ตอนที่24 ความข่มขื่นของรักแรก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่24 ความข่มขื่นของรักแรก
ต๭นที่24 ความข่มขื่นของรักแรก ไรวินท์ หล่อนถึงกับ...ถึงกับกล้าหลอกเขา สุวิทย์ถือสมุดบันทึกวิ่งรุดเข้าไปในห้องหนังสือ เขาหาแผ่นซีดีทั้งหมดของพ่อเจอจากในตู้เซฟ เขาสอดแผ่นซีดีเข้าไปในคอมพิวเตอร์ มือกำหมัดแน่น ภาพแรกที่ปรากฏออกมาคือภาพของเขากับไรวินท์ นั่นเป็นช่วงเวลาที่พวกเขารักกันอย่างดูดดื่มมากที่สุดต่อมาก็เป็นภาพตอนที่พวกเขาเลิกกัน มือของสุวิทย์ยิ่งกำก็ยิ่งแน่นขึ้นอีกครั้นถึงตอนที่เขาเห็นไรวินท์กับผู้ชายที่เขาก็รู้จักคนนั้นเดินเข้าโรงหนังไปด้วยกัน เขาก็คิดออกทันที ภาพตอนช่วงกลางๆพล่ามัวเล็กน้อยแต่ดูจากลำดับเวลาแล้วน่าจะเป็นหลังจากที่ดูหนังเสร็จแล้ว ไรวินท์กับผู้ชายคนนั้นเดินจับมือกันเข้าไปในบาร์ พวกเขาอยู่ในบาร์กันนานประมาณหนึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นก็ปรากฏร่างชายหนุ่มอีกคนขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ... ครั้นสุวิทย์เห็นภาพในจอว่าไรวินท์เดินเข้าโรงแรมไปกับผู้ชายถึงสองคนก็อยากจะปิดคอมลงเสีย เขาอยากจะรู้เสียจริงว่าแท้จริงแล้วผู้หญิงคนนั้นทำอะไรลับหลังเขากันแน่ ภายในโรงแรมชสยหญิงทั้งสามคนเดินเข้าห้องไปด้วยกันและทันใดนั้นภาพก็สั่นๆติดๆดับๆ เขาล่ะโมโหจนอยากจะทุบคอมสักที ทว่าภาพนั้นก็สั่นกลับมาอีก แท้จริงแล้วคนถ่ายภาพนี้ปลอมตัวเป็นพนักงานโรงแรมนี่เอง เขาเดินเข้าไปในห้องและซ่อนตัวแอบถ่ายอยู่ในนั้น ชายสองหญิงหนึ่งกินเหล้าเมามายอยู่ด้วยกัน แล้วเริ่มทำตัวฟั่นเฟือนเสียสติ... ร่างกายของสุวิทย์อดไม่ได้ที่จะสั่นระริก ยามนี้เขาเข้าใจความข่มขื่นของพ่อแล้วและก็เข้าใจว่าตนนั้นมีตาแต่หาได้มีแววไม่ กับผู้หญิงพันนี้เขาถึงกับเสียใจให้หล่อนได้นานขนาดนี้เชียวหรือ เป็นเวลาหนึ่งคืนเต็มที่สุวิทย์ดูวีดีโอจากซีดีและอ่านบันทึกของพ่อ เขาคิดว่าหากเขาเห็นภาพในอดีตแล้วเขาจะสามารถสงบสติอารมณ์ลงได้บ้าง ทว่าครั้นเขาได้ยินไรวินท์หัวเราะร่าเริงอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งแล้วก็อยากจะฆ่าผู้หญิงคนนั้นให้ตายเสียจริงๆ ในภาพนั้นปรากฏเห็นไรวินท์กำลังเล่นเย้าหยอกอยู่กับผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่โรงเรียน “ที่รักครับ คุณไม่กลัวว่าแฟนคุณจะรู้หรอครับ”ชายหนุ่มยิ้มพลางบุกทะลวงเข้าไปในตัวของไรวินท์อย่างตัณหากลับ “ช่วยอย่าพูดถึงเขาเลยได้ไหม เขาน่ะนอกเหนือเกิดมาหน้าตาดีแล้ว ที่เหลือก็ไม่มีอะไรดีเลย” ไรวินท์พูดด้วยน้ำเสียงจงเกลียดจงชัง “เขาไม่สามารถทำให้คุณพอใจได้อย่างงั้นหรอ? หรือว่าเขาเป็นคนไม่ค่อยพูดจากัน?...”