ตอนที่25 ถูกกักขังไว้ภายในบ้าน
1/
ตอนที่25 ถูกกักขังไว้ภายในบ้าน
OMG!สุ่มได้สามีคนหนึ่ง
(
)
已经是第一章了
ตอนที่25 ถูกกักขังไว้ภายในบ้าน
ตนที่25 ถูกกักขังไว้ภายในบ้าน “ม...มันไม่เหมือนกัน แม่ก็ทำเพื่อลูกนั่นแหละ ทั้งคุณอิศราและคุณปริญ พวกเขาเกิดในครอบครัวที่ดีมีฐานะ หากแต่งงานกับพวกเขา ต่อไปเธอก็จะมีแต่ความสุขไปทั้งชีวิต อัครพลเองก็ไม่เลว เขาเป็น...” “แม่คะ แม่ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วค่ะ พูดมาตอนนี้ก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว หนูแต่งงานแล้ว หากแม่เห็นว่าหนูเป็นลูกสาวของแม่จริงๆก็ปล่อยหนูไปเถอะค่ะ หนูจะพาวิทย์มาเจอกับพวกคุณทุกคน หากทุกคนเห็นเขาแล้วล่ะก็จะเข้าใจหนูเอง...” เพ็ญจิตจ้องมองไปยังคุณแม่ เธอไม่ได้โกรธ เธอเองก็ไม่ได้อยากถือสาเรื่องในอดีต ยามนี้เธอเพียงแต่อยากกลับไปที่โรงแรม อยากพบกับสุวิทย์ เธอไม่อยากมีชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้อีก “แต่งงานหรือ? เพ็ญจิต ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน? แม่รู้จักไหม?”เมื่อสาวนาได้ยินคำนี้ถึงกับตกใจออกมา เวลาเพียงหนึ่งคืนลูกสาวคนนี้กลับเปลี่ยนไปเหมือนคนละคน สายตาไม่ได้ดูเชื่องเหมือนในอดีต เพิ่มไปด้วย‘ความเกลียดชัง’เธอรู้สึกไม่สบายใจและยังรู้สึกหวาดระแวง หลายปีมานี้ เธอเลี้ยงดูเพ็ญจิตเหมือนเป็นลูกแท้ๆของตัวเอง ทว่าตอนนี้กลับระแวงกลัวว่าจะสูญเสียลูกสาวคนนี้ไปเสียแล้ว “ไม่รู้จักหรอกค่ะ วิทย์เป็นคนที่หนูชนเขาบนถนน แต่ไม่ว่าเมื่อก่อนเราจะไม่เคยรู้จักกัน พวกเราก็แต่งงานกันแล้วและเขาก็เป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง อย่างน้อยก็ดีกว่าพวกผู้ชายพวกนั้นที่แม่แนะนำให้ หนูเลือกเขาแล้ว”เพ็ญจิตพูดเสียงแข็ง หรือบางทีเธออาจจะไม่รู้ว่าความรักคืออะไร แต่เธอก็รู้ว่าใครที่ดีต่อเธอจริงๆ และในตอนนี้เธอไม่สามารถจะเผชิญกับคุณแม่ หรือแม้แต่กับคุณพ่อได้ เธอไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมใจเช่นไรถึงจะสามารถใช้ชีวิตต่อไปในบ้านหลังนี้ได้ “แม่ครับ แม่ไม่ต้องฟังเธอพล่ามอะไรอีกแล้ว เธอมันเสียสติไปแล้ว ผีมันคงสิงตัวเธอไปแล้วกระมัง ผู้ชายคนนั้นมันจะไปมีอะไรดีกัน โลกนี้มีผู้ชายตั้งมากมายเธอไม่รู้จักเลือก ดันไปเลือกเอาผู้ชายพันนั้นมาได้ ต่อให้พ่อกับแม่ยอมรับ ผมก็จะม่มีทางยอมรับมันเด็ดขาด”อรรถพลที่ยืนอยู่ข้างนอกมาตลอดเมื่อได้ยินสิ่งที่เพ็ญจิตพูดก็มีน้ำโหจนหลุดด่าเธอออกมา “ออกไปเดี๋ยวนี้ ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ คุณไม่ใช่พี่ชายของฉัน คุณมันไม่ควรค่าแก่การเป็นพ่ชายของฉันมาตั้งแต่แรก ในโลกนี้มีพี่ชายที่ไหนทำกับน้องสาวแบบนี้บ้าง ออกไปให้พ้น.”