บทที่ 48 สุวิทย์แอบดูข้อความในโทรศัพท์ของเพ็ญจิต
1/
บทที่ 48 สุวิทย์แอบดูข้อความในโทรศัพท์ของเพ็ญจิต
OMG!สุ่มได้สามีคนหนึ่ง
(
)
已经是第一章了
บทที่ 48 สุวิทย์แอบดูข้อความในโทรศัพท์ของเพ็ญจิต
บ๗ที่ 48 สุวิทย์แอบดูข้อความในโทรศัพท์ของเพ็ญจิต ห้าปีมาแล้ว เธอไม่ต้องการสุวิทย์แล้ว แต่ไม่อาจไม่ต้องการลูกๆทั้งสองคนได้ ทำยังไงดี ? หรือจะลาออกตอนนี้เลยดี? ลาออก—ก็ต้องเผชิญหน้าจังๆกับสุวิทย์ เขาจะยอมตกลงไหม? เพ็ญจิตคิดจนหัวโต ตัดสินใจเลิกคิดเรื่องนี้ไปก่อนชั่วคราว ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออก ครั้นคิดจากจะกลับเข้าไปนอนในห้อง แต่ออดประตูก็ดังขึ้น มองไปทางประตู เพ็ญจิตไม่อยากจะขยับเขยื้อนตัว ตอนนี้เธอไม่มีความรู้สึกอยากอาหารอะไรแล้ว ออดประตูดังอยู่หลายครั้ง แล้วก็หายไป เพ็ญจิตคิดว่าคนส่งเดริเวอรี่จะจากไปแล้ว จึงไม่ได้สนใจอะไร แต่พอลุกตัวขึ้นมา ประตูกลับถูกเปิดออกมาจากด้านนอกเสียแล้ว “เพ็ญจิต คุณยุ่งอยู่หรอ? ผมกดออดคุณก็ไม่ได้ยินหรอ?” สุวิทย์ชูอาหารเดริเวอรี่ในมือ แล้วก็เอาแต่จ้องเพ็ญจิตอยู่อย่างรั้ร “ฉันไม่หิว” เพ็ญจิตเหม่ออยู่นาน แล้วจึงพูดขึ้นด้วยเสียงเบาๆ “ผมรู้ ผู้หญิงคนนี้นี่ นี่มันก็ตั้งหลายปีแล้วยังไม่รู้จักดูแลตัวเองอีกหรือไง ?” เห็นได้ชัดว่า ความโกรธของสุวิทย์ยังไม่ได้จางหายไป แต่กลับหนักข้อลงไปอีก เมื่อได้ยินเสียงเทศนาของสุวิทย์ อารมณ์ที่เพ็ญจิตพยายามเก็บกดไว้ ไหนจะเรื่องเลวร้ายที่ประสบในวันนี้ ก็ระเบิดออกมาทั้งหมด เธอแผดเสียงใส่สุวิทย์อย่างมิอาจควบคุมได้ “สุวิทย์ เลิกพร่ามใส่ฉันสักทีเถอะได้ไหม? ฉันเหนื่อย ตอนนี้ฉันอยากพัก่อน ช่วยออกไปอย่างเงียบๆหน่อยเถอะ ถ้าฉันหิว ฉันก็หากินเองแหละ ใช้ชีวิตมาห้าปีโดยไม่มีคุณ ฉันก็มีชีวิตอยู่มาด้วยดีไม่ใช่หรอ ?” เป็นครั้งแรกที่เห็นเพ็ญจิตโมโห สุวิทย์ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก อึ้งอยู่นานจนกระทั่งเพ็ญจิตเจ้าห้องไป เสียงประตูปิดบวดังปัง ถึงจะตื่นขึ้นมาจากอาการตกใจ เขาเดินเข้าไปข้างๆประตู ยกมือขึ้นอยากจะเคาะประตู สุวิทย์ไม่ได้เคาะประตู และก็ไม่ได้จากไป แต่กลับไปนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกหรือว่าเขาจะยุ่งรุ่มร่ามมากไปจริงๆ ? เขาก็แค่เป็นห่วงเธอก็เท่านั้นเอง ห้าปีแล้ว หรือว่ากาลเวลาจะทำให้เพ็ญจิตเปลี่ยนไปแล้ว ? พวกเขาไม่ใช่ “คู่ใหม่ปลามัน” อย่างเมื่อห้าปีก่อนอีกแล้วหรือ ?