ชายหนุ่มฉีกยิ้มออกอย่างชั่วร้าย มือของเขาก็ยิ่งเคลื่อนไหวอย่างรุกล้ำขึ้น “บางทีเขาอาจจะไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวอยู่แล้วนั่นแหละ มีอยู่หลายครั้งที่ฉันก็เห็นอยู่ว่าเขาต้องการฉัน แต่เขาก็กลับหยุดลง พูดว่าอะไรนะ...อยากเก็บรักษาความงามครั้งแรกไว้จนถึงวันแต่งงาน บ้าสิ้นดี...” “ฮ่าๆๆๆ ที่รักแล้วหลังจากนี้คุณจะมอบความงามครั้งแรกให้เขาได้อย่างไร?”ชายหนุ่มหัวเราะยกใหญ่ การเคลื่อนไหวอย่างอุกอาจทะลวงเข้าไปในกายของไรวินท์ “แค่แปดสิบหยวนก็พอ ถ้าเกิดเขาชอบล่ะก็ให้เขาได้ลิ้มรสเป็นครั้งแรกหน่อยเสียปะไร อ่า - ดาร์ลิง คุณยอดเยี่ยมมาก แรงขึ้นอีก” เขาไม่ได้ทนดูภาพหลังจากนั้น ฟังดูแล้วมันก็คงจะไม่จำเป็นหรอก ที่แท้นี่ก็คือโฉมหน้าที่แท้จริงของผู้หญิงคนนั้น แปดสิบหยวนงั้นหรือ มันจะเหยียดหยามกันเกินไปแล้ว สุวิทย์ยืนขึ้นอย่างเงียบๆแล้วปิดวีดีโอนั้นลง เขาไม่คิดเลยว่านางฟ้าอันเป็นที่รักในใจของเขาจะต่ำตมได้ถึงเพียงนี้ หล่อนมันเป็นนางปีศาจ ยามนี้สุวิทย์ไม่เหลือเหตุผลใดๆทั้งสิ้น ผู้หญิงที่ชื่อไรวินท์คนนี้ได้ผลักเขาให้จมปลักอยู่กับอดีต สุวิทย์ไม่อาจทนได้อีกต่อไป ครั้งหนึ่งเขาเคยรักหล่อนด้วยใจจริง เพราะว่าเขายังเด็กอยู่นัก สุวิทย์ใช้เท้าเตะประตูห้องของไรวินท์อย่างแรง “วิทย์ คุณมาแล้ว คุณรีบเข้ามาเถอะค่ะ—อ๊า คุณจะทำอะไร?”ครั้นเห็นสุวิทย์ที่ยืนอยู่นอกประตู ไรวินท์ก็รู้สึกตื่นเต้นจึงดึงเขาเข้ามาในห้อง ไม่คิดเลยว่าสุวิทย์จะกระชากผมหล่อนอย่างแรงและลากหล่อนมายังห้องหนังสือ “ไรวินท์ ทำไมคุณถึงแต่งงานกับพ่อผม”สุวิทย์ลากหล่อนมานั่งบนเก้าอี้กลางห้อง แล้วจ้องหล่อนที่ใส่ชุดนอนวับๆแวมๆด้วยสายตาเฉี่ยวราวนกอินทรีย์ ต่อให้ในสายตาคนข้างนอกจะมองว่าร่างนี้จะงดงามเพียงไร แต่ยามนี้ในสายตาของสุวิทย์กลับเห็นว่าเป็นสื่งที่สกปรกโสมมที่สุดในโลก “วิทย์คะ เป็นเพราะกำจรพูดอะไรกับคุณใช่ไหมคะ? เป็นพ่อของคุณ...พ่อของคุณที่บังคับฉันให้แต่งงาน ฉันไม่ได้หลอกคุณนะคะ ตอนนี้พ่อคุณก็ไม่อยู่แล้ว ฉันไม่มีความจำเป็นที่จะ...” ไรวินท์สั่นระริก เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความตระหนกใจ “งั้นหรือ? แล้วผู้ชายพวกนั้นเป็นใคร? พูดออกมา ผมจะไปแก้แค้นให้คุณเอง”สุวิทย์ในยามนี้กับสุวิทย์ในไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วดูต่างกันอย่างลิบลับ เนื้อตัวเปล่งไอเย็นยะเยือกราวกับจะแช่คนให้ตายทั้งเป็น “ฉ...ฉันจำไม่ได้แล้ว ม...