ตอนที่420แผนการที่ค่อยๆโผล่ออกมา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่420แผนการที่ค่อยๆโผล่ออกมา
ตอนที่420แผนการที่ค่อยๆโผล่ออกมา หลังจากรับประทานอาหารเสร็จพวกเขาก็อยู่ต่ออีกพักหนึ่งเตชิตบอกว่าช่วงบ่ายเขายังต้องกลับไปที่บริษัทอีกครั้งดูท่าทางนัชชาไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองคนชราทั้งสองก็ไม่ได้รั้งตัวไว้ก่อนที่พวกเขาจะออกมาชายชราพูดว่าชาที่นัชชาซื้อมาไม่เลวนี่หมายความว่าอะไรแน่นอนว่านัชชาเข้าใจ ระหว่างทางกลับนัชชามองภาพที่สวนทางกันที่นอกหน้าต่างรถไม่ได้พูดอะไร ชายหนุ่มหันไปมองที่เธอมองเห็นคางแหลมๆกับใบหน้าที่นุ่มนวลหัวใจของเขาก็อ่อนลง"เป็นอะไรเหรอ?" เมื่อได้ยินนัชชาก็ได้สติก้มหน้ามองไปที่มือที่วางไว้ตรงหน้าตักของตน"ไม่มีอะไรฉันกำลังคิดถึงเรื่องคุณตาคุณยายของคุณอยู่" ได้ยินดังนั้นชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย"เธอคิดถึงพวกเขาเรื่องอะไร?" นัชชาอยากจะพูดแต่ก็กลับเงียบไปชั่วครู่สักพักเธอถึงพยายามพูดออกมาประโยคหนึ่ง"เมื่อก่อนฉันคิดว่าพวกเขาไม่ดีเอามากๆแต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว" มันก็เหมือนคนที่เรารู้สึกว่าเขาแย่มาโดยตลอดแต่สิ่งที่เห็นไม่เหมือนกับสิ่งที่เราคิดไว้ล้มล้างความคิดเก่าของเราเองเลยทำให้สับสนมาก เตชิตมองเห็นเธอสับสนวุ่นวายใจขนาดนั้นเลยหัวเราะขึ้นมา"ห้วงความคิดของคนมันก็เปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อมที่อยู่นั้นล่ะ" นัชชาพยักหน้า"ตามจริงก็เป็นแบบนั้นแต่ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกว่าในโลกนี้ไม่มีคนที่เลวที่สุดหรือคนที่ดีที่สุดมีแค่คนที่ทำดีกับเราหรือคนที่ทำไม่ดีกับเรา" อันที่จริงแล้วชายชรานั้นดื้อรั้นมากแต่หลังจากที่เขาเห็นด้วยที่เขาทั้งสองจะอยู่ด้วยกันเธอก็ไม่คิดว่าเขาไม่ดีตรงไหน ชายหนุ่มเอื้อมมือไปจับมือเล็กๆที่ค่อนข้างเย็นของเธอพูดเสียงทุ้มท่าทีหยอกล้อเธอ"เอาเวลาที่เธอคิดเรื่องพวกนี้มาคิดว่าเราจะไปจดทะเบียนสมรสเมื่อไรดีกว่านะ" จดทะเบียนสมรส คำพูดประโยคนี้เข้าหูของนัชชาเธอสลัดมือกลับแต่สลัดไม่ออก"ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่รับปากคุณง่ายๆหรอก" เขาทั้งสองรู้จักกันมาห้าหกปีอยู่ด้วยกันมานานรักๆเลิกๆกันบ่อยครั้งอย่างเดียวที่ไม่มีคือจดทะเบียนสมรสเมื่อคิดว่าวันนั้นกำลังจะมาถึงหัวใจของนัชชาทั้งตื่นเต้นดีใจจนไม่อาจบรรยายออกมาได้ เตชิตใช้แรงบีบมือเธอนิดๆพ่นลมออกทางจมูก"หึเธอต้องเป็นของฉันไม่ช้าก็เร็ว" พูดจบเขาก็เบนสายตาไปมองเรือนร่างของเธอในขณะที่นัชชามองเขาอย่างไม่เข้าใจชายหนุ่มก็พูดออกมา"เธอน่ะผอมไปนะต้องกินมากๆหน่อยนะไม่อย่างนั้นไม่เต็มไม้เต็มมือ" นัชชามองตามสายตาเขาหยุดอยู่ที่หน้าอกของเธอ... ใบหน้าเล็กๆเปลี่ยนเป็นสีแดงทำตาโตใส่เขาอย่างโกรธๆ"คุณอย่าทะลึ่งสิ!" "เป็นสามีภรรยากันทะลึ่งตรงไหน?"เขาไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้นพลางถามเธอกลับ นัชชาได้ยินก็หน้าแดง"ใครเป็นภรรยากับคุณ!" "ไปเจอผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเรียบร้อยแล้วลูกก็มีด้วยกันแล้วเธอคิดว่ายังไงล่ะ?"เตชิตจอดรถที่สี่แยกไฟแดงระหว่างที่รอไฟแดงเขาเอื้อมมือไปหยิกหน้าเนียนๆของเธอ"ทำปากแข็งดีนักนะตอนที่อยู่บนเตียงไม่เห็นปากแข็งแบบนี้เลย" แม้ว่าในรถจะมีเพียงแค่พวกเขาสองคนแต่ความคิดของนัชชาไม่ได้เปิดกว้างขนาดนั้นเธอขวยเขินตีที่มือของชายหนุ่ม"เตชิตคุณพูดอะไรก็ไม่รู้!" เมื่อไฟเขียวรถออกตัวเตชิตก็ไม่ได้หยอกล้อกับเธออีกแต่เปลี่ยนเรื่องคุย"เธอจะกลับไปอังกฤษเมื่อไหร่?" ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาค่อนข้างร้อนใจหากเรื่องของที่นั่นยังจัดการไม่เสร็จเธอก็มีโอกาสจะเปลี่ยนใจไปจากเขา ในช่วงนี้นัชชาวางแผนอยู่"ฉันดูตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษวันมะรืนนี้ช่วงบ่ายน่าจะเหมาะสมกว่า" แน่นอนว่าเขาเห็นด้วย"ฉันจะไปกับเธอถึงเวลาให้ประรมจัดการให้" "ไม่ต้องหรอก"นัชชาปฏิเสธทันควันในใจเธอคิดมาตั้งนานแล้ว"บินไปกลับคุณจะเหนื่อยเกินไปเดินทางใช้เวลาสิบกว่าชั่วโมงฉันกลับไปเองได้" เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะอ้าปากพูดเธอก็พูดเสริมขึ้นว่า"ส่วนธีมนต์ฉันคงไม่เอาเขาไปด้วยเดี๋ยวลูกจะเหนื่อยเกินไปถ้าคุณเป็นห่วงฉันจริงๆคุณก็ดูแลลูกให้ฉัน" ที่จริงเธอคิดมานานแล้วถ้าเป็นเมื่อครึ่งเดือนเธอคงไม่วางใจให้เตชิตดูแลลูกคนเดียวแต่ตอนนี้ท่าทีของธีมนต์ที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปมากจึงวางใจเธอไปกลับครั้งนี้อย่างมากก็น่าจะใช้เวลาสองสามวันถ้าเอาลูกไปด้วยกลัวว่าลูกจะลำบาก ได้ยินแบบนั้นเตชิตรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยปกติจะให้ลูกอยู่ข้างๆเธอเสมอเขามองลูกนานหน่อยเธอยังรู้สึกกลัวตอนนี้เธอวางใจที่จะฝากธีมนต์ให้อยู่กับเขาเขาดีใจมากจนแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด"พูดจริงๆเหรอ?" "จริงสิ"นัชชาแหล่มองหน้าเขาแปบหนึ่ง"คุณดูแลเขาดีๆล่ะ" เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะหึๆดังมาจากด้านข้างของเธอแม้ว่าเสียงไม่ดังแต่ก็เสียดหูพิลึก“เขาเป็นลูกชายของผมผมต้องดูแลเขาดีอยู่แล้ว” เขาพูดอย่างยิ้มๆในความหมายมีความรักตามใจทำให้นัชชาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอกระแอมพูดกระซิบกระซาบ"คุณรู้ก็ดีแล้ว" ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรยิ้มอย่างมีความสุขกลับบ้านกับเธอในระหว่างทางคุยเรื่องลูกคุยเรื่องลึกซึ้งนานมากที่ไม่ได้อารมณ์ดีแบบนี้แลดูเหมือนว่าแม้แต่ถนนเบื้องหน้าของเขาก็เปิดกว้างกว่าเดิมเขาจับมือเล็กๆนุ่มๆของเธอหวังว่าถนนสายนี้จะยาวขึ้นอีกหน่อย ...... ประทินไม่รู้ว่าใช้วิธีไหนได้ยินจากปากของจันทร์จิราว่าคุณจุลินทร์เห็นด้วยที่จะให้เตชิตและนัชชาอยู่ด้วยกันเธอรับไม่ได้จนบ้าคลั่ง หล่อนพูดไม่ดีกับจันทร์จิราไม่คิดว่าจันทร์จิราเป็นแม่เธอสักนิดคนเป็นพ่อทนไม่ได้เลยตบหน้าหล่อนไปหนึ่งทีทำให้หล่อนจิตใจพังทลาย หล่อนไม่อาละวาดไม่ร้องไห้นั่งเงียบคนเดียวในห้องตลอดทั้งคืนไม่พูดแล้วก็ไม่นอนเหมือนกับคนที่ไร้วิญญาณในวันรุ่งขึ้นของวันที่สองหล่อนทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอาบน้ำล้างหน้าลงมาทานข้าวเช้าแล้วก็กลับไปที่ห้องนอนมองดูเวลาแล้วโทรศัพท์ออกไปที่หมายเลขที่ไม่รู้จัก อีกฝ่ายรับสายอย่างรวดเร็วแต่ไม่พูดประทินจ้องไปที่ผนังมุมใดมุมหนึ่งเสียงเย็นชา"คุณคือธัชธรรมใช่ไหม?" เมื่อได้ยินชื่อในที่สุดปลายทางก็มีเสียงต่ำและลมหายใจของผู้ชายดังออกมาจากปลายทางจากนั้นก็มีเสียงแหบแห้งที่ใช้เครื่องเปลี่ยนเสียงพูดออกมา"คุณคือคุณประทิน?" "ฉันเอง" ชายหนุ่มหยุดไปชั่วครู่"คุณมีเรื่องอะไร?" "ฉันหาคุณก็ต้องมีเรื่องอยู่แล้ว"ประทินยิ้มอย่างเย็นชาไม่พูดไร้สาระ"ฉันได้ยินมาว่าคุณสะกดรอยเก่งมากฉันอยากให้คุณช่วยฉันสะกดรอยคนๆหนึ่งได้ไหม?" อีกฝ่ายฟังเธอเสร็จหัวเราะอย่างเหยียดๆ“หึสะกดรอยใคร?” "สะกดรอย..."ประทินลากเสียงยาวในสมองมีภาพใบหน้างามของนัชชาชะลอไปพักหนึ่งพูดไม่กี่คำด้วยน้ำเสียงร้ายกาจ"ธีมนต์ลูกชายของเตชิต" "ไม่ตลกเลยนะ?"สายปลายทางธัชธรรมพูดเสียงต่ำ"เตชิตเป็นใครคุณให้ผมสะกดรอยตามลูกของเขาเล่นตลกกับผมหรือไง?" “กลัวแล้วเหรอ?”ประทินย้อนสายตากลับยกมือขึ้นใต้สายตาแคะเล็บมือเดียว"เรื่องเงินใช่มั้ยฉันจะจ่ายให้เป็นสองเท่า..." "ฮ่าๆ"จู่ๆชายผู้นั้นก็หัวเราะออกมาน้ำเสียงนั้นทำให้คนฟังรู้สึกขนลุก"ผมกลัวว่าถึงเวลานั้นผมมีเงินแต่ไม่มีชีวิตใช้นะสิ" "ไม่ต้องห่วงฉันเพียงแค่ให้คุณช่วยฉันสะกดรอยตามเท่านั้นไม่ได้ให้ทำอะไรสักหน่อยคุณก็แค่รายงานฉันการเคลื่อนไหวของเด็กนั้นอย่างอื่นไม่ต้องยุ่ง"ประทินรู้สึกว่าเขากำลังจะปฏิเสธเลยฉวยพูดก่อน"เมื่องานสำเร็จฉันให้คุณหนึ่งล้าน" เมื่อประโยคนี้ออกจากปากประทินเสียงปลายทางก็เงียบไป ประทินรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดทบทวนเธอไม่ได้เร่งรัดผ่านไปครึ่งนาทีเธอก็ถามเขาว่า"เป็นยังไงงานนี้คุณรับไม่รับ?" ลมหายใจของชายผู้นั้นหยาบกระด้าง"คุณรับปากว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรับรู้" ประทินรับปากเต็มปากเต็มคำ"คุณวางใจได้บอกคนอื่นก็ไม่มีผลดีอะไรกับฉัน" เสียงเงียบไปเป็นเวลานานเสียงแปลกๆนั้นก็ดังขึ้นอีก—— "ได้ผมรับงานนี้"
已经是最新一章了
加载中