ตอนที่ 23 ริมฝีปากแดงมหันตภัย
1/
ตอนที่ 23 ริมฝีปากแดงมหันตภัย
OMG!สุ่มได้สามีคนหนึ่ง
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 23 ริมฝีปากแดงมหันตภัย
ตนที่23 ริมฝีปากแดงมหันตภัย สุวิทย์สูญเสียความสามารถในการคิดวิเคราะห์ไปเสียจนหมดสิ้นรู้สึกแค่เพียงไออุ่นจากเตาอบเครื่องใหญ่ที่แนบชิดอยู่ข้างหลังเขา เหงื่อก็ไหลออกจากหน้าผากพลักๆ “พวกเรากินข้าวกันเถอะ”สุวิทย์รวบรวมความสามรถในควบคุมตนเองทั้งหมด ดึงมือเล็กๆอันนุ่มนวมที่วางพาดอยู่ที่สะเอวของเขาออกแล้วเดินไปยังโต๊ะทานอาหารด้วยท่าทีแน่วแน่ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงมิให้เกิดเรื่องอย่างว่าสุวิทย์จึงยอมไปนั่งที่โต๊ะอาหาร จริงๆแล้วเขาสามารถปฏิเสธได้ เขาสามารถหนีออกมาได้แต่ทว่าเขากับถูกยั่วยวนให้หลงใหลอย่างมิอาจทัดท้านใดๆได้ ยามระลึกถึงความงดงามเหล่านั้นแล้วในหัวเขาก็มิอาจจะหยุดให้เลิกคิดถึงมันได้ แม้ว่าเขากับไรวินท์จะเคยรักกันมาถึงหนึ่งปีเต็มและตรงไหนที่ควรลูบไล้เขาเคยทำไปเสียจนหมดสิ้นแล้ว แต่ก็ไม่เคยฝ่าไปจนถึงด่านสุดท้ายเลยสักครั้ง มิใช่ว่าเขาไม่อยาก ทว่าเขาแค่เพียงต้องการจะเก็บความงดงามของกันละกันเอาไว้ในคืนที่สวยงามที่สุด แต่ไม่คิดถึงเลยว่า... “วิทย์คะ คุณเคยบอกว่าอยากจะแต่งงานกับฉันนี่คะ ถ้าหากว่างานแต่งคราวนั้นเป็นของคุณกับฉันก็คงจะดีมากเลยนะคะ”ไรวินท์จับแก้วไวน์ขึ้นมา แล้วใช้สายตาแดงระเรื่ออันน่าสงสารจับจ้องไปที่สุวิทย์ “เรื่องในอดีตไม่จำเป็นต้องยกขึ้นมาพูดอีก หลังจากวันนี้เป็นต้นไป คุณก็ไปใช้คุณ ผมก็จะใช้ผม พวกเราอย่าได้พบหน้ากันอีกเลย”สุวิทย์ยกแก้วไวน์ไปทางไรวินท์ “แก้วนี้ผมดื่มให้คุณ ต่อจากนี้พวกเราจะเดินกันคนละทาง คุณกับบ้านคำวงษาจะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆต่อกันอีกแล้ว” สุวิทย์พูดจบก็ดื่มไวน์รสเลิศแก้วนี้หมดภายในหนึ่งคำ ช่างสิ้นเปลืองไวน์องุ่นรสเลิศเหล่านี้เสียจริง “วิทย์คะคุณต้องการแบบนี้จริงๆหรือคะ? พวกเราไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนได้จริงๆหรือ”น้ำตาไรวินท์ร่วงลงไปในแก้ว ความเสียใจ พ่ายแพ้และสิ้นหวังก่อตัวขึ้นภายในหัวใจของเธอ “เรื่องในวันวานมิอาจหวนคืนกลับมาได้ แก้วนี้ เพื่อแสดงเคารพแก่คุณอีกครั้ง ขอให้หลังจากนี้ถ้าเราพบหน้ากันก็ให้ทำเสียว่าไม่รู้จักกัน”สุวิทย์รินไวน์ให้ตัวเองอีกครั้ง