เมื่อเห็นอรรถพลอารมณ์ของเพ็ญจิตก็ระเบิดออกมา เธอแผ่เสียงตะโกนดังก้อง เธอไม่น่าหลงเชื่อพี่เลย เธอไม่น่าเปิดประตูออกมาตั้งแต่แรก พี่ชายช่างเลวที่สุดถึงขนาดทุบหล่อนให้สลบได้ “ใช่ ที่เธอพูดก็ไม่ผิด ฉันไม่ใช่พี่ชายของเธอ แต่ถึงกระนั้นฉันก็ยังต้องจัดการเรื่องนี้อยู่ดี สรุปแล้วฉันไม่มีทางยอมให้เธอกับผู้ชายคนนั้นได้พบกันหรอก”ในหัวของอรรถพลเดือดจัด “ฉันจะไปจากที่นี่ ที่นี่ไม่ใช่บ้านของฉัน คุณไม่ใช่แม่ของฉัน และคุณก็ไม่ใช่พี่ชายของฉันเหมือนกัน พวกคุณเป็นคนไม่ดี”จู่ๆเพ็ญจิตก็หยิบมีดคัดเตอร์ออกมาจากลิ้นชัก เธอคลุ้มคลั่งราวกับคนเสียสติและร้องไห้เสียอกเสียใจให้กับตัวเอง “เพ็ญจิตเธอวางมีดลงเถอะ ถ้าเธออยากแต่งงานงั้นก็แต่งเถอะ แต่อย่างน้อยก็ต้องพาผู้ชายคนนั้นกลับมาเจอพ่อเป็นอันขาด”วาสนาตกใจกลัวแทบแย่ แม้ว่าในใจจะอัดแน่นไปด้วยความเคียดแค้นที่มีต่อเพ็ญจิต แต่ตลอดเวลายี่สิบกว่าปีที่เลี้ยงดูเธอมานี้ ภายในใจเธอก็คิดมาตลอดว่าเพ็ญจิตเป็นลูกสาวแท้ๆของตน “เธอก็ลองทำดูสิ ต่อให้วันนี้เธอจะตายอยู่ที่นี่ฉันก็ไม่มีทางให้เธอพบกับผู้ชายคนนั้นเด็ดขาด”อรรถพลหน้าดำคร่ำเครียด และเดินเข้าใกล้เพ็ญจิตอย่างช้าๆทีละก้าวๆ “อรรถพล อย่า ลูกอย่าเข้าไป ในเมื่องเพ็ญจิตเธออยากแต่งก็ให้เธอแต่งเถอะ ขอแค่ผู้ชายคนนั้นพอจะดูไม่เลวเท่าไรก็แต่งๆเถอะ รีบแต่งให้ไวๆเลย”วาสนาตกใจขวัญเสีย รั้งลูกชายไว้ไม่ให้เขาเข้าใกล้เพ็ญจิต “แม่ครับ หลบไปครับ เพ็ญจิตแกอยากลองฆ่าตัวตายเหมือนคนอื่นๆใช่ไหม งั้นก็แทงเสียเลยสิ แล้วเธอมาลองดูกันว่าหลังจากตายไปแล้วเธอจะได้พบหน้าหมอนั่นไหม ในเมื่อฉันพาเธอกลับมาไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางยอมให้เธอพบหมอนั่นอีกแน่ๆ”อรรถพลผละแม่ออกไปแล้วเดินเข้าใกล้เพ็ญจิต “อย่าเข้ามา คุณไม่ใช่พี่ชายของฉัน คุณมันเลว พวกคุณมันเลวด้วยกันทั้งหมดนั่นแหละ ฉันเกลียดพวกคุณ เกลียดพวกคุณ...” เพ็ญจิตร่ำไห้ เธอไม่มีความกล้ามากพอที่จะแทงเข้าไปจริงๆ เธอไม่รู้จักแม่จริงๆที่ให้กำเนิดตัวเองมา และยังไม่ได้บอกสุวิทย์เลยว่าเธอชอบเขา เธอจะไม่ยอมตายเด็ดขาด ในเวลานี้นาทีนี้ เธอเฝ้าภาวนาให้สุวิทย์ปรากฏตัว ครั้นมองไปยัง”ครอบครัว”ที่เคยคุ้นเคยกลับกลายเป็นคนแปลกหน้า เพ็ญจิตก็พบว่าคนที่ดีกับเธอจริงๆดูเหมือนจะมีแค่สุวิทย์คนเดียวเท่านั้น หรือต่อให้เป็นวันนั้นวันที่เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาและขอเขาแต่งงานอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เขาก็ยังอบอุ่นนุ่มนวลไม่เหมือนกับคนนี้ที่เอาแต่บีบบังคับเธอ สุวิทย์ ตอนนี้คุณอยู่ไหนกันนะ มาช่วยฉันเร็วๆหน่อย ช่วยพาฉันออกไปเร็วๆหน่อย เพ็ญจิตครวญครางอยู่ภายในใจและหวังว่าสุวิทย์จะได้ยิน “เพ็ญจิต พี่ผิดเอง ถ้าหากเธออยากแต่งงานล่ะก็งั้นพี่จะแต่งกับเธอเอง ไม่ว่าอย่างไรพี่ก็ไม่อยากเห็นเธอทรมานตัวเอง หมอนั่นมันเป็นผู้ชายอย่างไรกันแน่? พื้นเพเขาเป็นอย่างไร? พฤติกรรมเขาเป็นอย่างไร? เธอก็ไม่เคยรู้แต่ถึงขนาดยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ฉันไม่อนุญาติ พ่อก็ไม่อนุญาติ”อรรถพลทำตัวไร้เหตุผลไปเล็กน้อย ถึงขนาดกับเผลอหลุดพูดความรู้สึกที่แอบซ่อนอยู่ในใจ “อรรถพลเมื่อกี้แก...แกพูดอะไรออกมา?”คุณวาสนาจ้องลูกชาบด้วยความตกใจ เธอถึงขนาดไม่รู้ว่าลูกชายตัวเองชอบเพ็ญจิตได้อย่างไรกัน ถ้าหาก... “ไม่ ฉันไม่อยากฟัง พี่เป็นพี่ของฉัน ฉันไม่อยากฟัง ไม่อยากฟัง...”เพ็ญจิตโยนมีดทิ้ง เอามือปิดหูพลางร้องไห้โวยวาย อรรถพลมองไปยังเพ็ญจิตและค่อยๆเดินเข้าไป ไม่ว่าเพ็ญจิตจะต่อต้านอย่างไรเขาก็โอบเธอเข้ามาในอ้อมกอด“เพ็ญจิต ถ้าเธออยากให้ฉันเป็นพี่ชาย ฉันก็จะยังเป็นพี่ชาย แต่ถ้าเธอไม่ฉันก็จะไม่ แต่ว่าครั้งนี้เธอต้องฟังฉัน ผู้ชายคนนั้นน่ะเธอจะไปเข้าใจเขาได้อย่างไร เธอรู้หรือว่าเขาเป็นคนที่ไหน? เธอรู้หรือว่าครอบครัวเขาเป็นอย่างไร?” อรรถพลเจ็บปวดหัวใจ ไม่ใช่ว่าเขาใจจืดใจดำแต่เป็นเพราะเขาไม่อยากเห็นเพ็ญจิตต้องเจ็บปวดต่างหาก ความเจ็บปวดในระยะยาวนั้นช่างทรมานยิ่งกว่าช่วงเวลาสั้นๆมาก ควรฉวยโอกาสที่ความรู้สึกยังไม่ลึกซึ้งทำลายงานวิวาห์นี้เสียดีกว่าปล่อยให้บาดแผลฝังรากลึกเข้าไปในกาย “ก็ใช่ หนูไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่หนูรู้ว่าเขาไม่มีทางทำร้ายหนู”เพ็ญจิตนึกอยากจะผลักไสอรรถพลออกไป แต่ทว่าอรรถพลกอดเธอแน่นมากเสียจนเธอไม่สามารถสลัดออกได้ “เพ็ญจิต พี่ชายของลูกพูดถูก ลูกเพิ่งจะรู้จักเขาก็ดันตกลงแต่งงานแล้ว แล้วคนๆนั้นจะสามารถเชื่อถือได้หรือ? แม้ว่าก่อนหน้านี้ผู้ชายที่มาหามาให้ลูกจะไม่ได้เรื่องกันเลยสักคน แต่อย่างน้อยพวกเราก็ยังรู้ที่มาที่ไปของเขา แต่ผู้ชายที่ลูกแต่งงานด้วยนั้น...” “รู้ที่มาที่ไปงั้นหรือ งั้นคุณรู้ไหมว่าก่อนที่พวกเขาจะมาแต่งงานเขาผ่านผู้หญิงกันมาเท่าไหร่แล้ว?”