ตอนที่ 28 ความฝันอันคุ้นเคย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 28 ความฝันอันคุ้นเคย
ต๭นที่ 28 ความฝันอันคุ้นเคย ไม่รู้ทำไม จูบของเซียวชี่จือเมื่อกี้นี้กลับทำให้นางรู้สึกคุ้นเคยอย่างกับว่าทั้งคู่เคยใกล้ชิดกันแบบนี้มาก่อน พอจับความรู้สึกนั้นได้ หลินหมื้นชิงก็ใจหายที่นางรู้สึกแบบนั้น ดึงสติกลับมาได้ก็ยิ่งหงุดหงิดหนัก นางมีความรู้สึกแบบนั้นกับผู้ชายหยิ่งยโสอย่างเขาได้อย่างไร ต้องเป็นเพราะชาติที่แล้วนางขาดผู้ชายแน่ถึงได้โหยหาแบบนี้ ใช่ ต้องใช่แน่ๆ นางไม่ได้รู้สึกอะไรกับจูบของเซียวชี่จือสักหน่อย เพียงแต่ไม่เคยมีความรักเลยรู้สึกแบบนี้ “เจ้ากล้าเมินข้ารึ?” เซียวชี่จือโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อหลินหมื้นชิงไม่ตอบกลับ นางผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ยินที่พูดเลยหรืออย่างไร ข้าไม่มีตัวตนในสายตานางถึงเพียงนี้เชียวรึ? “ข้าได้ยินแล้ว” หลินหมื้นชิงรู้สึกถึงความโกรธที่พุ่งมาจึงดึงสติกลับมาและตอบด้วยน้ำเสียงไม่แยแส อ๋องหมิงนี่จะเผด็จการมากไปแล้วนะ “แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย หากข้ารู้ว่าเจ้าไปยุ่งกับชายอื่นก่อนถึงวันอภิเษกสมรสละก็ ข้าจะเอาชีวิตเจ้าแน่!” เห็นแววตาไม่เต็มใจของหลินหมื้นชิง เซียวชี่จือเองก็ไม่พอใจเสียเท่าไหร่จึงพูดประโยคเย็นชานั้นออกมา พูดจบก็หันหลังสาวเท้าออกไปโดยไม่หันกลับมามองหลินหมื้นชิงอีก นางเป็นผู้หญิงของเซียวชี่จือ ในสายตา และหัวใจนางจะต้องมีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น ต่อให้เป็นหญิงที่เขาไม่ชอบพอก็ไม่เว้น! หลินหมื้นชิงมองเงาหลังที่เดินจากไปในใจก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ในที่สุดพ่อคนหัวร้อนนี่ก็ไปสักที ตอนนี้ผ่ามือของหลินหมื้นชิงเต็มไปด้วยเหงื่อ นางไม่เคยหวาดกลัวใครมาก่อน แต่เซียวชี่จือกลับเป็นคนแรกที่ทำให้นางรู้สึกกลัวได้ หลินหมื่นชิงหันมองไหล่ที่หลุด สีหน้าเริ่มซีดขาวจากความเจ็บ เมื่อกี้เขาใช้แรงไปเท่าไหร่กันแน่ ลงไม้ลงมือไม่มียั้งเอาเสียเลย หลินหมื้นชิงไม่สงสัยเลยว่าอ๋องหมิงคนนี้กล้าฆ่านางแน่ เขาคนนี้เป็นเหมือนกับชื่อของเขาไม่มีผิด แค่ได้ยินชื่อก็ทำคนกลัวหัวหดได้แล้ว เสี่ยวซิ้วกลับมาถึงตำหนักก็รู้สึกไม่สบายใจเลย ท่านอ๋องในคืนนี้น่ากลัวมาก นางกังวลว่าท่านอ๋องจะทำให้คุณหนูลำบากใจ “เสี่ยวซิ้ว ข้ากลับมาแล้ว” หลินหมื้นชิงประคองไหล่ที่บาดเจ็บเข้ามา สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ บนหน้าผากมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดออกมาเพราะความเจ็บปวด “คุณหนู ท่านกลับมาเสียที