ตอนที่ 59 พูดคุยกันในอ่างอาบน้ำ
1/
ตอนที่ 59 พูดคุยกันในอ่างอาบน้ำ
OMG!สุ่มได้สามีคนหนึ่ง
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 59 พูดคุยกันในอ่างอาบน้ำ
ตนที่ 59 พูดคุยกันในอ่างอาบน้ำ “อรรถพล ภรรยาผมหลับไปแล้ว หากมีเรื่องใหญ่อะไรก็ค่อยคุยกันพรุ่งนี้เถอะ” สุวิทย์พูดตอบพลางยกโทรศัพท์ออกจากหู และก่อนที่จะวางสาย ก็ดันยกกลับขึ้นมาอีกครั้ง และเอ่ยเนการเตือนผ่านทางโทรศัพท์ “ได้โปรดอย่าโทรมาอีกก่อนฟ้าจะสาง มีเรื่องอะไรค่อยว่ากันพรุ่งนี้ และพรุ่งนี้ผมจะกลับไปกับเพ็ญจิต” พอสุวิทย์พูดจบก็ไม่เพียงแต่จะตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง แถมยังถึงสายโทรศัพท์ออก เช่นนี้แล้วก็มิต้องกลัวว่าเขาะโทรมาอีก อรรถพลที่ถูกวางใส่โทรศัพท์ใส่ก็โยนโทรศัพท์ลงพรมด้วยความเกรี้ยวกราด ไปร้อนปะทุขึ้นในใจ เพียงแค่พริบตาเดียวสติสตังค์ของเขาก็ถูกแผดเผาย่อยยับเป็นธุรี ไอ้สุวิทย์นี่มันน่าขังจริงๆ เมื่อห้าปีก่อน เขาเคยหลอกเพ็ญจิต คิดไม่ถึงเลยว่าผ่านมาห้าปีแล้วเขายังจะโรคจิตไม่หาย ไม่ได้การละ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ยอมให้เพ็ญจิตเข้าใกล้สุวิทย์อีกเป็นอันขาด นับตั้งแต่ปสันน์ออกไปจนถึงตอนนี้เป็นเวลาครบสี่ชั่วโมงแล้ว ภายในสี่ชั่วโมงนี้ พวกเขาทำอะไรกัน? เพียงแค่คิดถึงคำพูดของสุวิทย์ อรรถพลก็มิอาจชักช้ารีรอได้อีก เขาจุดบุหรี่หนึ่งมวน เพียงแค่แปปเดียวก็สูบจนหมด จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน เปิดประตู และเดินไปห้องตรงกันข้าม ณ ห้องหมายเลข 2806 เดิมทีสุวิทย์อยากไปอาบน้ำตามประสาคู่รักสักหน่อย แต่สายโทรศัพท์ดันมาขัดเวลาไปเสียได้ อีกอย่างเพ็ญจิตก็ปิดประตูห้องน้ำจนสนิทแล้ว พอถึงตอนที่เพ็ญจิตเปิดประตูห้องน้ำ ทั้งตัวก็เหลือแต่ผ้าขนหนูผืนเดียว “คุณภรรยา พวกเรา...” สุวิทย์เพิ่งจะพูดยังไม่ทันเสร็จ เพ็ญจิตกลับเดิมผ่านตัวเขาไป เพ็ญจิตหันยิ้มโปรยเสน่ห์ให้สุวิทย์ : “ฉันอาบเสร็จแล้ว คุณอาบเองแล้วกัน”“คุณภรรยา ผมยังติดค้างเรื่องงานแต่งกับคุณ” สุวิทย์โอบกอดเพ็ญจิตจากเนข้าง ริมฝีปากอันเร่าร้อนลื่นไถลไปทั่วใบหู หัวใจของเพ็ญจิตเต้น “ตึกๆ”ขึ้นมาในทันใด แม้แต่บมหายใจจังติดจัดกระหืดกระหอบ งานแต่งงาน เมื่อห้าปีก่อนเธอจัดงานแต่งงานมาแล้วสองครั้ง อีกแค่เกือยนิดเดียวก็จะจัดครั้งที่สาม แต่ก็เป็นงานแต่งสองสามครั้งนั้นแหละเธอทำให้เธอกลายเป็นตัวตลก แต่เดิมทีเคยคิดว่าตนเองจะเกรงกลัวงานแต่งงานเสียอีก แต่ในยามนี้เมื่อคำนี้หลุดออกมาจากปากของสุวิทย์ ใจของเธอกลับเต้นโครมคราม