ตอนที่ 40 ข้าต่างหากที่เป็นน้องสาวพี่   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 40 ข้าต่างหากที่เป็นน้องสาวพี่
ต๭นที่ 40 ข้าต่างหากที่เป็นน้องสาวพี่ พอได้ยินคำถามนั้นหลินหมื้นชิงก็ตกใจแล้วมองไปที่เฉาก๊วย "พี่….พี่ใหญ่พูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ? ถ้าไม่ได้ไปไหนอยู่แต่ในเดือนของข้าทั้งวันนี่เจ้าคะ" หลินหมื้นชิงยิ้มกลบเกลื่อนพร้อมคำตอบด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ เรื่องที่นางหนีเที่ยวในวันนี้จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด อีกอย่างพี่ใหญ่จะไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าเกิดเขาเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้อาจจะมีเรื่องใหญ่ตามมาทีหลัง พอได้ยินคำตอบของนาง สายตาของเฉาก๊วยก็จะสลดลง ในคำพูดของนางเต็มไปด้วยความระมัดระวัง มีหรอที่เขาจะฟังไม่ออก? วันนี้ที่เขามาก็เพราะเป็นห่วงนาง แต่ไม่นึกเลยว่านางจะกันเขาขนาดนี้ รู้สึกว่าเขาไม่น่าไว้ใจ "น้องสามไม่ไว้ใจพี่ใหญ่ใช่หรือไม่?" ดวงตาดำคู่นั้นของเฉาก๊วยมองจ้องตาหลินหมื้นชิงแล้วถามออกไปอย่างจริงจัง เขาถามแบบกะทันหันทำให้หลินหมื้นชิงแอบตื่นเต้นเล็กน้อย นางรู้ได้ทันทีว่าเฉาก๊วยรู้เรื่องที่นางหนีออกไปเที่ยวในวันนี้แล้ว "พูดอะไรน่ะพี่ใหญ่? ทั้งจวนเฉิงเชี่ยงนี้ก็มีแต่พี่เท่านั้นที่ดีกับข้า ข้าจะไม่ไว้ใจพี่ได้อย่างไรกัน?" แววตาของเฉาก๊วยแสดงความผิดหวังออกมาอย่างเห็นได้ชัด หลินหมื้นชิงเห็นแล้วจึงแอบไม่สบายใจ หนังไม่ได้อยากโกหกเขา แต่สถานการณ์ในจวนตอนนี้ถ้าเกิดนางพลาดขึ้นมา ก็อาจจะเกิดเรื่องทันที "ในเมื่อน้องสามไม่ได้ไม่ไว้วางใจพี่ ใยจึงไม่พูดความจริงกับพี่เล่า?" ระหว่างที่พูดเฉาก๊วยก็มองไปที่ตาของหลินหมื้นชิงด้วยแววตาผิดหวังเล็กน้อย ทั้งคู่จ้องตากัน หลินหมื้นชิงได้แต่ขัดแย้งอยู่ภายในใจ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้ากัน พี่ใหญ่ก็ดีกับนางมาตลอด นางกันท่าเขาขนาดนี้มันเกินไปหรือเปล่า? "จริงๆแล้ว…..วันนี้ค่าแอบหนีออกไปเที่ยว แต่ว่าข้ากลัวว่าคนอื่นรู้แล้วจะมีปัญหาก็เลยไม่กล้าพูด" หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน หลินหมื้นชิงก็พูดความจริงออกมา เพราะน้องเชื่อว่าพี่ใหญ่ไม่หักหลังนางแน่นอน "เจ้าใจกล้ามากไปแล้วนะ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้มีแต่คนในจวนจ้องจะหาเรื่องเจ้า ในเวลาแบบนี้เจ้ายังกล้าแอบออกไปอีก ถ้าเกิดคนอื่นรู้เข้าเจ้าต้องถูกลงโทษอีกเป็นแน่" พอได้ยินความจริงจากปากของหลินหมื้นชิง เฉาก๊วยก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วมองไปที่นางด้วยสายตาตื่นตระหนก "ก็ยังไม่มีใครรู้นี่นา? ถ้าพี่ใหญ่ไม่พูดก็ไม่มีใครรู้สักหน่อย