เพ็ญจิตกัดฟันแน่นแม้แต่คำว่าแม่ก็ยังไม่ยอมเรียก “นี่ ช่วงก่อนแต่งงานหากผู้ชายจะทำอะไรเสื่อมเสียไปบ้างก็ถือเป็นเรื่องปกติ ชายชาตรีเช่นนี้หลังแต่งงานแล้วย่อมมีเสน่ห์น่าหลงใหลอยู่มาก ดั่งที่เขาว่า คนเสเพลกลับตัวใหม่ แม้แต่ทองคำก็ไม่อาจจะแลกได้” วาสนาแสดงท่าทีอ้ำอึ้ง ต่อให้ทุกคนจะรู้แต่เธอก็มิอาจฉีกหนังหน้าที่ละอายของตัวเองออกได้ จึงได้แต่ตบหน้าตัวเอง “ถ้าพวกคุณยังเห็นหนูเป็นน้องสาวอยู่จริงๆ ก็ปล่อยหนูไปเถอะ ปล่อยให้หนูไปหาสุวิทย์เถอะ หนูจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าสุวิทย์ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนพูดถึง”เพ็ญจิตจ้องไปยังผู้เป็นแม่ บุญคุณที่เลี้ยงดูเธอมากว่ายี่สิบกว่าปีนี้หาใช่ว่าจะพูดแค่ไม่กี่คำแล้วจะฉีกมันจนขาดสะบั้นได้ ตลอดหลายปีมานี้ ก็นับว่าคุณแม่ปฏบัติต่อเธอเป็นอย่างดี อีกทั้งพี่ชายกับคุณพ่อก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย “เพ็ญจิต เธออย่ามัวแต่ดื้อดึงอยู่อีกเลย ผู้ชายดีๆในโลกนี้มีอยู่ถมไปแต่ไม่ว่าอย่างไรก็มีทางเป็นผู้ชายคนนั้น เธอคิดดูดีๆเถอะ อย่าหุนหันพลันแล่นแบบนี้ ฉันรู้ว่าการที่จู่ๆก็ต้องมารับรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกที่แท้ของพ่อกับแม่อย่างไม่ทันตั้งตัว มันทำให้เธอเจ็บปวดมากเพียงใด แต่...” “พี่คะ พี่พูดอะไรออกมา? หนูไม่ใช่ลูกของพ่องั้นหรือ?”เพ็ญจิตพูดขัดคออรรถพลด้วยความตกใจ เหตุใดคำพูดเดียวกันกับก่อนหน้านี้ถึงแล่นเข้ามาอีกแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่ใช่แค่บอกว่าเธอไม่ใช่ลูกที่แม่คลอดออกมา แต่เป็นลูกของผู้หญิงอีกคนหนึ่งหรอกหรือ? ทำไมถึงได้... “ก็ใช่ อรรถพล ก...กพูดว่าอะไรนะ? ถึงแม้เพ็ญจิตจะไม่ใช่ลูกที่ฉันเบ่งออกมา แต่....แต่เธอเป็นก็เป็นลูกของพ่อแกกับผู้หญิงคนนั้น เธอ—เธอจะไม่ใช่ลูกของพ่อแกได้อย่างไร?” คุณวาสนาเองก็ตกใจกับคำพูดของลูกชายตัวเอง มิน่าหล่ะเมื่อกี้ถึงได้กล้าพูดว่าตัวเองชอบเพ็ญจิตออกมา หรือว่า... หัวใจของวาสนาเต้นรัวระรัวขึ้น ถึงขนาดกับแอบคาดหวังกับคำตอบอยู่บ้าง “แม่ครับ เพ็ญจิตไม่ใช่ลูกของพ่อครับ” อรรถพลยืนยัน “เหลวไหล ใครบอกแกกัน? ในปีนั้นผู้หญิงคนนั้น...”คุณวาสนาจ้องลูกชายตัวเองอย่างตกตะลึงพลางส่ายหัวไปมาอย่างมิหยุดหย่อน “แม่ครับ ในปีนั้นตอนที่น้าอลิศสายกเพ็ญจิตให้ เธอไม่ได้บอกครับว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของพ่อ นี่ล้วนแต่เป็นสิ่งที่แม่คิดเองเออเองก็เท่านั้น”อรรถพลมองผู้เป็นแม่ด้วยความเห็นใจ ถ้าหากตอนนั้นเขาไม่ได้ช่วยคุณพ่อกุมความลับ ถ้าหากตอนนั้นเขาไม่ยอมรับปากว่าจะไม่บอกแม่ว่าแท้จริงแล้วเพ็ญจิตไม่ใช่ลูกของพ่อล่ะก็ บางทีเพ็ญจิตก็คงไม่ต้องถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นทำเช่นนี้ และแม่เองก็คงไม่คอยจองล้างจองผลาญน้าอลิศสามาถึงยี่สิบกว่าปี “แกพล่ามอะไรห๊ะอรรถพล