ตอนที่ 23 ตาต่อตาฟันต่อฟัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 23 ตาต่อตาฟันต่อฟัน
ต๭นที่ 23 ตาต่อตาฟันต่อฟัน คนที่อยู่ที่ลานนั้น นอกจากเซียวชี่จือยังนั่งนิ่งๆอยู่ที่เดิมแล้ว ยังมีหลินหมื้นชิงอีกคนยืนอยู่ที่เดิม เมื่อเห็นทุกคนต่างก็คุกเข่าลง ในใจนางก็สับสน นางเป็นคนยุคใหม่ ไม่ชอบเลยจริงจริงเวลาคนสมัยก่อนเห็นกษัตริย์ของตนเองแล้ว เอะอะก็ต้องคุกเข่าลงไปแบบนั้น อีกอย่างองค์ชายก็มีอายุเท่ากันกับนาง คุกเข่าให้คนอายุเท่ากัน เรื่องแบบนี้นางไม่มีทางทำได้เลยจริงจริง เนื่องจากคนที่อยู่ลานนี้มีแค่หลินหมื้นชิงยืนอยู่ สายตาของเซียวชี่หมิงพลันมองไปที่นาง ตอนที่เขามองไปที่ใบหน้าของหลินหมื้นชิง ในตาแสดงความประหลาดใจเล็กน้อย เขาเลิกคิ้วที่ดูทันสมัยนั้นไปมา มุมปากกระตุกยิ้มบางบางหนึ่งที เมื่อเห็นสายตาของเซียวชี่หมิงมองลงไปที่หลินหมื้นชิง สายตาของเซียวชี่จือก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที ผู้หญิงคนนี้เกี่ยวข้องกับองค์ชายจริงจริงด้วย ใบหน้าหล่อเศร้าหมองลงของเซียวชี่จือ ถ้าหากผู้หญิงคนนี้คือคนที่องค์ชายส่งมาอยู่ข้างกายเขา เขาคงปล่อยวางไม่ได้เป็นแน่ เซียวชี่หมิงเดินมายืนหยุดตรงหน้าของหลินหมื้นชิง เขาได้มองลงไปที่นาง เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง ในตายิ้มเพียงครู่เดียว แม่นางสามเห็นข้าแล้วทำไมถึงไม่คำนับเล่า? ตอนที่เซียวชี่หมิงพูด น้ำเสียงราบเรียบ อีกทั้งไม่มีความรู้สึกโกรธเคือง หลินหมื้นชิงตะลึงงัน หลังจากผลออกมาเป็นแบบนั้น จึงรีบก้มหัวต่ำลง ทำไมหม่อมฉันต้องคุกเข่าคำนับด้วย พระองค์ไม่ได้รู้สึกว่าเอะอะก็ให้คนอื่นคุกเข่าลงเป็นเรื่องการดูถูกคนจริงเหรอเพคะ?อีกอย่างหม่อมฉันกับพระองค์ก็อายุใกล้เคียงกัน ทำไมหม่อมฉันต้องคุกเข่าด้วย? หลินหมื้นชิงมองไปที่สายตาขององค์ชายรัชทายาท เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่ง สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ผ่านมาเจอนั้น นางไม่เข้าใจจริงจริงกับขนบธรรมเนียมพวกนี้ของคนสมัยก่อน ข้าเป็นองค์รัชทายาทจริง การคุกเข่าของนางข้าไม่ควรได้รับจริงเหรอ? การให้เหตุผลของหลินหมื้นชิงทำให้เซียวชี่หมิงตะลึงงัน หลังจากเห็นแบบนั้นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะถามกลับ ช่วงนี้ได้ยินข่าวแม่นางสามที่ตำหนักอัครมหาเสนาบดีนิสัยเปลี่ยนไปไปมาก มาคืนนี้เขาจึงอยากจะเจอสักหน่อยไม่คิดว่าจะพิเศษจริงจริง ตอนนี้นางไม่ใช่คนที่เจอเขาได้เหมือนเมื่อก่อน จึงได้แต่มองข้างหลังเขาอย่างคนเสียสติ เพราะว่าท่านเป็นองค์รัชทายาทหม่อมฉันเลยต้องคุกเข่าอย่างนั้นเหรอ?เพราะเหตุใด?