เขามิอาจใจกว้างเหมือนกับผู้ชายคนอื่นๆได้ หากเลิกกันแล้วก็ย่อมมิอาจหวนกลับมาเป็นเพื่อนกันได้อีก และยิ่งไปกว่านั้น ฐานะของ ไรวินท์ก็ยังน่าอับอายถึงเพียงนี้ นับจากวันนี้เป็นต้นไปเขาเพียงแต่หวังว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขานี้หายออกไปจากชีวิตของเขาอย่างหมดสิ้น จะบอกว่าเขาโหดร้ายก็ดี เลือดเย็นก็ดี นี่เป็นหลักการพื้นฐานของเขาที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ และยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็ล้วนไม่ใช่นักเรียนกันอีกต่อไปแล้ว อีกทั้งภายในก้นบึ้งหัวใจ เขาไม่เคยเชื่อว่าพ่อจะเป็นคนเลวร้ายอย่างที่ไรวินท์พูด เขาไม่เชื่อ “ได้ งั้นแก้วนี้ฉันดื่มให้คุณ ชาตินี้ไร้วาสนา ชาติหน้า...ภพหน้า”ไรวินท์มิอาจพูดออกมาได้ หล่อนลุกขึ้นยืนเดินผ่านโต๊ะไปทางสุวิทย์ต้องการจะคล้องแก้วดื่มกับเขา “เรื่องของชาติหน้าก็ค่อยว่ากันชาติหน้าเถอะ ผมเหนื่อยแล้วขอตัวขึ้นไปนอนก่อน”สุวิทย์ดื่มไวน์สามแก้วติดกันในคราเดียวแล้วผละ ไรวินท์ออก เขาตัดสินจากออกห่างจากความยั่วยวนตรงหน้านี้เสีย “วิทย์คะ ในใจของฉ...ฉันรู้สึกเสียใจมาตลอดที่ไม่ส...สามารถยกร่างกายอันบริสุทธิ์ให้คุณได้ ฉันขอโทษ”ครั้งนี้ไรวินท์พุ่งเข้ามาในทรวงอกของเขาเร็วกว่าเดิม เมื่อเห็นไรวินท์พุ่งเข้า มาแต่เดิมทีเขาสามาถที่จะหนีออกมาได้ แต่ทว่ากลับรู้สึกมึนหัวสุดท้ายเลยปล่อยตัวยอมให้หล่อนช่วยพยุง ไรวินท์ดึงเชือกลูกไม้บนไหล่เธอออกอย่างช้าๆเผยให้เห็นไหล่กลมขาวนวลแล้วค่อยๆลูบไล้ผิวพรรณอันเรียบเนียนดั่งผ้าแพรอย่างละมุนละไม เมื่อมองเห็นมือของสุวิทย์ที่ยื่นเหมือนกับว่าจะผลักหล่อนออก หล่อนก็หาได้สนใจแต่อย่างใดใช้ฟันกัดริมฝีปากบางๆ ยกย้ายส่ายไหล่ทั้งสองข้างจนผ้าลูกไม้ล่วงลงไปกองอยู่กับพื้นเผยให้เห็นทรวดทรงอรชรเร่าร้อนดั่งเพลิงไฟ ผิวขาวละออดั่งเกล็ดหิมะนุ่มลื่นราวกับหยกขาว ส่วนกลมใหญ่ล้นทั้งสองสั่นเทาเบาๆราวกับเปล่งคำเชื้อเชิญอันเร่าร้อนแก่สุวิทย์ “คุณใส่อะไรลงไปในไวน์”มือสุวิทย์นวดเค้นขมับ รู้สึกราวกับกองไฟลุกโชนกำลังพุ่งพล่านอยู่ในตัว ในขณะเดียวกันเรือนร่างอ้อนแอ้นอื่มเอิบตรงหน้าแผ่กลิ่นกายอันยั่วเย้ายวนใจ “ฉันปล่าวนะ วิทย์คะ คุณดื่มมากไปแล้วให้ฉันพยุงคุณขึ้นไปนะคะ”ไรวินท์เปลือยกายล่อนจ้อนจะเข้ามาพยุงสุวิทย์ “อย่าเข้ามา คุณอย่าเข้ามา...”