ตอนที่30 ความหึงหวงของอรรถพล
1/
ตอนที่30 ความหึงหวงของอรรถพล
OMG!สุ่มได้สามีคนหนึ่ง
(
)
已经是第一章了
ตอนที่30 ความหึงหวงของอรรถพล
ตนที่30 ความหึงหวงของอรรถพล เธออยากรู้ว่าทำไมแม่ถึงทิ้งเธอไปตั้งแต่แรก? เธออยากรู้ว่าพ่อของเธอเป็นใคร ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรมันก็ต้องมีเหตุผลอยู่แน่ แม้ว่ามันจะเป็นคำโกหกก็ตาม “เพ็ญจิต แม่...แม่ขอโทษ หากลูกถึงอเมริกาแล้ว ล...ลูกก็เริ่มต้นชีวิตใหม่เสียเถอะ ขอให้เธอลืมเรื่องไม่ดีของแม่ไปให้หมด”คุณวาสนาร้องไห้ให้กับลูกสาวที่เลี้ยงมาถึงยี่สิบกว่าปี หลังจากทิ้งรอยความแค้นเกลียดชังของศัตรูออกไป ในตอนนี้เธอก็มองเพ็ญจิตเสมือนกับลูกสาวแท้ๆของตัวเองไปเสียแล้ว และด้วยเหตุนี้เอง หลังจากที่เธอรู้ความจริงก็นอนไม่หลับมาตลอด เธอรู้สึกเหมือนติดค้างลูกสาวคนนี้อยู่ตลอดเวลา เธอทำร้ายเพ็ญจิตและได้แต่เผ้าหวังว่าจะสามารถชดใช้ให้กับเธอได้ “แม่คะ แม่จะเป็นแม่ของหนูตลอดไปและจะเป็นแม่ที่ดีที่สุดด้วยค่ะ”แม้ในใจของเพ็ญจิตจะเจ็บปวด ทว่ายังคงยิ้มและโอบกอดแม่ที่ถอนใจเฮือกยาว “ยัยเด็กโง่ ลูกช่างใจดีเสียจริง ซื่อบื้อขนาดนี้หากไปถึงเมืองนอกเมืองนาแล้วต้องคอยสอดส่องระวังให้มากๆนะ อย่าซื่อบื้อจนโดนหลอกหรือโดนแกล้งเข้าล่ะ”คุณวาสนาใช้มือเช็ดน้ำตาบนหน้าของเพ็ญจิตอย่างนุ่มนวล ภายในใจยังคงอาลัยอาวรณ์อยู่นับหมื่นนับพัน “แม่คะ ไม่หรอกค่ะ หนูจะดูแลตัวเองให้ดี แม่ก็รักษาเนื้อรักษาตัวเหมือนกันนะคะ เวลาอากาศเย็นก็อย่าลืมใส่เสื้อผ้าหนาๆ โดยเฉพาะช่วงเอว แม่คะห้ามเป็นหวัดอย่างเด็ดขาดเลยนะคะ”เพ็ญจิตพูดไปสองแม่ลูกก็เริ่มร้องไห้ขึ้นมา “แม่ครับ แม่อย่าเสียน้ำตาขนาดนี้เลยได้โปรดเถอะครับ แค่ไปอเมริกาเองไม่ได้ไปนอกโลกสักหน่อย แล้วอีกอย่างก็ยังมีผมอยู่ทั้งคนนะครับ จะมีใครกล้ามารังแกเพ็ญจิตได้ยังไงกัน?”อรรถมองไปที่แม่และเพ็ญจิตที่กำลังร้องไห้น้ำตาท่วมอยู่ ภายในใจเขาเองก็รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย แต่ก็ต้องก้าวเข้าไปแยกทั้งสองคนออกจากกัน “อรรถพล ลูกต้องดูแลเพ็ญจิตดีๆนะ อย่าให้เธอถูกใครรังแกเป็นอันขาด”คุณวาสนากำชับลูกชาย “แม่ครับ ผมรู้แล้วครับ เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะเดี๋ยวจะตกเครื่องบินกันเสียก่อน”อรรถพลโอบเพ็ญจิตขึ้นรถ เขายืนยันไม่ให้พ่อกับแม่ไปส่งเพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปร้องไห้เสียน้ำตาเช่นนี้อีกที่สนามบิน “พี่คะ จู่ๆภายในใจของฉันมันก็รู้สึกว่างเปล่า หลังจากไปอเมริกาแล้ว ฉันจะทำอะไรคะ?”