ตอนที่ 67 สามีภรรยาย่อมมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา
1/
ตอนที่ 67 สามีภรรยาย่อมมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา
OMG!สุ่มได้สามีคนหนึ่ง
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 67 สามีภรรยาย่อมมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา
ตนที่ 67 สามีภรรยาย่อมมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา เมื่อถูกสุวิทย์กดเอาที่หน้าอก เพ็ญจิตกูพูดขึ้นด้วยเสียงอู้อี้: “ฉันไม่รู้ว่าควรจะเห็นคุณเป็นสามีไหม อันที่จริง ตลอดห้าปีมานี้ ฉันเองก็คุ้นชินกับมันแล้ว ตอนที่อยู่บนเครื่องบินฉันกำลังคิดว่า บางเธอฉันไม่ควรกลับมา...บางที...อื้อ...ปล่อย...” รสจูบของสุวิทย์ยิ่งนานก็ยิ่งลึกซึ่ง มือทั้งสองข้างลูบไล้ตั้งแต่แนวสะเอวขึ้นไปข้างบนอย่างอำเภอใจ เสื้อเชิ้ตบนตัวของเพ็ญจิตแนบพอดี มือของสุวิทย์ทะยานขึ้นสูง บวกกับการต่อสู้ดิ้นรนของเพ็ญจิต ทำให้เขาหงุดหงิดเล้กน้อย เขาใช้ฝ่ามือใหญ่วางไว้ที่คอเสท้อของกีวี่และฉีกออกทั้งสองด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล จนเสื้อแสงของเพ็ญจิตลอยว่อนออกไป “อ๊าย— ไม่เอา สุวิทย์ ปล่อยฉัน ในเมื่อฉันมีเป้าหมายใหม่แล้ว งั้นก็ช่ยปล่อยฉันไปที--” เพ็ญจิตตกอกตกใจไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงตะเบ็งเสียงออกมาด้วยโทสะในใจ “นี่ก็เป็นแค่เพียงเหตุผลที่คุณคิดเองเออเอง คุณภรรยา ผมไม่มีเป้าหมายใหม่ และก็ไม่ยอมล้มเลิก เรื่องเมื่อวานเป็นแค่อุบัติเหตุ เดี๋ยวผมค่อยอธิบายให้คุณฟัง แต่ตอนช่วยให้ผมได้รักคุณดีๆหน่อยเถอะนะ” สุวิทย์พูดไปก็อุ้มตัวเธอไปยังเตียงนอนตรงหน้า พอร่างของเพ้ญจิตสัมผัสลงบนเตียง ก็ไม่มีโอกาสที่เธอจะได้หายใจหายคอดีๆ ร่างของสุวิทย์กดอยู่บนร่างเธอ เขาทั้งจูบ ทั้งเร้าโรม ทั้งถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ของเธอ ให้เจ้านั่นได้คลอเคลียไปตามหัวไหล่ บั้นท้าย ขาอ่อน ไม่นานกระโปรงของเธอก็ถูกถอดออก จากนั้นก็เป็นเสื้อชั่นในของเธอ เขาจุมพิตลงบนกายเธอนุ่มนวล ค่อยๆสลัดเสื้อผ้าของเธอออกไปจนหมด เมื่อได้ฟังคำอธิบายของเขา หัวใจอันเจ็บปวดของเพ็ญจิต ในยามนี้กลับหวายชุ่มฉ่ำปานนึ้ง ความสุขสมจากส่วนลึกร่างกายทำให้เพ็ญจิตมิอาจอำพรางต้องการอันแรงกล้าที่ร้องเรียกโหยหวนไว้ได้ เขานำเธอด้วยความมั่นใจและช่ำชอง ได้ให้เธอกลายเป็นสตรีเพียงคนเดียวอย่างแท้จริง