ราวกับรอคอยสิ่งนี้มาโดยตลอด “คุณสามี คุณแน่ใจไหม? แน่ใจไหมว่าจะคงสถานภาพการแต่งงานของพวกเราเช่นนี้ต่อไป?” เพ็ญจิตหลับตา ปล่อยให้เขาจูบเธอตามอำเภอใจ และปล่อยให้เขาอุ้มเธอกลับเข้าไปในห้องน้ำ “แน่นอนครับ ที่รัก นับตั้งแต่วินาทีที่ผมตกลงยอมจดทะเบียนเป็นต้นมา ผมมั่นใจมากว่าชีวิตนี้ คุณจะเป็นภรรยาของผมเพียงผู้เดียว ผมจะไม่มีวันหย่าเป็นอันขาด” สุวิทย์ดึงผ้าขนหนูของเพ็ยจิตออก ส่วนตนเองก็ก้าวลงอ่างอาบน้ำไปเช่นกัน “อือ แต่ว่าตอนนั้นคุณไม่รู้จักฉัน อีกอย่างคุณก็มีรักแรกอยู่”เพ็ญจิตถูกยั่วยวนโปรยเสน่ห์อยู่หน่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อมือของสุวิทย์ลูบไล้ไปที่ร่างกายของเธอ สมองเธอก็เชื่องช้ามิรับรู้ ทว่าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า ปสันน์ได้วางระเบิดเวลาไว้ทำให้เธอไม่สบายใจเป็นอย่างมาก และถึงขั้นเสียอกเสียใจ “คุณภรรยาครับ ถ้าคุณไม่รู้สึกว่ามันน่าเบื่อล่ะก็ ผมจะเล่าให้คุณฟัง” สุวิทย์เปลี่ยนท่า ดึงเพ็ญจิตเข้ามาในอ้อมกอด และทั้งสองก็นอนถ่างพูดคุยกันอยู่ในอ่างอาบน้ำ “ขอแค่เป็นเรื่องของคุณ ฉันก็ไม่มีวันรู้สึกเบื่อหรอกค่ะ” เพ็ญจิตกลับตา รับฟังเรื่องราวอันน่าเวทนาของเขา “เธอขื่อว่าไรวินทร์ พวกเรารู้จักกันที่งานเลี้ยงแห่งหนึ่ง ต่อหน้าผมเธอเป็นผู้หญิงที่สวย อ่อนโยนและมีน้ำใจคนหนึ่ง ผมในตอนนั้นยังโง่มาก คิดว่าสิ่งที่ตาเห็นเป็นเรื่องจริง... ” เมื่อได้ฟังความทรงจำเกี่ยวกับรักแรกของสุวิทย์ เพ็ญจิตกลับไม่ได้ตื่นเต้นมากนัก สมัยที่เรียนมหาลัย มีใครที่ไหนไม่เคยบ้าคลั่งบ้างเล่า เพียงแต่เธอแค่สงสัยมากว่าทำไมทั้งๆที่ทั้งสองก็พบผู้หลักผู้ใหญ่กันแล้วถึงกลับเลิกลากันไป “ตอนนั้นพวกคุณวางแผนจะแต่งงานกันจริงๆหรอ?” “ถ้าหากว่าเธอไม่ได้แต่งงานกับพ่อผมอ่ะนะ” เพ็ญจิตรู้สึกกว่าจู่ๆร่างกายของสุวิทย์ก็ดันตึงๆแข็งทื่อขึ้นมา จนแม้เต่เมื่อเธอได้ยินยังสั่นไหว แฟนสาวของตัวเองแต่งงานกับพ่อ คงต้องใช้ความกล้าอย่างมหาศาลใน การเผชิญหน้า นี่ก็ทำให้เธอพอเข้าใจได้ว่าทำไมปสันน์ถึงไม่ยอมเล่า และก็ยิ่งเข้าใจว่าเหตุไฉนตอนนั้นสุวิทย์ถึงได้ตกตระกำลำบากถึงขนาดนั้นได้ ทว่าหลังจากรู้ความจริง อารมณ์ของเธอกลับไม่ได้ดีขึ้นเลย ซ้ำยังสับสนยิ่งกว่าแต่ก่อนเข้าไปอีก มิน่าเล่าปสันน์ถึงได้พูดว่า หากเป็นเมื่อห้าปีก่อนถ้างั้นก็คงเป็นเรื่องปกติ ในช่วงเวลานั้น หากเธอไม่ได้เป็นคนที่ลากสุวิทย์ไปจดทะเบียน หากเป็นผู้หญิงคนอื่น เกรงว่าเขาก็คงยมรับปากเช่นนั้นเหมือนกัน“คุณสามี ถ้าหากเมื่อห้าปีก่อน คนที่ลากคุณไปแต่งงานด้วยไม่ใช่ฉันแต่เป็นผู้หญิงคนอื่น