ทุกคนมีความเท่าเทียมไม่ใช่เพราะว่าท่านเป็นองค์รัชทายาทเห็นแล้วต้องคุกเข่าเหรอ? พอได้ฟังเซียวชี่จือถามกลับ ลึกๆในใจของหลินหมื้นชิงก็กลัดกลุ้ม แต่ว่าคนที่อยู่ข้างหน้านางเป็นองค์ชายรัชทายาทจริง แม้ว่าในใจนางจะเป็นทุกข์แค่ไหน ก็ไม่สามารถแสดงมันออกมาได้ ชิงเอ๋อ เจ้ากำลังพูดอวดดีอะไรกันเห็นองค์รัชทายาทแล้วทำไมไม่รีบคุกเข่าคำนับ! อัครมหาเสนาบดีที่ตอนนี้ได้คุกเข่าบนพื้นอยู่ทนดูไม่ไหว อดไม่ได้จึงได้ตักเตือนเสียงแข็ง หลินหมื้นชิงทำตัวยังไงเขาไม่สนใจ แต่นางทำแบบนี้ทำให้อัครมหาเสนาบดีตกกระไดไปด้วย แบบนี้แล้วเขาจึงยอมไม่ได้ ทำไมข้าต้องคุกเข่าด้วย? สายตาเรียบเฉยมองไปที่หลินจิ๋นโจว หลินหมื้นชิงถามกลับนิ่งๆคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ ในใจคิดอะไรอยู่ทำไมนางจะไม่รู้ เขาเป็นกังวลว่านางจะทำให้อัครมหาเสนาบดีตกกระไดไปด้วย นางจึงทำอย่างนี้ดูสิว่าเขาจะจัดการยังไง “นี่เจ้า!” หลินจิ๋นโจวที่กำลังมองหลินหมื้นชิงอยู่ อย่างนี้ต้องแล้วก็อดไม่ได้ที่จะสั่งสอนกับความใจร้อนของนาง แต่ว่าเนื่องจากองค์ชายยังอยู่ เขาจึงไม่สามารถทำได้ ทำได้เพียงจ้องมองนางด้วยความโกรธเคือง เอาเถอะ ลุกขึ้นเถอะ ต่อให้แม่นางสามไม่อยากคำนับงั้นก็แล้วไปเถอะ คนในวังมาในวันนี้ไม่ได้มาในฐานะองค์ชาย คนในวังต่างก็รู้เรื่องที่พระราชาจะให้แม่นางสามแต่งงานกับองค์ชาย ดังนั้นวันนี้จึงอยากจะมาเห็นสักหน่อย จะได้รู้สึกคุ้นเคยกันสักหน่อย องค์ชายพูดแบบนี้แล้ว ก็เหลือบหันไปมองตรงที่นั่งแต่กลับไม่เห็นแม้เงาของเซียวชี่จือ องค์ชาย เห็นพี่แล้วไม่มีอะไรจะถามหน่อยเหรอ? เซียวชี่หมิงพูดแล้วก็เดินตรงไปยังเซียวชี่จือ น้ำเสียงพูดของเขายังคงราบเรียบเหมือนเดิม แต่กลับทำให้คนรู้ว่าเขากำลังพูดถึงเซียวชี่จือ หลินหมื้นชิงไม่รู้ว่าสถานการณ์แย่ๆนี้เกิดขึ้นเพราะตัวนางเองหรือเปล่า?นางรู้สึกว่าระหว่างองค์ชายกับอ๋องหมิงความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดูแล้วคืนนี้ต้องระวังตัวไว้ สองคนนี้ไม่ถูกกันอย่างมาก นี่ก็ดึกแล้ว องค์ชายไม่ประทับที่ตำหนักบูรพาเดินมาถึงบ้านเสนาบดีทำไมกัน? เซียวชี่จือพูดน้ำเสียงเหมือนกับหน่ายแหนง เสียงที่ดูราบเรียบแต่กลับทำให้รู้สึกว่าบรรยากาศรอบข้างที่?เย็นลงไม่น้อย เสด็จน้องอีกไม่นานก็จะแต่งงานกับลูกสาวของอัครมหาเสนาบดีแล้ว หลังจากนั้นก็จะเป็นครอบครัวเดียวกัน วันนี้ข้าว่างเลยมาบอกลาสักหน่อย ไม่ได้เชียวหรือ? เซียวชี่หมิงนั่งลงข้างเซียวชี่จือ รินเหล้าให้ตัวเอง พระองค์ถือไว้พร้อมกับยิ้มอ่อนๆ ดูลักษณะไม่ออกว่ากำลังโกรธอะไรอยู่ ครอบครัวเดียวกันเหรอ?