ตอนที่21 คำยั่วยุจากคนรักเก่า   1/    
已经是第一章了
ตอนที่21 คำยั่วยุจากคนรักเก่า
ต๭นที่21 คำยั่วยุจากคนรักเก่า “คุณชายครับ ร่างกายของนายท่านจริงๆไม่สู้ดีมาโดยตลอดครับ ก่อนหน้านี้ท่านกลัวว่าคุณชายจะเป็นห่วงก็เลยเลือกที่จะปิดบังทุกอย่างเอาไว้มาโดยตลอด” ลุงกำจรตอบกลับสุวิทย์ “พ่อครับ พ่อต้องไม่เป็นอะไรนะครับ ต้องไม่เป็นอะไร ผมจะไปตามหมอมาเดี๋ยวนี้”สุวิทย์ลุกขึ้นเพื่อที่จะซ่อนแววตาแห่งเจ็บปวดไว้ “ไม่ ไม่ต้องหรอก วิทย์เอ๋ย แม่ของลูกรอพ่ออยู่ พ่อต้องไป”สุวิทย์รู้สึกได้ว่ามือที่จับเขาอยู่นั้นไร้เรี่ยวแรงลงในทันใด “พ่อครับ พ่อ พ่อได้ยินที่ผมพูดไหม? พ่อ...” สุวิทย์ตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือออกมาอย่างเสียงดัง คุณหมอจึงรีบวิ่งเข้ามาในทันที สิบนาทีผ่านไป คุณหมอก็แจ้งว่าพ่อของสุวิทย์ได้จากโลกนี้ไปเสียแล้ว “ไม่ เป็นไปไม่ได้ พ่อ...”เขาเปล่งเสียงร้องออกมาจนสุดคอด้วยความเศ้าโศกระทมใจ เขารีบรุดกลับบ้านราวกับคนเสียสติ ใช้เท้าเตะประตูบ้านด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวสุดขีด เตะเข้าไปครั้งหนึ่งและเตะเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง ครั้นถึงครั้งที่สามประตูเปิดจึงออกมา ทันใดนั้นเสียงกร่นด่าก็ดังลอยออกมาจากในบ้าน “ไอบ้าที่ไหนกัน ไม่รู้หรือไงว่าฉันหลับอยู่? ยังจะส่งเสียงดังอีกหรือ ไสหัวไปเดี๋ยวนี้ .... อย่า...อ๊าย...ช่วยด้วย” ไรวินท์ที่หลับตากร่นด่าอยู่ จนกระทั่งถูกกระชากผมถึงจะตื่นขึ้นมา หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องโวยวาย “ช่วยด้วย...อ๊าย ใครก็ได้มาช่วยที”สุวิทย์กระชากผมของหล่อนออกมาข้างนอก ไรวินท์ซึ่งอยู่ในอาการตกใจกลัวในขณะนั้น ยังไม่รู้ชัดเจนว่าใครกำลังดึงผมหล่อนอยู่กันแน่ “ไรวินท์ ถ้าเธอยังจะแหกปากพูดอีกสักคำล่ะก็ ฉันจะบีบคอเธอให้ตายไปประเดี๋ยวนี้”น้ำเสียงของสุวิทย์ท่วมท้นไปด้วยความโกรธ เขารู้แค่เพียงว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเพียงภรรยาในนามของพ่อ ในขณะที่ท่านป่วย ในขณะที่ท่านนอนอยู่โรงพยาบาล หรือแม้แต่ในขณะที่ท่านจะลาโลกใบนี้ไป หล่อนกลับมัวสำมะเลเมเมาอยู่ข้างนอกไม่ยอมกลับมาทั้งคืน “วิทย์ คุณคือวิทย์ใช่ไหม คุณกลับมาแล้วหรือ คุณกลับมารับฉันใช่ไหม?”ไรวินท์เงยหน้าขึ้นมา มองดูหน้าคนรักเก่าในวันวานด้วยความรู้สึกสุขอมทุกข์ “หุบปากซะ เมื่อวานคุณไปไหนมา คุณยังจำฐานะตัวเองได้หรือเปล่า”สุวิทย์พยายามยับยั้งความรู้สึกภายในใจของเขา เพราะยังไงเสียตอนนี้หล่อนก็ถือว่าเป็นผู้สูงอายุของเขา “ฉัน...วิทย์ คุณปล่อยฉันก่อนเถอะนะ ฉันเจ็บ”มือของไรวินท์จับเข้าที่ข้อมือของสุวิทย์ ขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยผมของเธอ “พูดมาว่า เมื่อคืนเธอไปไหนมา”สุวิทย์แผดเสียงก้อง “งานเลี้ยงรุ่น” ไรวินท์มองสุวิทย์ด้วยสายตาแห่งความปรารถนา ครึ่งปีแล้วสินะ สุดท้ายเขาก็กลับมาแล้ว “มีใครไปงานบ้าง?”