เหม่อมองไปยังเมฆสีขาวที่อยู่ข้างนอก ภายในใจของเพ็ญจิตก็รู้สึกตุ้มๆต่อมๆขึ้นมา หากไม่เรียนหนังสือก็คงทำงาน เธอยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ดีเลย เธอใช้ชีวิตผ่านมาอย่างโง่ๆถึงยี่สิบกว่าปีจนถึงตอนนี้ก็เพิ่งจะค้นพบว่าตัวเองทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง “ยัยเด็กโง่ ที่อเมริกาน่ะไม่มีใครคอยบังคับเธอหรอก อยากจะทำอะไรก็ทำเถอะ ต่อให้เธอไม่ทำงานทำการอะไร พี่ก็เลี้ยงเธอไหว”อรรถพลส่ายหน้าพลางหัวเราะเพ็ญจิตที่นั่งจมูกแดงอยู่ “ไม่เอาค่ะ หนูไม่อยากทำตัวเป็นเพ็ญจิตคนเดิมอีกต่อไปแล้ว หนูไม่อยากใช้ชีวิตเหมือนกับเมื่อก่อนอีกแล้ว”เธอสูดลมหายใจเข้าจมูก ในที่สุดเพ็ญจิตก็ยิ้มออกมา ก็อย่างที่แม่กับพี่ชายพูด เธอตัดสินใจจะทำในสิ่งที่เธออยากทำโดยเริ่มต้นที่เรื่องการเรียนก่อน เธออยากผลักตัวเองเข้าสู่สังคม ไม่อยากจะทำตัวเป็นลูกคุณที่ไม่ยอมทำอะไรเลย เธออยากลืมเรื่องในอดีตทั้งหมด รวมถึง – เรื่องผู้ชายที่แต่งงานกับเธอได้แค่สามวันแล้วก็หายตัวไปนั่นด้วย “ถูกต้องแล้ว เพ็ญจิต พี่จำได้ว่าตอนที่เธอยังเด็กเธอเคยพูดว่าถ้าเธอโตขึ้นเธออยากจะออกแบบเสื้อผ้าสวยๆ ไม่รู้ว่าตอนนี้ความฝันของเธอมันจะเปลี่ยนไปหรือยังนะ?”เมื่อเห็นรอยยิ้มของเพ็ญจิต ภายในใจของอรรถพลก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันใด นี่เป็นความรู้สึกที่เขาต้องการและโหยหามาโดยตลอด เขารู้ว่าต่อจากนี้ความรู้สึกอบอุ่นเช่นนี้เติมเต็มอยู่ในทุกๆวันของชีวิต “ยังอยู่สิ พี่คะ พูดเรื่องนี้แล้วพี่ก็ห้ามบอกแม่เป็นอันขาดนะคะ จริงๆแล้วตอนนี้เรียนมหาวิทยาลัย หนูเคยแอบเลือกเรียนสาขาการออกแบบเสื้อผ้าด้วยล่ะค่ะ”เพื่อที่จะลืมเรื่องราวอันเจ็บปวดตลอดหนึ่งเดือนกว่า เพ็ญจิตจึงพยายามทำตัวให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นเสียหน่อย พูดไปก็พลางคิดถึงเรื่องที่เธอแอบไปเรียนสาขาวิชาการออกแบบเสื้อผ้าแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ในตอนนั้นช่างมีความสุขมากเหลือเกิน