ในใจของท่านพี่คงคิดอย่างนี้จริงจริง เนื่องจากไม่อาจเชื่อคำพูดของเซียวชี่หมิง นี่จะเป็นแผนการขององค์ชาย เขามีความชัดเจนอย่างมากเป็นไปไม่ได้ที่จะบังเอิญมาที่บ้านอัครมหาเสนาบดี วันนี้ที่เขามาต้องมีเหตุผลเป็นแน่ นั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ พวกเราเป็นพี่น้องกัน ก็ต้องเป็นครอบครัวด้วยกัน ยกแก้วเหล้าดื่มรวดเดียว องค์ชายถึงพูดอีกครั้ง หลินหมื้นชิงยังคงยืนอยู่ที่เดิม ทำไรไม่ได้ สองคนนี้ดูสีหน้าแล้วก็ดูสามัคคีปรองดองกัน แต่คำพูดคำจาล้วนไม่มีใครยอมใคร พอมองไปบนตัวขององค์ชาย ถึงแม้จะเป็นเพียงเริ่มต้น องค์ชายก็ได้มอบความรู้สึกอบอุ่นให้ แต่ทว่าหลินหมื้นชิงกลับรู้สึกว่าความอ่อนโยนของเขาเป็นเพียงแค่การอำพรางบนใบหน้าเท่านั้น เขาและเซียวชี่จือเป็นคนที่อันตรายทั้งสอง ทางที่ดีควรอยู่ห่างไว้จะดีกว่า เผื่อว่าการต่อสู้ของพวกเขาทั้งสองจะนำมาซึ่งความยุ่งเหยิงให้กับตัวเอง ถึงแม้ว่าองค์ชายดูแล้วจะเป็นคนที่มีความอดทนสูง แต่ว่าเมื่อเทียบกับเซียวชี่จือแล้ว ทุกท่านไม่ต้องยืนแล้ว นั่งลงเถิด วันนี้เป็นมื้อของครอบครัว ทุกท่านไม่ต้องเกรงใจ พวกเขาสองคนเป็นพี่น้องที่ต่างคนต่างพูด คนที่อยู่ลานนี้ล้วนแล้วเป็นคนที่ฉลาด รู้ว่าสองคนนี้แสดงความปรองดองกัน แต่ในที่มืดกลับต้อสู้กันไม่หยุด หลังจากที่ทุกคนต่างก็นั่งลง บรรยากาศเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อ ไม่มีใครพูดอะไรสักคำ หลินหมื้นชิงเพิ่งมองเห็นว่าเซียวชี่จือนั่งตรงข้ามกับนาง เขาจิบเหล้าอย่างผ่อนคลาย การมาขององค์ชายกลับไม่ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลง คนในวังได้ยินว่าอาการป่วยของแม่นางสามหาวดีแล้ว ไม่ทราบว่าเป็นจริงหรือเปล่า? องค์ชายเซียวชี่หมิงได้มองไปที่หน้าของหลินหมื้นชิง ถามด้วยเสียงราบเรียบ ดูจากเรื่องที่เพิ่งทักทายกันไปแล้วนั้น เขารู้สึกว่าลูกสาวอัครมหาเสนาบดีนี้เปลี่ยนไป เปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่กลับเพิ่มความปรารถนาต่อเขามากขึ้น ตอบองค์ชายได้ว่าอาการป่วยของลูกสาวหายดีแล้วแน่นอน หลินหมื้นชิงทำสีหน้าเมินเฉยแต่ในใจกลับไม่พอใจเป็นอย่างมาก นางไม่ชอบที่ทุกคนต่างก็คิดว่านางเหมือนกับคนบ้า ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนหลินหมื้นชิงจะเป็นคนบ้าก็จริง แต่ทุกคนต่างก็มองนางด้วยความอคติ ในใจของนางก็ยังไม่สบายใจ “หลังจากอาการป่วยของแม่นางสามหาวดีแล้วทำให้รู้สึกว่าตอนนี้สดใสขึ้น” รอยยิ้มบางบางยังค้างอยู่ที่มุมปาก สายตาเซียวชี่หมิงมองดูตั้งแต่หัวจรดเท้าของหลินหมื้นชิง เหมือนกับว่ากำลังสำรวจอะไรอยู่ สายตาของเซียวชี่จือก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที พอหลังจากที่องค์ชายมา หลินหมื้นชิงก็จดจ่อไปที่ตัวขององค์ชายตลอด ข่าวลือที่ว่าตั้งแต่เด็กนางมีใจให้องค์ชายเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเหรอ ตอนนี้ฮ่องเต้ก็ได้แต่งงานเรียบร้อยแล้ว แต่ยังอาลัยอาวรณ์ต่อองค์ชายอยู่เหรอ? คิดอย่างนี้แล้ว