ตอนที่441 นี่สิคือท่าทางของผู้ชายเธอ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่441 นี่สิคือท่าทางของผู้ชายเธอ
ตอนที่441 นี่สิคือท่าทางของผู้ชายเธอ หลังจากเตชิตผ่านการฝึกทำกายภาพมาหกวัน ร่างกายก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก ก่อนหน้านี้ปรัณยังได้เคยพูดว่า สองสามวันนี้เป็นช่วงเวลาของการตอบสนอง การทำงานของร่างกายในแต่ละส่วนจะค่อยๆฟื้นฟูไปถึงสภาพที่ดีที่สุด โดยเฉพาะเตชิตจัดการกับเรื่องนี้อย่างจริงจังมาก ในทุกๆวันจะมีเป้าหมายทำกายภาพให้มากกว่าปกติ วันที่สี่ก็เริ่มเดินได้ปกติแล้ว ตอนนี้กำลังนั่งดูรูปแบบรายงานในโทรศัพท์อย่างสบายๆบนเตียง นัชชามองเขาที่ค่อยๆดีขึ้น ขณะที่ดีใจก็กังวลไปด้วย ทุกครั้งที่เห็นเขาเหงื่อแตกพลั่ก ในหัวก็มีคำฝากฝังของปรัณขึ้นมา ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ในชั่วพริบตา ระยะเวลาทำกายภาพได้จบลงแล้ว สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เตชิตอารมณ์ดีมาก ตื่นเช้ามาก็อาบน้นำ และให้ผู้ช่วยนำชุดสูทใหม่มาให้หนึ่งชุด สวมเสื้อเชิ้ตและกางเกงเรียบๆ บอกไม่ได้ว่าน่าหลงใหลหรือดูดี แม้แต่หมอและพยาบาลที่เข้ามาก็อดไม่ได้ที่จะอึ้ง ชายผู้หล่อเหลา ไม่เหมือนกับตอนที่ใส่ชุดผู้ป่วย ออร่ามีพลังก็ตีเข้าที่หน้า สั่นผวาคนไม่กล้าออกเสียง เตชิตไม่ได้ใส่ใจกับสายตาคนอื่นมาโดยตลอด วันนี้กลับเพลิดเพลินเป็นพิเศษ รอคนออกไปหมด ตรวจสอบอะไรเสร็จแล้ว มองนัชชาอย่างหลงตัวเอง “เป็นไง สามีคุณหล่อไหม?” “......” นัชชาคิดว่าไม่รู้จะพูดอะไรและขำด้วย แซวเขาเบาๆ “ขี้อวดอะไรนัก!” “เพิ่งหายป่วยนี่หน่า อารมณ์ดีมาก” ชายแก่ไม่ปิดบัง สองมือล้วงเข้าไปในกระเป๋า ก้าวเท้าเดินเข้ามาหาเธออย่างสบายๆ เสื้อเชิ้ตขาวถูกยัดเข้าไปในกางเกง บริเวณผ้าทั้งสองฝั่งเป็นหน้าท้องแบนราบแต่แข็งแรง “นอนเป็นคนป่วยมาตั้งอาทิตย์กว่า จะพิการอยู่แล้ว” พูดจบ เขาก็เอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อง ร่างกายสูงใหญ่เกือบจะโอบบังนัชชาทั้งหมด เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้ กลิ่นอ่อนๆแถวปกคอลอยมา เธอดมฟุดฟิด เงียบไปสองสามวินาที ยกสายตามามองเขาอย่างบังเอิญ “คุณฉีดน้ำหอมหรอ?” “อืม นิดหน่อย” ตอนนี้นัชชาอยากจะขำออกมาจริงๆ “ไม่ใช่ว่าตรงกลับมาหรอ คุณจะฉีดน้ำหอมทำไม?” “ก็อยากฉีด” เขาไม่ตอบเธอ นอนอยู่ที่นี่หลายวัน หลายครั้งแล้วที่รู้สึกว่าตัวเองเหม็น เดิมทีเขาเป็นคนรักความสะอาด ก็เลยทรมาณเป็นธรรมดา ด้านหลังของนัชชาคือกำแพง เขายื่นมือไปดันบนกำแพง และกั้นลำตัวเธอไว้ หลังจากจัดระเบียบเรียบร้อยใบหน้าหล่อที่น่าหวาดกลัว ตอนนี้ห่างกับเธอไม่ถึงหนึ่งกำปั้น“คิดถึงผมไหม?” นัชชาจู่ๆก็ถูกเขาเข้ามาใกล้จนหน้าแดง แม้ว่าจะอยู่กันมาตั้งนาน แต่เธอก็รู้สึก......