ตอนที่37 เอาคืน 10 เท่า
1/
ตอนที่37 เอาคืน 10 เท่า
ชายานักฆ่า
(
)
已经是第一章了
ตอนที่37 เอาคืน 10 เท่า
ตนที่37 เอาคืน 10 เท่า "หันชิงซง เจ้าดูเหมือนจะหิวมาก ถ้างั้นเจ้ากินรองท้องไปก่อน รอเจ้าอิ่มแล้วเราค่อยดื่มกัน" มะเฟืองมองหลินหมื้นชิงที่นั่งน้ำลายยืดอยู่บนโต๊ะอาหาร แววตาของนางเป็นประกาย มะเฟืองรู้สึกขำเล็กน้อย "ถ้างั้นข้าไม่เกรงใจแล้วนะ? ข้าจะลงมือจริงๆแล้วนะ!?" มะเฟืองพูดจบ แววตาของหลินหมื้นชิงก็ลุกวาวเป็นประกายด้วยความดีใจ แต่ก็ต้องถามให้แน่ใจเสียก่อน "เอาเลย วันนี้เรามานั่งดื่มกันในฐานะเพื่อน ถ้าไม่ต้องเกรงใจหรอก ถ้าเกิดไม่พอก็สั่งเพิ่มได้เลย ข้าจ่ายเอง" มะเฟืองพูดกับหลินหมื้นชิงด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาดูมีความสุขในน้อยๆ "ถ้างั้นถ้าไม่เกรงใจแล้วนะ เพราะว่าตอนนี้ข้าหิวมากจริงๆ" หลินหมื้นชิงหยิบตะเกียบเตรียมจะลงมือกิน ก็นึกถึงเสี่ยวซิ้วที่ยืนอยู่ด้านหลังพอดี นางคงจะหิวกว่าด้วยซ้ำ!? "เสี่ยวซิ้ว เจ้ายังจะมัวยืนอยู่ตรงนั้นทำไม ถ้าหิวตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือไงกัน รีบมากินสิอาหารในวันนี้ไม่ได้มีให้กินบ่อยๆนะ" "คุณ…..คุณชาย ข้าไม่กล้า……" เสี่ยวซิ้วเหลียวมองอ๋องหมิงและมะเฟือง นั่งยืนอยู่กับที่ไม่กล้าเดินเข้าไป คนที่นั่งอยู่กับคุณหนูในตอนนี้ คนหนึ่งเป็นเทพสงครามอ๋องหมิง ส่วนอีกคนก็เป็นถึงบุตรชายของแม่ทัพเจิ้นโก๋ว บ่าวไพร่อย่างนางไม่มีสิทธิ์ไปนั่งข้างพวกเขาหรอก "จะกลัวทำไม? ตอนนี้มีอะไรที่สำคัญกว่าการกินให้อิ่มท้องเหรอ?" เสี่ยวซิ้วเป็นคนที่ขี้กลัวอยู่แล้ว หลินหมื้นชิงรู้ดีว่านางกลัวอะไร ถึงถอนหายใจ บางครั้งนิสัยขี้กลัวของนางก็ทำให้หลินหมื้นชิงปวดหัวเหมือนกัน "บุญชายของเจ้าพูดถูก ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการกินให้อิ่มท้องหรอกนะ ในเมื่อหิวก็มานั่งกินเถอะ ข้ากับอ๋องหมิงไม่กินหัวเจ้าหรอก" พ่อมะเฟืองเห็นเสี่ยวซิ้วที่ทำสีหน้าเกรงกลัวยืนนิ่งอยู่กับที่จึงพูดขึ้น "เห็นไหมล่ะ ซือหม่าซงเขาพูดขนาดนี้แล้ว เจ้ายังจะกลัวอะไรอีก ซือหม่าซงเป็นคนที่เข้ากับคนง่ายเจ้าไม่ต้องกลัวไปหรอก" หลินหมื้นชิงมองไปที่มะเฟืองด้วยแววตาขอบคุณ แล้วหันไปมองหน้าเสี่ยวซิ้ว พอได้ยินที่มะเฟืองพูด เสี่ยวซิ้วก็เกิดความกล้าขึ้นมาค่อยๆก้าวเข้าไปนั่งข้างๆหลินหมื้นชิง พร้อมกับหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารทันที อาหารในจวนเฉิงเชี่ยงของทั้งคู่แย่มาก ทั้งคู่ไม่เคยได้กินอาหารดีแบบนี้มาก่อน จึงทำให้กินอาหารบนโต๊ะหมดอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ทั้งคู่จะกินเร็วแต่ก็ยังคงความมีมารยาทอยู่บ้าง แต่ไม่ว่าจะยังไง เซียวชี่จือและเฟืองที่นั่งอยู่ข้างๆพอเห็นแบบนี้ก็อึ้งจนอ้าปากค้างกันหมด "นี่เจ้าอดข้าวมากี่ร้อยปีกัน? กินเร็วขนาดนี้ไม่กลัวอาหารติดคอตายหรือไงกัน!?" เซียวชี่จือพูดแทรกกระทันหัน หลินหมื้นชิงที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อยหยุดชะงักแล้วมองจ้องไปที่เซียวชี่จือด้วยสีหน้าดุดัน "นี่อ๋องหมิง ข้าว่าข้าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับท่านมาก่อนนี่นา ถึงแล้วท่านจะไม่ชอบขี้หน้าข้า แต่ก็ไม่ควรช่างให้อาหารติดคอข้าตายนี่? ท่านเป็นถึงท่านอ๋องเป็นถึงเทพสงคราม จะใจกว้างหน่อยไม่ได้หรืออย่างไรกัน?" หลินหมื้นชิงไม่รู้ว่าเซียวชี่จือไม่ชอบตัวเองเพราะอะไร ตอนที่อยู่ในจวน นางเป็นคุณหนูสามของจวน เป็นพระชายาในอนาคตของเขา แม้เขาจะไม่ชอบนาง นางก็พอจะเข้าใจได้บ้าง แต่ตอนนี้อยู่ข้างนอกแถมนางก็แต่งเป็นชาย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางเป็นใคร แต่ทำไมถึงได้คอยหาเรื่องจิกกัดนางอยู่ได้!? แค่คิดก็รู้สึกหงุดหงิดใจไปหมด "เจ้า! เจ้าบังอาจหาว่าข้าใจแคบงั้นรึ?" ถึงแม้หลินหมื้นชิงจะไม่ได้พูดตรงๆ แต่ความหมายในคำพูดของนางก็ชัดเจนอยู่แล้ว นั่นทำให้เซียวชี่จือโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที แค่โจรลักขโมยคนหนึ่ง แต่กลับพูดจาแบบนี้ต่อหน้าเขา กล้าหาว่าเขาใจแค่ อยากใส่นักหรือไงกัน? "หรือว่าไม่จริงล่ะ? วันนี้ที่ข้าขโมยถุงเงินของซือหม่าซงก็เพราะมีเหตุจำเป็น แต่ท่านกลับกัดไม่ยอมปล่อย ถ้าไม่ใช่ใจแคบแล้วจะเป็นอะไรไปได้ อีกอย่าง!ที่ข้าขโมยเป็นถุงเงินของซือหม่าซง ไม่ใช่ของท่านเสียหน่อย เจ้าของเขายังไม่ว่าอะไรเลย ท่านกลับหาเรื่องข้าไม่ยอมหยุด?" หลินหมื้นชิงไม่ใช่คนที่จะยอมใครง่ายๆ การที่เซียวชี่จือคอยหาเรื่องนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงนางจะไม่อยากสนใจเขา แต่จะให้ทำเป็นไม่สนใจก็คงไม่ได้ คำบางคำถ้าไม่พูดออกมาก็คงจะอึดอัดใจ "หันชิง! เจ้าอยากตายนักใช่ไหม!? เจ้ารู้หรือไม่ว่าบนโลกใบนี้ไม่มีใครกล้าพูดเช่นนี้กับข้ามาก่อน!?" เซียวชี่จือโกรธมาก นอกจากหลินหมื้นชิงแล้วบนโลกใบนี้ยังไม่เคยมีใครกล้าพูดแบบนี้กับเขามาก่อน! คำพูดของหันชิงช่างเหมือนกับหลินหมื้นชิงนัก นิสัยก็เหมือน ถ้าหลินหมื้นชิงไม่ใช่คุณหนูสามของจวนเฉิงเชี่ยง เขาคงคิดว่าสองคนนี้เป็นพี่น้องแท้ๆกันแน่! "ถ้างั้นข้าก็เป็นข้อยกเว้น คนอื่นอาจจะกลัวท่านก็เลยไม่กล้าพูดเช่นนี้กับท่าน แต่ข้าไม่! ใครดีกับข้า ข้าก็ดีตอบ แต่หากใครร้ายกับข้า ข้าก็จะเอาคืนเป็น 10เท่า!" หลินหมื้นชิงมองหน้าเซียวชี่จือด้วยแววตาเย็นเยือก ในตอนที่พูดคำนี้ออร่ารอบตัวนางพึ่งออกมาอย่างดุดัน นางเป็นคนมีอารมณ์เหมือนกัน เซียวชี่จือเอาแต่หาเรื่องรางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ไม่แปลกที่นางจะระเบิดความโกรธออกมา นางพยายามไม่ถือสาเขาตั้งแต่แรกแล้ว