คุณจะจดทะเบียนกับเธอไหม?” เพ็ญจิตคิดอยู่ในหัว และเผลอพูดออกมาจากปากทันที สุวิทย์ตกใจ เขาไม่เคยคิดถึงปัญหานี้มาก่อน อีกอย่างหากจะมาพูดโกหกเอาตอนนี้เห็นทีคงจะไม่ฉลาดสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงเงียบไปครู่นึง “ไม่รู้ อาจจะจด หรืออาจจะไม่จด คุณภรรยา ผมโชคดีมากนะที่เป็นคุณ” สุวิทย์กลัวว่าเพ็ญิตจะถามอีก จึงตัดสินใจใช้วิธีที่ตรงไปตรงมาพูดกับเธอ สุวิทย์ทิ้งรอยจูบครั้งใหม่มากมายไว้บนตัวของเพ็ญจิต นิ้วทั้งสิบลูบไล้ส่วนเว้าโค้งอันงดงามของเธอ เคล้าคลึง จูบลูบไล้ กระตุ้นอยูที่จุดอ่อนไหวของเธอ บีบบังคับให้เธอแสดงสัญชาตญาณเดิมออกมา ไฟสวากเมื่อคุกกรุ่นขึ้นแล้วก็มิอาจมอดดับลงได้ เพ็ญจิตรู้ดีว่าเธอกำลังลุ่มหลงอยู่ในโลกของตัณหาอีกครั้ง เธอยอมรับว่าเธอไม่มีทางปฏิเสธสัมผัสอันแข็งกร้าวที่เขามอบให้เธอได้ ราวกับได้ลิ้มลองหยาดน้ำผึ้งจนไม่อาจถอนตัวได้ สุวิทย์อุ้มเธอขึ้น ให้เธอมานั่งบนตักของตน แต่ตอนนี้โทรศัพท์ภายในห้องกลับดังขึ้นอีกครั้ง ตัวเขานั้นไม่ได้สนใจ แต่เพ็ญจิตกลับตื่นขึ้นจากความลุ่มหลง “โทรศัพท์ - -” “คุณภรรยา ไม่ต้องสนใจหรอก คนไม่รู้จัก ไม่จำเป็นต้องสนใจ” ลิ้นของสุวิทย์ซอกแซกลื่นไหลไปบนเนื้อหนังมังสาของเธอที่อยู่ใต้ผิวน้ำเร็วปานายฟ้า และเสียงทุ้มต่ำอื้ออึ้งดังมากจากหน้าอกของสุวิทย์ “แต่ว่า...อื้อ...” เพ็ญจิตเอนตัวไปมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว อยากจะผลักไสเขาออกแต่ดันเผลอเอนตัวไปด้านหน้าเขาแทน ทว่าเสียงโทรศัพท์ก็ยิ่งดังมากขึ้น และยังดูเหมือนว่าจะดังเรื่อยๆเป็นระยะๆอีก แต่สุวิทย์ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินและยังคงดำเนินกิจกรรมในมือต่อไป ลิ้นกับปากยังคงปล้นกลิ่นหอมของภรรยาคนสวย และสะโพกของเพ็ญจิตเล่นหยอกล้อเร่าๆทำให้ร่างของเธอร้อนแรงดั่งกองเพลิง จนใกล้เผามอดไหม้ “ฮึก...” ใบหน้าของเพ็ญจิตร้องจี๋ราวกับดวงไฟ ในเวลานี้นาทีนี้ อุณหภูมิน้ำในอ่างทะยานสูงขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน และเสียงเคาะประตูจากนอกห้องก็ทวีความดังขึ้น ทำให้เธอมโนเห็นภาพมายาการแอบลักลอบพลอดรักกัน แต่เพลิงร้อนในกายกลับกระตุ้นอ่อนไหวยิ่งกว่าวันวาน เธอผลักเขาออก อ้าปากครวญคราง “ไม่เอา มีคนมาจริงๆ ไป—อา—ไปเปิดประตู--” “อีกแปปเดียว อีกแปปเดียวค่อยไป...” สุวิทย์เปล่งแหบแห้งงัวเงียตอบกลับ ค่อยๆประโลมจูบลงบนติ่งหูอันไวต่อความรู้สึก อย่างเบาๆ มือไม้ยกก้นเธอขึ้น “ไม่เอา ข้างนอก—มีคน—จริงๆ บางที--อา” ความรู้สึกที่ถูกเติมเต็มอย่างฉับพลันทำให้เพ็ญจิตยากที่จะบังคับตัวเองให้เปล่งเสียงออกมาได้ “อือ—คุณภรรยา ไม่ว่าใครหน้าไหนก็มาแยกเราจากกันไม่ได้อีก อ้อ—ผมไม่อนุญาติ คุณเป็นของผมได้เพียงคนเดียวเท่านั้น” เขาพูดอยู่ข้างปากของเธอ ด้วยเสียงทุ้มต่ำเพราะแรงปรารถนาแฝงไปด้วยความแหบแห้งอันสุดแสนจะขยี้ใจ เธอจ้องเธอด้วยใบหน้าทั้งใบที่แดงก่ำ แต่ยังคงจับความตามคำของเขาได้ ปล่อนให้เขาลากเธอลิ้มรสความปรารถนาที่เขามีต่อเธอ... ในช่วงที่ความสุขสุดยอดใกล้จะเคลือบคลานเข้ามา เจ้ามหึมาก็ยิ่งทวีความเร็วขึ้นอย่างฉับพลัน เสียงครวญครางเบาๆของเธอถูกริมฝีปากของเขาผนึกไว้ในทันที น้ำในอ่างทะลักไหลออหเพราะการเคลื่อนไหวอันร้อนแรงของพวกเขามากกว่าครึ่ง มือของสุวิทย์พะยุงเอสของเธอไว้แน่น จุมพิตเธอ สติของเพ็ญจิตแตกสลายกระเจิดกระเจิงด้วยเจ้าความสุขอันดุดันของเขา เธอเอาแต่ลูบไล้ลำคอของเขาอย่างมิรู้ตัว ปล่อยตัวปล่อยใจให้เขาพาเธอล่องลอยไปยังปุยเมฆ จนกระทั้งเขาปลดปล่อยเจ้าพลัง ท่ามกลางแสงไฟสีนวลอันงดงาม เจ้าความสุขอันน่าอัศจรรย์ก็เคลือบคลานเข้ามาอีกครั้ง เธอสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมกอดของเขา เขาโอบกอดเธอที่อ่อนระทวยอิดโรยอยู่ในอ้อมกอด ลมหายใจฟึดฟัดหระหืดหอบรินรดที่ข้างหูเธอ มิมีใครปริปากพูด เสียงโทรศัพท์ก็เงียบหายไปตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ เพียงแต่เสียงเคาะประตูอันน่ารำคาญนั่นยังคงอยู่ สุวิทย์ไม่ได้สนอกสนใจ เอาแต่โอบกอดเพ็ญจิติลิ้มรสการเสร็จสิ้นของเจ้าตัวน้อย รอจนกว่าเจ้าตัวน้อยค่อยๆสงบนิ่งลงทีละน้อยๆ เขาเขี่ยผมยาว เขาเขี่ยสยายผมยาวๆของเธอ พินิจแลมอง และปริปากเปล่งเสียงแหบแห้ง “คุณภรรยาครับ พวกเราจัดงานแต่งงานกันเถอะ” เพ็ญจิตขยับตัวเล็กน้อย กระชับอ้อมกอดของเขาให้แน่นยิ่งขึ้น และพูดพึมพำโดยไม่ได้เงยหน้า “ไม่เอา ไม่มีงานแต่งพวกเราจะไม่ใช่สามีภรรยากันหรอ?” “แน่นอนว่าเป็นครับ แต่พวกเราต้องประกาศให้ทุกคนรู้ว่าคุณเพ็ญจิตและผมสุวิทย์เป็นสามีภรรยากัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครมาติดพัน” สุวิทย์หอมยอดกระหม่อมเธอ จากนั้นก็ค่อยๆเชิดปลายคางเธอขึ้นมาอย่างอ่อยโยน จ้องมองเธอ และพูดด้ยเสียงนุ่มนวล “เพ็ญจิต ผมสร้างครอบครัวของพวกเราเอง มีคุณ มีผมแล้วก็....” มือของสุวิทย์ลูบล้องของเพ็ญจิตเบาๆ “คลอดลูกสักสองสามคนที่เหมือนคุณและผม--” เพ็ญจิตได้ยินดังนั้นก็ตกใจ อุนหภูมิในร่างกายลดวูบเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง “คุณสามี ฉันหนาว พวกเราลุกขึ้นเถอะ” “โอเค