หรือว่าห้าปีนี้ เธอจะมีคนอื่นแล้ว? เมื่อคิดว่าในชีวิตเพ็ญจิตที่เขาอุตส่าห์รอมาห้าปีมีชายอื่นปรากฏตัวออกมา สุวิทย์ก็โมโหแผ่รังสีสยอง ตลอดห้าปีมานี้ แม่ว่าเขาจะไม่ได้ออกตามหาเธอที่ต่างประเทศ แต่นามที่ชื่อว่าเพ็ญจิตนี้ก็สลักอยู่ในใจเขาอยู่เสมอ เธอเป็นภรรยาเพียงผู้เดียวของเขา เธอทำแบบนี้กับเขาได้อย่างไร ? สุวิทย์อยากจะบุกเข้าไปในห้องถามเธอให้ชัดเจน แต่เมื่อนึกถึงเพ็ญจิตที่หมดความอดทนเมื่อครู่นี้ เขาจึงยอมอดรนทนกลั้นไว้ได้ตั้งอาหารจัดวางลงบนโต๊ะ ส่งข้อความเข้าโทรศัพท์ของเพ็ญจิต บอกว่าตนออกมาแล้ว กำชับให้เธอไม่ลืทออกมาทานข้าว ในขณะที่รอคอยว่าเธอจะตอบข้อความกลับมา แต่ทว่าเสียงกลับดังขึ้นมาจากด้านหลัง กระเป๋าของเพ็ญจิตยังอยู่ที่โซฟา โทรศัพท์ก็อยู่ข้างใน สุวิทย์จ้องโซฟาด้วยใจที่สั่นไหว ภายในใจก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมา สาวเท้าก้าวเดินอย่างเร็วไปที่โซฟา และหยิบกระเป๋าของเธอขึ้นมา ในยามนี้ ฝ่ายดีร้ายภายในใจเขาต่อสู้กันอย่างหนัก... จนสุดท้ายเขาก็ยังตัดสินใจเปิดกระเป๋าของเพ็ญจิต หยิบโทรศัพท์ที่อยู่ข้างในออกมา มือของเขาสั่นระริก เป็นครั้งแรกที่เขาทำเรื่องแบบนี้ เขากดเปิดกล่องข้อความ นอกจากข้อความที่ตัวเองส่งไปแล้วนั้น ข้อความอื่นๆก็ล้วนแต่เป็นข้อความจากผู้ชายที่ชื่อ “เจมส์” ส่งมา ในใจของเขาอดหึงหวงไม่ได้ จึงเปิดอ่านข้อความหนึ่งฉบับ “ดาร์ลิ่ง คุณนอนหรือยัง? ผมคิดถึงคุณมาก คุณจะกลับมาเมื่อไหร่” เมื่อเปิดออก ก็เป็นชื่อเรียกหวานเลี่ยน โทนเสียงสนิทสนม นี่ทำให้ฮอร์โมนในไตของสุวิทย์ถึงกับพุ่งพร่านขึ้นมา ต่อมาเขาก็อดรนทนไม่ได้จนเปิดข้อความฉบับที่สอง : เบบี๋ มคิดถึงคุณ คืนนี้ไม่มีคุณคอยเล่านิทานให้ผมฟัง ผมนอนไม่หลับ สุวิทย์พลิกดูข้อความจนเป็นบ้าเป็นหลัง ทุกฉบับล้วนเรียกชื่อจนหวานเลี่ยนหยดย้อย ด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยกระจุ๋งกระจิ๋ง อีกนิดเดียวเขาใกล้จะเสียสติแล้ว เขารีบกดต่อสายหาหมายเลขนั้นทันที โดยมิได้แม้แต่จะคิดเลยสักนิด เขาต้องรู้ให้ได้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ? มิเช่นนั้นมีหวังเขาคงได้กลายเป็นบ้าแน่ เขสอยากจะรู้ว่าผู้ชายที่ชื่อเจมส์กัลเพ็ญจิตมีความสัมพันธ์อะไรกัน ? เป็นคนรักของเธอหรือเปล่า? ในเวลานี้ ที่อิตาลีเป็นเวลาเช้ามืดพอดี ยังไม่ถึงเวลาตื่นนอนกำลังอยู่ในช่วงหลับฝันหวาน โทรศัพท์ดังอยู่นานถึงจะมีคนรับสาย “กีวี่ คุณโทรมาป่านนี้...” “คุณเป็นใคร?” สีหน้าของสุวิทย์ดำคร่ำเครียดมากยิ่งขึ้น