ทั้งหมดนั้นมันเป็นเพราะเรื่องผู้ชายนั่นแหละ ถ้าหากเธอไม่ต้องแต่งงานและไม่ได้แต่งงาน ถ้าอย่างงั้นมันก็คงจะดีมากเลยทีเดียวเชียว “ก็ดี งั้นถ้าไปถึงอเมริกาแล้วก็พยายามไล่ตามความฝันเธอเข้าล่ะ พี่จะเคยสนับสนุนเธอโดยไม่มีข้อแม้ใดๆเอง”อรรถพลยื่นมือไปเกี่ยวก้อยสัญญากับเพ็ญจิต นี่เป็นความคุ้นเคยของทั้งสองคนตั้งแต่เล็กจนโตซึ่งก็คือวิธีการทำสัญญากันนั่นเอง แต่ทว่าเมื่อหกปีก่อน หลังจากที่อรรถพลไปอเมริกา พวกเขาจึงมีโอกาสที่จะได้ใช้วิธีนี้น้อยมาก หลังจากที่ไปถึงอเมริกา เพ็ญจิตก็ลงสมัครเรียนคณะการออกแบบแฟชั่น ด้านหนึ่งก็ลงเรียนที่คณะภาษาเพื่อเพิ่มพูนความรู้ทางภาษาอังกฤษ และอีกด้านหนึ่งก็รอการประกาศผล แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่มีสายสัมพันธ์กันทางสายเลือด แต่มีสายใยความเป็นพี่น้องตลอดยี่สิบกว่าปี ภายในก้นบึ่งของหัวใจเพ็ญจิตยังคงมองว่าอรรถพลเป็นพี่ชายแท้ๆของตัวเอง ดังนั้นเมื่อมาถึงอเมริกาจึงเป็นเรื่องปกติที่เธอกับพี่ชายจะอาศัยอยู่ด้วยกัน และยิ่งไปกว่านั้นอรรถพลก็ต้องออกไปทำงานทุกวัน เพ็ญจิตเองก็ต้องออกไปเรียนหนังสือ นอกเหนือจากตอนเช้าและตอนเย็นแล้ว สองพี่น้องก็มีโอกาสพบหน้ากันน้อยมาก อีกทั้งเพราะเพ็ญจิตต้องการจะเรียนภาษาเพิ่ม พอกลับถึงบ้านก็จะหมกตัวเรียนอยู่แต่ในห้อง และช่วงนี้อรรถพลเองก็กำลังยุ่งๆอยู่กับภาระงานชิ้นใหญ่ สามเดือนผ่านไป ในที่สุดเพ็ญจิตก็เริ่มออกเดินทางตามความฝัน แต่ทว่าเรื่องวุ่นวายใจก็เข้ามาหาเพ็ญจิตไม่หยุดหย่อน อยู่ที่นี่ ความงามเฉกเช่นชาวตะวันออกแบบเพ็ญจิตได้รับความนิยมชมชอบมากเป็นพิเศษ ชายชาวตะวันทั้งกระตือรือร้น กล้าหาญและกล้าที่จะตามจีบ แม้ว่าเพ็ญจิตจะปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าแต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมหยุดราวี ยังคงตามดอมดมราวกับผึ้ง แต่เดิมทีเพ็ญจิตไม่ได้เก็บมันมาใส่ใจอะไร ทว่าหลังจากมีสายโทรศัพท์โทรเข้ามาที่บ้านบ้าง มีดอกไม้สดส่งมาที่บ้านบ้าง ชีวิตของเธอก็เริ่มไม่สงบสุขอีกต่อไป พวกผู้ชายประสาทเสียพวกนั้นได้แตะเข้ากันเส้นขีดความอดทนของเธอเข้าเสียแล้ว “เพ็ญจิต