ริมฝีปากของสุวิทย์รวมทั้งฝ่ามือของเขาลูบไล้ไปตามเนื้อหนังมังสาของเธอ ลมหายใจจากริมฝีปากอันร้อนระอุทำเอาหัวใจของเธอแตกเป็นเสี่ยงๆ สติสตังค์เตลิดเปิดเปิง ทันใดนั้นเพ็ญจิตก็เอนกายปะทะแนบชิดกัยกายของเขา เนื้อหนังมังสาถูไถกับเสื้อผ้าอาภรณ์จนรู้สึกมิอาจทนได้ และเริ่มชักเจ้าสิ่งอันทำให้คนหงุดหงิดใจออกมาอย่างซื่อๆ ในลำคอของสุวิทย์เปล่งเสียงหัวเราะเบาๆ เนื้อตัวด้ายบนก็ช่วยเธอถอดเสื้อแสงอันแน่นคับบนกายของตัวเอง ไม่นานหลังจากนั้น เพ็ญจิตรู้สึกได้ถึงเจ้ากายากรุ่นๆของเขา แนบประชิดลงบนิวพรรณเธอ “แบบนี้ดีหรือยัง? แม่แมวป่าตัวน้อยของผม” เขาเปล่งเสียงต่ำ และเริ่มต้นการรุกร้ำอัน “ป่าเถื่อน”ใหม่อีกรอบ ฝ่ามือใหญ่ๆลูบไล้ลงบนผิวพรรณนุ่มนิ่วดั่งกำมะหนี่ของเธอ บีบแค้นไปมาไม่หยุด ทุกการเคลื่อนไหวเล่นเอาในกายของเธอสะท้านไปทั้งตั้ว “วิทย์ ฉ....ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ...” เพ็ญจิตร้องเบาๆ พูดบางอย่าง แต่เสียงที่เปล่งออกมากกลับกลายเป็นเสียงร้องครวญครางเบาๆในลำคอแทน “ที่รัด นอกจากปากจะพูดแล้ว ยังทำอย่างอื่นได้อีก...” สุวิทย์ไม่ชอบพูดพร่ำทำเพลงในเวลานี้ ดังนั้นจึงจูบเธอด้วยความเร่าร้อนอีกครั้ง เพื่ออุดคำพูเของเธอ “อา...ไม่เอา...” เธอรู้สึกขายหน้า รีบใช้มือทั้งสองปิดหน้าทันที ใครจะคิดล่ะว่านี่จะทำให้ความรู้สึกยิ่งชัดเจนมากขึ้น มือทั้งสองข้างของเขาโอบเอวของเธอ ไม่ยอมให้เธอลุกขึ้น “ผมอยากมองคุณชัดๆ เพ็ญจิต”“ไม่เอา!ไม่เอา!ไม่ต้องมามองฉัน” เนื้อตัวสั่นไหว ในใจนึกอยากหลายสายตาของเขา เขาฉีกยิ้มมุมปากหน่อยๆ ก้มหัวลงครอบครองตัวตาอันงดงามของเธอ ทั้งจุมพิต ดูดดื่ม งับเบาๆ “อา...” บั้นท้ายของเธอยกตัวขึ้นอย่างหยุดไม่ได้ สติสตังค์จมดิ่งสู้ความโกลาหล “ผมชอบฟังเสียงของคุณ”“อือ อา...” เธอสบัดหัวหน่อยๆ อยากจะหยุดครวญคราง แต่กลับถูกเขาหยอกเย้าจนไร้หนทางที่จะสมหวังดั่งใจคิด เขาทิ้งรอยจุมพิตครั้งใหม่ไว้บนกายเธอจนนับไม่ถ้วย นิ้วทั้งสอบลูบไล้ไปตามว่งนโค้งส่วนเว้า ราวกับรู้ทุกจุดอ่อนไหวของเธอ หยุดบ้าง ลูบไล้บ้าง จู่โจมบ้าง ทำเอาสัญชาตญาณในตอนแรกของเธอหายวับเตลิดเปิดเปิง มิอาจจัดการกับความใคร่อันร้อนรุ่มดั่งเปลวเพลิงนี้ได้ เพ็ญจิตรู้ดีกว่าตนเองได้พ่ายแพ้จงดิ่งลงสู่โลกแห่งตัณหานั้นอีกครั้ง เธอยอมรับว่าตนเองมิอาจปฏิเสธสัมผัสอันเร่าร้อนที่เขามอบให้ได้ ก็เหมือนกับน้ำผึ้งที่เข้าไปแล้วก็มิอาจคายทิ้งออกมาได้ รสจูบของสุวิทย์เลื่อนลงจากบริเวณหน้าอกหน้าใจเธอไปอย่างไม่รู้ตัว จนถึงหน้าท้องอันแบบราบ แล้วตวัดวากลิ้นคลอเคลียเป็นวงกลม ความสบายยกหนึ่งชวนให้เธอปลดปล่อยอารมณ์ จนกระทั้งเขายกต้นขาของเธอขึ้น แยกออกซ่ายขวา สติสตังค์ของเธอถึงได้หวนกลับคืนมาในทันใด “เดี๋ยวก่อน ตรงนั้น...