ตอนที่33 อยากออกจากจวน
1/
ตอนที่33 อยากออกจากจวน
ชายานักฆ่า
(
)
已经是第一章了
ตอนที่33 อยากออกจากจวน
ตนที่33 อยากออกจากจวน "ชินแล้ว?เรื่องแบบนี้ชินได้ด้วยรึ?คำที่พวกเขาพูดในวันนี้มันเกินไปจริงๆ ข้าผิดเองที่เรียกให้เจ้าไปโดยที่ไม่คิดให้รอบคอบเสียก่อน" คำว่า’ชินแล้ว’ที่หลินหมื้นชิงพูด ทำให้หลินหลิงเชียวรู้สึกไม่สบายใจ นางต้องเจอกับเรื่องแบบนี้อร่อยขนาดไหนกันถึงได้พูดว่าชินแล้วออกมาได้ง่ายดายเช่นนี้? "เรื่องนี้พี่ใหญ่ไม่ผิดหรอก ข้ารู้ว่าที่พี่เรียกข้าไปก็ด้วยความหวังดีทั้งนั้น ส่วนเรื่องที่คนพวกนั้นชอบหาเรื่องกำจัดข้าไปให้พ้นทางก็ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นหรอกนะเจ้าคะ" หลินหมื้นชิงไม่โกรธหลินหลิงเชียวเลยแม้แต่น้อย เพราะนางรู้ว่าเขาไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน เขาคงไม่คิดว่าหลิวไอ้ชิวกับหลิวซูอวิ๋นจะกล้าหาเรื่องนางต่อหน้าเขาแบบนี้ "ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในจวนอีก เจ้าบอกกับข้าได้นะ ช่วงที่ข้าอยู่ในจวนข้าจะปกป้องเจ้าให้ดีที่สุด" หลินหลิงเชียวพูดพร้อมกับมองไปที่หลินหมื้นชิงด้วยสายตาเลิ่กลั่กผิดปกติ สักพักก็รีบหันไปมองทางอื่นแทน หลินหมื้นชิงไม่ทันสังเกตถึงความผิดปกติของหลินหลิงเชียวเลยแม้แต่น้อย นั่งมองไปที่ตาของเขา ก็รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาทันที "ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่" หลินหลิงเชียวทำให้หลินหมื้นชิงรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก นางไม่เคยคิดมาก่อนว่านางจะมีความรู้สึกแบบนี้กับคนแปลกหน้า นางไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้แบบที่คนในครอบครัวมีให้กัน เรากลับว่าหลินหลิงเชียวเป็นพี่ชายแท้ๆของตัวเองยังไงอย่างนั้น "ข้าเอาต้นลูกซัดมาให้เจ้ามัดหนึ่ง มันจะช่วยให้เจ้าหลับสบายขึ้น ดูขอบตาเจ้าสิดำขนาดนี้คงนอนไม่หลับบ่อยๆสินะ" หลินหลิงเชียวชี้ไปต้นลูกซัดที่วางอยู่บนโต๊ะหินอ่อนหน้าเรือนของนาง "ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่" พอเห็นต้นลูกซัดบนโต๊ะ หลินหมื้นชิงก็แอบดีใจใหญ่ "นี่ก็ดึกแล้ว ข้าลาก่อนละนะ เจ้าก็เข้าเรือนไปพักผ่อนเสีย" พูดจบหลินหลิงเชียวก็หันหลังเดินจากไป หลินหมื้นชิงมองหลังของหลินหลิงเชียวที่เดินจากไปแล้วแอบยิ้มเล็กน้อย พอหลินหลิงเชียวเดินลับตาไป นางก็อุ้มต้นลูกซัดเข้าห้องไป นางวางต้นลูกซัดไว้บนโต๊ะในห้อง แล้วนั่งมองสังเกตอย่างละเอียด ต้นลูกซัดมีกลิ่นหอมมันอ่อนทำให้คนรู้สึกผ่อนคลาย ของดีจริงๆเสียด้วย! "คุณหนูเจ้าขา คุณชายใหญ่ดีกับคุณหนูจังเลยนะเจ้าคะ ยังอุตส่าห์เอาสมุนไพรราคาแพงเช่นนี้มาให้?" เสี่ยวซิ้วที่ยืนอยู่ด้านหลังของหลินหมื้นชิงมองไปที่ต้นลูกซัดแล้วแอบอมยิ้มไม่หยุดพร้อมกับพูดขึ้น "ในเรือนพี่ใหญ่มีของล้ำค่าแปลกๆตั้งมากมาย แค่ให้ต้นลูกซัดมัดเดียวกับข้า