นี่มันเกิดอะไรขึ้น”เดิมทีอรรถพลคิดอยากจะใช้เวลาช่วงสองสามวันนี้พักผ่อนหย่อนคลายเสียหน่อย ก็เลยพาเพ็ญจิตออกไปเที่ยว ทว่าเมื่อกลับมาถึงบ้านก็เห็นช่อดอกไม้ช่อแล้วช่อเล่า ภายในใจก็นึกอิจฉาขึ้นมา แต่สุดท้ายเขาก็ทำอะไรไม่ได้ “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ของพวกนี้พวกเพื่อนๆเป็นคนส่งมาค่ะ พวกเขาต้องการจีบหนู...“ เพ็ญจิตไม่มีทางเลือก เธอแสดงออกอย่างชัดเจนมากว่าเธอแต่งงานแล้ว แต่กลับไม่มีใครเชื่อเธอ “พสกเขาตามจีบงั้นหรือ แล้วเธอได้รับรักไหม? เพ็ญจิต ถึงแม่ว่าเธอนี่จะเป็นประเทศอเมริกาแต่พวกเราเป็นคนจีน พวกเราควรจะเคารพตัวเอง มีระเบียบวินัยในตัวเอง...” “พี่คะ พี่กำลังบอกว่าหนูไม่เคารพตัวงั้นหรือคะ? แค่เพียงเพราะว่ามีคนส่งดอกไม้มาให้เนี่ยนะคะ?”เพ็ญจิตไม่อาจมองพี่ชายได้อย่างเชื่อใจ เพียงแค่เพราะช่อดอกไม้ไม่กี่ช่อ สายโทรศัพท์ไม่มีสายก็ถึงขนาดบอกว่าเธอไม่เคารพรักตัวเอง นี่เขายังเป็นพี่ชายของเธออยู่ไหม? “พี่ขอโทษ พี่พูดผิดไปแล้ว พี่ขอโทษ ... เพ็ญจิต เธอสามารถปฏิเสธได้ แน่นอนว่าถ้าหากเธอต้องการจะคบคาสมาคมเป็นเพื่อน พราก็ไม่ขัดข้อง แต่ว่าเธอเพิ่งจะเริ่มไปโรงเรียน ยังไม่ค่อยเข้าใจผู้คนมากนัก การยอมรับแบบลวกๆสะเพร่าเช่นนี้คงจะไม่ดีสักเท่าไหร่”ครั้นเผลอหลุดพูดไปออกจากปาก สุวิทย์ก็ตระหนักได้ว่าตนนั้นเลอะเลือนไปกันใหญ่แล้ว จึงรีบขอโทษขอโพยโดยเร็ว “หนูพูดไปแล้ว หนูถึงขนาดพูดไปว่าตัวเองแต่งงานแล้ว แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ”เพ็ญจิตหยิบดอกไม้แต่ละช่อละช่อโยนทิ้งลงในถังขยะอย่างหมดทางเลือก “เพ็ญจิต งั้นก็เอาอย่างนี้สิ วันหลังพี่จะไปส่งเธอเข้าเรียนแล้วก็ไปรับเธอหลังเลิกเรียน แล้วเธอก็บอกพวกนั้นไปว่าพี่เป็นแฟนของเธอ แบบนี้ก็คงจะไม่มีใครเข้ามาก่อกวนเธออย่างออกนอกหน้านอกตาอีกแน่นอน”อรรถพลมองเพ็ญจิต และพูดออกมาอย่างทันที “แบบนี้ก็ได้หรือ? ยิ่งไปกว่านั้นคือพี่เป็นพี่ชายของหนู แล้วพวกเขาจะเชื่อได้อย่างไร”เพ็ญจิตตกตะลึง ถึงแม้ว่าที่พี่ชายพูดจะเป็นวิธีที่ดีแต่พวกเขาเป็นพี่น้องกัน จะสามารถไปหลอกใครเขาได้กันล่ะ “ก็ใช่ แต่พวกเขาคงไม่ถามหรอก ตราบใดที่พวกเขาเห็นว่าเราอยู่ด้วยกัน เดี๋ยวก็คิดกันไปแบบนั้นเองแหละ พวกเราไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเลย”อรรถพลรินน้ำใส่แก้วให้เพ็ญจิตพลางพูดโน้มน้าวเธอ “พี่คะแล้วแฟนของพี่เธอจะไม่เข้าใจผิดหรือคะ?”