อารมณ์ของเซียวชี่จือก็เปลี่ยนเป็นไม่สบายใจอย่างกะทันหัน ราวกับว่าจะเสียของรักของตัวเองให้คนอื่นไป ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ หรือจะพูดว่ารังเกียจเลยก็ว่าได้แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็ถือว่าเป็นผู้หญิงของเซียวชี่จือ นางมองหน้าเขาเหมือนกับมององค์ชายตลอด ว่าเขาอยู่ที่ไหน? “ไทจื่อดูเหมือนสนใจว่าที่พระชายาของข้า” เซียวชี่จือพึมพำเสียงเย็นชา สีหน้าในที่มือยากนักที่จะดูออก ดูเหมือนอยากจะรังเกียจ กลับต้องห้ามใจ ใบหน้าเย็นชาชำเลืองมองหลินหมื้นชิง แล้วก็เจอสายตามองกลับมา เมื่อได้เห็นสายตาที่เขามองมา ใจของหลินหมื้นชิงก็เต้นตึกตักบ้าคลั่งอย่างบอกไม่ถูก นางไม่เคยมีเรื่องขัดใจกับเขา เขาใช้สายตาแบบนี้มองนางเพื่ออะไร! อีกหน่อยแม่นางสามนี้ก็ได้เป็นพระชายาของฮ่องเต้แล้ว แค่อยากอธิบายให้เสด็จพี่ทราบ องค์ชายรับเอาแก้วเหล้าจากหญิงรับใช้หันมองไปยังเซียวชี่จือกับสายตารอยยิ้มเย็นชาเพียงเสี้ยวหนึ่ง หลินหมื้นชิงนั่งอยู่บนนั่ง ในใจมีความหงุดหงิด ถ้ารู้ว่าองค์ชายมาที่นี่ นางจะไม่มาเลย มานี่สิ เห็นท่าทางการถอนหายใจของนาง เซียวชี่จือที่สายตาเย็นชาบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ข้า” หลินหมื้นชิงชี้ไปที่จมูกของตัวเอง ไม่แน่ใจว่าพูดกับนาง นอกจากนางแล้วยังจะมีใครอีก? เซียวชี่จือทำหน้านิ่งตอบกลับนางอย่างช้าๆ ในใจยิ่งไม่สบายใจ หลินหมื้นชิงทำปากยื่น เดินไปยังเซียวชี่จือ ถ้าหากนางมีนิสัยแบบเมื่อก่อน ไม่ยอมให้คนอื่นมาสั่งแบบนี้แน่นอน แต่ว่าตอนนี้คนที่อยู่?ล้วนเป็นคนใหญ่คนโตที่ไม่กล้าเหยียดหยาม เพื่อความปลอดภัยของตนเอง นางทำได้เพียงโทษตัวนางเอง รินเหล้า ตอนท่านางเดินไปถึง เซียวชี่จือจ้องมองไปที่ใบหน้าเล็กที่สวยสง่า มีประกายแวววาวในตา แต่เพียงแค่เสี้ยววินาที เขาก็กลับมาทำท่าทางเย็นชาเหมือนเดิม ที่นี่ก็มีหญิงรับใช้คอยบริการ ทำไมองค์ชายต้องให้ข้ารินเหล้าให้ด้วย? ก็ยังคิดว่าชายคนนี้เรียกนางมามีเรื่องอะไร ไม่คิดว่าที่แท้ให้นางมาเป็นหญิงบริการคำสั่ง หลินหมื้นชิงไม่ใช่จะรับใช้ใครง่ายๆหรอก องค์ชายอยากจะลิ้มลองรสชาติเหล้าว่าที่พระชายารินให้ว่าเป็นยังไงหรือ แม่นางสามจะดีจะร้ายก็ถือว่าเป็นกิ่งทองใบหยกกับเสด็จน้อง การให้แม่น่างสามมารับใช้เรื่องบางเรื่อง เป็นการไม่เหมาะสมหรือ? องค์ชายรัชทายาทยังคงดื่มเหล้าอย่างเงียบเงียบได้พูดขึ้นอีกครั้ง คำพูดของเขาเหมือนต้องการพูดกับหลินหมื้นชิง แต่ความเป็นจริงยิ่งเป็นการผลักนางให้ไกลออกไป ชายหนุ่มผู้ทรงมีอิทธิพลไร้ความรู้สึกอย่างเซียวชี่จือ ได้ยินองค์ชายพูดแล้ว ความอดกลั้นที่อยู่ในใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ถึงเวลานั้นคนที่โชคร้ายก็คือนาง 
已经是最新一章了
加载中