล่อยเขา เช็ดหยดน้ำที่มุมขอบตา “คุณกลับไปเถอะค่ะ ขับรถระวังด้วยนะคะ” เตชิตไม่เปิดหน้า เขาพ่นลมหายใจออก ไม่ต้องการให้เธอเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยสีแดงก่ำ “อื้อ ผมรอคุณขึ้นไปก่อนแล้วค่อยไป” นัชชาสัมผัสได้ถึงสายตาซึ่งแทบจะลุกไหม้ที่ส่องมาที่เบื้องหลังของเธอ ห่างออกไปแค่ไม่กี่ก้าวแต่ก็รู้สึกไม่เป็นธรรมชาติมาก โชคดีที่ขึ้นมาแล้วไม่เห็นอะไรที่มุมบันได เธอขึ้นไปชั้นบนในเพียงหนึ่งลมหายใจ ธีมนต์เข้าไปในบ้านแล้ว ประตูปิดไม่สนิทเปิดทิ้งไว้ให้กับเธอ เมื่อนัชชาเปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่าธีมนต์ปีนป่ายณัชชนม์อยู่ ร้องเรียกยายยาย “กลับมาแล้วค่ะ” เมทนีเห็นเธอกลับมาก็เงยหน้าขึ้นมอง “พ่อคะ แม่คะ” “พ่อกับแม่ได้ยินว่าแกเพิ่งจะพาธีมนต์ไปดูโรงเรียนอนุบาลมาใช่ไหม” ด้วยความพยายามเล็กน้อย ธีมนต์ได้พยายามอธิบายเส้นทางของเขาไว้แล้วอย่างชัดเจน ช่วยไม่ได้ เด็กบริสุทธิ์เกินไป ถามอะไรก็ตอบอย่างนั้น นัชชาเปลี่ยนรองเท้าแล้วเดินไปที่ห้องนั่งเล่น ในใจก็คิดวุ่นวาย แต่ก็พูดไปตามปกติ “อื้อ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ไปโรงเรียนนานแล้ว คงให้อยู่เฉยๆไม่ได้ค่ะ” “ถ้างั้นแปลว่าเธอจะไม่กลับไปอังกฤษแล้วใช่ไหม” นัชชาหยิบแก้วมาจากโต๊ะและเทน้ำลงไปครึ่งหนึ่ง ในที่สุดก็กลืนของเหลวในปากลงไป “ก็แค่ไปดูค่ะ รายละเอียดอะไรยังไม่แน่นอน” ณัชชนม์พอได้ฟังก็คิดขึ้นมาในใจ แต่ก็ไม่ได้ถามลึกซึ้งต่อไป “เธอนั่งพักก่อน ตอนเย็นแม่กับพ่อจะห่อเกี๊ยวให้” “แม่ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ ทำกับข้าวสักสองอย่างก็พอแล้ว” นัชชากลัวว่าเธอจะเหนื่อย หลังจากที่ผ่านเรื่องราวทั้งหมดตอนนี้เธอไม่ได้สาวอย่างเมื่อห้าปีก่อนแล้ว ณัชชนม์รีบโบกมือ “ลำบากอะไรกัน เธอไม่กินธีมนต์ไม่ต้องกินรึยังไง” “...” นัชชาค่อยๆยกมือขึ้นจิ้มไปที่หัวของธีมนต์เบาๆ “ดูสิ ยายรักเธอมากกว่าแม่อีกนะ” ธีมนต์ปากหวาน รีบประจบณัชชนม์ “คุณยายใจดีที่สุดเลย!” ณัชชนม์และเมทนีหัวเราะอย่างเบิกบานใจ “หลานชายฉันช่างฉลาดจริงๆ!” เมื่อมองเห็นภาพแห่งความสุขนี้ ก็นึกไปถึงเรื่องที่ธีมนต์เรียกพ่อเมื่อสักครู่ ในใจเธอก็รู้สึกสั่นไหวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้กลับไม่สามารถสะบัดออกไป ได้แต่ดำรงค์อยู่ในใจ
已经是最新一章了
加载中