ตอนที่ 64 ผู้ชายก็อยากให้ง้อเหมือนกันนะ
1/
ตอนที่ 64 ผู้ชายก็อยากให้ง้อเหมือนกันนะ
OMG!สุ่มได้สามีคนหนึ่ง
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 64 ผู้ชายก็อยากให้ง้อเหมือนกันนะ
ตนที่ 64 ผู้ชายก็อยากให้ง้อเหมือนกันนะ “รู้สึกอะไร?” เพ็ญจิตเอาแต่มองไปด้านหน้าด้วยความระส่ำระส่าย ไม่กล้าจ้องปสันน์ “คุณเพ็ญจิต คุณนี่มันกระจิตกระใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยจริงๆ ทั้งรูปร่างหน้าตาฐานะการเงินของบอส ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่อยากได้ แต่ผมรู้จักเขามายี่สิบปี นอกจากไรวินทร์ ผู้หญิงคนนั้นแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าคุณตัดเธอทิ้งไปได้เลย ตลอดหลายปีมานี้ นอกจากคุณ ผมก็ยังไม่เคยเห็ยเขายิ้มให้ผู้หญิงคนไหนมาก่อน” ปสันน์เจ็บใจแทนสุวิทย์ “แต่ฉันมองไม่ออกหนิ ก่อนจะมาบริษัทโอก้ากรุ๊ป ช่วงเวลาที่ฉันกับเขาอยู่ด้วยกันมีเพีงแค่สามวัน อีกทั้งตลอดสามวันนั้น –เวลาส่วนใหญ่ก็อยู่บน...” เพ็ญจิตยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งเบาลง จนถึงตอนจบก็ไม่ได้ยินพอดี “สามวัน? พวกคุณ...” ปสันน์ชูนิ้วออกมาด้วยความตกตะลึง ราวกับเข้าใจเหตุผลที่เสียงของเพ็ญจิตค่อยๆเบาลงๆ “คงไม่ใช่เวลาตลอดสามวันนั่น พวกคุณเอาแต่อยู่บน-เตียง-หรอกนะ” ใบหน้าของเพ็ญจิตยิ่งทวีร้อนผ่าวมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อให้เป็นเช่นนี้ ปสันน์ไม่เห็นจะต้องพูดตรงขนาดนี้ก็ได้ อีกอย่างเธอกับปสันน์ก็ไม่ได้จะสนิทกันถึงจะพูดคุยกันไปได้ทุกเรื่อง เพ็ญจิตพยักหน้ามิไม่เปล่งวาจา ปสันน์ก็เข้าใจได้ อ้าปากหัวเราะ เท้าเหยียบคาอยู่ที่คันเร่ง “ผมพูดถูกจริงๆด้วย พวกคุณนี่มีวาสนาต่อกันจริงๆ ไปกันเถอะ ผมจะพาคุณกลับไป ต่อให้ไม่ขอโทษ คุณก็ง้อเขาสักหน่อยเถอะ บางทีผู้ชายก็อยากให้ง้อเหมือนกันนะ โดยเฉพาะเวลางอน” “ฉันรู้แล้ว งั้นตรงไปที่บริษัทเลยแล้วกัน” เพ็ญจิตพูดเสียงค่อย ในเมื่อรู้แล้วว่าในใจของสุวิทย์มีเธออยู่จริงๆ ถ้าเช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอีก หรือมะเลาะกับเขาอีกต่อไปแล้ว เพื่อเป็นการตอบแทนเขา เธอจะมอบเซอร์ไพรซ์ครั้งใหญ่ให้เขาสองเรื่อง เช่นนี้ พอถึงตอนวันเกิดครบรอบห้าขวบของลูกๆ พวกเขาก็สามารถฉลองด้วยกันได้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา สุวิทย์จะได้เจอลูกชายทั้งสองของตัวเองเสียที “เพ็ญจิต เธอคิดไว้หรือยังว่าจะง้อเขายังไง?” รถเข้าเมืองมาแล้ว อีกประมาณยี่สิบหน้าทีก็คงถึงบริษัท ปสันน์จึงเอ่ยปากถามเพ็ญจิต “ฉันง้อคนไม่เป็น แต่...ฉันจะขัดเซอร์ไพรซ์ชุดใหญ่แบบที่เขาคาดไม่ถึงให้แทน” เพ็ญจิตพูดเสียงหวานหยดย้อย ปสันน์ผิวปาก “ดี งั้นสัญญากับผมนะว่า พอถึงวันแต่งงานของพวกคุณ ต้องให้ของขวัญบิ๊กเบิ้มกับผมสักชิ้นแล้วล่ะ” เพ็ญจิตรู้สึกซาบซึ้งด้วยใจจริง: “อือ ขอบคุณมากๆนะคะ ปสันน์” ในที่สุดเมื่อกลับมาถึงบริษัท ปสันน์ก็เข้าไปจอดรถที่ลานจอดรถใต้ดิน เพ็ญจิตอยากจะขึ้นไปคนเดียว แต่ปสันน์เว้าวอนว่าจะไปเป็นเพื่อนให้ได้ บอกว่าอยากเห็นสีหน้าท่าทางของสุวิทย์ “เพ็ญจิต เดี๋ยวผมรออยู่ข้างนอกนะ คุณอย่าลืมแง้มประตูไว้หน่อยนะ ยากนักที่จะได้เห็นท่าทางซื่อบื้อของบอส ผมจะพลาดได้ไง” ปสันน์เดินตามเพ็ญจิตไปจนถึงออฟฟิศท่านประธาน เมื่อตอนเดินผ่านห้องทำงานเลขาเห็นพลังอยู่ข้างใน ปสันน์จึงยื้อเพ็ญจิตไว้ ทำคอยืดคอยาวเข้าไปด้านใน “พลัง ท่านประธานอยู่ที่ห้องไหม” “อยู่ครับ ท่านรอง คุณเพ็ญจิต พวกคุณกลับมาแล้วหรือครับ” พลังพนักหน้า“อือ ชอบใจ พวกเราไปหาท่านประธานก่อนนะ” ปสันน์ดีดนิ้ว แล้วเอ่ยปากขอบคุณ เดินต่อไปยังห้องประธานพร้อมกับเพ็ญจิต “ท่านรองครับ เดี๋ยวก่อน--” พลังที่นั่งอยู่ในห้องทำงานเห็นปสันน์กับเพ็ญจิตจะเดินเข้าไปข้างใน ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ รีบพูดด้วยความร้อนรน “ปสันน์ คุณไม่ต้องเข้ามาเป็นเพื่อนฉันหรอก ฉันเข้าไปคนเดียวก็พอ” เมื่อเห็นห้องทำงานของสุวิทย์ จู่ๆหัวใจของเพ็ญจิตก็เต้นเร็วระรัวขึ้นมาอย่างกระทันหัน แม้จะพูดคำว่าขอโทษไม่ออก แต่คนที่ผิดคือเธอ ก็ควรจะกล่าวขอโทษขอโพยเสียหน่อย เพ็ญจิตยืนลังเลอยู่หน้าประตูครู่นึง คิดว่าควรจะเคาะประตูก่อนหรือจะพุ่งเข้าไปเซอไพรซ์เขาเลยดี เธอสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วผลักประตูออกทันที ตะโกนเสียงดัง: “วิทย์ ฉันขอโทษ” “เพ็ญจิต- -” “คุณเพ็ญจิต” เสียงชายหนุ่มกับหญิงสาวลอยเข้าไปในเข้าหูเพ็ญจิตพร้อมกัน เพ็ญจิตเหมือนกับโดนฟ้าผ่าอย่างไรอย่างนั้น ยืนอึ้งอยู่หน้าประตู และบนโต๊ะทำงาน นิตากำลังเกาะอยู่บนตัวของสุวิทย์ ทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะอำพรางความผิดนี้เลยสักนิด “ท่านประธาน ช่วยเซ็นต์เอกสารนี้ด้วยค่ะ” นิตาปล่อยสุวิทย์ ชี้ไปที่เอกสารบนโต๊ะ “ขอโทษ ฉันเข้าห้องผิด” ในหัวของเพ็ญจิตว่างเปล่า หลังจากสมองโล่งไปฉับหลัน เธอก็โค้งตัวกล่าวขอโทษอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวกลับไป ปสันน์ที่เดิมทีกำลังเตรียมตัวดูสีหน้าท่าทางของสุวิทย์อยู่ไม่ไกล แต่เพ็ญิตกลับมิได้เข้าไป ซ้ำยังหันกลับมาตัวใบหน้าซีดเผือดเดินมาทางตนเองอีก “เพ็ญจิต วิทย์อยู่ข้างในไหม?” ปสันน์จ้องเพ็ญจิตด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าเธอเป็นอะไรไป? หรือว่าจะไม่สบายกระทันหัน? เพ็ญจิตไม่ตอบปสันน์ เอาแต่เดินเหม่อลอยออกไปนอกประตู “เพ็ญจิต ตกลงธอ...” ปสันน์รีบเดินตามหลังไป แต่ด้านหลังกลับมีเสียงอันคุ้นเคยลอยตามมา “ท่านรอง คุณกลับมาแล้วหรอ?” ปสันน์จ้องสาวงามที่เดินมาจากข้างหลังด้วยความตกตะลึง “เธอย้ายไปแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงอยู่...” เมื่อเห็นรอยยิ้มอันเย้ายวนทรงเสน่ห์ของนิตา ในหัวของปสันน์ก็ช็อต นิ่งกลายเป็นหินภายในพริบตา “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ วิทย์ไม่มีทางทำอย่างนี้--” ปสันน์บ่นพึมพำ ไม่กล้ามองไปยังห้องท่านประธานที่เปิดอ้าซ่าอยู่ “คุณเพ็ญจิต รอก่อน” เพ็ญจิตเดินแข็งมื่อเข้าลิฟท์ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนเรียกจากด้านหลัง ก็กดปุ่มลิฟท์โดย สัญชาตญาณ จนกระทั่งนิตาเดินเข้ามาเรียกชื่อเพ็ญจิตอีกครั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อครู่ ยังคงล่องลอยบิยว่อนวนไปวนมาอยู่ในหัวของเพ็ญจิต “คุณเพ็ญจิต ได้ข่าวว่ากลับบ้าน ทำไมไม่อยู่ต่ออีกหลายๆวันล่ะคะ?” นิตาพูดคุยกับเพ็ญจิตด้วยความสนิทสนมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพ็ญจิตอยากจะบอกกัยตัวเองว่าเมื่อกี้เธอแค่มองผิดไป แต่หลุดปากพูดด้วยบันดาลโทสะ “ที่บ้านฉันมีเรื่องนิดหน่อย ฉันกลับมาเพื่อยื่นใบลาออกค่ะ” “ที่แท้ก็เป็นอย่างงี้นี่เอง ให้ฉันเอาไปส่งให้ไหมคะ” นิตาเป็นอย่าง “สนิทสนม” “ขอบคุณค่ะ ไม่เป็นไร ฉันส่งให้ท่ายรองเรียบร้อยแล้ว” ในหัวของเพ็ญจิตว้นวุ่นอลม่านไปหมด โชคดีที่มีปสันน์อยู่ พอจะเป็นข้ออ้างได้ มิเช่นนั้นแล้วครั้งนี้เกรงว่าคงไม่รู้จะทำอย่างไรดีจริงๆ “วิทย์ เมื่อกี้แกกับนิตากำลังทำอะไรกัน?” ปสันน์ที่ฟื้นคืนสติก็รีบพุ่งเข้าไปในห้องทำงานประธาน แถมยังเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงสงสัย “เธอเอาเอกสารมาให้ฉันเซ็นต์ ปสันน์ น้ำเสียงแกเช่นนี้หมายความว่าไง?” สุวิทย์ขมวดคิ้วไม่พอใจ “แค่เซ็นต์เอกสารหรอ? ท่าทางของเพ็ญจิตไม่ใช่อย่างนั้นนะ ใบหน้าขาวซีดเหมือนกับ....