ตอนที่ 21 มีเจตนาไม่ดีแอบแฝงอยู่
1/
ตอนที่ 21 มีเจตนาไม่ดีแอบแฝงอยู่
ชายานักฆ่า
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 21 มีเจตนาไม่ดีแอบแฝงอยู่
ตนที่ 21 มีเจตนาไม่ดีแอบแฝงอยู่ ตลอดชีวิตนี้ของนางความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือการแต่งงานกับเซียวชี่จือ เวลานี้หัวใจของนางมันช่างเจ็บปวดทรมานเหลือเกิน ในหัวเต็มไปด้วยความความคิดที่ไม่อยากให้หลินหมื้นชิงมาเป็นพระชายาของเขา “ชิวเอ๋อร์ เจ้ามัวทำอะไรอยู่ เจ้ารีบลุกขึ้นมาได้แล้ว” หลิวซูอวิ๋นมองหลินไอ้ชิวคุกเข่าบนพื้น พร้อมกับตรงเข้าไปช่วยประคองนางขึ้นโดยมิรอช้า “ท่านแม่ ชิวเออร์ชอบท่านอ๋องหมิงจริงๆ ท่านช่วยชิวเอ๋อร์คิดวิธีได้หรือไม่ ชิวเอ๋อร์ไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีคืนพรุ่งนี้ ถ้าหากชั่วชีวิตนี้ไม่ได้แต่งงานกับท่านอ๋องหมิง แล้วชิวเอ๋อร์จะมีความหมายอะไร คงจะดีถ้าได้ตายไป มันเป็นเรื่องน่าเจ็บปวดทรมานที่จะสามารถใช้ชีวิตต่อได้แล้ว” น้ำตาของหลินไอ้ชิวราวกับสายลูกปัดที่ถูกตัดขาด หยดลงแก้มอย่างไม่ลดละ ในเวลานี้ช่างดูน่าสงสารเหลือเกิน ยิ่งทำให้บางคนเจ็บปวด ที่มากกว่านั้นคือหลิวซูอวิ๋นแม่ของนางรักและทะนุถนอมมาโดยตลอด “ชิวเอ๋อร์ นี่เจ้าพูดอะไรโง่ๆน่ะ ตอนนี้เจ้ายังเด็ก พูดว่าตายออกมาได้อย่างไรกัน เจ้าพูดเช่นนี้มันทำให้หัวใจของแม่เป็นทุกข์ยิ่งนัก” หลิวซูอวิ๋นรู้ว่าหลิวไอ้ชิวชอบท่านอ๋องหมิงมาตลอด แต่เวลานี้หลินหมื้นชิงถูกฮ่องเต้ทรงพระราชสมรสให้ ไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้ แม้ว่านางจะรักเซียวชี่จือแต่มันไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว “ชิวเอ๋อร์ แม่รู้ดีว่าตอนนี้หัวใจเจ้ามันกำลังเจ็บปวดมาก แต่เรื่องนี้ไม่ช้าปะเดี๋ยวมันก็ผ่านไป พ่อของเจ้าเป็นถึงอัครมหาเสนาบดี เมื่อถึงเวลาจะต้องหาคู่ครองที่ดีให้แก่เจ้าได้แน่ และเจ้าที่งดงามถึงเพียงนี้ การเข้าไปในวังหลวง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย ล้มเลิกที่จะไปทนทุกข์กับท่านอ๋องหมิงเถิด” หลิวซูอวิ๋นโอบกอดหลิวไอ้ชิว และปลอบประโลมอย่างอ่อนโยน “ไม่ ชีวิตนี้นอกจากท่านอ๋องหมิงแล้ว ข้าไม่สามารถรักชายอื่นอย่างเด็ดขาด ท่านแม่ ถ้าท่านรักชิวเอ๋ออย่าสุดซึ้งจริงๆ ท่านแม่ทำเพื่อชิวเอ๋อร์คิดหาวิธีเถิด ขอเพียงแต่ได้แต่งงานกับท่านอ๋องหมิง แม้ได้เป็นเพียงชายารอง ชิวเอ๋อก็รู้พอแล้ว” “ชิงเอ๋อร์ เจ้าจะกลุ้มอกกลุ้มใจเรื่องนี้ไปทำไมกัน!” “ท่านแม่ ชิวเอ๋อร์ขอร้องท่าน ท่านแม่ช่วยชิวเอ๋อร์ได้หรือไม?” หลินไอ้ชิวกล่าวพร้อมกับคุกเข่าลงไปอีกครั้ง ทว่ากลับถูกหลิวซูอวิ๋นประคองขึ้นมา “เอาล่ะๆ แม่คงไม่อาจเปลี่ยนใจเจ้าได้ แม่จะลองคิดหาวิธีดูว่าจะทำให้เจ้าเป็นผู้หญิงของท่านอ๋องหมิงได้หรือไม่” เพราะไม่สามารถทนเห็นลูกสาวอันเป็นที่รักของตนเป็นทุกข์เช่นนี้ หลิวซูอวิ๋นจึงถอนหายใจอย่างหมดหนทาง สุดท้ายก็ยินยอมรับปากไป “ขอบคุณท่านแม่!” หลังจากได้รับความเห็นจากผู้เป็นแม่ ใบหน้าของหลินไอ้ชิวจึงยิ้มแย้มออกมา และแววตาที่แสดงถึงความรอคอย “เจ้าพูดว่าอะไรนะ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจริงๆรึ” เมื่ออู๋ชิงกลับมารายงานเรื่องที่เกิดขึ้นที่จวนของอัครมหาเสนาบดีกับเซียวชี่จือ สีหน้าของเขาก็ย่ำแย่ลงในทันที แววตาล้ำลึกกำลังสั่นไหวด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะ “ผู้หญิงคนนี้ช่างใจกล้าคับฟ้านัก กล้าดีอย่างไรใช้ข้าไปเป็นโล่ ดูเหมือนว่าคราก่อนที่ข้าตักเตือนนางไปคงไร้ประโยชน์สินะ” เซียวชี่จือคำรามเสียงเย็น ในใจร้อนรุ่มดั่งไฟ เขาคงดูเบาผู้หญิงคนนั้นไป นางกล้าถึงขนาดใช้เขาเป็นโล่ให้แก่ตัวเอง “หม่อมฉันกลับรู้สึกว่าพระชายาของท่านอ๋องช่างพิเศษมากนะพ่ะย่ะค่ะ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น แต่ยังคงสงบนิ่งได้ จิตใจเช่นนี้ โลกนี้จะมีหญิงสาวกี่คนที่ทำได้กันพ่ะย่ะค่ะ” หลังจากกลับมาจากจวนอัครมหาเสนาบดีในครั้งก่อน อู๋หชิงที่คอยจับตามองหลินหมื้นชิงทุกย่างก้าวของอย่างลับๆ และก็ไม่พบเห็นท่าทางผิดแปลกใดใดทั้งสิ้น แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้เขาต้องรีบเปลี่ยนความคิดในทันที “พิเศษอย่างนั้นหรือ ข้าเห็นว่านางเป็นแค่ผู้หญิงที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาก็เท่านั้น” เซียวชี่จือเหลือบมองอู๋หชิง ดวงตาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง เมื่อสัมผัสได้ว่าท่านอ๋องกำลังมีโทสะ อู๋หชิงปิดปากทันควัน ไม่กล้ากล่าวอะไรอีกแม้แต่คำ “จับตานางทุกย่างก้าว หากนางมีการติดต่อกับองค์รัชทายาท ให้รีบมารายงานข้าในทันที” ไม่ว่าหลินหมื้นชิงจะทำอะไร เซียวชี่จือหาได้สนใจไม่ ที่เขาสนใจคือความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาวผู้นั้นกับองค์รัชทายาทต่างหาก แท้จริงแล้วได้เป็นคนขององค์รัชทายาทจริงหรือไม่ “พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง” อู๋หชิงคุกเข่าลงไปข้างหนึ่ง รับคำสั่งด้วยสำหน้าคร่ำเคร่ง “รายงานท่านอ๋อง เมื่อครู่จวนอัครมหาเสนาบดีได้ส่งบัตรเทียบเชิญมา มีใจความว่าขอเชิญท่านอ๋องไปเป็นแขกของจวนอัครมหาเสนาบดีพ่ะย่ะค่ะ” ในตอนที่อู๋หชิงกำลังจะออกไปเพื่อไปทำตามที่ได้รับสั่งมา ข้างนอกประตูนั้นมีคนรีบวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีที่เร่งรีบ ก่อนจะกล่าวด้วยความเคารพ “ไปเป็นแขกจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนั้นหรือ” เซียวชี่จือคิ้วขมวด ราวกับกำลังใคร่ครวญอะไรอยู่ การที่อัครมหาเสนาบดีเทียบเชิญเขาไปเป็นแขกในเวลานี้ คงไม่ใช่ให้เป็นแขกเพียงอย่างเดียวหรอกกระมัง มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ “ท่านอ๋อง หม่อมฉันรู้สึกว่าท่านอัครมหาเสนาบดีไม่ได้มาเพื่อเชิญท่านไปเป็นแขกธรรมดาพ่ะย่ะค่ะ จะต้องมีจุดประสงค์อื่นซ่อนไว้อยู่เป็นแน่” อู๋หชิงเมื่อเห็นสีหน้าที่เรียบเฉยของท่านอ๋อง ก็พูดขึ้นมาอย่างอดไม่ไหว “เรื่องแบบนี้ยังต้องให้เจ้ามาบอกอีกหรือ ข้าดูคิดไม่ถึงหรืออย่างไร“ เซียวชี่จือที่หงุดหงิดอยู่เป็นทุนเดิม เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นของอู๋หชิง น้ำเสียงก็ยิ่งทวีความเย็นยะเยือก “แล้วเช่นนี้ ท่านอ๋องยังจะไปหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” เมื่อรับรู้ถึงสายตาเย็นเยียบของท่านอ๋อง อู๋หชิงหดคอแล้วถามเสียงผะแผ่ว “ข้าอยากไปดู ว่าที่อัครมหาเสนบดีผู้นั้นเชิญเปิ่นหวางไปเป็นแขก แท้จริงแล้วมีจุดประสงค์อะไรกันแน่” สิ้นคำ เซียวชี่จือก็ลุกขึ้นยืน แล้วสาวเท้าจากห้องหนังสือแห่งนี้ไปทันที และอู๋หชิงที่อยู่ข้างกายก็รีบตามหลังไปติดๆ ยามเย็น หลินหมื้นชิงรู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องอยู่แต่ในห้อง ตั้งแต่มาถึงโลกนี้ ทุกวันนี้ทำได้แค่อยู่ในจวน ไม่มีโอกาสได้ออกไปดูโลกภายนอก นางรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกคุมขัง ชีวิตในอดีตในยุคปัจจุบันก็ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ตอนนี้นางรู้สึกประหลาดใจจริงๆ ผู้หญิงในสมัยโบราณ หนึ่งปีได้ออกจากบ้านกี่ครั้งกัน จะเคยมีคนที่อึดอัดใจจนตายหรือไม่นะ ในจังหวะที่หลินหมื้นชิงกำลังคิด ว่าเมื่อไหร่กันที่นางจะได้โอกาสออกไปดูข้างนอกบ้าง เสี่ยวซิ้วที่ไปเอาสำรับอาหารก็รีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “แย่แล้ว คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูแย่แล้วเจ้าค่ะ” เมื่อเสี่ยวซิ้ววางสำรับอาหารลงบนโต๊ะแล้ว ก็รีบพูดด้วยท่าทีร้อนรน “อะไรกัน เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ” เมื่อเห็นเสี่ยวซิ้วเดินเข้ามาด้วยท่าทีร้อนรน หลินหมื้นชิงคิ้วขมวดและเอ่ยถามขึ้น “คุณหนู เมื่อครู่ที่หม่อมฉันไปหยิบยกสำหรับอาหาร ได้ยินสาวใช้ในโรงครัวกระซิบกระซาบกัน ว่าท่านอัครมหาเสนาบดีและฮูหยินได้เทียบเชิญท่านอ๋องหมิงไปเป็นแขกที่จวนเจ้าค่ะ” เสี่ยวซิ้วดื่มน้ำไปอึกใหญ่ ก่อนจะเริ่มพูดอีกครั้งด้วยท่าทีรีบร้อน “มาก็มาสิ เกี่ยวอะไรกับข้าอย่างนั้นรึ พวกเราสนแค่เรื่องของตัวเองก็พอแล้ว” เมื่อได้คำว่าอ๋องหมิง เพียงสองคำ ใบหน้าของหลินหมื้นชิงก็ย่ำแย่ทันที นางยังไม่ลืมท่าทีที่เต็มไปด้วยความเป็นปรปักษ์ต่อนางของชายคนนั้นหรอกนะ ในใจของหลินหมื้นชิงต้องการรักษาระยะห่างต่อเขา หลีกเลี่ยงเขาได้ก็หลีกเลี่ยงซะ ทั้งชีวิตนี้ปรารถนาที่จะไม่ต้องพบเจอกับเขาอีก ถึงแม้จะรู้ดี ว่านั่นคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ก็ตาม “คุณหนูเจ้าคะ หม่อมฉันได้ยินมาว่าที่ท่านอัครมหาเสนาบดีและฮูหยินมาเทียบเชิญท่านอ๋องหมิงในครานี้ เพื่อต้องการจับคู่ท่านกับคุณหนูรองเจ้าค่ะ” ถึงแม้จะรู้ว่าคุณหนูไม่ได้รักใคร่ท่านอ๋องหมิง และไม่ได้อยากตบแต่งกับท่านอ๋องหมิงเลย แต่เมื่อเป็นราชโองการจากองค์จักรพรรดิ ย่อมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ คุณหนูของนางจะได้เป็นชายาของท่านอ๋องหมิง แต่หากคุณหนูรองจะมาอยู่ร่วมใต้ชายคาเดียวกันกับท่านอ๋องหมิง เช่นนั้นคุณหนูของนางจะคืออะไรกันเล่า “อะไรกัน เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจริงๆรึ” เมื่อเสี่ยวซิ้วกล่าวจบ หลินหมื้นชิงตบโต๊ะ และลุกขึ้นยืนในทันที ฉับพลันใบหน้างดงามของนางก็แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา บรรยากาศรอบข้างเย็นยะเยือกราวกับอยู่ในฤดูหนาว ฮูหยินท่านอัครมหาเสนาบดีและหลินไอ้ชิวผู้นั้นช่างไม่มีความละอายใจเสียจริง รู้ทั้งรู้ว่าองค์จักรพรรดิได้พระราชทานตำแหน่งชายาเอกของอ๋องหมิงให้แก่นางแล้ว ยังต้องการให้หลินไอ้ชิวได้เป็นคนของเซียวชี่จืออยู่อีก กลั่นแกล้งกันเกินไปแล้ว “คุณหนูเจ้าคะ จะทำอย่างไรดี คุณหนูเป็นชายาของท่านอ๋องหมิงโดยแท้จริง ท่านอัครมหาเสนาบดีกับฮูหยินกลับมากระทำเช่นนี้ นี่มันมากเกินไปแล้วเจ้าค่ะ พวกเขากระทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน” ใบหน้าของเสี่ยวซิ้วเองก็เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด ในใจมีความไม่พอใจแทนคุณหนูของตนอยู่เต็มอก ฮ่องเต้ได้พระราชทานตำแหน่งชายาเอกของท่านอ๋องหมิงให้แก่คุณหนูของนาง แต่อัครมหาเสนาบดีกับฮูหยินมากระทำเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าต้องการกลั่นแกล้งคุณหนูของนางหรอกหรือ มากลั่นแกล้งกันเช่นนี้มันถูกอย่างนั้นหรือ “เสี่ยวซิ้ว เจ้าอย่าเพิ่งร้อนรนไป ข้าขอสังเกตการณ์ก่อน ข้าอยากจะลองดูว่าพวกเขาต้องการจะทำอะไร ถึงแม้ข้าจะไม่ได้สนใจตำแหน่งชายาเอกของท่านอ๋องเท่าไหร่นัก แต่ของของข้า ใครหน้าไหนก็ห้ามยุ่ง หากหลินไอ้ชิวอยากเป็นผู้หญิงของท่านอ๋องหมิงนัก ก็ให้ไปหวังเอาที่ชาติหน้าเถอะ” ตั้งแต่มาเยือนที่นี่ หลินไอ้ชิวเป็นคนแรกที่กลั่นแกล้งนาง