ปลายพูดภาษาฝรั่งเศษ เสียงงัวเงียเหมือนยังหลับอยู่ในฝัน แต่สุวิทย์ไม่ได้อยากฟังคำหวานเลี่ยนของเขา จึงโผล่งถามไปเลยอย่างตรงไปตรงมา “คุณไม่ใช่กี่วี่? ไม่ทราบว่าคุณคือ...” ปลายสายอึ้ง เว้นช่องว่างไปครุ่นึงถึงจะพูดขึ้นมา “หุบปาก แกคือเจมส์ แกกับ...” ในขณะที่สุวิทย์กำลังซักถามเจมส์ไม่หยุด ห้องนอนของเพ็ญจิตกลับเปิดออก และเธอก็ยืนอยู่ตรงนั้น “สุวิทย์ คุณกำลังทำอะไร ?” หลังจากเพ็ญจิตกลับไปที่ห้องนอน ไม่ได้ยินเสียงเคาะประตู และไม่ได้ยินเสียงของสุวิทย์ อยู่ๆ ก็เงียบหายไปอย่างรวดเร็ว จึงรู้สึกว่าเมื่อสักครู่นี้ดูเหมือนเธอจะทำเกินไปหน่อย เดิมทีคิดอยากจะออกมาดูว่าสุวิทย์ไปแล้วหรือยัง คิดไม่ถึงเลยว่า พอเปิดประตูออกมา กลับเห็นสุวิทย์กำลังถือโทรศัพท์ของเธอตะคอกเสียงใหญ่โต “เพ็ญจิต ไอ่เจมส์นี่เป็นใคร?” เมื่อสุวิทย์ได้ยินเสียงของเพ็ญจิตกลับไมได้รู้สึกผิดหรือตกใจ ซ้ำยังหันตัวกลับมาถามเธออีก เพ็ญจิตไม่ได้คิดอยากจะอธิบาย เธอเชื่อว่ามือที่สะอาดไม่จำเป็นต้องล้าง ยิ่งไปกว่านั้น การที่สุวิทย์ใช้น้ำเสียงเช่นนี้ถามเธอ คำอธิบายใดๆก็ยิ่งไปจำเป็นเข้าไปใหญ่ ดังนั้น เธอจึงยื่นมืออกพลางพูด : “สุวิทย์ เอาโทรศัพท์คืนให้ฉัน” “เพ็ญจิต มิน่าไม่ว่ามจะพูดยังไง คุณก็ไม่ยอมพูดคำว่า “ตอลง”สักที ที่แท้แล้ว ที่แท้แล้วคุณก็มีคนใหม่ ถ้าอย่างนั้น คุณจะกลับมาทำไม?” สุวิทย์ไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เพ็ญจิต ซ้ำยังขึ้นเสียงถามเธออีก เมื่อได้ยินเสียงอันเยือกเย็นของเขา คิ้วของเพ็ญจิตก็อดขมวดปมไม่ได้ ต่อให้เจมส์เป็นคนโทรเข้ามา เขาก็ไม่ควรมาหึงหวงอะไรตน “สุวิทย์ มีคำกล่าวว่า หากอยากเล่นงานใคร ก็ย่อมหาเหตุผลได้เสมอ ฉันคิดว่าคุณเป็นห่วงฉัน เลยไม่ถือโทษโกรธคุณ เจมส์เนเพื่อนของฉัน แล้วก็นับว่าเป็นผู้มีพระคุณของฉัน ตอบแบบนี้ ไม่ทราบว่าท่านประธานพอใจไหมคะ?” ตลอดหลายปีมานี้ประสบพบเจออะไรมาเยอะ ในการเผชิญกับสิ่งใด เพ็ญจิตสามารถจัดการได้อย่างสมเหตุสมผล แต่ในยามนี้ เธอเองกลับไม่สามารถข่มใจให้นิ่งได้ แต่ตอนนี้ เธอไม่อยากทะเลาะกับสุวิทย์ และเห็นจำเป็นต้องทะเลาะ เธอกับเจมส์บริสุทธิ์ใจต่อกัน “เพื่อน ? เพ็ญจิต เธออย่าหลอกคนตัวเองไปหน่อยเลย เพื่อนประสาอะไรถึงได้กระนุ๋งกระนิ๋งกันได้ขนาดนี้ ทำไมถึงใช้คำเรียกได้สนิทสนมกันขนาดนี้” สุวิทย์อยากจะควบคุมอารมณ์ให้สงบนิ่ง แต่เมื่ออ่านข้อความในโทรศัพท์ เขาก็แทบอยากจะหยิกเพ็ญจิตให้ตาย ตลอดหลายปีมานี้ เขารักษาระยะห่างกับพวกผู้หญิงมาตลอด ประการหนึ่งก็เพราะเขาไม่เชื่อใจพวกผู้หญิง ประการที่สอง ก็เป็นเพราะเพ็ญจิต แต่ตอนนี้ล่ะ? ผู้หญิงที่เขารอคอบมาตลอด ภรรยาของเขา กับเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่นไม่มีผิด จะให้เขารับได้อย่างไร จะให้เขาไม่โมโห คุมสติได้อย่างไรกัน เพ็ญจิตเงียบไปครู่นึง และก็นึกได้ในทันที คงเป็นข้อความที่ลูกๆใช้โทรศัพท์ของเจมส์ส่งมา แต่ว่าตอนนี้ เธอไม่สามาถอธิบายกับสุวิทย์ได้ เธอยังไม่อยากบอกเรื่องลูกๆกับสุวิทย์“เชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของคุณ ฉันบริสุทธิ์ใจ” เพ็ญจิตคว้าโทรศัพท์จากมือของสุวิทย์ หมุนตัวจะเข้าห้อง แต่หลับโดนสุวิทย์คว้าตัวเข้าในอ้อมกอด “เพ็ญจิต คุณ...” เพ็ญจิตตกใจ เธอไม่คิดว่าสุวิทย์จะป่าเถื่อนเช่นนี้ “นี่เป็นคำอธิบายของคุณหรอ? หรือว่าคุณลืมเรื่องการแต่งงานของเราไปตั้งนานแล้ว? ” สุวิทย์จ้องมองใบหน้าที่มิมีความรู้สึกิดใดๆอยู่เลยสักครึ่งเดียว จนเลือดพุ่งขึ้นสมอง “สุวิทย์ ฉันไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับคุณ ต่อให้พวกเราเป็นสามีภรรยากัน การฉันจะคบเพื่อนฝูงก็เป็นอิสระของฉัน ยิ่งไปกว่านั้นฉันกับเจมส์เราไม่ได้มีอะไรกัน” เพ็ญจิตจ้องหน้าสุวิทย์ มิได้โกรธอะไรมากนัก หากคิดในมุมใหม่ การที่เขาหึงหวง แบบนี้แล้วทำให้เธอมีความสุขหน่อยๆ “เพ็ญจิต คุณคิดว่าสุวิทย์ผมคนนี้เป็นคนโง่หรอ? ที่เรียกกันในนี้ เป็นการเรียกกันแบบเพื่อนธรรมดาหรอ? ” สุวิทย์อยากจะแย่งโทรศัพท์คืนจากเพ็ญจิต แต่เพ็ญจิตกลับขักมือหนี ถ้าหากเป็นแค่เจมส์เธอคงไม่รังเกียจจะให้เขาดู แต่ข้างในนี้เป็นข้อความที่ลูกๆส่งมา หากให้สุวิทย์อ่าน เขาคงรู้แน่ “ตลอดหลายปีที่ฉันใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก การเรียกแบบนี้ไม่นับว่าหวานเลี่ยนอะไร” เพ็ญจิตต่อกรกับสุวิทย์ เธอไม่ชอบให้คนอื่นมาซักไซร้เช่นนี้ โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว สุวิทย์อึ้งไปพักนึง เขาเคยอยู่เมืองนอกมาก่อน คำว่าดาร์ลิ่ง หากอยู่เมืองนอกก็ไม่นับว่าหวานเลี่ยนอะไร แต่ไอ่ที่บอกว่าคิดถึงคุณมากล่ะ ? เขาจ้องเพ็ญจิต ไม่ใช่ว่าไม่สงสัย แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่พวกเขากลับมาเจอกันอีก เขาไม่อยากยอมแพ้ไปง่ายๆ เขาฝืนใจคิดว่าเขาคงแค่คิดมากไปเอง และเมื่อดูสีหน้าท่าทางของเพ็ญจิต เธอก็ดูนิ่งสุขุมใจเย็น ก็เอาตามนี้ละกัน ? “ถ้าอย่างงั้น