ตอนที่437 ผู้ป่วยอนาจาร
1/
ตอนที่437 ผู้ป่วยอนาจาร
ยั่วรักทนายคนโหด
(
)
已经是第一章了
ตอนที่437 ผู้ป่วยอนาจาร
ตอนที่437 ผู้ป่วยอนาจาร นัชชาเห็นเขายังมีอารมณ์มาล้อเล่น ความโกรธและความร้อนใจภายในจิตใจก็พรั่งพรูออกมา “คุณกล้าพูดนะ ใครใช้ให้คุณไปหาประทินคนเดียว คุณรู้หรือเปล่าว่ามันอันตรายแค่ไหน ถ้าตอนนั้นเธอมีแผนการอื่นอะไรอีก แม้แต่คุณก็ป้องกันตัวเองไม่ได้นะ! ปกติคุณให้ความสำคัญกับตัวเองเรื่องความสำเร็จ ตอนวิกฤติยังจะทำให้ตื่นเต้นอีก?” เตชิตเห็นว่ารอบตาเธอแดง เพราะว่าเป็นห่วงเลยด่าตน ไม่เกิดความรำคาญสักนิด ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ขอโทษครับ” นัชชาได้ยินเขาพูดแบบนี้ ในใจก็ยิ่งโกรธ “ฉันไม่ได้อยากให้คุณขอโทษ ฉันแค่กลัวว่าคุณจะเกิดอุบัติเหตุ คุณเข้าใจไหม?” เรื่องที่เกิดตอนนั้นเขาฟังมาจากชนัยหมดแล้ว ทั้งๆที่วิธีจัดการที่ปลอดภัยกว่านี้ แต่เขากลับไม่คิดจะสนใจ ลุยเดี่ยวไปคนเดียว “ต่อจากนี้ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้ คุณห้ามปิดบังอะไรฉัน จะต้องคิดให้รอบคอบ” “นัชชา แต่นั่นไม่ใช่คนอื่น เขาเป็นลูกชายของเรา” ตอนนั้นเหตุการณ์มันเร่งด่วน เขาไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องอื่น แม้ว่าจะรู้ดีว่านั่นเป็นหลุมพรางที่เขากำลังหล่นลงไป บางทีในสถานการณ์อื่นเขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญในผลลัพธ์อย่างแท้จริง แต่พอเผชิญหน้ากับสายเลือดตนเอง เขากลับคิดไม่แยอะ แม้ว่าตอนนี้จะนอนอยู่บนเตียง เขาก็ไม่รู้สสสึกเสียดายที่ตัดสินใจไปในตอนนั้น นัชชาดูเหมือนว่าที่ด่าไปจริงๆแล้วก็คือความกลัว ถ้าหากธีมนต์กลับมาได้อย่างปลอดภัย แต่เขากลับเกิดอุบัติเหตุ สำหรับเธอนั้นมันเป็นผลลัพธ์ที่เหมือนกัน ทั้งสองคน เสียใครไปสำหรับเธอแล้วมันคือความเจ็บปวดเหมือนโลกพังทลายลงมา เตชิตรู้ความคิดในใจเธอทั้งหมด แต่ไม่สามารถปลอบโยนเธอได้ดี เพียงแต่รับฟังเธอพูด ดวงตาดำสนิทมองไปที่เธออย่างจริงจังและระมัดระวัง “ต่อจากนี้ไป พวกเราสามคนจะไม่แยกจากกันอีก” ก่อนหน้านี้เพราะทีนาร์ พวกเขาเข้าใจผิดกันและกันและแยกจากกันมาหลายปี ตอนนี้ก็เพราะเหตุการณ์ร้ายแรงจากประทินอีก แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สุดท้ายพวกเขาก็ได้อยู่ด้วยกัน แค่นี้ก็พอแล้ว นัชชาได้ยินแล้วในใจก็ปรากฏความสุข ดึงฝ่ามือใหญ่ของเขามาลูบแก้มตัวเองทั้งสองข้าง “งั้นคุณก็รีบๆหายดี ก่อนฉันจะเปลี่ยนใจ” เปลี่ยนใจ? “คุณเป็นแม่ของลูกผมนะ ยังจะคิดแต่งงานกับใครอีก?” เขาขมวดคิ้ว แววตาประกายเต็มไปด้วยการหยอกล้อ นัชชาใจเต้นกับคำพูดเขา ก็อดไม่ได้ที่จะล้อเล่น ขบริมฝีปากก่อนจะมองเขาอย่างเขินอาย “คุณนอนป่วยเฉื่อยชาอยู่บนเตียงยังจะสนอีกหรอว่าฉันจะไปแต่งกับใคร?” “ผมแค่ขยับไม่ได้ชั่วคราว ที่อื่นผมยัง ‘ใช้ได้’ อยู่นะ” เขาเน้นสองพยางค์นั้นเป็นพิเศษ ท่ามกลางเครื่องหน้าหล่อสามมิติยึดใบหน้าร้ายกาจไว้ ทั้งๆที่ทั้งร่างนอนแข็งทื่ออยู่บนเตียงขยับไม่ได้ ได้เผชิญหน้ากับผู้ชายที่ทำอะไรไม่ได้ แต่นัชชากลับใจเต้นแรงกับคำพูดของเขา มีเพียงเขาสองคนเท่านั้นถึงจะเข้าใจความหมายบริบท อยากฆ่าให้ตายจริงๆเลย “ยังจะไม่ยอมรับอีกนะ ตอนนี้นอกจากดวงตาที่ขยับได้ ตรงไหนก็ใช้การไม่ได้แล้ว!” ได้ยินจบเขาก็หัวเราะขึ้นมา สีหน้าแววตาเปลี่ยนเป็นลึกซึ้ง “คุณอยากลองไหม?” นัชชาหมดความอดทน อยากจะผลักเขาเหลือเกิน แต่ไม่มีที่ให้ลงมือ ทำได้เพียงกระทืบเท้า “พูดบ้าอะไรเนี่ย!” “ผมพูดอะไรหรอ?” เขาตั้งใจมองเธออย่างหยอกล้อ ราวกับว่าเธอเป็นอะไร “คุณคิดมากไปเองหรือเปล่า? จริงๆด้วย เขาว่ากันว่าผู้หญิงวัยสามสิบนี่ดุร้ายมาก คุณก็ใกล้จะอายุนี้......” “เตชิต!” นัชชาขัดคำพูดเขาด้วยเสียงสูง รู้สึกอายแทนเขา “ทำตัวดีๆหน่อยได้ไหม โรคยังไม่ทันหายยังจะคิดอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าอีก!” เพียงมองหน้าเธอที่แดงระเรื่อ เขายังรู้สึกไม่พอ ตีความความหมายที่เธอจะสื่อผิดอีก “แปลว่าคุณรอให้ผมหายดี?” “……” พูดถึงการมีปากเสียงกัน หรือการมีปากเสียงที่มีสีสันแบบนี้ นัชชาไม่ใช่คู่ปรับของเขาอย่างสิ้นเชิง ถูกเขาทำให้พูดไม่ออกโดยทันที หลังจากมองเธอโกรธจนเบิกตากว้างอย่างพออกพอใจ เตชิตถึงยับยั้งตัวเอง ปากบางก็พึมพำอะไรออกมา คลุมเครือ ฟังไม่ค่อยชัดเจน นัชชาเอียงหู “อะไรนะ?” เขาพูดอีกครั้ง ฟังคำไม่ชัดหรือไม่เข้าใจความหมายที่เขาพูด นัชชาไม่ได้สงสัยเขา กลัวว่าเขาจะไม่สบายตรงไหน เอาศีรษะเข้าไปใกล้ เข้าไปใกล้จนระหว่างใบหน้ามีระยะห่างเพียีงหนึ่งกำปั้น “คุณพูดอะไร ฉันฟังไม่ชัด” “ผมบอกว่า——” เขาตั้งใจลากเสียงยาว สายตาจ้องเธอเป็นประกาย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเจ็บคอหรืออย่างอื่น เขาพูดสองพยางค์อย่างช้าๆ “จูบผม” นัชชาอึ้งไปสักพักก่อนมีปฏิกิริยาโต้กลับ สุดท้ายก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อครู่เขาถึงพูดไม่ชัด พูดไม่ชัดที่ไหนล่ะ ตั้งใจล่อให้เธอเข้าไปนั่นเอง! เธออยากลุกขึ้นมาในทันที คนคนนี้จ้องอยู่ แล้วรีบพูด “คุณจะใจแข็งเห็นผมเป็นแบบนี้หรอ” “……” นัชชาสบสายตาชัดเจนนั่น มองเห็นลูกตาดำเหมือนหินแร่ออบซีเดียน มองเห็นความโหยหาของเขาที่ส่งให้ตน ใจแข็งไหม แน่นอนว่า ใจไม่แข็ง เธอถอนหายใจภายในใจอย่างไร้เสียง ถูกเขาเล่นงานอย่างราบคาบ ไม่มีทางเลือก ต้องรีบโน้มศีรษะลงไปจุ๊บปากเขาไวๆ แต่ตอนที่เธอจะละออกมา กลีบปากกลับถูกเขากัดไว้ เธอเจ็บนิดหน่อย ร้องเสียงสั่นออกมา “โอ๊ย!” เตชิตได้ยินก็ปล่อย ลองหยั่งเชิงรุกเข้าไปในโพรงปากเธอ เห็นว่าเธอไม่ได้ยืนกรานปฏิเสธแถมแปรเปลี่ยนเป็นได้ใจขึ้นมา ลิ้นยืดหยุ่นก็เข้าไปสำรวจทุกซอกทุกมุม ราวกับจะกลืนกินเธอทั้งตัวอย่างดุเดือด นัชชาถูกเขาจูบจนค่อนข้างเจ็บ แต่ความเจ็บนี้กระตุ้นปฏิกิริยาให้เพิ่มขึ้น กลีบปากมีความรู้สึกชาและอ่อนปวกเปียกทั้งร่าง