แต่เขาก็ยังคงกัดไม่ปล่อย ในเมื่อถูกหาเรื่องขนาดนี้แล้ว ถ้านางยังไม่โต้กลับอีก งั้นก็คงโง่เต็มทนแล้วจริงๆ พอเซียวชี่จือได้ยินคำพูดของนางก็อึ้งไปเล็กน้อย ดวงตาเรียวยาวของเขาบัดนี้เต็มไปด้วยความอันตราย ชายที่ชื่อหันชิงตราบพูดคำพูดนี้ออกมาต่อหน้าเขา ไม่คิดจะเก่งกว่าเขาเลยสักนิดสินะ "เอาคืน 10 เท่า? เจ้าคิดว่าเจ้ามีปัญญาหรอ? ถ้าอยากจะฆ่าเจ้าก็แค่กระดิกนิ้วเจ้าก็ไม่มีชีวิตรอดถึงพรุ่งนี้แล้ว!" เซียวชี่จือพูดพร้อมกับมองไปที่หลินหมื้นชิงด้วยแววตาเยาะเย้ย จะว่าไปแล้วออร่าที่แพร่ออกมาจากตัวของหลินหมื้นชิงเมื่อกี้นี้ ทำให้เขาอึ้งไปชั่วขณะ แต่ก็แค่ชั่วขณะเท่านั้น เขาไม่คิดจะแยแสอะไรนานหรอก "ท่านอ๋องมีวิทยายุทธที่สูง มีเงินทองและอำนาจล้นฟ้า ถ้าเป็นแค่สามัญชนธรรมดา ถ้าท่านคิดจะฆ่าข้ามันง่ายเสียยิ่งกว่ากระดิกนิ้วด้วยซ้ำ ท่านเป็นถึงท่านอ๋องกลับคิดจะเอาเรื่องกับสามัญชนธรรมดาเยี่ยงข้า พูดไปคงเสียศักดิ์ศรีแย่!" หลินหมื้นชิงจ้องตากับเซียวชี่จืออย่างไม่เกรงกลัว "หัน เศร้าใจเย็นๆนะ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเจ้าพูดมากขนาดนี้ เมื่อก่อนเจ้าไม่เคยพูดมากขนาดนี้มาก่อน วันนี้เจ้าเป็นอะไรกันแน่?" พอเห็นว่าสถานการณ์เริ่มเครียดขึ้นเรื่อยๆ มะเฟืองกลัวว่าเซียวชี่จือจะโกรธจนค่าหลินหมื้นชิงจริงๆ ถึงพูดขัดขึ้น "เจ้าก็เห็นว่าหันชิงหาเรื่องข้าก่อน!" เซียวชี่จือเห็นว่ามะเฟืองเข้าข้างหันชิง เขาจึงไม่ค่อยพอใจนัก ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมา10 กว่าปี ในเวลาแบบนี้เขากลับพูดเข้าข้างคนนอกแทน "เอาเถอะหน่า พวกเจ้าก็พอกันทีใกล้แล้ว ทุกคนก็เป็นเพื่อนกันไม่จำเป็นต้องถึงขั้นฆ่าแกงกันหรอก" มะเฟืองเพิ่งรู้ว่าการที่ให้ทั้งคู่มานั่งดื่มร่วมโต๊ะกันเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดสักเท่าไหร่ เขาเริ่มเสียใจที่ชวน 2 คนนี้มาดื่มสุราเสียแล้ว "วันนี้เห็นแก่ตัวเฟิง ข้าจะไม่เอาความเจ้า แต่ข้าจะเตือนเจ้าไว้ว่าอย่าทำข้าโกรธอีก ไม่เช่นนั้นเจ้าจะไม่มีวันรู้เลยว่าตัวเองตายยังไง!" เซียวชี่จือจ้องหน้าหลินหมื้นชิงตาเขม่น แววตาแสดงความรู้สึกอยากฆ่าออกมาได้อย่างชัดเจน แต่ก็พยายามอดทนไว้ ทีนี้หลินหมื้นชิงก็รู้จุดเดือดของเซียวชี่จืออย่างแจ่มแจ้งแล้ว หนังไม่กล้าที่จะหาเรื่องเขาในเวลานี้อีกแล้ว เพราะนางเองก็ไม่อยากตายเร็วขนาดนั้น "จริงสิหัน อีก 10 วันข้างหน้า เจ้าก็ต้องแต่งงานกับคุณหนูสามของจวนเฉิงเชี่ยงแล้ว ตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง ใกล้จะได้แต่งงานมีประชายาเป็นของตัวเองแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนัก" เพื่อไม่ให้บรรยากาศอึดอัด มะเฟืองจึงโยงหัวข้อพูดคุยไปที่เซียวชี่จือด้วยน้ำเสียงทะเล้น