ก็ดีจะได้ออกไปดูซิว่าใครมันไร้สามัญสำนึกได้ถึงเพียงนี้” สุวิทย์อุ้มเพ็ญจิตขึ้นจากอ่างอาบน้ำ ซ้ำยังเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้อย่างใส่ใจ ไม่เพียงแต่เท่านี้ เขายังช่วยเพ็ญจิตเป่าผมยาวๆให้แห้ง และตอนนี้เองเขาถึงจะยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างช้าๆ เดิมทีเขาคิดว่าเป็นคุณพี่เมียน่ารังเกียจคนนั้น แต่ที่ไหนได้ไม่คิดว่าจะเป็นปสันน์ “คุณสามีคะ ใครโทรมาดึกขนาดนี้กันคะ?” เดิมทีเพ็ญจิตคิดว่าเป็นสายของตน แต่รอจนเห็นว่าเป็นสายของสุวิทย์ ใจก็หายวาบ “ปสันน์ คุณพักผ่อนก่อนเถอะ ผมจะถามเขาสักหน่อยว่ามีเรื่องอะไร” สุวิทย์พูดในขณะที่นอนอยู่บนเตียง มือข้างหนึ่งก็ลูบเพ็ญจิต อีกข้างหนึ่งก็ถือโทรศัพท์ “บอสครับ คุณไม่เป็นอะไรนะครับ?” พอโทรติด เสียงอันผิดปกติของปสันน์ก็ดังลอดมาจากโทรศัพท์“ปสันน์ นี่มันตีสามกว่าละ นายคิดว่าฉันจะมีเรื่องอะไร?” สุวิทย์ถามด้วยความสงสัย ด้วยความเป็นผู้ชายเช่นเดียวกัน เขาควรจะเข้าใจดี สามีภรรยาอยู่ด้วยกันแน่นอนว่าต้องทำเรื่องอย่างว่าเป็นธรรมดา ทำไมยังมีหน้ามาขัดจังหวะอย่างไร้สามัญสำนึกเช่นนี้ได้อีก ? “งั้น...บอสครับ ซ้อหลับยังครับ? ตอนนี้สะดวกจะเปิดประตูไหมครับ ผมอยู่ข้างนอก?” เสียงของปสันน์ดูผิดปกติมากจริงๆ ความฉงนสงสัยในใจของสุวิทย์ก็ยิ่งเพิ่มทวีขึ้น เป็นเพื่อนตายกันมาตั้งนานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ปสันน์พูดติดๆขัดๆเช่นนี้ “ยังไม่หลับ นายรอแปปนึง ฉันกำลังจะไปเปิด” “ที่รัก คุณนอนก่อนเถอะ ปสันน์มีเรื่องจะคุยกับผมนิดหน่อย”เขาพูดจาหวานเลี่ยนทั้งที่ยังไม่ได้วางสาย ราวกับจงใจให้ปสันน์ได้ยิน และจุมพิตลงบนหน้าของเพ็ญจิต เมื่อได้ยินคำพูดเลี่ยนๆนั่น ปสันน์ก็ถึงกับกระอักกระอ่วน เงยขึ้นไปมองอรรถพลที่ยืนหน้าดำคร่ำเครียดอยู่ข้างๆ และกดวางสาย “คุณอรรถพล คุณก็ได้ยินแล้ว เวลานี้เกรงว่าจะไม่เหมาะสมจริงๆ หรือไม่พรุ่งนี้พสกเราค่อย...” ปสันน์มองเวลา ตอนนี้เป็นเวลาถึงตีสามครึ่งแล้วจริงๆ มารบกวนเวลาฝันหวานของชาวบ้านเขาช่างไร้คุณธรรมเสียจริงๆ “ปสันน์ นายดูแลเพ็ญจิตยังไง ถึงได้ให้เธอ...” อรรถพลเพิ่งพูดได้ครึ่งเดียว ประตูที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็เปิดออก สุวิทย์ที่ผูกผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียวไว้ที่สะเอวยืนด้วย “รูปร่างงามสง่า”อยู่ตรงหน้าพวกเขา
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 59 พูดคุยกันในอ่างอาบน้ำ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A