ตอนที่ 41 คุณภรรยา คุณนี่สุดยอดจริงๆ
1/
ตอนที่ 41 คุณภรรยา คุณนี่สุดยอดจริงๆ
OMG!สุ่มได้สามีคนหนึ่ง
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 41 คุณภรรยา คุณนี่สุดยอดจริงๆ
ตนที่ 41 คุณภรรยา คุณนี่สุดยอดจริงๆ ฝ่ามือใหญ่ๆของสุวิทย์ลูบไล้ตามแนวเส้นโค้งของบั้นท้ายแล้วเคล้าคลึงบริเวณจุดอ่อนไหว ปลายนิ้วค่อยๆไล่ไปตามเรียวขาอ่อนอันชุ่มชื้น... ยามฝ่ามือใหญ่อันร้อนรุ่มสัมผัสเข้ากับต้นขา จิตใต้สำนึกอันว้าวุ่นของเพ็ญจิตก็หยั่งรู้ได้ลางๆว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปทุกอย่างคงอยู่เหนือการควบคุม ภายในก้นบึ้งของหัวใจเอาชนะก้าวข้ามผ่านเส้นความสับสน ในขณะที่บิดเอวหนี สุวิทย์กลับไม่ยอมปล่อยให้เธอถอนตัว นิ้วชี้ก็ยิ่งถลำลึกผ่านขอบกางเกงด้านในลงไป...“อ่า...” ความเสียวซ่าปะทุขึ้นอย่างมิทันคิดผสมปนเปกับช่วงนาทีอันอ่อนไหวที่ตกสะท้านไปทั่วร่างที่เคยคุ้นแต่ห่างหายไปนาน ร่างกายของเพ็ญจิตแข็งทื่อตามสัญชาตญาณแต่การเคลื่อนไหวของเขากลับนิ่มนวลลงอย่างฉับพลัน มือของเธอโน้มเอี่ยวคอของเขาอย่างไร้เรี่ยวแรง สะเอวบิดไปมาอย่างเป็นธรรมชาติด้วยอยากจะสลัดความสุขอันเหลือทนนี้ทิ้งไป เสียงครวญครางและร่างกายอ้อนแอ้นอรชรโยกไหวไปตามแรงปรารถนาของสุวิทย์ ริมฝีปากของเขาคลายออกจากเธอตั้งนานแล้วและวาดไล้ไปตามแนวสันกรามอันงดงามของเธอ รอยจูบอันชุ่มชิ้นเร่าร้อนค่อยๆประทับลงบนติ่งหูและซอกคอของเธอ ฝ่ามืออีกข้างหนึ่งก็ปลดเสื้อท่อนบนของเธอออกอย่างกุลีกุจอ แล้วคว้าจับความนุ่มนิ่มตรงกลางข้างหนึ่งและนวดแค้นแน่นอย่างรุนแรง... ความอ่อนไหวแผ่ซ่านไปทั่วเรือนร่างอย่างมืดฟ้ามัวดิน ร่างกายของเพ็ญจิตเขย่าโยกย้ายไปโดยมิรู้ตัว สุวิทย์เองก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง จึงบีบเคล้าคลอนวดแค้นบริเวญนั้นอีกอย่างจงใจ รวมเร็วรุนแรงราวกับจะกดเธอให้จมลงไป แข้งขาของเธอทั้งสองข้างอ่อนระทวยจวนจะล้มลง แขนที่โอบคอเขาไว้ก็อ่อนแรงตกลงมา ร่างกายอ้อนแอ้นปวกเปียกราวกับจะละลายกลายเป็นน้ำและร่วงลงอย่างมิรู้ตัว สุวิทย์ประคองเธอไว้ แล้วอุ้มขึ้นพาดบ่า ถีบประตูห้องนอนแล้วโยนเธอลงบนเตียงอย่างป่าเถื่อนเล็กน้อย เขารีบทิ้งตัวลงตามไปติดๆ มือทั้งสองข้างตะกุยเสื้อแสงท่อนบนของเธอเป็นระวิงด้วยความอยากจะสลัดเสื้อนั้นทิ้งออกไปเสีย สติสตางค์ของเพ็ญติคที่เหลืออยู่เพียงปลายนิ้วค่อยๆฟื้นคืนตื่นขึ้นมาคว้าหยุดมือของเขาไว้ และจ้องไปทางเขาด้วยท่าทีทักท้วงเบาๆ “ไม่ได้” มือข้างหนึ่งของสุวิทย์ที่รั้งอยู่ที่หัวของเธอ ก็ค่อยๆยกตัวเธอขึ้นเล็กน้อย ดวงตาแดงก่ำทั้งสองข้างที่แผดเผาไปด้วยไฟแห่งความปรารถนาจ้องผสานกับนัยน์ตาอันโศกเศร้าเว้าวอนของเธอ เขาเปล่งเสียงต่ำแหบแห้งด้วยความพยายามอดกลั้นดดต่กลับแฝงรสขยี้เย้ายวนใจ “คุณภรรยา ให้ผมเถอะ นะ?” บนหน้าผากของเขาเลอะคราบเหงื่อบางๆที่แตกกระซิกๆ จนแปดเปื้อนเส้นผมสีนิลที่อยู่ตรงหน้าฝาก หยาดเหงื่อเม็ดโตส่องไสวเป็นประกายเปล่งปลั่งราวกับไข่มุกไหลหยดย้อยผ่านไรผมจนค้างเด่อยู่ที่ปลายผม ช่างเซ็กซี่เย้ายวนใจจวนจะปลิดชีวิตเสียอย่างไรอย่างนั้น เพ็ญจืตเกือบยอมจำนนตกอยู่ภายในเสียงต่ำแหบแห้งอันเร้าใจนั้นเสียแล้ว แต่ทว่าเศษเสี้ยวสติสตังที่หลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดก็ลากเธอกลับมา แม้ว่าพวกเขาจะยังมีสายสัมพันธ์จากการแต่งงานกันอยู่ แต่ก็ผ่านมาตั้งห้าปีแล้ว หากวันเกิดเสียความควบคุมล่ะก็ ถ้าอย่างนั้นมันจะแตกต่างอะไรกับเมื่อห้าปีก่อนล่ะ?“ฉันขอโทษ ให้เวลาฉันหน่อยนะ” เธอจ้องเขาอย่างไม่สะทกสะท้อน เอ่ยขึ้นด้วยเสียงต่ำ น้ำเสียงที่เคยอ่อนนุ่มกลับแหบแห้งชวนให้คนหลงใหลด้วยรสแห่งความปรารถนา และด้วยน้ำเสียงแหบแห้งอันอ่อนนุ่มนั้นที่ปลุกเร้ายั่วยวนจวนจะทำให้สุวิทย์ไม่สนใจใยดีความรู้สึกของเธอและดึงเธอเข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงในอ้อมกอดอีกครั้ง เขายึดครองเนื้อตัวอันโอนอ่อนนุ่มนิ่มของเธออย่างคลั่งไคล้ และมองเธอครวญครางร้องขอความเมตตาอีกครั้งราวกับเมื่อห้าปีก่อน แต่ความเป็นเหตุเป็นผลก็ดึงเขากลับมา สุวิทย์รู้ดีว่าเขาไม่สามารถรีบร้อนจนเกินไป ช่องว่างตลอดห้าปีนี้อย่างไรก็ยังคงอยู่ ระหว่างพวกเขานั้นไม่สามารถที่จะกลับไปเป็นเหมือนอย่างเมื่อห้าปีก่อนได้ เขาอยากทุกอย่างที่เป็นเธอ ไม่ใช่แค่ร่างกายเขายกมือลูบใบหน้าของเธอ เรียวนิ้วยาวลูบวนคลอคลึงด้วยกำลังเบาๆ น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยขึ้นอย่างขบเคี้ยวเคี้ยวฟัน “คุณภรรยา คุณนี่สุดยอดจริงๆ !” ในขณะที่พูดอยู่จู่ๆก็ก้มหัวลงกัดริมฝีปากของเธออย่างป่าเถื่อน