สุวิทย์พยายามประคับประคองสติ เขารู้ว่าไม่ควรเข้าใกล้แต่ทว่าเรี่ยวแรงในตัวกลับเหมือนถูกสูบออกไปจนหมดสิ้น ถึงขนาดไม่สามารถผลักไสความนุ่มนวลที่เข้าใกล้มาได้โดยเฉพาะเมื่อมือของเขาสัมผัสเข้ากับก้อนกลมๆนิ่มหยุ่นนั้นสัญชาติญาณก็พาให้เขาผันเปลี่ยนจากผลักไสเป็นคว้าจับขึ้นอย่างทันใด “วิทย์คะ ฉันเป็นของคุณ คุณอยากจะทำอะไรก็เชิญทำได้ตามสบายเถอะค่ะ วันนี้ฉันเป็นของคุณ...”ไรวินท์หลับตาพริ้ม กดเสียงกระซิบเบาๆ “ไม่...ไม่ควรจะเป็นอย่างนี้”สุวิทย์ต้านทาน และพยายามจะผลักไสความยั่วยวนตรงหน้า ทว่า มือกลับถูกดึงเข้าไปในทรวงอก มือทั้งสองข้างออกไรวินท์ก็โอบคอของเขาและผนึกริมฝีปากแดงราวกับโลหิตลงไป มือของหล่อนลูบไล้ไปทั่วกายเขา ข้างหนึ่งลูบวนอยู่ตรงหัวไหล่อีกข้างก็เลื่อนลงพยายามจะปลดกระดุมของเขา แต่ว่าหล่อนมีความกังวลอยู่มากเกินไป มือสั่นระริกมิยอมฟังคำสั่งใด หล่อนพยายามออกแรงอย่างหนักจนผ้าลูกไม้ฉีกขากออกจากกัน สุวิทย์จ้องหญิงสาวที่อยู่บนตัวเขาอย่างตกตะลึง ความบันเทิงเร้าใจปะทุพุ่งพล่านไปทั่วสายเลือดอย่างมิอาจบรรยายได้ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเสียงครางเบาๆจะดังลอดออกมาจากปากเขา เขาพ่ายแพ้ให้กับการต่อต้านหล่อนและการสู้รบกับตนเองอย่างหมดสิ้น สติที่เหลืออยู่น้อยนิดก็ถูกมือเล็กๆของหล่อนกระชากออก สองร่างจูบกันอย่างกระเหือดกระหายตั้งแต่ห้องครัวไปจนถึงโซฟา มือของไรวินท์ลูบไล้หยอกล้อแผ่นอกของสุวิทย์ ยามนี้เขากลายเป็นเชลยอย่างสมบูรณ์ เขาจับสันกรามของหล่อนไว้แน่น แล้วกัดกินริมฝีปากของหล่อน มืออีกข้างก็เลื่อนย้ายไปตรงบั้นท้าย และกดหล่อนลงไปเชยชมความเป็นชายของเขา... “วิทย์คะ ฉันต้องการคุณ...ตอนนี้....วิทย์”ไรวินท์งับใบหูของเขาเบาๆด้วยความยั่วยวนอันแรงกล้า ลมหายใจของเขาหอบกระหืดใจเต้นระรัวเร็วขึ้น ความอ่อนนุ่มที่ทาบกลางอยู่ตรงอกจุดไฟร้อนในตัวเขา....เขาลุกขึ้นและถอดกางเกงออกอย่างรวดเร็ว “คุณชาย คุณชาย...อย่า”ที่แท้แล้ววันนี้ไรวินท์ก็ทำเป็นใจกว้างเลี้ยงข้าวเลี้ยงหนังคนงานทุกคนในบ้านนี่เอง ครั้นลุงกำจรมาถึงโรงหนังในใจกลับรู้สึกไม่ชอบมาพากลแปลกๆ ได้แต่คิดว่าวันนี้ไรวินท์ดูแปลกไป ทว่าทุกคนกลับบอกว่ายากนักที่จะเห็นหล่อนมีน้ำใจถึงเพียงนี้หากไม่ดูล่ะก็คงจะเสียใจ ขณะที่หนังเพิ่งฉายไปแค่หนึ่งในสามส่วน ลุงกำจรก็ยังอดห่วงไม่ได้จึงรีบร้อนกลับมาที่บ้าน ครั้นเปิดประตูออก ก็เห็นสุวิทย์เปลือยกายเหมือนจะกำลังทำอะไรอยู่จึงรีบตะโกนออกมาเสียงดัง “ลุงกำจร...”