มีประมาณสี่ห้าคน พวกเขาลูบไล้ฉันไปทั่วร่างแล้วให้ฉันตั้งท่าถ่ายรูปอยู่นับไม่ถ้วน ฮือๆๆๆ พวกเขาน่ากลัวมาก”ไรวินท์กุมมือปิดหน้า ดึงรั้นเส้นผมตัวเองราวกับกำลังแสดงฉากที่ตัวเองถูกทำไม่ดีไม่ร้ายอยู่อย่างไรอย่างนั้น “งั้นหรือ? ผู้ชายพวกนั้นที่คุณว่าใช่ไอ้ชะตาหรือปล่าว?...”สุวิทย์ฉีกยิ้มอย่างเย็นชา เขาหมดความอดทนใดๆต่อหญิงจอมหลอกลวงที่อยู่ตรงหน้านี้แล้ว “ฉ...ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้จักพวกเขา บางที...บางทีกำจรอาจจะรู้จัก ยังไงๆ...” “พอสักที คุณนี่มันช่างสกปรกโสมม คำพูดลวงหลอกของคุณผมฟังจนรำคาญไปหมดแล้ว ผู้ชายที่คุณพูดถึงใช่ผู้ชายคนนี้หรือปล่าวล่ะ? ที่คุณบอกว่าโดนย่ำยีก็คือการย่ำยีแบบนี้ใช่ไหม” เขาลากหล่อนมาตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แล้วสอดแผ่นซีดีหนึ่งแผ่นเข้าไปในคอม”คุณอยากจะให้ผมช่วยรื้อฟื้นความทรงจำให้สักหน่อยไหมล่ะ? นี่คือสิ่งที่คุณพูดถึงวันนั้นไง...” “ไม่ นั่นไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่ฉัน”ไรวินท์มองภาพตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว แม้หลักฐานจะปรากฏอยู่คาตาแต่หล่อนก็ยังปฏิเสธ “ผมรู้ว่าคุณไม่มีทางยอมรับหรอก สิ่งเหล่านี้มันไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว นับจากนี้ต่อไป คุณช่วยรีบไสหัวออกไปซะ ไสหัวออกไปจากบ้านคำวงษาแห่งนี้”สุวิทย์พูดพลางลากไรวินท์อกนอกห้องหนังสือ “วิทย์คะ คุณฟังฉันอธิบายก่อนนะคะ ฉัน...”ไรวินท์ไม่เคยเห็นสุวิทย์โกรธจัดขนาดนี้มาก่อน หล่อนไม่รู้ว่าเขาโกรธมากแค่ไหน ตอนนี้หล่อนจึงต้องหาทางรั้งเขาไว้ให้ได้เสียก่อน “ไป อย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก ออกไป...”สุวิทย์ตะเบ็งเสียงดังจนทำให้ทั้งลุงกำจรและคนอื่นๆต่างพากันตกใจ ตอนนี้ทุกคนล้วนมาอยู่ที่นี่กันหมดแล้ว “คุณชายครับ เกิดอะไรขึ้นครับ?”ลุงกำจรครั้นมองเห็นไรวินท์ใส่ชุดวับๆแวมๆก็ตกใจ “ลุงครับ ช่วยรีบเอาตัวผู้หญิงคนนี้ออกไปทีครับ นับจากวันนี้เป็นต้นไป ผมไม่อนุญาติให้ผู้หญิงคนนี้เหยียบเข้ามาในบ้านคำวงษาแห่งนี้อีกและอีกอย่าง ข้าวของทั้งหมดที่หล่อนเคยใช้ช่วยเอาไปโยนทิ้งให้หมดด้วย”สุวิทย์สั่งการด้วยเสียงเย็นชา ลุงกำจรดีใจยกใหญ่สั่งให้คนครัวกับสาวใช้อีกคนหนึ่งรีบลากไรวินท์ออกไป แม้ว่าตลอดทางไรวินท์จะแหกปากครวญครางสักเท่าใดก็ไม่มีใครสนใจหล่อน อีกด้านหนึ่งลุงกำจรกับคนขับรถก็เดินเข้าไปในห้องและจับเอาข้าวของของหล่อนโดยออกไปข้างนอก นี่นับว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของสุวิทย์ตั้งแต่เขากลับมา เขาขังตัวเองไว้ในห้อง ไม่ว่าลุงกำจรจะเคาะประตูสักเท่าใดเขาก็ไม่ยอมเปิดจนกระทั่งพลบค่ำประตูห้องถึงจะเปิดออก “ลุงกำจร หลังจากนี้ผมยกบ้านหลังนี้ให้ลุงดูแล ผมวางแผนว่าจะออกไปอยู่ข้างนอก”แม่ว่าบ้านหลังนี้จะมีความทรงจำมากมายแต่ครั้นนึกว่าไรวินท์ ผู้หญิงสกปรกคนนั้นเคยอยู่มาก่อน เขาก็อดไม่ได้ที่จะรีบเผ่นหนีหายไปในทันที “คุณชายครับ คุณจะไปไหน?”