อา--” เธอห้ามไว้ไม่ทัน เจ้าบริเวฯซ่อนเร้นทั้งหมดถูกเขาครอบครองเช่นนี้ไปเสียดื้อๆ “เธอกำลังเขินหรอ?” เขาดูเหมือนกำลังจงใจเร้าโรมเธอ จังหวะการเลียยิ่งรวดเร็วรุนแรงมากขึ้น “ไม่เอา...อา อา...” กระแสไฟฟ้าวิ่งแปรบเข้ามาที่แนวสะเอวเธอจนนับครั้งไม่ถ้วน ทำเอาบั้นท้ายเธอถึงกับยกขึ้นยากพื้น สุวิทย์แบกรับปฏิกริยาทั้งหมดของเพ็ญจิตเอาไว้ และภายใต้การกระตุ้นเร้าโรมของเขา เธอก็ยิ่งปลดปล่อยความปรารถออกมามากขึ้นไม่รุ้หยุด ราวกับอยุ่ในทะเลเพลิง เนื้อหนังของเธอบวมแดง แถมยังร้อนระอุจนหาที่เปรียบมิได้ ราวกับใกล้จะละลายไปทั้งตัว “พอก่อน......ขอร้องล่ะ...อา...” เพ็ญจิตใกล้จะรับแรงโจมตีอันเย้ายวนนี้ไม่ไหวแล้ว น้ำตาไหลพรากออกมาที่หางตา ในใจของเธอว้าวุ่น ไม่อาจเผชิญหน้าได้อย่างตรงๆ ทำได้เพียงมุดหน้าเข้าไปในฝ่ามือทั้งสอง “ไม่เอาแบบนี้...ว...” เพ็ญจิตจิตเปล่งเสียงร้องขอเบาๆด้วยใบหน้าคร่าตาที่แดงก่ำ หวังว่าเขาจะไม่ทำต่อ กล่องดวงใจของสุวิทย์มุดเข้าไปอย่างท่ามกลางความปรารถนา เขาพยายามควบคุมความรุนแรงอย่างถึงที่สุด ด้วยเพราะไม่อยากทำร้ายเธอ หรือทำให้เธอกลัว แต่เมื่อเธอใจน้ำเสียงน้อยๆร้องโอดครวญ สติที่มีอยู่เพียงน้อยนิดก็ขาดสะบั้นในพริบตา ความปรารถนาอันแรกล้าในตาเขากับความสั่นไหวหน่อยๆของกายเธอทำให้การครอบครองของเชายิ่งพริ้วไหวสวยงามขึ้น และท่ามกลายตัณหาราคะอันแรงกล้า เธอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเขาในกายเธอด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ “อา....”เพราะการหลับตาทำให้ความรู้สึกยิ่งชัดเจนมากขึ้น เธออดรนทนกลั้นจนปล่อยมือไม่ไหว ลืมตาเบิกโพลง ทันใดนั้นเอง เธอก็หลับตาและกลั้นหายใจ ร่างกายอันอุกอาจของสุวิทย์สอดเข้าอยู่ในส่วนลับของตนเอง ภาพอันกระจ่างชัดนั้นทำให้เธอถึงกับตกใจเล็กน้อย เธอสั่นสะท้านไปทั้งตัว เจ้าตัวน้อยที่ชุ่มฉ่ำแบกรับร่างกายของเขาไว้อย่างรวดเร็ว ไม่มิใช่ว่าเห็นเองกับตา เธอคงไม่อาจเชื่อได้ ที่แท้แล้วการร่วมรักของชายหญิงมันช่างน่าเหลือเชื่อแบบนี้นี่เอง เธอฮึบเสียงไว้ในลำ จนกระทั่งเขาใช้แรงกดมาที่ตนเอง หลังเจ้าตัวน้อยเข้าไปจดหมดอย่างสมบูรณ์ เธอถึงได้ปล่อยเสียงออกมาอย่างทนไม่ไหว “อา...” เขาทำให้เธอปิดตาอีกครั้ง บางทีการมองเห็นกระบวนการร่วมรักของคนทั้งสอง เนื้อตัวเธอถึงได้ร้อนระอุราวกับเปลวไฟกำลังมอดไหม้ จนหาที่เปรียบมิได้ “เพ็ญจิต...” เขาครวญครางเรียกเธอ และเริ่มออกแรงที่เอว “อา อา อา...” เจ้าตัวน้อยของเขาพองโตเหยียดยาวอยู่ในกายของเธอ ทุกครั้งที่เข้าออกยิ่วรวดเร็วมากขึ้นเพราะกายที่พร้อมจะหดตัวของเธอ เขาเร่งความเร็วขึ้น เพื่อริ้มรสความเร่าร้อนจากกายของเธอให้ชัดเจนยิ่งขึ้น “คุณภรรยา ชอบไหมครับ?” “อือ....อา...อา...” ภายใต้การนำของเขา เท่าที่เธอจะทำได้มีเพียงแค่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี การตอบสนองของเธอทำให้สันพันธ์สวาทดำดิ่งเข้าสู่โลกอันน่าพิศวง ร่างกายของเขาโอนเอนไปข้างหน้า หรือทั่งสอง ประทับอยู่ที่ไหล่ของเธอ บั้นท้ายกับเอวออกแรงพร้อมกัน ทำให้เจ้าตัวน้อยสามารถเข้าๆออกๆได้ถี่ขึ้น “อา อา...ช้าหน่อย..ว” เขาเปลี่ยนท่าอย่งาฉับพลันเล่นเอาเธอตั้งตัวไม่ถูก มือทั้งสองข้างสบัดไปมาในอากาศ “กอดผมแน่นๆ ....คุณภรรยา” เขาชี้แนะเธอ เมื่อได้ยินจากที่เธอโอบคอของเขาไว้แน่น ทั้งเนื้อตัวก็มอบให้เขาทันที เขาเข้าๆออกๆ คลุกเคล้าไปมาในร่างกายขอ เธอต่อ .... สติสัมปัชชัญญะแทบจะหายไปจนหมด ในหัวว่างเปล่า หลากหลายอารมณ์ เพ็ญจิตเรียนรู้ความตื่นเต้น เร่าร้อน รวดเร็วที่เขามอบให้ ภายในอันรวดเร็ว น้ำร่วมรักชุ่มฉ่ำก็รินไหลอกจากกายของกันและกัน แยกไม่ออกว่าน้ำตาที่รรินไหลเป็นเพราะทุกข์ทนหรือสุขสม “อือ...” สุวิทย์ดำดิ่งสู่โลกแห่งความใคร หายใจกระหืดหอบครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับจะหลอมรวมเข้ากับตัวเธอเป็นหนึ่งเดียวในทุกๆนาที “อา....วิทย์...อา อา...ไม่ได้แล้ว....อา....” ในกายเหมือนจะสิ่งของบางอย่างพร้อมจะระเบิด เธอส่ายหัว เปล่งเสียงออกจากลำคอ สุวิทย์เข้าใจความคิดของเธอดี อุ้มเอวของเธออย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายเธอลุกขึ้นมา “อา--” เธอนั่งคร่อมอยุ่เป็นตัวเขา สถานการณ์เช่นนี้ทำให้เจ้าตัวนายของเขาจมลึกเช้าไปในกายของตน ทำให้เธอเงยหน้าชึ้นอย่างทนไม่ไหว เปล่งเสียงครวญครางออกมา เดิมทีฝ่ามือของสุวิทย์ลูบไล้อยู่ที่บั้นท้ายทั้งสองของเธอ หลังจากโอบกอด การเคลื่อนไหวก็ยิ่งป่าเถื่อน รุ่นแรง มากขึ้น “อา--” ความปรารถนาอันแรกล้าในตาเขากับความสั่นไหวหน่อยๆของกายเธอทำให้การครอบครองของเชายิ่งพริ้ว ไหวสวยงามขึ้น และท่ามกลายตัณหาราคะอันแรงกล้า เธอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเขาในกายเธอด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ ทั้งสองสูญเสียความควบคุมเรียกร้องความปรารถซึ่งกันและกันมิยอมหยุด คลุกเคล้านัวเนียครั้งแล้วเคล้าเล่าจนได้รับการปลดปล่อย และจนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอีกครั้งในหู... “ทำไมถึงได้มีคนเสียมารยาทขนาดนี้กันได้” สุวิทย์ลุกออกมาจากตัวของสุวิทย์ พูดกระหืดกระหอบ คิดว่าจะไม่มีใครมารบกวนเสียอีก เป็นช่วงจุดหวานเยิ้มพอดี ไม่คิดเคยว่าจะมีเสียงเคาะประตูน่ารำคาญนี่ดังขึ้นมา เสียได้ ครั้งแล้วครั้งเล่า “วิทย์คะ ฉันอยากนอนสักหน่อย คุณไปดูเถอะ” เพ็ญจิตเหนื่อยจนแย่แล้ว อตนนี้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องลงจากเตรียง จนาดจะปิดหนังตายังลำบาก “ได้ คุณพักผ่อนสักหน่อยเถอะ ผมไปดูเอง เดี๋ยวตอนเย็นพวกเราออกไปทานข้าวกันนะ” สุวิทย์ใส่เสื้อผ้า ในขณะที่เพิ่งจะใส่เสร็จก็หยุดชะงักลง เนื้อตัวเหนียวเหนอะหนะรู้สึกไม่ดี และก็ไม่รู้ว่าใครมาเคาะประตู ช่างเถอะ ไว้อาบน้ำก่อนสักหน่อยค่อยว่ากัน พอเพิ่งจะเดินไปจนถึงหน้าประตูห้องน้ำ มือถือของเพ็ญจิตก็ดังขึ้น “คุณภรรยา--” สุวิทย์เรียกเพ็ญจิต ก้มหัวลงไปดูเห็นเธอหลับสนิทแล้ว ตนจึงหยิบมือถือมา ไอ่ตอนไปดูก็ดีอยุ่หรอก แต่พอดูเข้า เป็นอรรถพล เดิมคิดจากตัดสายทิ้งไป แต่ไม่คิดว่าเสียงเคาะประตูจะยังดังขึ้นอีก แถวยังดูเหมือนว่าจะมีเสียงตะโกนเรียกอีกด้วย เขาตกใจไปพักนึง และรับสาย และก็เป็นไปตามที่คิด พอกดปุ่มรับสายปุ๊ป เสียงรุกรี้รุกรนของอรรถพลก็ดังเข้ามาในหูปั๊ป “เพ็ญจิต เธอไม่อยู่ที่โรงแรมหรือ? พี่เคาะประตูตั้งนาน ไม่เห็นมีคนเปิด” สุวิทย์อารมณ์ครุกรุ่นขึ้นมาเล็กน้อย หันหน้าไปมองเพ็ญจิตที่อยู่บนเตียง เดินไป ใช้ผ้าปูที่ตอนปิดส่วนสำคัญ มองเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้น ฉีกยิ้มที่มุมปาก เตรียมตัวจะไปเปิดประตูให้อรรถพล ไม่ว่าอรรถพลจะมาด้วยเหตุผลใด เมื่อเห็นภาพนี้เข้า เขาต้องตัดใจแน่ “อรรถพล แกนี่มันตามราวีไม่เลิกจริงๆ พวกเราเป็นผัวเมียกัน แล้วแกเป็นอะไร?” สุวิทย์ไม่ได้ตัดสายทิ้ง เปิดประตูออกในขณะที่พูดในโทรศัพท์ “แก—สุวิทย์ แกมาอยู่ที่นี่ได้ไง?” อรรถพลตกใจถอยหลังจนนับก้าวไม่ถ้วน