เจ้าจะแปลกใจอะไรนักหนา" หลินหมื้นชิงยักคิ้วทำเป็นไม่สนใจ แต่ภายในใจกลับดีใจจนแทบจะระเบิดออกมา "ไม่ใช่เสียหน่อย คุณชายใหญ่ไม่เคยใจกว้างเช่นนี้มาก่อนนะเจ้าคะ แม้แต่คุณหนูร้องก็ไม่เคยได้รับอะไรแบบนี้จากคุณชายใหญ่เลยด้วยซ้ำ อย่างครั้งก่อนที่คุณชายใหญ่กลับมา คุณหนูลองก็วิ่งไปขอดอกโบตั๋นกับคุณชายใหญ่ถึงในเรือนเลยทีเดียว แต่คุณชายใหญ่ก็ไม่ได้ให้ อีกอย่างต้นลูกซัดนี้ยังมีราคาแพงกว่าดอกบัวตั๋นนั่นอีกนะเจ้าคะ" ในตอนที่ยังอุ่นพูดว่าหลินหลิงเชียวไม่ได้ให้ดอกโบตั๋นกับหลิวไอ้ชิว หลินหมื้นชิงก็แอบสะใจอยู่ไม่น้อย เสี่ยวซิ้วรู้สึกได้ว่า คุณชายใหญ่ไม่ชอบคุณหนูร้อง ไม่เช่นนั้นแค่ดอกโบตั๋นธรรมดาดอกเดียวใยถึงไม่ยอมให้นางล่ะ "จริงหรอ?มีเรื่องแบบนี้ด้วยงั้นรึ?" หลินหมื้นชิงแอบตกใจเล็กน้อย นางขโมยคิ้วด้วยความสงสัยและไม่น่าเชื่อ หลิวไอ้ชิวเป็นถึงน้องสาวแท้ๆของเขา ใยเขาถึงได้ใจแค่ถึงขั้นดอกโบตั๋นธรรมดาดอกเดียวก็ไม่ยอมให้ล่ะ?พี่ใหญ่ไม่ใช่คนใจแคบแบบนั้นนี่นา!? หลิวไอ้ชิวเป็นน้องสาวแท้ๆของเขา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ยอมให้ดอกโบตั๋นกับนางหรอก "เรื่องนี้จริงแท้แน่นอนเจ้าค่ะ บ่าวในจวนต่างก็ก็ลือกันให้แซด ถ้าคุณหนูไม่เชื่อก็ลองไปถามดูเองก็ได้เจ้าค่ะ" พ่อเห็นว่าหลินหมื้นชิงไม่เชื่อที่นางพูด เสี่ยวซิ้วจึงรีบอธิบาย ในเมื่อเสี่ยวซิ้วมั่นใจขนาดนี้ หลินหมื้นชิงก็ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมหลินหลิงเชียวถึงได้เย็นชากับหลิวไอ้ชิวนัก "เอาเถอะ พี่ใหญ่จะยังไงกลับหลิวไอ้ชิวมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า เพราะยังไงข้าก็ไม่อยากสนใจเรื่องของนางหรอก" หลินหมื้นชิงไม่ได้รู้สึกดีกับหลิวไอ้ชิวอยู่แล้ว นางไม่สนใจเรื่องความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่นี้หรอก แต่ในเมื่อพี่ใหญ่เป็นห่วงนางจากใจจริง นางก็จะจริงใจกับเขา เพราะในชาตินี้นางไม่อยากอยู่อย่างโดดเดี่ยวคนเดียวอีกต่อไป หลังจากเรื่องในคืนนั้น หลินหลิงเชียวก็ไม่เคยโผล่มาให้หลินหมื้นชิงเห็นหน้าอีกเลย เหมือนว่าเขาจะมัวหมกมุ่นอยู่แต่ในเรือนของตัวเองไม่ยอมออกไปไหน หลินหมื้นชิงเองก็ไม่กล้าไปรบกวน สวนหลิวไอ้ชิวก็วิ่งไปหาหลินหลิงเชียวที่เรือนทุกวัน แต่เข้าไปได้ไม่ถึงนาทีก็ถูกหลินหลิงเชียวไล่ออกมาทุกวัน อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแต่งงานของเธอกับเซียวชี่จือแล้ว หลินหมื้นชิงก็ยิ่งไม่สบายใจเข้าไปใหญ่ พอนึกถึงเรื่องที่ต้องแต่งงาน นางก็ปวดหัวขึ้นมาทันที ตอนแรกนางคิดจะหนีงานแต่ง แต่พอมาคิดคิดดูแล้ววิธีนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย คนอย่างเซียวชี่จือมีอำนาจล้นฟ้า หากนางหนีไป เซียวชี่จือคงจะมีวิธีนับพันในการลากตัวนางกลับมาแน่นอน