สุวิทย์ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา หากพวกเขาเป็นเพื่อนจริงล่ะก็ เพื่อนของหล่อนเขาก็รู้จักหมด จะโกหกหรือไม่โกหกนั้นแค่ต่อสายเดี๋ยวก็ได้รู้กัน เมื่อถูกสุวิทย์ซักไซ้ ไรวินท์ก็อับจนหนทางจะโกหกต่อไป หล่อนจึงลุกขึ้นยืนแล้วหันไปเล่นละครตบตาต่อล้อต่อเถียงขี้นิ้วด่าสุวิทย์ยกใหญ่ “ใช่ ฉันยอมรับก็ได้ว่าฉันไปเที่ยวบาร์มา แล้วจะทำไม? ตาแก่นั่นอายุมากกว่าพ่อฉันอีก แต่ฉันก็ยังดื้อดึงจะแต่งงานกับเขา คุณเคยคิดจะเข้าใจฉันบ้างไหม ทำไมกัน ทำไมคุณถึงไม่กล้าแย่ง ทำไมคุณถึงยอมเห็นฉันแต่งงานกับเขา สุวิทย์ คุณมันขี้ขลาด คุณมันเป็นแค่ไอ้คนขี้ขลาด” ในยามนี้สุวิทย์ไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องเดิมๆขึ้นมาพูดอีก ใช่ว่าเขาไม่เคยพยายามแย่งเธอกลับมาซะที่ไหนกัน แต่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้นี่แหละ ที่เอาแต่ดื้อดึงจะแต่งงานกับพ่อให้ได้ราวกับคนบ้าเสียอย่างไรอย่างนั้น “ผมไม่อยากจะขุดเรื่องในอดีตขึ้นมาพูดอีก ในเมื่อคุณก็แต่งงานกับพ่อผมแล้ว ก็ควรจะพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดี ในขณะที่ท่านป่วยอยู่โรงพยาบาล คุณไปอยู่ไหน ไรวินท์ คุณอย่าพยายามอ้างเหตุผลให้ตัวเองหน่อยเลย ในขณะที่พ่อของผมจากไป คุณไปอยู่ไหนมา”สุวิทย์จ้องมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวใจ หญิงสาวที่เคยสุภาพอ่อนโยน หญิงสาวที่เคยจิตใจงดงาม บัดนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่สามารถที่จะเข้าใจหล่อนได้อีกต่อไป “ต่อให้ฉันอยู่ที่นั่นเขาก็ไม่สนใจฉันหรอก พวกแกสองคนพ่อลูกมันก็เลวเหมือนกันนั่นแหละ สุวิทย์ฉันขอแช่ง ขอแช่งให้พวกแกตายๆไปซะ” “ถ้าคุณพล่ามอีกคำเดียว ผมจะฆ่าคุณเสีย”สุวิทย์บีบคอไรวินท์อย่างแน่น พ่อก็จากโลกนี้ไปแล้ว แต่ผู้หญิงคนนี้ยังถึงขึ้นที่จะด่าแช่งคนตายอยู่อีก แต่เมื่อเห็นน้ำตาที่หล่อนพยายามอดกลั้นไว้ เขากลับลงมือไม่ลง เขาเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้เสียจริง ทำไมพอเป็นเรื่องความรักทีไรก็กลับอ่อนแอบอบบางได้ถึงเพียงนี้ “คุณไปเสียเถอะ แล้วอย่าโผล่หน้ามาให้ผมเห็นอีกตลอดชาติ หลังจากวันนี้เป็นต้นไป บ้านคำวงษากับคุณไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกันทั้งสิ้น”เขาปล่อยมือลงอย่างช้าๆ สุวิทย์ได้ทำการตัดสินใจอันแสนยากลำบากลงไปแล้ว ผู้หญิงที่ฆ่าพ่อทางอ้อมให้ตายได้เยี่ยงนี้ เขาไม่มีวันยกโทษให้เป็นอันขาด “ไปงั้นหรือ สุวิทย์ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ฉันก็ยังเป็นแม่เลี้ยงของคุณ คุณมีสิทธิอะไรมาไล่ฉัน ฉันก็เป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้เหมือนกัน” เมื่อถึงตอนนี้แล้วไรวินท์จึงรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างไม่ถูกต้อง เลยพูดปฏิเสธสุวิทย์ด้วยใจกล้าๆกลัวๆ “ส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้หรือ ไรวินท์ ตอนคุณพ่นคำเหล่านี้ออกมา คุณเคยคิดบ้างไหมว่าที่ผ่านมาคุณเคยทำอะไรเพื่อบ้านคำวงษาแห่งนี้บ้าง” สุวิทย์จ้องมองไรวินท์ด้วยความเศร้าโศก จนถึงยามนี้แล้ว หล่อนยังไม่มีทีท่าสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย ต่อให้จ่ายเงินจ้างแม่บ้านก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ไป “คุณชาย พวกเราไปกันเถอะครับ คุณท่านได้เตรียมการทั้งหมดไว้ตั้งแต่แรกแล้วครับ เธอไม่มีวันได้สมบัติใดๆไปได้เป็นอันขาดครับ”ลุงกำจรมองไรวินท์ด้วยสายตาดูถูก ในบ้านหลังนี้เขาเป็นคนที่มองอะไรก็เฉียบขาดไปเสียหมด โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิงคนนี้ ตั้งแต่หล่อนเข้ามาในบ้าน ลุงกำจรก็คอยสอดส่องหล่อนอยู่เสมอ ของทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านคำษาวงแห่งนี้ หล่อนอย่าได้คิดแม้แต่จะหยิบไปเชียว แม้กระทั่งเงิน นายท่านได้มอบหมายเรื่องนี้ให้ทนายเป็นคนจัดการแล้ว ฉนั้นหล่อนก็เลิกคิดเรื่องจะช่วงชิงทรัพย์สมบัติไปได้เลย “กำจร แกพูดอะไร เขา...วิทย์ พ่อของคุณเป็นอะไรไปหรือ”ไรวินท์ถามลุงกำจรด้วยความตกตะลึง เมื่อครั้นเห็นลุงกำจรไม่สนใจใยดีจึงหันไปถามเอาความจากสุวิทย์แทน “คุณไม่ได้แช่งให้พวกเราพ่อลูกตายเร็วๆหรือไง ตอนนี้ก็สมใจอยากคุณแล้ว พ่อของผมเขาจากไปแล้ว แต่ผมไม่มีทางให้คุณสมหวังเร็วเกินไปหรอก”สุวิทย์มิได้สนใจไรวินท์อีก เขาไปจัดการเรื่องงานศพของพ่อกับลุงกำจรต่อ “วิทย์ ฉันไม่รู้...ฉันไม่รู้จริงๆ ถ้าหากฉันรู้ว่าพ่อของคุณเขาจะ... จะนั่นแหละ ฉันไม่มีทางออกไปเด็ดขาด วิทย์...” สุวิทย์หันไปเห็นหล่อนตามออกมาในขณะที่เขาออกมากับลุงกำจร “ไม่ ไม่ใช่ความผิดของฉัน ไม่ใช่ความผิดของฉัน เป็นตัวเขาเองนั่นแหละ ตัวเขาเอง...” ครั้นเห็นรถที่แล่นออกไป ไรวินท์ก็เริ่มหวาดผวา แม้ว่าหล่อนจะไม่ได้ยินยอมแต่งงานเข้ามา แต่ทว่าชีวิตที่หรูหราฟู่ฟ่าตลอดครึ่งปีมานี้ก็ได้กัดกินตัวหล่อนจนเสียนิสัยไปเสียแล้ว หล่อนสูญเสียความมั่งคั่งทุกอย่างไปเสียแล้ว หล่อนไม่อยากเป็นเหมือนเพื่อนคนอื่นๆที่ต้องทนหลังขดหลังแข็งเพื่อแลกกับข้าวเพียงสามมื้อต่อวัน ไม่อยากแขวนป้ายชื่อแล้วออกไปนั่งทำงานงกๆเพื่อเสื้อผ้าเพียงหนึ่งชุด หล่อนอยากมีชีวิตเยี่ยงคนรวย ไม่... ไรวินท์รีบวิ่งตะลีตะลานไปโรงพยาบาล แต่ซากศพได้ถูกนำออกไปเสียแล้ว ตั้งแต่วันที่สุวิทย์กลับบ้านไปวันนั้น เขาก็คอยกีดกันผู้หญิงคนนี้ตลอด ไม่ให้หล่อนไปร่วมงานศพของพ่อ เมื่อเสร็จสิ้นธุระต่างๆเรียบร้อย ทนายจึงมาประกาศพินัยกรรมให้ทราบ ครั้นเห็นพินัยกรรมที่พ่อทำไว้ สุวิทย์กลับเกิดความสงสัยแคลงใจเพิ่มมากขึ้น พ่อทั้งยกบ้านหนึ่งหลังทั้งให้เงินผู้หญิงคนนี้อีกถึงสิบล้าน ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา หากพูดกันตามตรง ไรวินท์ก็น่าจะหาเงินได้มากพอแล้ว