เซียวชี่จือที่เริ่มใจเย็นลงพอได้ยินคำพูดของมะเฟือง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดทันที พอได้ยินมะเฟืองพูดถึงเรื่องของตัวเอง หลินหมื้นชิงก็รีบหันไปมองหน้าเซียวชี่จือทันที เพราะนางอยากรู้ว่าเขาคิดยังไงกันแน่ ผู้ชายคนนี้เอาแต่ข่มขู่นาง นางก็เลยอยากรู้ว่าเขาคิดยังไงกับงานแต่งระหว่างนางกับเขา! "เรื่องน่ายินดี?" เซียวชี่จือดื่มสุราในแก้วจนหมด สายตาเย็นชาจนน่ากลัว "ดูเหมือนเจ้าจะไม่ค่อยดีใจนะ?ฆ่าได้ข่าวว่าคุณหนูสามของจวนเฉิงเชี่ยงเป็นคนสติไม่ดี เรื่องนี้จริงหรือไม่?" หลังจากฮ่องเต้ทรงพระราชทานงานแต่งให้กับเซียวชี่จือ มะเฟืองก็รีบส่งคนไปสืบเรื่องของคุณหนูสามของจวนเฉิงเชี่ยงทันที เขาได้ข่าวเราว่าคุณหนูสามของจวนเฉิงเชี่ยงเป็นคนสติไม่ดี เขาถึงแอบสงสารหันจับใจ ท่านอ๋องเป็นถึงเทพสงคราม กลับต้องแต่งงานกับคนสติไม่ดี ตำแหน่งและรูปร่างหน้าตาของเซียวชี่จือเป็นสิ่งที่หญิงสาวทั่วปฐพีพากันหลงใหลหมายปอง แต่ฮ่องเต้กลับทำแบบนี้กับเขา เพื่อดึงเขาไว้ "คนสติไม่ดี? นางเป็นผู้หญิงที่บ้าที่สุดเท่าที่เคยเจอมาเลยล่ะ!" พอนึกถึงหน้าของหลินหมื้นชิง สายตาของเซียวชี่จือก็เปลี่ยนไปทันที ไฟโกรธในใจปิดยังไงก็ปิดไม่อยู่ เหตุการณ์ครั้งแรกที่เจอกับนาง ทำให้เขาลืมไม่ลงจริงๆ นางเหมือนหันชิงที่อยู่ตรงหน้าไม่มีผิด ชอบทำตัวไม่รู้ที่ต่ำที่สูง จ้องจะทำให้เขาโกรธอยู่ตลอดเวลา "ข้านึกสงสารเจ้าเสียจริงที่ต้องสู้ขอคนสติไม่ดีมาเป็นพระชายา" มะเฟืองไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของเซียวชี่จือ ถึงได้ถอนหายใจและพูดปลอบใจเขา เซียวชี่จือเป็นพืชชนิดของมะเฟือง เขาก็ต้องหวังให้เซียวชี่จือเธอหญิงที่ถูกใจ แต่แผนการของฮ่องเต้กรอบทำให้เซียวชี่จือล้มทั้งยืน เพื่อกวาดล้างขวักหนามให้กับพระมงกุฏราชกุมาร ฮ่องเต้ยอมทำทุกอย่างจริงๆ ทั้งที่เป็นโอรสเหมือนกัน แต่กลับปฏิบัติต่างกันราวฟ้ากับเหว เขายังเป็นฮ่องเต้คนเดิมที่น่ายกย่องนั่นอยู่อีกหรือ? สิ่งที่เขาทำทั้งหมดในตอนนี้ล้วนมีจุดประสงค์ทั้งนั้น หลินหมื้นชิงนั่งฟังบทสนทนาของทั้งคู่ด้วยความโมโห ทั้งที่นางเป็นคนปกติมีสติสัมปชัญญะอยู่ครบ แถมเซียวชี่จือเองก็รู้ดี ทำไมเขาไม่แม้แต่จะแก้ตัวให้นางแถมยังพูดใส่ร้ายนางอีกต่างหาก เหมือนกลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่านางเป็นคนสติไม่ดี นี่เขาจะมากไปแล้วนะ! "ในเมื่อรู้สึกว่าคุณหนูสามคนนั้นไม่เหมาะสมกับท่านอ๋อง ถ้าเช่นนั้นท่านอ๋องก็ไม่ต้องแต่งกับนางสิ!" เซียวชี่จือไม่อยากแต่ง? แล้วคิดว่านางอยากแต่งรึไงกัน? ชาตินี้นางแต่งกับใครก็ไม่ยอมแต่งกับเขาเด็ดขาด!
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่37 เอาคืน 10 เท่า
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A