ลุงกำจรตกอยู่ในความตระหนก “ผมจะไปหาคอนโดอยู่ใกล้ๆบริษัท จากนี้ถ้ามีเรื่องอะไรก็โทรหาผมเอาแล้วกัน ลุงช่วยเตรียมอะไรให้ผมทานหน่อย อีกเดี๋ยวพอเก็บข้าวของเสร็จผมก็จะไปแล้ว” สุวิทย์กวาดสายตามองไปรอบๆห้อง หากอยู่ที่นี่เขาไม่มีทางสงบลงได้แน่ๆ เขาเกรงว่าใจเขาจะแตกสลายไปเสียก่อน หนทางเดียวที่จะช่วยได้คงมีแต่การเดินจากไปก็เท่านั้น แม้ว่าที่นี่จะเป็นบ้านของเขา แม้ว่าที่นี่จะเป็นเก็บความทรงจำเกี่ยวกับพ่อเอไว้ ทว่าผู้หญิงคนนั้นก็เป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมายของพ่อ ไม่ว่าหล่อนจะสกปรกเพียงไหน โหดร้านเท่าใด เรื่องบางเรื่องก็มิอาจจะผันเปลี่ยนใจไปได้ เขาเสียใจมาก เสียใจที่ตอนแรกเขาหนีไปอย่างงั้น จนไม่มีโอกาสได้ร่วมผ่านชีวิตในช่วงบั้นปลายของพ่อได้ ตลอดหนึ่งปีนี้เขาเอาแต่จมปลักอยู่กับความสิ้นหวัง เพื่อผู้หญิงที่ไม่สมควรที่จะได้รับความรักใดๆคนนั้นเขาถึงกับยอมละทิ้งความรักอันมีค่านี้ไป เขามันช่างโง่เขลาเสียจริง แม้ว่าจะเกลียดไรวินท์อย่างสุดหัวใจ ทว่าจนถึงตอนนี้เขายังไม่คิดว่าจะจัดการกับหล่อนอย่างไรดี เขากลับไปเก็บกระเป่าที่ห้อง จริงๆก็ไม่ได้มีอะไรให้เก็บมากนักหรอก นอกเหนือจากเสื้อผ้าก็เห็นจะมีแต่บัตรประชาชน ตั้งแต่กลัมาเขาก็ไม่เคยแตะต้องกล่องนั้นเลย ครั้นเมื่อเขาเปิดมันสมุดเล่มสีแดงๆสองเล่มวางไว้อยู่ตรงกลางกล่องช่างทำให้เขาตะลึงใจยิ่งนัก ช่วงที่ผ่านมานี้เขาถึงกับลืมภรรยาตัวเองไปเสียได้ “เพ็ญจิต.....”สุวิทย์หยิบสมุดเล่มนั้นขึ้นด้วยมือสั่นเทา แผดสียงตะโกนอย่างสุดแรง ในหัวของเขาดังก้อง เขาค่อยๆลดตัวนั่งยองๆเอื้อมมือเก็บสุดสีแดงที่ตกไปขึ้นมา เขาถึงกับลืม ถึงกับลืมเพ็ญจิตเสียได้ลงคอ ผมขอโทษ ผมขอโทษ สุวิทย์หยิบทะเบียนสมรส หยิบแหวนแต่งงานและตัดสินใจกลับไปหาเพ็ญจิต “คุณชาย คุณชาย คุณชายจะไปไหนครับ?”ลุงกำจรเห็นใบหน้าสุวิทย์คล้ายว่าเขาร้องไห้ เลยรีบร้อนตามเขาออกมา “ลุงกำจรครับ ผมแต่งงานแล้ว ผมจะไปพาภรรยาผมกลับมาเดี๋ยวนี้”สุวิทย์เยียบคันเร่งอย่างแน่วแน่ เมื่อสุวิทย์ไปหาเพ็ญจิตยังเมืองที่เธออยู่ เพ็ญจิตกลับจากไปเสียแล้ว วันนั้นที่เธอถูกพี่ชายพากลับไป เธอทั้งแหกปากทั้งโวยวายแต่ทว่าภายในบ้านไม่มีใครยอมฟังเธอ มิหนำซ้ำยังจับเธอขังไว้ในห้องอีก เพ็ญจิตมองเห็นพี่ชายของเธอทะเลาะกับคนอยู่หน้าประตู แม้ว่าจะยืนอยู่ไหล