เหมือนกับเห็นผีอย่างนั้นแหละ วิทย์ แก....” “พอได้แล้ว ปสันน์ พวกเรารู้จักกันมากี่ปีแล้ว แกคิดว่าฉันเป็นอย่างนั้นหรือ?” สุวิทน์ตะเบ็งเสียงหยุดความคิดของปสันน์ ใช่ เขาตั้งใจจะมีอะไรกับนิตา แต่แล้วยังไงล่ะ อย่างน้อยตอนนี้ก็หยุดแล้วไง เขายังไม่ได้ทำผิดจ่อเพ็ญจิต อีกอย่างพวกผู้หญิงชอบทึกทักคิดเพ้อเจ้อกันไปเอง เขาห้ามไม่ได้ “แต่ท่าทางของเพ็ญจิตไม่ใช่นะ วิทย์ แกรู้ไหม ระหว่างทางมันไม่ง่ายเลยนะที่จะพูดให้เพ็ญจิตเข้าใจได้ เธอมาขอโทษแก แถมยังจะเซอร์ไพรซ์แกอีก แต่....ยังไม่ทันจะเซอร์ไพรซ์ ดูท่าทาง นายคงจะจัดเซอร์ไพรซ์ให้เธอชุดใหญ่แล้ว” ปสันน์ถอนหายใจอย่างไม่มีทางช่วย แม้วิทย์จะปฏิเสธอีกครั้ง แต่เขาฟันธงได้ว่าเรื่องราวมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นแน่นอน เมื่อกี้ตอนที่นิตาเดินผ่านเขา ยิ้มซะเจ้าเล่ห์ถึงเพียงนั้นราวกับแมวขโมยปลาทู ผนวกกับสีหน้าท่าทางของเพ็ญจิตแล้ว เขารู้สึกว่าควรจะต้องมองเพื่อนซี้คนนี้เสียใหม่ “ก่อนหลับมา ทำไมไม่โทรหาฉัน?” สุวิทย์มิได้อธิบายอันใด ซ้ำยังคาดคั้นปสันน์อีก “ก็บอกแล้วไงว่าจะมาเซอร์ไพรซ์แก หากโทรมาก่อนจะเรียกเซอร์ไพร์ได้ไง” ปสันน์ไม่พอใจ “นายทำธุระต่อเถอะ ฉันจะกลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยมาทำงาน” เขานึกเป็นห่วงเพ็ญจิต ตอนที่เธอออกไปเมื่อครู่ สีหน้าขาวซีดราวกับกระดาษ กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไป “ไปเถอะ” สุวิทย์พูดคำว่า “ไปเถอะ”อย่างเรียบเฉยออกมาหนึ่งประโยค แล้วจึงทอดสายตาไปยังคอมพิวเตอร์ ราวกัยไม่เป็นห่วงเพ็ญจิตเลยสักนิด ปสันน์ที่เดินจนถึงริมประตูเมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้นของสุวิทย์ ก็โมโหสุดขีด จึงพูดขึ้นอีก “ท่าทางของเพ็ญจิตที่เดินออกไปเมื่อกี้น่าเป็นห่วงมาก แกไปไม่ดูสักหน่อยหรือ?” “ตอนนี้เธอกำลังโมโหอยู่ หากฉันไปก็ยิ่งเหมือนเธอน้ำมันรถไฟ บางทีเธอก็คงคิดเพ้อเจ้อเหมือนกับแก หากแกไปหาเธอก็รั้งแต่จะทำให้เธอฟุ้งซ่านไปกันใหญ่” สุวิทย์พูดอย่างไม่คิดแม้แต่น้อย “ปสันน์ หรือแกจะไปดูให้ฉันสักหน่อยล่ะ หากเธอเธอคิดตามนั้นจริง นายก็ช่วยฉันอธิบายหน่อยแล้วกัน” “ฉันช่วยแกอธิบายเนี่ยนะ หัวหน้า สมองคุณจมน้ำหายไปแล้วหรือยังไง นั่นเมียของคุณ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเพราะเรื่องผิดผีของคุณกับแม่เลขาอีกถึงได้....” “ปสันน์ ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป พูดเหลวไหลอะไรอยู่ได้ โอเคๆ นายกลับไปได้แล้ว เดี๋ยวเย็นฉันค่อยไปหาเธอ” สุวิทย์พูดไปก็โบกมือไปที่ปสันน์อย่างหมดความอดทน “ได้ นายมันแน่นักหนิ แต่ขอร้องล่ะนะ หลังจากนี้ไม่ต้องมาหาฉันเรื่องเมียแกอีก ต่อให้เป็นเพื่อนซี้กัน