มือของสุวิทย์หยุดชะงักลง กางเกงถูกถอดออกไปแล้ว ซ้ำนอนถ่างอยู่บนโซฟากับไรวินท์อีก ในใจก็รู้สึกเศร้าและนึกสาปแช่งอยู่ลึกๆ “วิทย์คะ พวกเราขึ้นไปข้างบนกันเถะค่ะ”ขณะที่ลุงกำจรยังมิทันเข้ามา ไรวินท์ก็ใช้ร่างเปลือยเปล่าของเธอแนบชิดเข้ากับตัวสุวิทย์พยายามที่จะไปต่อกันข้างบน “เธอมันนางจิ้งจอง ฉันรู้มาตลอดนั่นแหละว่าเธอไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจจะไปหรอก” ลุงกำจรเดือดดาลแล้วใช้ถาดผลไม้ที่ถืออยู่ในมือโยนไปที่หล่อน “ยัยจิ้งจอกคนนี้นี่ แกฆ่านายท่านคนเดียวยังไม่พอใช่ไหมยังอยากฆ่าคุณชายอีกด้วยหรือ แกไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ ไสหัวออกไป...” สุวิทย์ที่ยังไม่ได้สติจึงถูกกระแทกล้มลงไป โชคดีที่โซฟาตั้งอยู่ข้างๆ เขาจึงรีบพยุงตัวนั่งลงบนโซฟาโดยเร็ว แม้ว่าในกายเขายังคงร้อนลุ่มดั่งไฟสุม แต่สมองก็พอจะตื่นตัวรับรู้บ้างได้แล้วไม่น้อย เพียงแต่มีอาการปวดหัวราวกับมันจะระเบิกออกมา “ลุงกำจรครับ ให้หล่อนกลับไปเก็บข้าวของของหล่อนที่ห้องเถอะครับ”พลางนวดเค้นขมับ สุวิทย์หวังแค่เพียงอาการเขาจะทุเลาลง “วิทย์คะ คุณ...”ไรวินท์ที่เปลือยกายล่อนจ้อนไม่มีทีท่าเขินอาย มิหนำซ้ำยังมองสุวิทย์ด้วยท่าทีเศร้าโศก “ยัยจิ้งจอก ไสหัวไปซะ”ลุงกำจรโยนกล้วยลูกสุดท้ายในมือออกไป แหม่ช่างไปกระแทกกลางทรวงอกของนางจิ้งจอกได้อย่างพอดิบพอดี้เสียจริง หล่อนจึงรีบหนีออกไปอย่างขวัญเสีย “คุณชายครับ คุณเลอะเลือนขนาดนี้ได้อย่างไรกันครับ นายท่านครับ...นายท่าน....โถ คุณชาย คุณใส่เสื้อผ้าก่อนเถอะครับ”ลุงกำจรยืนมองร่างที่เหลืออยู่แต่กางเกงลิงของสุวิทย์ และยืนมองกางเกงลิงถูกดึงขึ้นมาแล้วถอนหายใจออกเฮือกยาว “ลุงครับ ผมขอโทษ ผมขอตัวกลับห้องก่อนนะครับมีอะไรก็ค่อยว่ากันพรุ่งนี้”เนื้อตัวสุวิทย์ลุกลนเป็นไฟแม้กระทั่งเสื้อผ้าอาภรณ์ก็ไม่ยอมหยิบไป เอาแต่เดินโซซัดโซเซขึ้นตึกไป ครั้นเห็นลุงกำจรใจก็เต้นรัวขึ้น เมื่อกลับถึงห้องสุวิทย์ก็รีบพุ่งตัวเข้าไปในห้องน้ำ ชะล้างเนื้อตัวด้วยน้ำเย็นๆ แช่ไปสักพักเขาก็รู้สึกเป็นปกติขึ้นมาสักหน่อย เมื่อเขาเดินออกมาจากห้องน้ำก็พบลุงกำจรมายืนรออยู่ในห้องแล้ว “ลุงกำจร ล...ลุงมีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าครับ?”