และขณะที่เพ็ญจิตกำลังแผดเสียงร้อวด้ยความเจ็บปวดเขาก็พลิกตัวลงจากด้านบนตัวเธอ และพูดทิ้งท้ายออกมาหนึ่งประโยค “ยืมห้องน้ำใช้หน่อยนะ” จากนั้นก็ออกจากห้องไป ไม่นานเท่าใดนัก ก็ปรากฏเสียง “ซ่าๆ” ดังขึ้นในห้องน้ำ เพ็ญจิตถอนหายใจเฮือกยาว ดังขยับจัดแจงเสื้อผ้าอาภรณ์เรียบร้อยก็ทอดตัวนอนลงบนเตียงเงียบๆมิได้ขยับเขยื้อน ความรู้สึกพอใจจนถึงจึดสุดยอดยังคุกรุ่นอยู่ในกาย การจมดิ่งสู่ห้วงแห่งความสุขเช่นนั้นเกือบจะพาให้เธอละเลยทุกสิ่งและกระทำต่อไป แต่ไม่ได้เด็ดขาด พวกเขายังคงมีปัญหาค้างคาระหว่างกันอยู่อีกมาก ไหนจะยังมีลูกน้อยอีกสองคน เธอยังไม่อยากให้เขารู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของลูกๆ ต้องรอหลังจากที่เธอมั่นใจในความรักของเขาเสียก่อนถึงจะยอมบอก ถือโอกาสตอนที่สุวิทย์กำลังอาบน้ำ เพ็ญจิตก็ลุกขึ้นมาปูเตียงที่เธอเตรียมไว้ให้ลูกชาย คืนนี้คงทำให้เพียงทนๆให้เขานอนที่นี่ไปก่อน ส่วนเรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์ ก็คงต้องรอถึงตอนที่เขาหลับแล้วค่อยช่วยซักล้างอบแห้งให้“เตียงนอนปูเสร็จแล้ว ฉันไม่มีเสื้อผ้าผู้ชาย คุณไปนอนบนเตียงก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันช่วยซักแล้วอบแห้งให้” เพ็ญจิตเมื่อเห็นสุวิทย์ที่อยู่ในผ้าขนหนู หน้าก็แดงขึ้นมาเล็กน้อย“คุณภรรยา ผมฟังดูแล้ว ทำไมรู้สึกเหมือนคุณกำลังยั่วผมอยู่เลย” สุวิทย์มองเพ็ญจิตพลางยิ้มกระย่องอย่างเจ้าเล่ห์ในช่วงเวลานี้ ไม่ต้องพูดถึงคำว่าเตียงนอนเลย ต่อให้แค่ขยับตัวนิดขยับตัวหน่อยก็ทำให้คิดเพ้อเจ้อเกินเลยไปไกลได้แล้ว“สุวิทย์ ถ้าคุณยังขืนพูดจาเหลวไหลอีก ฉันก็คงต้องปล่อยให้คุณออกไปเดินร่อนจ้อนโทงๆกลางสายฝนแล้วล่ะ” เพ็ญจิตหน้าแดงก่ำ จ้องไปยังสุวิทย์ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาจะบ้ากามตัณหากลับได้ขนาดนี้ หวนคิดถึงเมื่อห้าปีก่อน สุวิทย์ในตอนนั้นช่างดูเหมือนพวกเร่ร่อนพเนจรตามข้างถนนเหลือเกิน ทั้งยังดูเหมือนศิลปินไส้แห้งอีก ไม่มีทางเทียบได้กับคนเลวโลเลเอาแน่เอานอนไม่ได้อย่างในตอนนี้เลยจริงๆ เมื่อเห็นเพ็ญติคเดินเข้าห้องน้ำ สุวิทย์กลับไม่ได้เดินเข้าห้องแต่กลับนั่งอยู่ในห้องรับแขก เขาเพียงแต่ไม่อยากให้เพ็ญจิตรู้สึกอึดอัด อย่างไงๆก็แยกกันมาตั้งห้าปีแล้ว