แม้ว่าเพ็ญจิตก็รู้สึกว่าแผนนี้ก็ไม่เลวเลยทีเดียวแต่ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยจะดีสักเท่าใด เมื่อเห็นพี่ชายคิดการไม่รอบคอบเช่นนี้ เธอก็ตระหนักได้ว่า ถ้าในเมื่อทางฝั่งเธอสามารถเข้าใจผิดได้ ถ้าเช่นนั้นคนทางฝั่งพี่ชายก็สามารถเข้าใจผิดได้เช่นกัน “ยัยเด็กโง่ งานของพี่ยุ่งวุ่นวายเสียจนถอนตัวไม่ได้ แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปคบกับผู้หญิงได้เล่า เธอน่ะ ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นเลย”อรรถพลมองไปยังเพ็ญจิตด้วยใจที่สั่นระรัว ยิ้มเสียจนปากจะฉีกไปถึงรูหู แม้ว่าอรรถพลจะยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน แต่ทว่าก็มีเพื่อนร่วมเตียงอยู่สองสามคน เพียงแต่ก่อนที่เขาจะกลับบ้านไปก็ได้จัดการเลิกรากับพวกหล่อนไปจนหมดสิ้นแล้ว ในตอนนี้เวลานี้ เขายังไม่กล้าจะเปิดเผยความในใจโดยกลัวว่าจะทำให้เพ็ญจิตตกใจ จึงทำได้เพียงคบกันแบบพี่น้องไปก่อนชั่วคราวรอให้สภาพอารมณ์ของเพ็ญจิตดีขึ้นสักหน่อย เขาถึงจะลงมือสารภาพ “ออ แต่พี่คะ พี่ก็อายุตั้งยี่สิบแปดแล้วนะ ก็...ก็ถึงเวลาที่พี่ควรจะหาพี่สะใภ้สักคนแล้วนะ ถ้าไม่อย่างนั้น....เพื่อเป็นการตอบแทน หนูจะแนะนำเพื่อนๆที่ทั้งสวยทั้งนิสัยดีสักสองสามคนให้พี่รู้จักดีไหมคะ?”จู่ๆเพ็ญจิตก็เริ่มเม้าท์มอยขึ้นมา ในมือกอดหมอนแล้วส่งยิ้มแฉ่งมองไปทางอรรถพล “ทำไมล่ะ คิดอยากทำตัวเป็นแม่สื่อเองหรือว่าแม่ส่งเธอมาเป็นสายสืบกันแน่ รีบตอบมาซะดีๆ”อรรถพลพูดพลางตั้งท่าไปทางเพ็ญจิต เพ็ญจิตก็หัวเราะไปหลบไป “ชายเติบใหญ่พึงแต่งงาน หญิงเติบโตพึงสมรส พี่รีบแต่งงานเร็วๆ รีบมีหลานสักคนให้แม่อุ้ม แม่...อ๊ะ ฮ่าๆๆๆ ไม่เอา มันจักจี้...” “ยัยเด็กน่าเกลียดนี้ ไหนดูซิว่าเธอยังจะกล้าทำตัวเป็นแม่สื่ออีกไหม...”