ถ้าถึงตอนนั้นนางคงได้ตายอย่างอนาถเป็นแน่! "คุณหนูเป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ? ใยถึงได้ดูเศร้าเช่นนี้ อารมณ์ไม่ดีหรือเจ้าคะ?" เสี่ยวซิ้วนั่งมองคุณหนูที่มัวแต่เหม่อลอยตั้งแต่เช้า ด้วยความเป็นห่วงจึงเอ่ยปากถาม ตั้งแต่ที่หลินหมื้นชิงฟื้นจากอาการป่วย น้อยนักที่จะเห็นนางเหมือนลอยเช่นนี้ นี่ก็เหม่อลอยตั้งแต่เช้าแล้วไม่ยอมพูดไม่ยอมจ่ายแม้แต่คำเดียว ทำให้เสี่ยวซิ้วอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ "เสี่ยวซิ้ว ถ้าว่าเราไปเดินเล่นกันไหม วันๆอยู่แต่ในเรือน ข้ารู้สึกอึดอัดจนจะบ้าตายอยู่แล้ว" วันๆก็ได้แต่อยู่ในเรือน หลินหมื้นชิงก็เริ่มจะเบื่อตายชัก ผู้หญิงในสมัยนี้ก็ไม่ง่ายเลย วันๆก็ได้แต่อยู่ในเรือน เหมือนนกที่ถูกขังอยู่ในกรงไม่มีอิสระเลยแม้แต่น้อย "คุณหนูเจ้าคะ ถ้าคุณท่านไม่อนุญาตคุณหนูจะออกไปไหนไม่ได้นะเจ้าคะ อีกอย่างคุณท่านคงไม่ยอมให้คุณหนูออกไปไหนแน่นอนเจ้าค่ะ" เสี่ยวซิ้วรู้ดีว่าหลินหมื้นชิงอยากออกไปเที่ยวตั้งนานแล้ว แต่ใช่ว่าอยากไปก็ไปได้เสียหน่อย คุณท่านสั่งห้ามไม่ให้คุณหนูออกไปจากจวนเฉิงเชี่ยง ถึงพวกนางจะไปถึงหน้าประตูสุดท้ายก็จะถูกดักไว้อยู่ดี "เขามีสิทธิ์อะไรมาห้ามข้า ข้าเป็นคนไม่ใช่ทาสของเขา เขามีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับข้า!" พอได้ยินคำพูดของเสี่ยวซิ้ว หลินหมื้นชิงก็โกรธทันที ปกตินางก็เป็นคนที่ไม่ชอบอยู่กับที่อยู่แล้ว นี่นางก็ถูกขังไว้ในชวนมาเป็นเดือนแล้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปนางต้องเป็นบ้าแน่ๆ "แต่คุณหนูเจ้าคะ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากคุณท่าน เราออกไปไหนไม่ได้ด้วยซ้ำ ดังนั้น…….." เสี่ยวซิ้วไม่ได้พูดจนจบ แต่ความหมายที่นางจะสื่อก็สื่อออกมาชัดเจนพอแล้ว นางต้องการให้หลินหมื้นชิงเข้าใจว่าการที่จะออกจากจวนเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด "ถ้าข้าจะออกไปใครก็ห้ามไม่ได้ เขาห้ามให้ข้าออกจากจวน งั้นข้าก็จะหาวิธีออกไปโดยที่เขาไม่รู้ตัวเอง" หลินหมื้นชิงยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพูดออกมา "คุณหนูหมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ?" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนหน้าของหลินหมื้นชิงทำให้เสี่ยวซิ้วแปลกใจเป็นอย่างมาก นางไม่รู้ว่าคุณหนูของนางคิดจะทำอะไรกันแน่ "คุณหนูของเจ้าเป็นคนฉลาด เขาไม่อนุญาตให้ข้าออกไป ก็ใช่ว่าข้าจะออกไปไหนไม่ได้เสียหน่อย? ถ้ามีแผนที่จะออกไปโดยที่เขาไม่รู้ตัวแน่นอน" หลินหมื้นชิงยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วลุกขึ้นไปดึงมือเสี่ยวซิ้วพร้อมกับเดินออกจากห้อง "คุณหนูจะไปไหนหรือเจ้าคะ?