ผลตอบแทนของการแต่งงานตลอดครึ่งปีนี้ก็ทำให้หล่อนไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องเงินๆทองๆไปตลอดขีวิตแล้ว เพียงแต่ไรวินท์ที่รักความฟุ่มเฟือยเสียจนเสียนิสัยกลับยังไม่รู้จักพอ “วิทย์คะ ฉันอยากจะไว้ทุกข์ให้พ่อของคุณค่ะ”เมื่อได้ทราบเจตจำนงจากพินัยกรรม ไรวินท์ก็มิได้มีท่าทางไม่พอใจอันใด หล่อนเพียงแต่ร้องขอสุวิทย์เรื่องไว้ทุกข์ก็เท่านั้น “ไว้ทุกข์หรือ ไรวินท์ คุณมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ คุณพูดออกมาตรงๆเถอะ ตอนที่พ่อผมยังมีชีวิตอยู่ คุณไม่เคยคิดจะดูดำดูดี ตอนนี้กลับมาพูดเรื่อง’ไว้ทุกข์’คุณคิดว่าผมจะเชื่อคุณงั้นหรือ”สุวิทย์จ้องมองไปยังหญิงคนรักเก่าด้วยสายตาเย็นชา ช่วงเวลาครึ่ง ปีหล่อนเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน หรือว่า หรือว่านี่จะเป็นเนื้อแท้ของหล่อน เพียงแต่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด “วิทย์คะ ก็เป็นเพราะก่อนหน้านี้ยามเขายังมีชีวิตอยู่ ฉันไม่เคยทำหน้าที่ภรรยาที่ดีเลยสักครั้ง ฉันเองก็รู้สึกผิดเลยอยากจะขอชดเชยให้สักหน่อย วิทย์คะ คุณให้โอกาสให้ฉันได้ชดเชยกับเรื่องที่ผ่านมาสักครั้งเถอะนะคะ”ไรวินท์นั่งคุกเข้าหน้ารูปของคุณพ่อพลางร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก “คุณชายครับ ตอนยังมีชีวิตอยู่ นายท่านกำชับไว้ว่าหากท่านเสียชีวิตเมื่อไหร่คุณผู้หญิงต้องออกจากบ้านไปทันทีนะครับ”ลุงกำจรที่ยืนอยู่ข้างๆพูดกำชับสุวิทย์ “ฉันเข้าใจแล้ว งั้นก็ให้ฉันไว้ทุกข์แค่หนึ่งร้อยวันเถอะ”ไรวินท์ก้มหัวลงพลางพูดตอบด้วยความสุภาพนุ่มนวล เรื่องงานฌาปนกิจของพ่อยังมิได้เสร็จสิ้นดี เหล่าผู้บริหารของบริษัทก็เข้ามาหาเขาเสียแล้ว สุวิทย์ไม่อาจไม่รับตำแหน่งประธานบริษัทต่อจากพ่อได้ แม้ว่าเขาอาจจะเคยสัมผัสงานแนวนี้มาบ้างแต่การจัดการกับกองเอกสารต่างๆของช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมานี้ ก็ไม่สามารถที่จะทำให้เสร็จลุล่วงภายในสอง สามวันได้ โชคดีหน่อยที่พวกเอกสารรีบเร่งได้ถูกอนุมัติจัดการเสร็จสิ้นไปตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว ไรวินท์ยังคงอาศัยอยู่ในบ้าน สุวิทย์จึงกินนอนอยู่ที่บริษัทมาเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆแล้ว แม้กระทั่งวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็ตาม วันหยุดสุดสัปดาห์ สุวิทย์ยังคงหมกหมุ่นอยู่กับกองเอกสาร เมื่อได้เข้ามาสัมผัสงานของบริษัทอย่างจริงจัง เขาจึงได้พบว่าการบริหารปกครองภายในบริษัทยังมีปัญหาใหญ่ๆอยู่มาก และเพราะเหตุนี้เองเขาจึงวางมือจากเอกสารเหล่านั้นชั่วคราว แล้วตัดสินใจแก้ไขจัดการระบบของบริษัทให้ดีเสียก่อน ก๊อกๆๆ “วิทย์คะ ฉันสามารถเข้าไปได้ไหม”ณ ห้องทำงานประธานบริษัทกรุ๊ปคำวงษาจำกัด ไรวินท์กำลังยืนเคาะประตูเบาๆอยู่ริมประตูที่ถูกเปิดคาไว้ “ใครใช้ให้คุณมาที่บริษัทกัน”เมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามา สีหน้าของสุวิทย์ก็ถอดสีทันที เดิมที่เขาเปิดประตูทิ้งไว้ก็เพื่อให้เลขาสามารถเข้ามาได้สะดวก จะได้ไม่ต้องคอยเคาะประตูให้น่ารำคาญ ไม่คิดเลยว่าจะกลับกลายเป็นช่องว่างให้คนนอกใช้ประโยชน์เสียได้ “วิทย์คะ คุรไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว ฉันเอากับข้าวมาให้คุณกิน หลังจากพ่อคุณจากไป คุณผอมไปมากแล้ว วิทย์ ฉันขอโทษนะที่ไม่ได้ดูแลคุณให้ดี” ไรวินท์พูดไปพลางหยิบกล่องอาหารเก็บความร้อนออกมาวางไว้บนโต๊ะทำงานของสุวิทย์ไป “ผมบอกให้คุณไสหัวออกไป คุณไม่เข้าใจหรือ”มิทันได้รอให้ไรวินท์เปิดกล่องข้าว สุวิทย์ก็แผดเสียงโวยวายเสียแล้ว “วิทย์ เมื่อก่อนคุณไม่ได้เป็นแบบนี้นี่คะ”ไรวินท์ยังคงก้มหน้าก้มตาทำต่อไปด้วยท่าทางออดอ้อนดูน่าสงสาร ชวนให้คนที่พบเห็นรู้สึกใจอ่อนทันที “หุบปาก ช่วยเจียมสถานะของตัวคุณเองไว้ด้วย ผมกับคุณเราไม่มีความสัมพันธ์ใดๆต่อกันแล้ว แล้วก็ช่วยเรียกผมว่าท่านประธานด้วย”เมื่อเผชิญกับสีหน้าท่าทางอันน่าเวทนาของ’แม่เลี้ยง’แล้ว สุวิทย์ก็อยากเรียกรปภ.ให้มาลากตัวหล่อนออกไปเสีย “วิทย์คะ ฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับพ่อของคุณจริงๆนะคะ ในตอนนั้นฉัน...ฉันถูกบังคับ”ไรวินท์พูดพลางร้องไห้กระซิกๆ “พอเถอะ ผมไม่อยากฟังเรื่องที่ผ่านมาแล้ว เชิญคุณออกไปเสียเถอะ”ความอดทนอดกลั้นของสุวิทย์มีขีดจำกัด เขาอุตส่าห์ไม่ยอมกลับบ้านเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอหน้าหล่อน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะหน้าด้านหน้าทนลากตัวเองมาถึงที่นี่ได้ “จริงๆนะคะ พ่อคุณทำเพื่อที่จะขัดขวางไม่ให้เราสองคนอยู่ด้วยกัน ก็เลยจ้างคนมาข่มเหงฉันแล้วก็ถ่ายภาพเอาไว้ เขาข่มขู่ฉัน ถ้าฉันไม่เลิกกับคุณ ก็...ก็เอารูปภาพพวกนั้นให้คุณดูว่า ฉันไม่มีทางเลือกจริงๆ วิทย์คะ คุณต้องเชื่อฉันนะคะ เหตุผลทั้งหมดที่ฉันยอมแต่งงานกับพ่อของคุณ ก็เพื่อที่จะได้มีโอกาสได้เห็นหน้าคุณบ้างก็เท่านั้นเอง วิทย์คะ คุณเชื่อฉันเถอะนะคะ” ไรวินท์ร้องไห้สะอึกสะอื้น สิ่งที่หล่อนพูดทำให้สุวิทย์สะเทือนขวัญเป็นอย่างมาก จะเป็นไปได้อย่างไรกัน พ่อไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่ๆ ยังไงก็ไม่มีทาง “ผมไม่อยากได้ยินเรื่องโกหกหลอกลวงที่คุณแต่งขึ้นมาอีกแล้ว คุณไปเสียเถอะ”สุวิทย์พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นหลังจากยืนอึ้งไปหลายนาที ตอนนี้พ่อก็ไม่อยู่แล้ว ผู้หญิงคนนี้ยังจะหาเรื่องเสื่อมๆมาใส่ตัวอีก ไม่ว่าอดีตจะเป็นอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อยากรู้แล้วทั้งนั้น อดีตก็คืออดีต และผู้หญิงคนนี้สุดท้ายแล้วก็เป็นผู้หญิงของพ่ออยู่ดี “วิทย์คะ พ่อคุณเขาไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวฉันเลยนะคะ...” 
已经是最新一章了
加载中