หลินหมื้นชิงเป็นคนยึดถือว่ามีแค้นย่อมต้องชำระ หลินไอ้ชิวอยากตบแต่งกับท่านอ๋องหมิงหรือ ก็อย่าได้หวัง นางอยากตบแต่งกับชายในดวงใจ เช่นนั้นนางจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นเป็นแน่ หลินหมื้นชิงลุกขึ้นยืน และสาวเท้าไปยังเรือนใหญ่ทันที คนของจวนอัครมหาเสนาบดีนี้ ช่างน่ารังเกียจนัก หากจะมากลั่นแกล้งนางเช่นนี้ เช่นนั้นนางก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไว้หน้ากันอีก ภายในห้องโถงของจวนอัครมหาเสนาบดี เซียวชี่จือนั่งลงที่ตำแหน่งประธาน คนที่นั่งอยู่ข้างๆเขาคือหลินไอ้ชิว และอัครมหาเสนาบดี ตั้งแต่ที่เซียวชี่จือมาถึง สายตาของหลินไอ้ชิวก็จับจ้องอยู่ที่ร่างของเขา ไม่ได้ผละออกไปแม้แต่น้อย เป็นครั้งแรกที่นางได้นั่งใกล้ชิดกับเขาถึงเพียงนี้ ใจของหลินไอ้ชิวเต้นระรัวอย่างห้ามไม่อยู่ นางจินตนาการถึงตอนที่ได้กลายเป็นผู้หญิงของเซียวชี่จือ เมื่อนึกถึงท่าทางรักใคร่ของเขาที่จะมีต่อนาง ในใจก็ยิ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข “ท่านอ๋องเพคะ ชิวเอ๋อรินเหล้าให้นะเพคะ” เซียวชี่จือไม่กล่าวแม้แต่คำ บรรยากาศในห้องอาหารมาคุเป็นอย่างมาก หลินไอ้ชิวที่ทนไม่ไหว จึงต้องเอ่ยเพื่อทำลายความเงียบนี้เสีย สายตาของนางจดจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเซียวชี่จือ ท่าทางดูเขินอายอยู่ในที เซียวชี่จือเหลือบมองนางด้วยท่าทีเฉยเมย ไม่ได้ตอบกลับอะไร แต่ก็ยื่นจอกเหล้าข้างมือส่งไปให้ ไม่รู้ว่าที่ผ่านมามีหญิงสาวกี่คนที่ใช้สายตาเช่นนี้มองเขา เขาคุ้นชินกับมันเสียแล้ว ถึงแม้หลินไอ้ชิวจะรับคำกล่าวขานว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งแคว้นชี้ แต่นางก็หาได้มีความน่าสนใจไม่ ถึงแม้เซียวชี่จือจะไม่ได้พูดอะไร แต่การกระทำของเขาก็ทำให้หลินไอ้ชิวมีความสุขไปอีกนานแสนนาน นางรีบยกเหยือกเหล้าเพื่อที่จะรินเหล้าให้แก่เขา “ท่านอ๋องเพคะ สำรับอาหารในวันนี้ชิวเอ๋อกำชับให้คนครัวทำมา มิทราบว่าถูกปากท่านอ๋องหรือไม่เพคะ” เมื่อรินเหล้าแล้ว หลินไอ้ชิวก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน สายตาที่จับจ้องเซียวชี่จือนั้น เต็มไปด้วยความรักใคร่ “อือ” รู้สึกรำคาญกับสายตาของหลินไอ้ชิวที่จับจ้องมาที่ตัวเอง คิ้วคมเข้ารูปของเซียวชี่จือขมวดนิ่ว และตอบกลับอย่างไม่แยแส “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ วันนี้ท่านอ๋องได้ให้เกียรติมาเยือนแห่งจวนนี้ ชายชราผู้นี้มีความสุขยิ่งนัก ท่านอ๋อง ข้าขอคาราวะท่านหนึ่งจอกพ่ะย่ะค่ะ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 21 มีเจตนาไม่ดีแอบแฝงอยู่
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A