ท่านรู้บ้างหรือไม่ว่าเสี่ยวซิ้วเป็นห่วงท่านมากเพียงใด?” เสี่ยวซิ้วรีบวิ่งออกไปทันทีที่ได้ยินเสียงของหลินหมื้นชิง และมองดูนายหญิงด้วยความเป็นห่วง “คุณหนู ท่านเป็นอะไรไปหรือ? เหตุใดสีหน้าท่านจึงแย่เพียงนี้ ท่านป่วยหรือไม่?” เซี่ยวซิ้วเดินเข้ามาใกล้ก็สังเกตเห็นชัดว่าสีหน้าของหลินหมื้นชิงดูแย่แค่ไหน นางเริ่มกังวลใจขึ้นมา ไม่รู้ว่าคุณหนูของนางเป็นอะไรไปกันแน่ “ข้าไม่เป็นอะไร เพียงแค่ไหล่หลุดเท่านั้น ไม่ต้องเป็นห่วงไป เจ้าประคองข้าเข้าไปก่อนเถิด” หลินหมื้นชิงไม่อยากให้เสี่ยวซิ้วเป็นห่วงจึงยิ้มอย่างไม่ใส่ใจพลางอดกลั้นความเจ็บที่ส่งมาจากหัวไหล่ เสี่ยวซิ้วเห็นหลินหมื้นชิงมีสภาพแบบนี้ก็กังวลจนน้ำตาเกือบจะไหลออกมา คุณหนูมีสภาพแบบนี้เพราะปกป้องนางแน่ๆ “คุณหนู ไหล่ของท่านเป็นอะไรมากหรือไม่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดไหล่ของท่านจึงบาดเจ็บได้?” หลังจากเดินเข้าห้องเสี่ยวซิ้วก็ยังคงมองหลินหมื้นชิงอย่างเป็นห่วงเช่นเดิม น้ำเสียงนางแฝงไปด้วยความรู้สึกผิด “ก็อ๋องหมิงนั่นนะสิ เกือบจะเอาชีวิตข้าแล้ว!” พอนึกถึงว่าที่นางมีสภาพแบบนี้เพราะอ๋องหมิง ความเกลียดชังที่หลินหมื้นชิงมีต่อท่านอ๋องก็เพิ่มขึ้น “ท่านอ๋องหมิงทำเยี่ยงนี้ได้อย่างไร คุณหนูเป็นสตรี ท่านอ๋องทำร้ายท่านจนบาดเจ็บแบบนี้ได้อย่างไรกัน ทำแบบนี้มันเกินไปแล้ว” เมื่อฟังคำของหลินหมื้นชิง ความโกรธของเสี่ยวซิ้วก็สุมอก เพียงแต่นางเป็นแค่สาวรับใช้ต่ำต้อยที่ไม่มีสิทธิ์พูดอะไร แต่คุณหนูของนางเจ็บจนเป็นสภาพแบบนี้ นางก็ปวดใจเหลือเกิน “เอาเถอะ เขาเป็นบุรุษที่อันตรายอยู่แล้ว อย่างมากวันหลังข้าก็อยู่ห่างเขาหน่อย ที่เขาทำกับกับข้าวันนี้ สักวันข้าจะคืนให้เป็นเท่าตัว!” นึกถึงสิ่งที่เซียวชี่จือทำกับนางแล้วหลินหมื้นชิงก็มีแต่ความเกลียดเต็มอก นางรู้ดีว่าตอนนี้ไม่สามารถต่อกรกับเซียวชี่จือได้ แต่สักวันนึงนางจะแกร่งขึ้น และคืนการเหยียดหยามที่เขาทำไว้ทั้งหมดกลับไปให้เขาให้ได้! “คุณหนู ข้าเรียกหมอให้ท่านดีกว่า อาการบาดเจ็บบนไหล่ท่านดูหนักมาก ท่านคงเจ็บมากเป็นแน่?” เสี่ยวซิ้วปวดใจจนน้ำตาไหลเมื่อมองแขนที่ไม่สามารถขยับได้ของหลินหมื้นชิง สายตาที่มองหลินหมื้นชิงก็เจือด้วยความเสียใจ “แค่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ข้าจัดการเองประจำ เมื่อก่อนข้า…” หลินหมื้นชิงไม่อยากให้เสี่ยวซิ้วเป็นห่วงจึงพูดไปโดยไม่ทันคิด แต่พูดไปได้ครึ่งหนึ่งถึงรู้ตัวว่าตัวเองหลุดปาก จึงรีบหยุดพูด “คุณหนูเมื่อก่อนท่านทำอะไรประจำหรือ?” เสี่ยวซิ้วมองหลินหมื้นขิงอย่างงงงวย ไม่รู้ว่าเมื่อครู่นางพูดถึงเรื่องอะไร “ไม่มีอะไร แค่ไม่อยากให้เจ้าห่วงก็เท่านั้น เจ็บแค่นี้ไม่เป็นอะไรหรอก ข้าต่อเองได้ พักไม่กี่วันก็หายแล้ว” สีหน้าหลินหมื้นชิงเปลื่อนไปเล็กน้อย สายตาผุดแววลุกลน แต่ในวินาทีถัดมาก็หายไป เสี่ยวซิ้วขมวดคิ้ว นางอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้หลินหมื้นชิงกำลังให้มือซ้ายคว้าไหล่ที่หลุด นางเงียบไปสักครู่แล้วกัดฟันดัน กึก! กระดูกก็กลับเข้าตำแหน่งเดิม ความสามารถในการทนความเจ็บของหลินหมื้นชิงนั้นถือว่าสูงทีเดียว แต่เมื่อครู่ที่ดันไหล่กลับเข้าที่ก็ยังมิวายร้องออกมาอย่างทนไม่ได้ สีหน้านางดูเจ็บปวดมาก “คุณหนู ท่านเป็นอะไรหรือไม่?” เสี่ยวซิ้วตกใจจนไม่กล้ามองหลินหมื้นชิงที่มือหนักกับตัวเอง พอดึงสติกลับมาได้ก็เป็นห่วงขึ้นมา “ข้าไม่เป็นอะไร ข้าดันจุดที่หลุดกลับไปที่เดิมแล้ว ตอนนี้เพียงรู้สึกเจ็บๆ อีกไม่กี่วันข้าก็หายเป็นปลิดทิ้งแล้วละ” หลินหมื้นชิงสูดอากาศเข้า รอจนความเจ็บบนไหล่ลดลงแล้วจึงถอนหายใจออกมา นางขยับไหล่เล็กน้อย แม้ว่าจะยังเจ็บเมื่อขยับแต่จุดที่เคลื่อนก็ต่อกลับมาเหมือนเดิมแล้ว เสี่ยวซิ้วเมื่อเห็นว่าแขนของนายหญิงขยับได้แล้วก็มองตาถลนอย่างไม่อยากเชื่อ “คุณหนู ท่านเก่งจริงๆ นึกไม่ถึงว่าท่านต่อเองได้ด้วย ท่านทำได้อย่างไรและตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?” ตอนนี้เสี่ยวซิ้วมีแต่ความประหลาดใจ นางรับใช้คุณหนูมาหลายปี แต่ไม่รู้เลยว่าคุณหนูสามารถจัดกระดูกได้ด้วย คุณหนูเรียนมาจากไหนกัน “เอ่อ อันนี้ข้าเองก็ไม่รู้ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำเป็นได้ยังไง คราวทีแล้วข้าหมดสติ พอตื่นขึ้นมานอกจากข้าจะหายป่วยแล้ว ยังสามารถทำหลายสิ่งที่เมื่อก่อนทำไม่ได้ด้วย ต่อไปอาจยังมีเรื่องให้เจ้าต้องประหลาดใจอีกเยอะ” พอถูกเสี่ยวซิ้วถามเข้า หลินหมื้นชิงก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี ยังไงนางก็ไม่ใช่หลินหมื้นชิงคนเดิม ต่อไปถ้าเจอเรื่องอันตรายคงต้องทำอะไรที่เสี่ยวซิ้วคาดไม่ถึงอีกเยอะแน่ๆ ถึงตอนนั้นนางเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายแต่ละเรื่องได้อย่างไร ได้แต่บอกแบบนี้ไปก่อน บอกนางเอาไว้ก่อน ต่อไปถ้าเจออะไรแปลกๆแบบนี้ จะได้ไม่ตกใจอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ “เอ่อ? ไม่น่าเชื่อว่าโลกนี้มีเรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้ด้วย เพียงหมดสติไป พอฟื้นขึ้นมานอกจากจะหายป่วย คุณหนูยังฉลาดขึ้นอีกด้วย ถึงแม้ว่าเสี่ยวซิ้วจะไม่เข้าใจ แต่เสี่ยวซิ้วก็ดีใจกับการเปลี่ยนแปลงของคุณหนู คุณหนูในตอนนี้ไม่ต้องโดนใครรังแกอีกแล้ว” แม้จะจนใจกับการที่หลินหมื้นชิงเปลี่ยนไป แต่เสี่ยวซิ้วเป็นคนใสซื่อจึงไม่ได้สงสัยอะไรมาก