จูบกันนับครั้งไม่ถ้วนทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้ ร่างกายอยากแนบชิดมากขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ แต่ไม่ได้ เขากำลังป่วยอยู่ นึกถึงการฝากฝักของปรัณ นัชชาจึงยกศีรษะขึ้น ลมหายใจไม่มั่นคง “คุณ คุณต้องพักผ่อนนะ ไม่งั้นส่วนปอดจะได้รับผลกระทบ” “ไม่เป็นไร” เขาพูดพลางคิดจะแนบลงมา นัชชาเอียงศีรษะหนี ห่างออกมาไกลหน่อย “ฟังพี่ปรัณดีกว่าเถอะนะ” กันไว้ดีกว่าแก้ ป้องกันไว้ดีกว่าปล่อยปะละเลย นี่คือจุดยืนของนัชชามาโดยตลอด เห็นขอบตาเขามีเปลวไฟลุกไหม้ นัชชารู้ว่าตัวเองไม่ควรทำแบบนี้อีก ยืนขึ้นมา อยากจะเดินออกไปสงบสติอารมณ์สักครู่ สายตาก็เลื่อนไปเห็นในระหว่างขาสองข้างที่อยู่ด้านล่างผ้าห่ม เค้าโครงชัดเจน...... ใบหน้าเธอร้อนขึ้นมา ไม่กล้าดูมาก หันตัวตรงออกจากห้องไป บาปจริง แบบนี้ก็ยังจะ...... เตชิตจ้องเขม็งที่แผ่นหลังเธออยู่ตลอด จนกระทั่งเธอออกไปแล้ว ถึงหันกลับมามองเพดานบนศีรษะ หายใจเข้าและหายใจออก ที่จริงแล้วทางเดินอากาศยังค่อนข้างเจ็บอยู่ แต่ก็คุ้มกับจูบนั้นอยู่ สิบนาทีต่อมา ประตูห้องผู้ป่วยก็เปิดออกอีกครั้ง คนที่เข้ามาไม่ใช่นัชชา ปรัณนำยาตัววใหม่เดินเข้ามา มองรอบๆห้องอย่างไม่คาดคิด “ทำไมมีนายคนเดียว นัชชาล่ะ?” ร่างกายเตชิตค่อยๆสงบลง แต่ไม่ได้ตั้งใจไร้เหตุผล แต่พอนึกถึงคำพูด ‘ฟังพี่ปรัณดีกว่าเถอะนะ’ ของเธอเมื่อครู่สีหน้าก็ไม่ค่อยดี ปรัณเมื่อเห็นท่าทางเขาแบบนี้ ก็นึกว่าทั้งสองทะเลาะกัน ก็รำคาญใจขึ้นมาทันที “อย่าบอกนะ? เพิ่งฟื้นขึ้นมาก็ทะเลาะกันแล้ว?” เขากังวลว่าหลังจากคนคนนี้ฟื้นขึ้นมาจะได้รับการโจมตี ไม่คิดว่าเขาจะเหมือนคนที่ไม่ใส่ใจ ความอดทนทางด้านจิตใจไม่ค่อยดีเอาซะเลย “หุบปาก” เขาพ่นออกมาสองพยางค์เรียบๆ ไม่แม้แต่อยากจะสนทนาด้วย ปรัณยิ่งมั่นใจ วางยาในมือลง พุ่งเข้าไปที่หัวเตียงแล้วเริ่มสั่งสอน “เตชิต ไม่ใช่ฉันว่านายนะ ตอนนี้ร่างกายนายนอนยังไงก็นอนอย่างนั้น อย่าไปบอกว่าไม่เหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้น่ะ นัชชาก็อยากให้นายยอมรับว่าตัวเองบำเพ็ญตบะอยู่ ยังจะทะเลาะกับคนที่คอยอยู่เป็นเพื่อนสามวันสองคืนอีก มีสติหรือเปล่า......” เขายังพูดไม่จบ นัชชาก็เดินเข้ามาจากข้างนอก ไม่กล้าออกไปนาน แต่บังเอิญได้คำพูดนี้ เธอจึงไอออกมาอย่างกระอักกระอ่วนทันที “พี่ปรัณคะ พวกเราไม่ได้ทะเลาะกันค่ะ” ปรัณมองไปตามเสียง ขณะที่สบสายตากระอักกระอ่วนของนัชชาที่แสดงถึงความไม่เป็นธรรมชาติออกมาเล็กน้อย ฝ่ามือใหญ่โบกไปมา “นัชชา เธออย่าแกล้งโง่หน่อยเลย ยังไงตอนนี้มันก็ป่วยอยู่ เข้ามาใกล้ไม่ได้ มีอะไรไม่พอใจก็ปล่อยออกมาเลย” เตชิต “......” นัชชา “......” เธอจะอธิบายอย่างไร? ให้บอกว่าตอนนี้ที่เธอเขินอายอยู่นี่เป็นเพราะโดนเขาลวนลามหรอ?
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่437 ผู้ป่วยอนาจาร
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A