หน้าแดง เอื้อมมือไปผลักไหล่ผู้ชายเบาๆ “ไม่ได้เจอกันทุกวันหรอ......” “แต่วันนี้ไม่เหมือนกันนี่” เขาหัวเราะขึ้นมา มุมปากยกขึ้นน่าหลงใหล แสงนอกหน้าต่างส่องเข้ามาจากด้านหลัง เกิดเป็นเค้าโครงร่างเขา “รูปลักษณ์ผมวันนี้เป็นรูปลักษณ์ที่ผู้ชายของคุณควรมี” ประโยคเดียว ทำให้ใจนัชชาเต้นจนถึงลำคอ แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่ใช่คนที่เป็นคนปากหวาน ดังนั้นทุกครั้งที่ได้ยินเขาพูด จะรู้สึกใจเต้นเป็นพิเศษ ปฏิเสธไม่ได้ วันนี้เขาหล่อมากจริงๆ เพราะว่าป่วยสีผิวเลยขาวกว่าแต่ก่อน สายตาคู่นั้นก็ยิ่งเซ็กซี่ พื้นที่เงียบสงบ ท่ามกลางบรรยากาศคือความกำกวมระหว่างทั้งสอง เขาอยู่ใกล้มาก ใกล้จนเห็นภาพสะท้อนในดวงตาชัดเจน ราวกับใช้พลังดึงออกมาจากนัยน์ตา เขาค่อยๆโน้มศีรษะลงมาเข้าไปใกล้แววตาประกายสีแดง รับรู้ถึงความตั้งใจของเขา แม้ว่าจะเขินอายในสถานที่ แต่นัชชาก็เงยศีรษะขึ้นตอบรับเขา...... ‘แอ๊ด’ ขณะที่ริมฝีปากทั้งสองกำลังประกบกัน ประตูห้องด้านหลังก็พลันมีเสียงคนเปิดเข้ามาจากด้านนอก และมีเสียงที่คุ้นเคย—— “ดำเนินการออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว นี่ยาที่ควรเอาไปด้วย......” พูดได้ครึ่งเดียว เสียงของเขาก็หยุดลงทันที มองเห็นภาพชายผู้ที่กำลังโอบกอดเข้าใกล้ตรงหน้า แม้แต่ขาอีกข้างที่ยังไม่ได้ก้าวเข้ามาก็หยุดลง นัชชาเกือบจะผลักคนตรงหน้าออกทันที ใบหน้าแดงเหมือนลูกมะเขือเทศ โดยเฉพาะตอนที่เขาเห็นคนที่มาชัดๆ เกือบจะอยากหนีออกไปจากตรงนี้ “พี่ปรัณ......” อย่างชัดเจน ปรัณคิดไม่ถึงว่าจะปรากฏภาพที่กระอักกระอ่วนและผิดเวลาตตรงหน้า พูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก “คือ คือประตูนี้......พี่ พี่ไม่ได้ตั้งใจ พวกเธอทำ พวกเธอทำต่อได้เลยฮ่าๆ......” นัชชาจะไปทำต่อได้อย่างไร รีบโบกมือ “ไม่ ไม่ค่ะ พี่มีเรื่องอะไรพูดได้เลย” “พี่ให้คนเขียนใบสั่งยาให้แล้ว ตามไปดูไหม?” ในขณะที่ปรัณพูดอยู่ สายตาก็หรี่เล็กน้อย ไม่ชัดนัก แต่กลายเป็นสัญญาณลับในการสนทนาระหว่างสองคน นัชชาเห็น ความรู้สึกเขินอายในใจก็กลับมาอีกครั้ง “โอเค งั้นตอนนี้พวกเราไปกันเถอะ” เทียบกับความเขินของเธอแล้ว เตชิตเป็นผู้ดีที่ใจกว้าง สีหนน้าไม่เปลี่ยนเลย เห็นเธอจะไปก็จะไปด้วยทันที “ผมไปเป็นเพื่อน” “ไม่ต้อง!” เธอไม่อยากจะปฏิเสธหรอก “คุณรอฉันที่นี่เถอะ!” พูดจบ และไม่เปิดโอกาสให้เขาพูด ก็รีบตรงดิ่งเดินออกไป เตชิตเมื่อเห็นแบบนี้แล้วก็แค่รู้สึกว่าเธอเขิน และไม่ได้คิดมาก เอาตามที่เธอว่า หลังจากปรัณพานัชชาไปที่ห้องทำงาน ตรงหน้าเพิ่งเห็นภาพที่ไม่คาดคิด แต่คำพูดต่อมาค่อนข้างจริงจัง เขาแกล้งไอขากเสมหะ แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมา “วันนี้ออกจากโรงพยาบาลหมายความว่าจะเริ่มการถอนสารเสพติดอย่างเป็นทางการ สองวันแรกไม่เกิดปฏิกิริยาอะไรเป็นพิเศษ แต่หลังจากผ่านไปสี่สิบแปดชั่วโมง จะค่อยๆปรากฏอาการไม่ค่อยดี รวมถึงเวียนศีรษะ อาการเกร็งกระตุก อาเจียน ความร้ายแรงอาจจะมีลมบ้าหมูตามมาด้วย ถึงตอนนั้นเดาว่าเตชิตก็อาจจะรู้ ดังนั้นเพื่อให้เขามีความมั่นใจ ทางที่ดีอย่างเพิ่งบอกความจริงกับเขา ให้บอกว่าเป็นผลข้างเคียงของการรักษา ทางพี่ก็จะช่วยอธิบาย เดี๋ยวจะฉีดวัคซีนให้เขา ไม่ถึงกับฉับพลันเกินไป” นัชชาไม่ได้ฟังเรื่องพวกนี้จากปรัณเป็นครั้งแรก แต่วันนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน หลังจากออกจากโรงพยาบาลอย่างเป็นนทางการจะต้องเผชิญหน้ากับการเสพติดที่น่ากลัวจริงๆแล้ว “พี่ปรัณ อาการเสพติดนี้รุนแรงขนาดไหนกันแน่ ยากที่จะถอนมากไหมคะ?” เธอไม่ได้เรียนแพทย์มา เลยยากที่จะนิยาม ได้ยินดังนั้น ปรัณก็หยุดคิดไปสักพักก่อนจะตอบอย่างระมัดระวัง “ยากกว่าเฮโรอีน ความซับซ้อนของสารเสพติด เป็นหนึ่งในสารเสพติดที่เลิกยากที่สุด” ประโยคนี้เหมือนกับเป็นหินก้อนใหญ่กดทับในใจเธออย่างไม่ต้องสงสัย พลันทำให้เธอหายใจอย่างหดหู่ขึ้นมา “ถ้าเขารู้สึกแย่มากๆจะต้องทำยังไงคะ?” คำถามนี้เกือบทำให้ปรัณสับสน ทำอย่างไร? “ทำได้เพียงอดทน” คำพูดกล่าวออกมาแล้ว เห็นสีหน้าท่าทางที่หดหู่ของนัชชา ก็ใจไม่แข็ง “วางใจได้ พี่จ่ายยาจำพวกควบคุมและช่วยเสริมอยู่ ปริมาณยาพี่เคยบอกเธอไปแล้ว ช่วยได้อย่างแน่นอน แต่ทำได้เพียงบรรเทาอาการ ถ้าอยากจะเลิกจริงๆ จะต้องขึ้นอยู่กับความตั้งใจของเขา แต่เธอไม่ต้องกังวล ไม่อันตรายต่อชีวิตเขาอย่างแน่นอน” ก็เหมือนกับการเลิกยาเสพติด วิธีการช่วยทั้งหมดก็ทำได้เพียงช่วย เมื่อเสพติดขึ้นประสาทร่างกายก็จะทำการตอบสนอง ต้องอดทนในส่วนที่ยากลำบากที่สุดด้วยตัวเอง นัชชาฟังแล้วหนักใจ “พี่ปรัณคะ ความเป็นไปได้ในการเลิกมีเท่าไหร่?” แต่ก่อนกลัวว่าความกดดันในใจนัชชาจะมาก เขาเลยไม่กล้าพูดมาก โชคดีที่เธอก็ไม่เคยถาม แต่ตอนนี้นัชชาถามขึ้นมา เขาไม่บอกก็ไม่ได้ ปรัณยื่นฝ่ามือออกไปทำเป็นรูปร่าง จากนั้นก็พูดเสริม “ห้าสิบเปอร์เซ็น”
已经是最新一章了
加载中