ตอนที่15 มีดโกนเล่มนี้ดันทื่อเกินไป   1/    
已经是第一章了
ตอนที่15 มีดโกนเล่มนี้ดันทื่อเกินไป
ต๭นที่15 มีดโกนเล่มนี้ดันทื่อเกินไป “คุณพักผ่อนอยู่ที่นี่สักครู่เถอะ ผมจะออกไปทำธุระข้างนอก ไว้รอผมกลับมาแล้วเราไปทานอาหารกลางวันกัน”สุวิทย์ก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือเขา คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้จวนจะสิบเอ็ดโมงแล้ว “ไม่เอา ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่คนเดียว”เพ็ญจิตเมื่อได้ยินดังนั้นก็ส่ายหัวไปมา เธอไม่อยากเป็นเด้กที่ถูกทอดทิ้งอีกแล้ว “ตาของคุณบวมอยู่อย่างนี้ คุณกล้าออกไปข้างนอกหรือ?”สุวิทย์ชี้ไปยังตาของเธอ เขาแค่เพียงอยากออกไปโทรศัพท์เท่านั้น พรุ่งนี้จะได้พาเพ็ญจิตกลับไป ไม่ใช่ไปเพื่อพบผู้หญิงคนนั้น แต่คือไปพบกับบิดาที่ให้กำเนิดเขาเสียหน่อย “เป็นคนยังไงก็ต้องเคยร้องไห้ ฉันไม่กลัว อีกอย่างฉันไม่ได้นำอะไรติดตัวออกมาเลย ฉันจึงจำเป็นต้องออกไปซื้อของใช้เสียหน่อย”เพ็ญจิตทำท่าแบมือทั้งสองข้างออก นอกจากบัตรประชาชนกับบัญชีธนาคารที่เธอนำติดตัวมา แม้กระทั่งเสื้อผ้าอาภรณ์ที่จะนำมาเปลี่ยนก็ยังไม่มี “ก็ได้”สุวิทธ์ถอนหายใจอย่างหมดทางเลือก แต่งงานวันแรก ตอนเช้าเขามองดุภรรยายิ้มแย้มบ้าง ร้องไห้บ้าง พอตกบ่ายก็เดินตามเธอไปช็อปปิ้ง แม้ว่าแม่สาวนี่จะอยากจ่ายเงินด้วยตัวเองแต่ทว่าเขาเป็นถึงสามีของเธอจะให้ผูหญิงจ่ายเงินได้อย่างไรกันเล่า อีกทั้งของราคาแค่นี้เขาก็พอที่จะจ่ายไหวอยู่ ตลอดช่วงบ่ายสุวิทย์รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยของเพ็ญจิต ทั้งช่วยเธอถือถุงและยังทำหน้าที่เป็นกรรมการจำเป็นให้กับเธออีกด้วย เพราะเสื้อผ้าทุกตัวเธอจะต้องลองใส่ให้สุวิทย์ดูก่อน เพราะเหตุนี้ เขาจึงมีโอกาสได้เชยชมภรรยาป้ายแดงของเขาเสียหน่อย แม้ว่าเธอจะยังมีความเป็นเด็กงอแงอยู่มาก แต่ทว่ารูปร่างก็นับว่าดีมากทีเดียว ดูท่าแล้วแม่ก็คงจะถนุถนอมเธอจริงๆ ก่อนหน้านี้เธอมักจะใส่เสื้อผ้าที่ใหญ่กว่าสองไซส์ แต่คราวนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ต้องใส่ใจเรื่องนี้อีก เสื้อผ้าที่เธอเลือกมาทั้งหมดล้วนแต่พอดิบพอดีกับรูปร่างของเธอ อีกทั้งยังดูแฟชั่นมากอีกด้วย เมื่อรูปร่างอันชวนให้น่าหลงใหลมาปรากฏอยู่ตรงหน้าหลายครั้งหลายครา สุวิทย์ก็ย่อมมีปฏิกริยาตามสัญชาตญาณเป็นธรรมดา ยามเย็นเพ็ญจิตพาสุวิทย์ไปดินเนอร์ใต้แสงเทียน ตลอดช่วงบ่ายที่ใช้เวลากับเธอทำให้สุวิทย์เข้าอกเข้าในเธอมากขึ้น ว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นเพียงเด็กซื่อบื้อที่ปากพูดไปเรื่อยแต่ใจไม่คิดอะไร จึงตกปากรับคำพาเขามาเลี้ยงข้าวเสียได้ “คุณสามี นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันมากินอาหารตะวันตกกับผู้ชายสองต่อสอง ฉันมีความสุขมากๆ”ระหว่างที่ทานสเต็ก เพ็ญจิตก็ใช้ใบหน้าอันปกเปื้อนไปด้วยคราบแห่งความสุขจ้องมองไปยังสุวิทย์ เธอตัดสินใจที่จะมองข้ามใบหน้าที่ปกคลุมไปด้วยหนวดเคลาของเขาและเชื่อว่าผู้ชายที่อบอุ่นและช่างเอาใจใส่ผู้อื่นแบบนี้ ต้องหล่อมากๆ “ระหว่างทานอาหารอย่ามัวแต่พูดมาก มันจะส่งผลต่อระบบย่อยอาหารเอา”สุวิทย์เมื่อได้ยินคำพูดของเธอก็รู้สึกไร้ค่าขึ้นมาจึงได้พูดจาเสียดสีเหล่านั้นออกไป ครั้งแรกที่เขาพาผู้หญิงไปทานอาหารตะวันตก ผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้ได้กลายเป็นภรรยาที่รักของพ่อตัวเองไปเสียแล้ว เพ็ญจิตไม่รู้ตัวว่าเธอพูดอะไรผิดไป รู้เพียงว่าหลังจากเธอพูดออกไปแล้วบรรยยากาศกลับเปลี่ยนไป สุวิทย์ก็ไม่พูดไม่จา สีหน้ายิ่งไม่น่าดูขึ้น แม้ว่าจะกลับมาถึงโรงแรมแล้ว เขาก็ยังทำหน้ามืดๆ เพ็ญจิตมองไปที่เตียงหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง จึงรู้สึกหายใจหายคอลำบากขึ้นมาเล็กน้อย เธอไม่เคยคิดเลยว่าคืนนี้จะนอนอย่างไร หากจะว่ากันตามกฏหมายแล้วพวกเขาก็เป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้อง การจะนอนเตียงเดียวกันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สมควร แต่ถ้ายึดกันตามเรื่องจริง พวกเขาก็เพิ่งจะรู้จักกันแค่สิบกว่าชั่วโมงเท่านั้น ไม่ว่าเรื่องอะไรๆก็ยังไม่รู้สักอย่าง อีกทั้งตอนนี้ แม้กระทั่งชื่อของเขาเธอก็ยังจำไม่ค่อยได้ อีกทั้งก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นลูกเต้าเหล่าใคร สุวิทย์ก็หาได้สนใจเพ็ญจิตที่ยืนเหม่อล่องลอยไม่ เขาถอดเสื้อคลุมแล้วเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อยืนจ้องตัวเองในกระจกก็คิดอยากจะโกนหนวดโกนเคลาที่ปกคลุมอยู่เต็มหน้าออกเสีย แต่ทว่าหนวดของเขานั้นยาวมากและมีดโกนเล่มนี้ก็ดันทื่อเกินไป เขาอาบน้ำเสร็จแล้วถึงจะนึกขึ้นได้ว่าตนลืมเอาเสื้อผ้าข้ามาเปลี่ยน เต่ก่อนก็อยู่ตัวคนเดียว เรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องคิดมากอะไร แต่เวลานี้ข้างนอกกลับมีสตรียืนอยู่อีกหนึ่งคน เขาจึงไม่สามารถเดินออกไปทั้งเปลือยๆนี้ได้ หากวิเคราะห์เอาตามความเข้าใจเขาตลอดระยะเวลาสิบกว่าชั่วโมงมานี้ ถ้าเขาเดินออกไปล่ะก็ ผู้หญิงคนนี้ได้มีหวังเอามือปิดตาแล้วแหกปากโวยวายเสียงดังเป็นแน่ 
已经是最新一章了
加载中