ก็ไม่ได้ทำแทนกันได้ซะทุกเรื่องหรอก” ปสันน์โกรธเนืองๆ ปิดประตู เดินออกไป สุวิทย์กลับมิได้ตกอกตกใจใดๆทั้งนั้น เขารู้จักปสันน์มาไม่ใช่แค่ปีสองปี ปสันน์จะมีปฏิกริยาอะไรเขาคือคนที่รู้ดีที่สุด แต่เมื่อกี้นี้เขาไม่ได้มีอะไรกับนิตาจริงๆ เพียงแค่นิตาอ้างว่าบนไหล่เขามีผมติดอยู่เท่านั้นเอง แล้วเขาก็ไม่ได้ผลักเธอ หากไปอธิบายกับเพ็ญจิตเช่นนี้ ก็คงมีแต่จะยิ่งมากความยิ่งไปกว่าเดิม เมื่อปสันน์พูดว่าเซอร์ไพรซ์ ก็ไม่ยักกะรู้ว่าเซอร์ไพรซ์เรื่องอะไร สุวิทย์รู้สึกร้อนอกร้อนใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่หากจะเลิกงานออกไปตอนนี้ มันจะกระทบกับแผนของเขาได้ หลังจากเพ็ญจิตออกมาจากบริษัท เดินโฉบลมเย็นๆ ก็ทำให้เธอตื่นตัวขึ้นมาไม่น้อย ภาพเมื่อครู่ฉายซ้ำขึ้นในหัวของเธอ เธอถามตัวเองว่า เธอกำลังทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่อยู่หรือเปล่า อย่างน้อยเมื่อกี้เสื้อแสงของพวกเขาก็ยังเรียบร้อยดี อีกทั้งนอกจากการกระทำอันคลุมเครือของพวกเขาแล้วก็มิได้มีเรื่องอื่นอีก ก่อนจะรู้จักกับสุวิทย์ เธอยังเคยเห็นคู่หมั้นของตัวเองคลอเคลียนัวเนียอยู่กบผู้หญิงบนเตียง ตอนนั้น เธอยังสงบจิตสงบใจให้พวกคนเลวอย่างพวกเขาได้ แต่ตอนนี้ แค่เห็นนิตาเข้าใกล้สุวิทย์เอง ทำไมเธอถึงเจ็บปวดได้ถึงเพียงนี้ ใอกลับมาถึงบ้าน เพ็ญจิตเปิดไฟล์ ปริ้นจดหมายลาออกที่อยู่ข้างในออกมาหนึ่งฉบับ ไม่ว่าสิ่งที่เห็นก่อนหน้าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เธอก็เสียความรู้สึกไปแล้ว จึงไม่อาจทำงานที่เดียวกันกับสุวิทย์ได้อีก เดิมทีคิดอยากจะเซอร์ไพรซ์เขาสักหน่อย ช่วงวันหยุดตรุษจีนจะได้พาเขาไปหาลูก ตอนนี้ เธอคิดว่า บางเธอคงไม่มีความจำเป็นเช่นนั้นอีกแล้ว ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์กันจริงหรือไม่ เรื่องที่นิตากลับมาทำงานที่ออฟฟิศประธาน คงไม่ธรรมดาเป็นแน่ เพิ่งจะย้ายเธอไปไม่ถึงอาทิตย์ก็รีบย้ายกับมา มองดูแล้ว เหมือนกับคู่รักกับกำลังงอนกัน เป็นไปได้ไหมว่าระหว่างพวกเขามี something wrong กันมาตั้งแต่แรกแล้ว? เพ็ญจิตคิดเองก็เจ็บเอง เมื่อหลายวันก่อนสุวิทย์ถึงได้พูดเรื่องขอหย่ากับเธอ เพียงแค่พริบตาเดียวก็มีผู้หญิงคนอื่นแล้ว แต่ปสันน์บอกว่าเขาไม่เคยปั้นหน้ายิ้มกับผู้หญิงคนอื่นมาก่อนเลย ครานี้เธอคิดว่าปสันน์ตงจะแค่หลอกเธอเล่น
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 64 ผู้ชายก็อยากให้ง้อเหมือนกันนะ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A