เจ้าเด็กเลี้ยงแกะนี่ แกพูดอะไรออกมา? เธอจะไม่ใช่ลูกของพ่อแกได้อย่างไร ผู้หญิงคนนั้น ในช่วงเวลานั้น พ่อแก...” มือของวาสนาชี้ไปยังเพ็ญจิตอย่างสั่นเทา เข้าใกล้เธอทีละก้าวๆ “เพ็ญจิตไม่ใช่ลูกของผมจริงๆ ตอนช่วงนั้นที่ผมมักจะกลับบ้านๆดึกๆดื่นๆทุกวันก็เป็นเพราะกิจการของบริษัทเกิดปัญหานิดหน่อยก็เท่านั้นเอง” คาดไม่ถึงว่าจู่ๆคุณอุดมจะเดินเข้ามาในตอนนั้น เขายืนอยู่หน้าประตูจ้องมองไปยังภรรยาตัวเองอย่างรู้สึกผิด “อะไร? เพราะอะไรคุณถึงไม่ยอมบอกฉัน?”คุณวาสนายอมปักใจเชื่อแล้ว หยาดน้ำตาก็รินไหลออกมา ตลอดปลายผีมานี้แม้ว่าเธอจะคาดหวังมาตลอดว่าสามีของตัวเองนั้นบริสุทธิ์ เพียงแต่หลักฐานชิ้นโตอย่างเพ็ญจิตมักจะกลายเป็นเสี้ยนหนามทิ่มแทนทรวงอกเธอมาตลอด “ในปีนั้นกัลยาไม่ได้มีแฟน แต่ทว่ากลับตั้งท้องทั้งๆที่ยังไม่ได้แต่งงาน หากผมยังยืนยันว่าฉันไม่ได้ทำนั่นก็เท่ากับบับคั้นให้กัลยาเดินสู่ทางตายอย่างมิต้องสงสัย เพียงแต่ผมคิดไม่ถึงเลยว่าคุณเองก็จะตั้งท้องอีกเหมือนกัน และเป็นเพราะเรื่องนี้...”ยามนี้คุณอุดมเพิ่งจะยอมอธิบาย ในปีนั้นไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าขีวิตของคนอีกแล้ว ในปีนั้นเพียงเพราะปัญหาต่างๆในบริษัท คุณอุดมถึงได้ทำตัวละเลยมากเสียจนไม่รู้ว่าภรรยาตัวเองกำลังตั้งท้อง และอีกทั้งตอนที่เพ็ญจิตถูกส่งมายังบ้านวงศ์อัจฉรา คุณวาสนาแท้งลูกจนหลังจากนั้นก็ไม่สามารถที่จะให้กำเนิดลูกได้อีก “อุดมคะ ฉันขอโทษ ฉันไม่ควรตั้งคำถามในตัวคุณเลย”คุณวาสนาร่ำไห้พลางพุ่งตัวไปกอดผู้เป็นสามี ภายในใจอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกผิดและอยากขอโทษ อรรถพลดึงเพ็ญจิตที่เพิ่งจะหยุดร้องไห้ออกมา เพื่อเว้นช่องว่างให้แม่ของตน เขาเชื่อว่าในยามนี้ระหว่างพวกเขาทั้งสองคงมีเรื่องมากมายที่อยากคุยกันเป็นแน่ “พี่คะ ห...หนูไม่ใช่ลูกของพ่อจริงๆหรือคะ” เมื่อเห็นพี่ชายปิดประตูลง เพ็ญจิตจึงกัดฟันถามเขาด้วยเสียงสะอื้น “พวกเราไปที่ห้องหนังสือกันเถอะ ฉันคิดว่าที่นั่นน่าจะมีรูปภาพของแม่เธออยู่บ้าง”อรรถพลไม่ยอมคลายมือของเพ็ญจิตออกจนกระทั่งถึงตอนนี้เพราะเขากังวลว่าเพ็ญจิตจะวิ่งหนีออกไป “พี่คะ แม่ของหนูล่ะคะ? ตลอดหลายปีมานี้ พ่อได้ติดต่อกับแม่ของหนูบ้างไหม?แล้วพ่อกับแม่ของหนูเป็นอะไรกันคะ?”เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วเพ็ญจิตก็อยากจะวิ่งหนีออกไปก็จริง แต่ทว่าตอนนี้ เธออยากรู้ว่าแม่ของตนเป็นเป็นใครเสียมากกว่า?
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่25 ถูกกักขังไว้ภายในบ้าน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A