อรรถพลแกล้งจักจี้เพ็ญจิตไปก็หัวเราะไป ชีวิตนี้ทั้งหัวใจเขามีแค่ผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้นซึ่งก็ยัยซื่อบื้อที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ ในขณะที่ทั้งสองกำลังแกล้งเล่นเย้าหยอกกันอยู่นั้นเสื้อยืดของเพ็ญจิตก็เลิกขึ้นมาข้างบนตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ เนื้อหนังมังสาบริเวณท้องทั้งหมดรวมถึงชุดชั้นในก็โผล่ออกมา ทว่าเพ็ญจิตกลับไม่รู้ตัวเลยสักนิด ซ้ำยังคงร้องส่งเสียงพิสดารออกมาอีก นัยน์ตาของอรรถพลฉายแววลึกซึ้ง องค์หญิงตัวน้อยที่เขาคอยดูแลปกป้องมาตลอดเติบโตขึ้นแล้วจริงๆ ดูท่าแล้วเขาควรจะต้องลงมือบ้างเสียแล้ว มิเช่นนั้นองค์หญิงตัวน้อยก็อาจจะโดนผู้ชายคนอื่นแย่งไปไม่ในช้าก็เร็ว แต่เขายังกังวลว่าถ้าหากเขาสารภาพรักไปแล้วมันจะทำให้เพ็ญจิตตกใจกลัวหรือไม่ “พี่คะ เป็นอะไรไปคะ?”เมื่อจู่ๆก็เห็นอรรถพลเงียบลงไม่พูดไม่จา เพ็ญจิตไม่เข้าใจในแววตาของเขา จากนั้นจึงพบว่าเนื้อหนังมังสาของตัวเองได้ถูกเปิดออกมาหมดแล้ว “อ๊าย พี่เลว พี่เลวมาก...”เพ็ญจิตดึงเสื้อผ้าอาภรณ์ตัวเองไว้ ซ้ำยังหยิบหมอนขึ้นมาตีอรรถพล “หึๆ เพ็ญจิตเธอรู้ไหมว่าตั้งแต่เธอมาอยู่อเมริกานี่ เธอดูมีน้ำมีนวลขึ้นนะ”อรรถพลใช้มุกตลกมาปกปิดความผิดของตัวเอง เขาชี้นิ้วไปที่บริเวณท้องของเพ็ญจิต “พี่ พี่เลวมาก จริงๆจะบอกว่าหนูอ้วน ต่อให้หนูจะอ้วนขึ้นแต่รูปร่างของหนูก็ได้มาตรฐานอยู่ตลอดนะ ทำไม...”เพ็ญจิตหยิบหมอนจะฟาดไปที่อรรถพล แต่พอยกมือขึ้นก็ดันค้างอยู่บนอากาศ เมื่อเห็นท้องของตัวเองก็ดูเหมือนจะอ้วนขึ้นจริงๆ ตั้งแต่ไหนแต่ไรหุ่นของเธอก็จะเป๊ะอยู่ตลอดเวลา ทำไมถึงได้? “เพ็ญจิต เธอเป็นอะไรไป?”อรรถพลเมื่อเห็นเพ็ญจิตจู่ๆก็นิ่งไปจึงถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ “พี่คะ ดูเหมือนว่าหนูจะอ้วนขึ้นจริงๆ”เพ็ญจิตลุกขึ้นยืนแล้วใช้มือลูบๆท้อง “เพ็ญจิต พี่แค่แกล้งเธอเล่นๆก็เท่านั้น เธออย่าใส่ใจมันเลย รูปร่างเธอตอนนี้ก็พอดีอยู่ ผู้หญิงมีเนื้อมีหนังหน่อยสิถึงจะดี”อรรถพลพูดพลางกางแขนเข้าไปกอดเพ็ญจิต แต่เพ็ญจิตจู่ๆกลับเหมือนโดนอะไรเข้าสักอย่าง สีหน้าขาวซีดแล้วจึงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป “เพ็ญจิต เธอเป็นอะไรไป?”อรรถพลเห็นความผิดปกติบนใบหน้าของเพ็ญจิตจึงเดินตามไป แต่เพ็ญจิตกลับปิดประตูห้องน้ำ ภายในห้องน้ำ เธอยืนอยู่หน้ากระจก และถอดเสื้อคลุมออก...
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่30 ความหึงหวงของอรรถพล
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A