เมื่อเห็นลุงกำจรอยู่ในห้องสุวิทย์ก็ตกตะลึงอยู่มาก “คุณชายครับ วันนี้หากผมไม่รีบกลับบ้านมา ป่านนี้คุณคงไม่ตกเป็นของนางจิ้งจอกนั่นไปแล้วหรือ? ผมไม่รู้ว่านางจิ้งจอกนั่นพูดอะไรกับคุณแต่หล่อนเป็นหญิงไม่ดีจริงๆนะครับ มิฉนั้นคุณท่านคงจะไม่แต่งงานกับหล่อน”ลุงกำจรพูดไปก็พลางเลื่อนกล่องใบน้อยที่อยู่บนโต๊ะมาหยุดตรงหน้าสุวิทย์ “ลุง นี่มันคืออะไรกันครับ”สุวิทย์จ้องลุงกำจรอย่างฉงนใจ มองดูแล้วกล่องใบนี้ก็ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษ ข้างในนี้จะมีอะไรอยู่กันนะ? “นี่คือสมุดบันทึกของคุณท่านครับ เดิมทีผมไม่ได้คิดว่าจะให้คุณชายหรอกครับแต่เมื่อเห็นคุณชายเป็นเสียอย่างนี้แล้ว ผมเลยตัดสินใจเอาให้คุณชายดูสักหน่อยจะดีกว่า”ลุงกำจรถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา สุวิทย์ยังคงไม่เข้าใจสาเหตุสักเท่าใด จากความทรงจำเขาแล้วลุงกำจรอยู่บ้านนี้มาตลอด ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อนั้นแน่นแฟ้นราวกับพี่น้อง “ลุงครับ บันทึกของพ่อผมทำไมถึงมาอยู่ที่ลุงได้ล่ะครับ?” สุวิทย์มองลุงกำจรอย่างไม่เข้าใจ เขารู้ดีว่าสายใยระหว่างลุงกำจรกับพ่อแน่นแฟ้นมากเพียงใด แต่บันทึกนี้ถือเป็นสิ่งส่วนตัวขั้นสุด ทำไมถึงได้มาอยู่ที่ลุงกำจรกันได้เล่า เขารู้สึกราวกับว่ามีเรื่องมากมายที่พวกผู้ใหญ่พยายามจะปิดบังเอาไว้ “นี่เป็นสิ่งที่นายท่านมอบให้กระผมเก็บรักษาตอนที่ท่านนอนอยู่โรงพยาบาลครับ ในนี้ บันทึกเรื่องราวทั้งหมดในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาของนายท่าน ตอนแรกกระผมกะจะเก็บเอาไว้เองเพื่อเป็นเสมือนเครื่องบันทึกความทรงจำของกระผม ตอนนี้มาคิดๆดูแล้ว คุณชายน่าจะต้องการมันมากกว่ากระผมอีกครับ” ลุงกำจรพูดไปก็พลางหยิบกุญแจออกมาวางไว้บนกล่อง แล้วจากไปพร้อมน้ำตาที่คลออยู่เต็มเบ้า เมื่อเห็นลุงกำจรเดินจากไป ในใจของสุวิทย์ก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวจนพูดไม่ออก สำหรับชีวิตเขาแล้วลุงกำจรก็เหมือนกับพ่อของเขาอีกคนหนึ่ง เขาเปิดกล่องเลือกหยิบเอาบันทึกเล่มที่อยู่บนสุดออกมาอ่าน เขาอ่านตั้งแต่เล่มบนสุดไปจนถึงล่างสุด ในนี้มีสมุดบันทึกอยู่มากมายถึงสามสิบกว่าเล่ม จากวันที่บนหน้าปกดูเหมือนว่าพ่อจะเขียนปีละเล่ม นี่ช่างทำให้สุวิทย์ตกตะลึงเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าผู้เป็นพ่อจะมีนิสัยรักการเขียนบันทึกที่เคร่งครัดถึงเพียงนี้ ดวงใจสั่นไหว เมื่อหยิบสมุดเล่มบนสุดขึ้นมาจาก กล่องเละดูเหมือนว่าเล่มนี้จะเป็นเล่มที่ใหม่ที่สุดเช่นกัน เขาพลิกอ่านไปมา หน้าสุดท้ายของบันทึกถูกเขียนไว้เมื่อสี่เดือนที่แล้วและนั่นก็เป็นเวลาที่พ่อนอนอยู่ในโรงพยาบาล มือของเขาสั่นเทา วันสุดท้ายของบันทึกเขียนถูกเขียนเกี่ยวกับไรวินท์ วันที่ยี่สิบสามเดือนพฤษภาคม ท้องฟ้าแจ่มใสมีฝนตกเล็กน้อย วันนี้ไรวินท์มาโวยวายที่บริษัทอีกแล้ว หล่อนต้องการให้ผมยกหุ้นยี่สิบเปอเซนต์ของบริษัทให้หล่อน อีกทั้งยังด่าว่าสาปส่งผมต่อหน้าต่อตา ผู้หญิงคนนี้ได้เผยธาตุแท้ของตัวเองออกมาต่อหน้าผมจนหมดสิ้นแล้ว ผมหวังก็เพียงแต่ว่าวิทย์เองจะได้เห็นโฉมหน้าที่แท้ของผู้หญิงคนนี้เช่นกัน ก็เป็นเหมือนปกติ หล่อนมาโวยวายอยู่ชั่วโมงกว่าถึงจะยอมจากไป จนสุดท้ายก็สามารถสงบสติอารมณ์มาจัดการเรื่องต่างๆได้เสียที วันนี้ได้รับโทรศัพท์ของนักสืบเอกชน ดูเหมือนว่าวิทย์ยังไม่คิดที่จะกลับมา ดูท่าเขายังคงปล่อยวางไม่ได้ ผู้เป็นลูกบางทีอาจจะไม่มีวันเข้าใจในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อได้กระทำลงไปอีกตลอดกาล ในฐานะหัวหน้าครอบครับย่อมไม่มีผู้ใดไม่คาดหวังให้ลูกชายลูกสาวตัวเองแต่งงานมีครอบครัวเร็วๆหรอก ทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนสองคนจะต้องรักกันด้วยใจจริงให้ได้เสียก่อน วิทย์ยังเด็กนัก คงมองธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้ไม่ออกถึงได้หลงเชื่อคำพูดหวานหอมของผู้หญิงคนนี้เข้าเสียได้ หวังว่าจะมีสักวันหนึ่งที่เขาจะสามารถเข้าใจหัวอกอันขมขื่นของผู้เป็นพ่ออย่างผมได้ ยิ่งนานวันร่างกายก็มีแต่จะยิ่งอ่อนแอลง หวังว่าจะสามารถอดทนอยู่ได้จนกระทั่งวิทย์กลับมา ผมหวังว่าในช่วงเวลาที่ผมจากไปนั้นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของผมจะอยู่เป็นเพื่อนข้างกายผม สำหรับเขาแล้ว ผมในฐานะคนเป็นพ่อมีความเสียใจบางอย่างที่ไม่อาจพูดออกไปได้ ศรีนภัสร์จากไปถึงยี่สิบปีแล้ว ช่วงนี้ผมฝันเห็นเธออยู่บ่อยๆ บางทีเธออาจจะมารอรับผม... ดวงใจของสุวิทย์ถูกกระชากออกเป็นเสี่ยงๆ เขานึกย้อนถึงความข่มขื่นที่ไรวินท์เคยเล่าให้ฟังแล้วรีบพลิกสมุดบันทึกย้อนไปไม่กี่เดือนก่อนหน้าอย่างมุ่งมั่น
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 23 ริมฝีปากแดงมหันตภัย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A