เพียงแต่หวังว่านายหญิงจะแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จะได้ไม่ต้องถูกผู้ใดรังแกอีก หลินหมื้นชิงยิ้มมุมปากเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของเสี่ยวซิ้ว เรื่องที่น่าตกใจกว่านั้นฉันยังไม่ได้บอกนางด้วยซ้ำ ถ้านางรู้ว่าฉันข้ามเวลามาจากโลกหลายร้อยปีให้หลังคงคิดว่าฉันบ้าไปแล้วแน่ๆ เรื่องข้ามเวลามาจากศตวรรษที่ 21 หลินหมื้นชิงไม่เคยบอกใคร อีกอย่างนางรู้ว่าต่อให้พูดออกไปก็ไม่มีใครเชื่อ อาจจะหาว่านางเป็นบ้ากันด้วยซ้ำ เพราะว่าเรื่องขามเวลาเป็นเรื่องที่เกินจะทำความเข้าใจ ให้ตายพวกเขาก็คงไม่เชื่อว่าโลกนี้มีเรื่องแปลกแบบนี้ด้วย “ไม่ว่ายังไงตอนนี้คุณหนูของเจ้าก็แกร่งขึ้นเรื่อยๆแล้ว สักวันข้าจะให้คนที่เคยรังแกข้ามามาคุกเข่าที่แทบเท้าข้า และโขกหัวรับผิดให้หมด!” พอข้ามเวลามาที่นี่ หลินหมื้นชิงรู้สึกโชคดีที่ชาติที่แล้วนางเป็นนักฆ่า ถ้าไม่มีความสามารถอะไรจากภพชาตินั้นคงจะโดนตีตายตั้งแต่วันแรกที่มาถึงที่นี่แล้วมั้ง? “อืม เสี่ยวซิ้วเชื่อคุณหนู!” แม้ว่าเสี่ยวซิ้วจะไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณหนู แต่นางก็ยินดีที่เห็นคุณหนูเปลี่ยนไป เมื่อก่อนตอนอยู่ที่คฤหาสน์เฉิงเซี่ยงใครๆก็รังแกคุณหนูของนางได้ง่ายๆ ตอนนี้คุณหนูแกร่งขึ้นแล้ว ไม่มีใครกล้าทำร้ายคุณหนูอีกเป็นแน่ “เสี่ยวซิ้ว ดึกแล้ว ข้าเหนื่อยแล้วละ เจ้าเองก็รีบกลับไปพักเถิด” วันนี้ทั้งวันเกิดเรื่องขึ้นเยอะแยะจนหลินหมื้นชิงปวดหัว ตอนนี้นางแค่อยากจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้แล้วนอนให้เต็มอิ่ม “ค่ะคุณหนู คุณหนูรีบพักผ่อนเถิด หากมีเรื่องอะไรท่านเรียกข้าได้ตลอดเลยเจ้าค่ะ’ เสี่ยวซิ้วดูออกว่าหลินหมื้นชิงอิดโรยแค่ไหน นางยืนขึ้นทำความเคารพและเดินออกจากห้องไป หลินหมื้นชิงเอนตัวลงนอนบนเตียง หลับตาลง และผลอยหลับไปในไม่ช้า นางสะลึมสะลือฝันเห็นชายสวมหน้ากากแก้วสีคนหนึ่งยืนตรงหน้านาง นัยน์ตาสีดำกำลังจ้องมองมาที่นางอย่างเยือกเย็น หลังจากนั้นร่างเปลือยของทั้งคู่ก็กอดรัดกัน ร่างกำยำของบุรุษขยับขึ้นลงบนตัวนาง และครอบครองนางอย่างรุนแรงในทุกๆครั้ง ในฝัน ชายคนนั้นไม่ได้พูดอะไรสักคำ หลินหมื้นชิงไม่รู้โฉมหน้าของเขาด้วยซ้ำ นางอยากปลดหน้ากากของเขาออกและดูหน้าเขาชัดๆ แต่ไม่ว่ายังไงก็แตะต้องตัวเขาไม่ได้เสียที เพียงแต่นางรู้สึกคุ้นกับชายคนนี้มาก หลินหมื้นชิงพยายามดึงสติที่เลือนลางของตัวเองออกมาจากความฝัน นางสะดุ้งลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว เหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากนางไม่ขาดสาย 
已经是最新一章了
加载中