แม้เมื่อห้าปีก่อนเพ็ญจิตจะขี้อายมาก แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากห้าปีมาแล้ว เพ็ญจิตก็ยังเป็นเหมือนเดิมเช่นแรกเจอ ไม่ว่าจะขยับเขยื้อนทำอะไรก็หน้าแดงไปหมด สุวิทย์ที่นั่งอยู่ด้านนอกก็เกิดรู้สึกเบื่อเล็กน้อย จนเดินไปยังห้องน้ำก็เห็นเพ็ญจิตกำลังก้มซักผ้าอยู่ จึงพูดขึ้น “คุณภรรยา หรือไม่งั้นพรุ่งนี้ค่อยเอาเสื้อผ้าออกไปซักข้างนอกเถอะ” การซักเสื้อผ้าหน่ะเป็นเรื่องหมูๆ เดิมทีก็สามารถโยนเสื้อผ้าลงไปซักในเครื่องได้เลย แต่ประการแรกก็กลัวว่าสื้อผ้าจะถูกซักจนเสียของ ประการที่สองก็สิ้นเปลืองเวลาเพราะยังไงซะก็มีแค่ไม่กี่ตัวเอง สุวิทย์ที่ถูกไล่ออกมาข้างนอกจึงเปิดทีวีขึ้นด้วยความเบื่อหน่าย และก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใดแต่รู้สึกได้ว่าเหมือนกลับจะนอนหลับฝันไปแล้วหนึ่งยก ในฝันปรากฏภาพนางฟ้าแสนสวยเดินตรงมาทางเขา...“เสื้อฝ้าของคุณซักเสร็จแล้ว รีบๆใส่เถอะ” เพ็ญจิตวางเสื้อผ้าลงข้างๆตัวสุวิทย์ และปลุกเขาให้ตื่นขึ้นจากฝันหวานในขณะเดียวกัน “รบกวนคุณเสียแล้ว” สุวิทย์หยิบเสื้อผ้าขึ้น กลิ่นหอมสดชื่นจางๆบนเสื้อผ้าทำให้เขาเผลอตัวเคลื่อนไหวไปอย่างธรรมชาติแต่กลับโง่เง่าสิ้นดี เขาเล่นหยิบกางเกงที่ซักแล้วไปถูไถอยู่หน้าจมูก...“สุวิทย์ คุณที่บื้อจริงๆ เสื้อผ้าน่ะเอาไว้ใส่นะ ไม่ได้เอาไว้ดม” เพ็ญจิตหัวเราะ และโยนหมอนให้เขาหนึ่งใบอย่างเป็นกันเอง “โน ๆ ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าจะเอาไว้ใส่ แต่เสื้อผ้าที่คุณภรรยาซักเองกับมือหน่ะ มีกลิ่นอายของความสุขอยู่” สุวิทย์พูดพลางทำหน้าเคลิ้ม“อ้อร้อให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ รีบเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว ฉันเองก็จะนอนแล้ว” เพ็ญจิตลุกตัวขึ้น ยามนี้ก็ดึกแล้ว หากยังไม่นอนอีก มีหวังพรุ่งนี้คงไม่ตื่นเป็นแน่“คุณภรรยา นอนห้องนั้นไม่ได้จริงๆหรอ?” สุวิทย์จ้องไปยังห้องของเพ็ญจิตด้วยสายตาเว้าวอน น้ำเสียงออดอ้อนน่าสงสาร“ไม่ได้ เอ้อใช่สิ ก่อนที่จะนอน ฉันรู้สึกว่าเราต้องคุยกันสักหน่อย” เมื่อเห็นอาการท่าทางของสุวิทย์เป็นดังนั้น เพ็ญจิตก็หัวโล่งปลอดโปร่งและนึกสิ่งที่เธออยากจะพูดขึ้นมาได้ ก่อนหน้านี้อีกแค่เพียงนิดเดียวก็เกือบจะบานปลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปก็คงมีโอกาสเกิดขึ้นได้อีกง่ายๆเป็นแน่ ฉนั้นแล้วเธอต้องทำสัญญาตกลงกับเขาเสียก่อน “โอเคๆ พวกเราสามารถไปคุยกันต่อบนเตียงได้นะ” สุวิทย์ดีอกดีใจยกใหญ่ คิดว่าคงได้โอกาสทองแล้ว ในเวลานี้แม้แต่กางเกงขาสั้นเขาก็ไม่ได้ใส่ ครั้นลุกขึ้นด้วยความดีใจ ก็คาดไม่ถึงว่าผ้าขนหนูที่ผูกอยู่ที่เอวจะหลุดลงมากองอยู่บนโซฟา“อ๊าย - - สุวิทย์ รีบใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้” เพ็ญจิตเอามือปิดตาสองข้างพลางตะโกนเอะอะโวยวายแม้ว่าเธอจะรีบปิดตาโดยเร็วมากแล้วแต่ทว่าก็ยังหนีไม่พ้นที่จะเห็นสิ่งของใหญ่ยาวทิ่มตา อีกทั้งเขายังมั่นหน้ายืดอกได้อีก มองดูแล้วช่าง...ช่างผิดปกติ“คุณภรรยา คุณที่ยังหน้าแดงง่ายเหมือนเดิมเลยนะ คุณก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นเจ้านี่มาก่อน ผมจำได้นะว่าคุณเลยลูบมันด้วย” สุวิทย์ใส่กางเกงลิงอย่างพิรี้พิไรไป ก็แอบเล็งสีหน้าท่าทางของเพ็ญจิตไป“ สุวิทย์ พวกเรามาตกลงสัญญาข้อแรกกันก่อนเถอะ หลังจากนี้คุณห้ามเรียกฉันว่าคุณภรรยาอีก”ตั้งแต่พบหน้ากันใหม่ในครานี้ ครั้งแรกตอนที่สุวิทย์เรียกเธอว่าคุณภรรยา เพ็ญจิตก็รู้สึกไม่คุ้นชินเอาเสียมากๆ อีกประการหนึ่งเธอยิ่งพูดก็ยิ่งหวานหยดย้อยมากกว่าคำที่แล้วซึ่งทำให้เธอเป็นกังวลใจว่าถ้าหากเขาลืมตัวเรียกว่า “คุณภรรยา”ที่บริษัทล่ะ เธอจะยังมีหน้าทำงานที่บริษัทได้อย่างไร ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยก็ควรจะจำกัด “อำนาจ”ของเขาเอาไว้เสียหน่อยจะดีกว่า “ไม่เอาหน่า คุณภรรยา พวกเราเป็นสามีภรรยากันนะ ถ้าไม่เรียกว่าภรรยาจะให้เรียกว่า “ที่รัก” “ดาร์ลิ่ง” “เบบี๋”หรือว่า “แม่ยอดดวงใจ.....” “หยุดๆๆ--” เมื่อได้ยินเพ็ญจิตก็หน้าบูดบึ้ง ยิ่งพูดก็ยิ่งหวานเลี่ยนขึ้นทำให้เธออยากจะกระโดดแม่น้ำฮวงผู้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย“คุณภรรยา งั้นจะให้เรียกว่าอะไรละ? ไท่ไท่? ฮูหยิน?” สุวิทย์เมื่อเห็นเพ็ญจิตสงบสติอารมณ์ลงมากแล้วก็แกล้งหยอกเธอต่อ “เพ็ญจิต ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว” อันที่จริงแล้วเพ็ญจิตไม่ได้มีเจตนาคิดว่าตัวเองจะเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของสุวิทย์ในตอนนี้ “คุณภรรยาครับ พวกเรามาตกลงกันหน่อยเถอะนะ หากอยู่ที่บริษัทผมจะรักษาสัญญายอมเรียกคุณเพ็ญจิต แต่เวลาเลิกงานก็ยังเรียกคุณภรรยาเหมือนเดิมนะ” สุวิทย์พูดไปก็แอบหอมดอมดมไปด้วย “อ๊าย ! คุณ... ออกไป” เมื่อวัตถุแปลกปลอมอันร้อนผ่าวที่อยู่ด้านหลังนั่นยึดครองสะโพก เพ็ญจิตก็ตกใจกระโดดโหยง พลางไปตีศอกใส่เขาอย่างร้อนรน “เฮ้อ ถูกจับได้ซะแล้ว เจ้าน้องชายเอ๋ย น้องชาย ดูท่าแล้วคืนนี้คงต้องลำบากนายเสียแล้ว?” สุวิทย์ถอนหายใจเบาๆ “คุณภรรยา นอกจากข้อนี้แล้วยังมีข้อที่สองอีกไหม?” สุวิทย์จำต้องเปลี่ยนเรื่องคุย ไม่สนใจใยดีเจ้าน้องชายที่ตั้งธงชูชัน“ข้อที่สอง คุณห้ามเปิดเผยความสัมพันธ์ของเรากับใครทั้งนั้น” เพ็ญจิตเห็นใบหน้าของสุวิทย์เศร้าหมองลงเล็กน้อย ก็อดใจพูดเสริมขึ้นมาไม่ได้ “อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่ได้”“ก็ได้ ผมจีบคุณใหม่ก็ได้ รอจนถึงตอนที่คุณพยักหน้ายอมรับ ถึงเวลานั้นผมจะประกาศโอ้อวดบอกทุกคนเองว่าคุณคือภรรยาของผม อีกทั้งจะจัดงานแต่งงานยิ่งใหญ่ขึ้นทดแทนอีกครั้งหนึ่งด้วย” ถึงจุดสุวิทย์เองก็ไม่ได้มีข้อขัดแย้งใดๆ ในตอนแรกแค่ทำการจดทะเบียนสมรสไว้เฉยๆ แม้แต่พิธีวิวาห์ก็ไม่ได้จัเ ตอนนี้ก็ต้องจัดขึ้นเป็นการทดแทนให้ได้อย่างแน่นอน“อือ ข้อที่สาม ก่อนที่ฉันจะเตรียมใจให้พร้อม คุณห้าม...ห้ามทำพฤติกรรมเกินเลยอะไรทั้งนั้น ดังเช่นเรื่องในคืนนี้ อีกอย่างนึง...” เมื่อเพ็ญจิตเห็นสุวิทย์มิได้พูดอะไร สายตาก็มองไปยังเขาและบังเอิญไปเห็นเขาเอาแต่กุมกระโจมน้อยตรงกางเกงที่เผยอตั้งชูชันอยู่ ก็ตกใจขวัญเสียรีบวิ่งเข้าห้อง เมื่อถึงห้อง ก็รีบส่งเสียงบอก “ราตรีสวัสดิ์” ครั้นตอนอยากจะปิดประตูห้อง สุวิทย์กลับพุ่งเข้ามาจับมือเธอไว้อย่างกระทันหันและดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอด ประทับรอมฝีปากบางๆลงและจุมพิตลึกซึ้งอย่างหยาบคายป่าเถื่อนเล็กน้อย “คุณภรรยา คุณนี่สุดยอดจริงๆเลย”หลังจากจูบเธอจนหอบเหนื่อยหึดๆ สุวิทย์ก็ยอมปล่อยเธออย่างอาลัยอาวรณ์ เรียวนิ้วยาวๆลูบไร้แก้มของเธอ และขณะที่กัดริมฝีปากของเธออยู่ก็กล่าวขึ้นอย่างคลุมเคลือฟังไม่รู้ความแน่ชัด
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 41 คุณภรรยา คุณนี่สุดยอดจริงๆ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A