มองเห็นไม่ค่อยชัด ทว่าเธอรู้ว่าผู้ชายคนนั้นต้องเป็นสุวิทย์แน่ๆ ต้องเป็นเพราะวิทย์หาเธอไม่พบเลยมาตามหาที่นี่แน่ๆ แต่ต่อให้เธอตะโกนโวยวายสักเท่าใดก็ไม่มีใครสนใจเธอ ครั้นเห็นสุวิทย์เดินจากไปจากหน้าต่าง ร่างของเพ็ญจิตก็ล้มฟุบลงไปกับพื้น “พ่อคะ แม่คะ พวกท่านทำกันได้อย่างไร ทำกันได้อย่างร์” เพ็ญจิตเปล่งเสียงอย่างแหบแห้ง แต่ก็ยังไม่มีใครสนใจเธอ ทั้งโดนพี่ชายพากลับมาทั้งโดนขังไว้ในห้อง “คุณหนู ได้เวลาทานข้าวแล้วค่ะ”เพ็ญจิตเอาแต่นั่งร้องไห้อยู่กับพื้น ได้ยินเสียงคนงานเรียกให้ทานข้าว เพ็ญจิตรีบยืนขึ้นยังเสียสติรีบพุ่งตรงออกไป แต่เมื่อมือแตะเข้าที่ประตู พี่ชายก็ปรากฏตัวเข้ามา “เพ็ญจิต เธออย่าได้คิดจะหนีกับผู้ชายคนนั้นเลย พวกเราไม่มีทางยอมหรอก และไม่ต้องพูดถึงรูปร่างคร่าตาของผู้ชายคนนั้นเลย ฌะอรู้จักพื้นเพของเขาไหม? รู้จักครอบครัวของเขาไหม์ อะไรก็ไม่รู้สึกอย่าง แล้วมีสิทธิ์อะไรไปแต่งงานกับเขา?”อรรถพลพูดเป็นการเตือน “หนูบรรลุนิติภาวะแล้ว หนูย่อมมีสิทธิเสรีภาพเป็นของตัวเอง ทุกคนจะมาจับหนูขังไว้แบบนี้ไม่ได้ สิ่งที่พวกคุณทำมันผิดกฏหมาย”เพ็ญจิตพยายามพูดทัดท้านกับพี่ชายอย่างสุดความสามารถ ทว่าเขาก็ไม่ได้สนใจเธอ “อรรถพล เพ็ญจิตเป็นน้องสาวของลูกนะ ลูกทำกับน้องแบบนี้ได้อย่างไร?”ประโยคนี้ดังออกมาจากคุณวาสนา เธอพาลูกชายออกไปแล้วจึงเดินเข้ามา “แม่คะ”เพ็ญจิตออกเสียงเรียกคำว่าแม่อยากขื่นขมใจ “เพ็ญจิต ในเมื่อเธอเรียกฉันว่าแม่แล้ว งั้นก็ช่วยเชื่อฟังฉันด้วย อย่ากลับไปทำตัวโง่ๆอีก แม่รับปากว่าจะไม่บังคับให้เธอแต่งงานและแม่เองก็ปรึกษากับพ่อเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะอนุญาติให้พี่ของเธอพาเธอไปอเมริกาได้ อนุญาติให้เธอเรียนด้านการออกแบบเสื้อผ้าแบบที่เธอชอบ แต่ขอเพียงอย่างเดียว อย่าได้ทำตัวเลอะเลือน ทำเรื่องโง่ๆอีกเป็นอันขาด การแต่งงานไม่ใช่เกมเด็กเล่นมันเป็นพันธะเกี่ยวพันธ์ไปทั้งชีวิต ทำไมเธอถึงไปแต่งงานซี้ซั๊วะกับคนอื่นแบบนั้นได้”คุณวาสนาพูดเกลี้ยกล่อมเธอด้วยเสียงนุ่มนวล “แม่คะ แล้วอัครพลกับผู้ชายอีกสองคนก่อนหน้านั่นล่ะคะ? หนูก็ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกับพวกเขา ไม่ใช่แม่หรือคะที่เรียกร้องให้หนูแต่งงานกับพวกเขา แล้วนี่มันมีอะไรแตกต่างกันงั้นหรือ อย่างน้อยวิทย์ก็เป็นคนที่หนูเลือกหนูเชื่อว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดี”เธอมองไปที่แม่ วันนั้นแม่มากระซิบข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เธอเองก็ไม่อยากจะทำให้แม่โกรธแต่เรื่องมันก็เป็นเสียอย่างนี้ “มัน....” 
已经是最新一章了
加载中