ที่บอกว่าคิดถึงคุณล่ะ จะอธิบายอันนี้ว่าอย่างไร เพ็ญจิต คุณอย่ามาท้าทายความอดทนของผมนะ ผมไม่อยากโดนสวมเขา” สุวิทย์พยายามกลั้นความโกรธไว้ ตัดสินใจที่พูดเอาชนะ เดิมที่เขาวางแผนว่าจะขอเพ็ญจิตแต่งงานอีกครั้งตอนตรษจีน และจัดงานแต่งขึ้นเป็นการทดแทนอีกครั้ง แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว ห้าปีมาแล้ว หากไม่ได้ถามให้เรื่องราวชีวิตของเพ็ญจิตตลอดห้าปีที่อยู่เมทองนอกให้ชัดเจน เขาก็จะไม่รีบจัดงานแต่งเด็ดขาด แน่นอนว่า เขาไม่ยอมเซ็นต์ใบหย่าให้ง่ายๆเด็ดขาด ตลอดห้าปีนี้ เพ็ญจิตอาจจะลืมเลือนสถานะภรรยาของเขาไปแล้ว ถ้าหาก ถ้าหากเธอเป็นจริงๆ... “ขอบคุณคำเตือนของท่านประธาน ฉันกลับมาครั้งนี้ก็เพื่อมาแก้ไขปัญหาระหว่างเราสงคน” เพ็ญจิตยิ้มยั่วยุ ผู้ชายคนนี้ จะตกหลุมพรางเธอไหม ตลอดเวลาที่อยู่เมืองนอกมาหลายปีนี้ เธอคุ้นชินกับการเห็นด้านอ่อนแอของคนอื่น เพียงแต่ไม่อยากจะสร้างปัญหส เธอเองก็ไม่เก่งในการจัดการเรื่องเล็กๆน้อยๆต่างๆ แต่คิดไม่ถึงว่าเขายิ่งพูดก็ยิ่งกระดากหู เกินไปจริงๆ “แก้ไข เรื่องขออย่าหรือไง?” สุวิทย์แผนเสียงพูดอย่างบ้าคลั่ง “บางทีนะ สุวิทย์ ประตูอยู่นู่น โปรดยกโทษให้ด้วยเพราะฉันป่วยอยู่ คงไปส่งคุณไม่ได้” เพ็ญจิตที่รักษาระยะห่างปลอดภัยกับสุวิทย์ชี้นิ้วไปทางประตู จริงๆสิ่งที่เธออยากจะทำคือการใช้เท้าข้างหนึ่งเตะเขาออกไป แต่ในเมื่อเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ ถ้าเช่นนั้นจึงทำได้แค่เพียงหลีกไปให้ไกล เพ็ญจิตรีบย้ายตัวไปที่ห้องนอน แต่คิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะคว้าจับไว้อย่างรุนแรงจนทำให้ตกใจ เธอสะดุดเข้าไปในห้องนอนและกระแทกเข้ากับซิกแพ็ค“อย่าไล่ผมไปงั้นหรอ ? ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก วันนี้ผมมีตัวเลือกให้คุณสองทาง หนึ่งคือย้ายมาอยู่กับผม หรือสองให้ผมย้ายมาอยู่ด้วย” มือทั้งสองของสุวิทย์จับเพ็ญจิตรวบเธอไว้ตรงอก แม้ว่าจะไม่ได้ใช้เรี่ยวแรงอะไรมาก แขนทั้งสองก็สามารถล็อคเพ็ญจิตไว้ตรงหน้าอกจนดิ้นไม่หลุด “สุวิทย์ อย่าได้คืบจะเอาศอกไปหน่อยเลย เอากุญแจคืนให้ฉัน แล้วไสหัวไปเดี่ยวนี้” สุวิทย์ล็อคตัวเพ็ญจิตไว้แน่นจนแม้แต่จะหายใจยังรู้สึกเปลืองแรง แต่ว่าเธอยังไม่ยอมประนีประนอมอ่อนข้อให้
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 48 สุวิทย์แอบดูข้อความในโทรศัพท์ของเพ็ญจิต
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A