เขาไม่เพียงแต่เห็นสุวิทย์ แจ่ยังเห็นรายจ้ำๆดำแดงบนตัวอีกด้วย แถมจุดยุธศาสตร์สำคัญยังไม่ได้ปิดไว้อีก ไหนจะกลิ่นบนเนื้อตัว เห็นได้ชัดว่าเป็นกลิ่นของชายหญิงรักเสร็จสมความใคร่ แก—ไอ่น่ารังเกียจ เขากับเพ็ญจิตอยู่ด้วยกัน “ฝยฐานะสามีมาเป็นเพื่อนภรรยามันปกติจะตายไป ลูกพี่ไม่ต้องตกใจขนาดนี้ก็ได้” สุวิทย์หมุนตัวเข้าไปในห้องพลางพูดไปด้วย “นายเข้ามาแล้ว ก็ปิดประตูให้ด้วยแล้วกัน เมียฉันเหนื่อยจนแทบแย่ ตอนนี้กำลังพักผ่อนอยู่ มีเรื่งออะไร...นายส่งที่อยู่ของแม่ยายมมาก็พอแล้ว” สุวิทย์นึกออกได้ฉับพลัย คราวที่แล้วเพ็ญจิตเคยพูดว่า อรรถพลหาแม่ของเธอพบแล้ว เช่นนั้นตอนนี้ การที่อรรถพลมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ ก็พอจะอธิบายได้อยู่ “สุวิทย์ แกอย่ามาหลอกกันได้มากไปหน่อยเลย” อรรถพลพูดไปก็เดินเข้ามาในห้องจริง เขาไม่อยากเห็นสภาพน่าขายขี้หน้าของสุวิทย์นั่นจริงๆ แต่สะโพกของเขาที่สั่นไหวไปมาอยู่ตรงหน้า ดูเหมือนจะจงใจ ห้องนี้เป็นห้องเตียงเดี่ยว พอเข้ามาก็จะเห็นเตียงนอนหลังใหญ่ หากไม่ใช่เพราะสุวิทย์บังเธอไว้เขาก็คงมองเห็นเพ็ญจิตที่อยู่บนเตียงไปแล้ว ตอนนี้สุวิทย์เข้าไปนให้องน้ำ อรรถพลเห็นเพ็ญจิตกำลังนอนหลับไหลอยุ่ยนเตียง เมื่อเห็นแขนขายื่นออกมาโทงๆ ก็กระจ่างแจ้งได้ว่า เพ็ญจิตที่อยู่ใต้ผ้าห่ม ก็คงเหมือนกันกับสุวิทย์ไม่ผิด และเมื่อเห็นเสื้ออาภรณ์ที่ยับยู่ยี่บนพรม ก็ดูออกว่าพวกเขาร้อนแรงกันแค่ไหน อรรถพลยืนอยู่หน้าเตียง เขาอยากจะถลกผ้าห่มนี้ดูให้รู้ดำรู้แดงไปเลยจริงๆ ในใจคิดอยากจะพาเพ็ญจิตออกไปเดี๋ยวนี้ แต่ในใจเขารู้ดี ว่าตอนนี้ไม่เหมือนกับเมื่อห้าปีก่อน สุวิทย์เป็นสามีที่ถูกต้องตามกฏหมายของเพ็ญจิต ต่อให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากหลับตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ สงบสติอารมณ์ แล้ว เขาก็นั่งรอสุวิทย์ออกมาอยู่บนโซฟา มีเรื่องราวมากมาย ที่เกิดขึ้นมานานนมและไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ตอนนี้ สิ่งที่เขาทำได้มีแต่การช่วยบรรเทาเท่านั้น ผู้ชายคนนี้ไม่เหมาะสมกับเพ็ญจิต หากในใจเขามีเพ็ญจิตอยู่จริง ก็คงหาเธอพบตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนแล้ว ไม่ต้องรอให้เธอมาตามหาเขาเองหรอก
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 67 สามีภรรยาย่อมมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A