ถ้าเกิดบ่าวคนอื่นมาเห็นเข้าแล้วเอาไปฟ้องฮูหยิน คุณหนูก็จะซวยเอานะเจ้าคะ" พอรู้ว่าหลินหมื้นชิงคิดจะหาทางออกไปข้างนอก เสี่ยวซิ้วก็เริ่มเป็นห่วงขึ้นมาทันที นางเป็นห่วงว่าถ้าเกิดถูกฮูหยินรู้เข้า คุณหนูของนางก็จะถูกลงโทษอีกแล้ว "ยัยแก่คนนั้นข้าไม่กลัวหรอก เขามีแผนอะไรก็เชิญจัดมาได้เลย ถึงเวลานั้นจะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่จะซวย" หลินหมื้นชิงไม่ได้อยากกอดเรื่องในจวนเฉิงเชี่ยง แต่หากใครคิดจะหาเรื่องนาง นางก็จะไม่ยอมโดยเด็ดขาด ฮูหยินที่ว่าก็ไม่ได้หาเรื่องนางเป็นครั้งแรกเสียหน่อย แค้นพวกนั้นนางจำไว้ในใจหมดแล้ว ไว้มีโอกาสเมื่อไหร่นางจะเอาคืนเป็นแน่! คุณหนูคิดจะออกจากจวนยังไงหรือเจ้าคะ?ไม่ว่าจะเป็นประตูใหญ่หรือประตูเล็กก็จะมีคนคอยเฝ้านะเจ้าคะ เราออกไปไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ" เสี่ยวซิ้วนึกว่าหลินหมื้นชิงจะออกจากทางประตูเล็กจึงเอ่ยเตือน "ถ้าประตูเล็กมีคนเฝ้างั้นเราก็ปีนกำแพงเอา ถ้าบนกำแพงยังมีคนเฝ้าก็ให้มันรู้ไปเสีย" เรื่องแค่นี้ไม่ยากสำหรับนางเลยแม้แต่น้อย อย่าลืมสิว่านางเป็นถึงนักฆ่ามือหนึ่งในศตวรรษที่ 21 เชียวนะ ถ้าหนีออกจากจวนในสมัยโบราณนี้ไม่ได้ ชาติที่แล้วนางคงมีชีวิตเสียเปล่าน่ะสิ!? "ปีน….ปีนกำแพงหรือเจ้าคะ?ไม่ได้นะเจ้าคะคุณหนู คุณหนูเป็นหญิงสาวแถมยังเป็นหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ จะมาทำเรื่องแบบนี้ได้เช่นไรกัน!" พอเสี่ยวซิ้วได้ยินว่านางจะปีนกำแพงก็รีบปฏิเสธทันที "เสี่ยวซิ้วความคิดของเจ้าจะเปิดกว้างหน่อยไม่ได้เลยหรือไร? ใครว่าผู้หญิงเป็นกำแพงไม่ได้กัน? นี่ถ้าเป็นศตวรรษที่ 21……." หลินหมื้นชิงมองหน้าเสี่ยวซิ้วด้วยท่าทีเบื่อหน่าย เกือบจะหลุดเล่าเรื่องในศตวรรษ 21 ให้นางฟังแล้วเชียว ยังดีที่ตั้งสติได้ จึงรีบเงียบไปก่อน เพราะถ้าเกิดพูดเรื่องศตวรรษที่ 21 ให้นางฟัง นางคงจะหาว่าหลินหมื้นชิงเป็นคนบ้าสติไม่ดีเป็นแน่ ดังนั้น…… ระหว่างที่พูดไปได้ครึ่งทาง หลินหมื้นชิงก็เงียบทันที ช่วงนี้หลินหมื้นชิงไว้วางใจเสี่ยวซิ้วมากเกินไปแล้ว หลินหมื้นชิงกลัวเหลือเกินว่าถ้าวันไหนตัวเองพูดหลุดปากไปจะทำยังไงดี? ถ้าเกิดคนอื่นรู้เข้าว่านางมาจากในอีกหลายร้อยปีข้างหน้า คงจะคิดว่านางเป็นปีศาจแน่ๆ หรือไม่ก็คิดว่านางเป็นบ้าสติไม่ดี "เป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ? ใยจึงหยุดพูดไปล่ะเจ้าคะ? เมื่อกี้คุณหนูพูดว่าศตวรรษที่ 21? ศตวรรษที่ 21 อะไรหรือเจ้าคะ?" พอเห็นหลินหมื้นชิงพูดไปได้ครึ่งเดียวแล้วเงียบไป เสี่ยวซิ้วก็เลยขมวดคิ้วด้วยความสงสัยแล้วถามขึ้น "เปล่า ข้าก็แค่พูดไปเรื่อยเท่านั้น" สีหน้าของหลินหมื้นชิงเต็มไปด้วยความประหม่า พอตั้งสติได้ก็รีบแก้ตัวทันที "เอาเถอะ นี่ก็ไม่เช้าแล้ว คำว่าเรารีบหาทางออกไปกันเถอะ ถ้าเกิดยังชักช้าถูกคนอื่นมาเห็นเข้าจะซวยเอา" เพื่อไม่ให้เสี่ยวซิ้วจับพิรุธได้ หลินหมื้นชิงจึงพูดเพื่อเปลี่ยนเรื่องคุยกันที
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่33 อยากออกจากจวน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A