ข้าเชื่อว่าพี่ใหญ่ไม่หักหลังข้าแน่นอนใช่หรือไม่?" หลังจากที่พูดความจริงออกไป หลินหมื้นชิงก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที นางเงยหน้ามองเฉาก๊วยแล้วแอบถามออกไปเบาๆ "ไม่อยู่แล้ว พี่จะหักหลังเจ้าได้อย่างไรเล่า?" เฉาก๊วยยิ้มมุมปากรับแต่หน้าผากนางเบาๆ ในแววตาเต็มไปด้วยความเอ็นดู ถึงจะไม่ชินกับการกระทำแบบนี้ ออกจะรู้สึกแปลกๆไปบ้าง แต่นางก็รู้สึกอบอุ่นใจไม่น้อย "แต่ว่าครั้งหน้าจะทำเรื่องอันตรายแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วหนา ถ้าเกิดท่านพ่อรู้เข้าเจ้าซวยแน่ๆ ถ้าถึงตอนนั้นแม้แต่ข้าก็ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้" นิสัยห้าวหาญของหลินหมื้นชิงทำให้เฉาก๊วยอัดเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย ด้วยนิสัยของนางเขาเป็นห่วงว่าอีกหน่อยจะสร้างปัญหาใหญ่ขึ้นอีก "ข้ารู้แล้ว ข้าจะไม่หนีออกไปอีกแล้วเจ้าค่ะ พี่ใหญ่สบายใจได้เลย" ถึงแม้ในใจจะไม่ได้คิดแบบที่พูด แต่ต่อหน้าพี่ใหญ่นางก็ต้องพูดรับปากไปก่อน "วันนี้ชิวเอ๋อมาหาเจ้าที่เรือน แต่ถูกข้าไล่กลับไปก่อน ถ้าเจ้าแอบออกไปอีกแล้วถูกนางรู้เข้า คงจะเป็นเรื่องใหญ่แน่" นึกถึงภาพตอนที่หลิวไอ้ชิวทำท่าทีก้าวร้าวเดินเข้ามาในเรือนของหลินหมื้นชิงในวันนี้ เฉาก๊วยก็พูดเตือนขึ้นมา "อะไรนะ? หลิวไอ้ชิวมาหาค่าที่เรือนอย่างนั้นหรอ? นางมาทำอะไร ข้าไม่ได้ล่วงเกินอะไรเราเสียหน่อย!" พอได้ยินชื่อหลิวไอ้ชิว หลินหมื้นชิงก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที ช่วงนี้หลินหมื้นชิงไม่ได้หาเรื่องนางเลยแม้แต่น้อย วันนี้ที่นางมาหาหลินหมื้นชิงด้วยตัวเองแบบนี้ คงจะมาหาเรื่องสินะ ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ช่วงนี้นางพยายามทำตัวดีแล้วนะ พยายามที่จะไม่ขอเรื่อง พอเหนื่อยใจมามากพอแล้ว แต่ถึงนางไม่ก่อเรื่อง ก็มีคนจ้องจะหาเรื่องนางอยู่ดี "ครั้งหน้าเวลาทำอะไรก็ระวังตัวด้วย อย่าให้นางจับพิรุธได้ล่ะ ไม่เช่นนั้นถ้าเกิดเรื่องถึงหูฮูหยินเจ้าคงไม่รอด พี่ไม่ได้อยู่ในจวนตลอด ปกป้องเจ้าไม่ได้ทุกครั้งไป เจ้าต้องรู้จักปกป้องตัวเองบ้าง" เฉาก๊วยเป็นคนที่พูดน้อยมาโดยตลอด แต่ไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่ที่เจอหลินหมื้นชิงเขาก็อยากที่จะทำตัวเป็นพี่ชายที่ดี คอยเป็นห่วงนางจากใจจริง อาจจะเป็นเพราะคนในครอบครัวจริงๆของเขาไม่มีเหลืออยู่แล้ว หรือไม่ก็เพราะนิสัยของหลินหมื้นชิงเหมือนน้องสาวของเขามากจริงๆ "พี่ใหญ่ ถ้าได้ยินบ่าวในเรือนพูดกันว่าพี่อยู่ข้างนอกซะส่วนใหญ่ พี่ไปทำอะไรหรือเจ้าคะ?" ครั้งก่อนได้ยินพูดว่าพี่ใหญ่กลับมาปีละแค่ไม่กี่ครั้ง นางจึงแอบสงสัยว่าเขาไปทำอะไรข้างนอกกัน "ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ทำมาค้าขายเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง" เฉาก๊วยตอบเสียงเรียบ ถึงเขาจะพูดแบบนั้นแต่หลินหมื้นชิงกลับไม่เชื่อ เขาทำมาค้าขายอะไรกันแน่ปีปีนึงกลับมาแค่ไม่กี่ครั้ง หลินหมื้นชิงรู้สึกได้ว่าเขาต้องทำเรื่องใหญ่โตอะไรสักอย่างแน่นอน แต่ในเมื่อพี่ใหญ่ไม่ยอมบอก นางก็จะไม่เค้นถาม "พี่ใหญ่อยู่ข้างนอกแบบนี้ก็ต้องระวังตัวไว้ด้วย ถ้ามีเวลาว่างก็กลับมาเยี่ยมข้าบ้างนะ ในจวนเฉิงเชี่ยงแห่งนี้ ข้าเหลือพี่ที่เป็นญาติคนเดียวของข้าแล้วจริงๆ" หลินหมื้นชิงมองตาเฉาก๊วยแล้วพูดอ้อน เวลาเห็นนางทำท่าทีอ้อยช่างดูน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน เฉาก๊วยมองแล้วยิ้มมีความสุขจนตาเป็นประกาย "ได้! ถ้ามีเวลาว่างข้าจะกลับมาเยี่ยมเจ้าแน่นอน" เฉาก๊วยตั้งสติแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน "เอาเถอะ วันนี้เจ้าออกไปเที่ยวก็คงเหนื่อยมากแล้ว ไว้พี่มีเวลาก็จะมาเยี่ยมเจ้าอีกนะ" เฉาก๊วยเห็นความเหนื่อยล้าจากใบหน้าของหลินหมื้นชิง เขาลุกขึ้นแล้วบอกลาพร้อมเดินจากไป "ไปดีมาดีนะคะพี่ใหญ่" พอเฉาก๊วยจากไป หลินหมื้นชิงก็รู้สึกโล่งอกทันที หลิวไอ้ชิวที่ถูกเฉาก๊วยห้ามไม่ให้เข้าไปในเรือนของหลินหมื้นชิงในวันนี้ รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก วันนี้นางได้ยินบ่าวในเรือนคุยกันว่าเห็นบ่าวของหลินหมื้นชิงทำตัวลับๆล่อๆ หลิวไอ้ชิวก็คิดว่าหลินหมื้นชิงต้องทำอะไรไม่ดีอยู่แน่ๆ กะจะไปดูให้รู้เรื่อง แต่ไม่นึกเลยว่าตอนที่กำลังจะก้าวเข้าเดือนของหลินหมื้นชิง ก็เจอเข้ากับพี่ใหญ่พอดี แถมพี่ใหญ่ยังห้ามไม่ให้นางเข้าไปอีกด้วย หลิวไอ้ชิวก็ไรคิดจะพาบ่าวและข้ารับใช้ในเรือนเดินไปที่เรือนของหลินหมื้นชิงอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันไรนางก็เห็นพี่ใหญ่เดินออกมาจากเรือนของหลินหมื้นชิงพอดี ตั้งแต่พี่ใหญ่กลับมาในครั้งนี้ก็ดูสนิทสนมกับหลินหมื้นชิงมากกว่าน้องสาวแท้ๆอย่างนางด้วยซ้ำ หลิวไอ้ชิวชอบพี่ชายมาตั้งแต่เด็ก แต่พี่ใหญ่กลับไม่เคยสนใจใยดีนางเลย แล้วทำไมพี่ใหญ่ถึงได้สนใจหลินหมื้นชิงนักล่ะ นั่นทำให้ไฟริษยาในใจของหลิวไอ้ชิวเดือดขึ้นมาทันที "พี่ใหญ่!" ก่อนที่เฉาก๊วยจะเดินไปไกล หลิวไอ้ชิวก็รีบเรียกเขาไว้ก่อน เฉาก๊วยหันกลับมา พอเห็นว่าเป็นหลิวไอ้ชิวเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย "น้องรองมาที่นี่ได้อย่างไร แล้วเรียกพี่มีอะไรหรือ? เฉาก๊วยมองหลิวไอ้ชิวแล้วเดินเข้าไปถามใกล้ๆ "พี่ใหญ่เพิ่งออกมาจากเรือนของหลินหมื้นชิงใช่หรือไม่?" สมองหน้าเฉาก๊วยด้วยอารมณ์โมโห "น้องรองก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือ?แล้วจะทำไม?" เฉาก๊วยตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย "พี่ใหญ่! ข้าว่าพักหลังมานี้พี่ชักจะสนิทสนมกับหลินหมื้นชิงมากไปแล้วนะ!" สีหน้าเรียบเฉยของเฉาก๊วยทำให้หลิวไอ้ชิวยิ่งรู้สึกเกลียดหลินหมื้นชิงเข้าไปใหญ่ เวลาที่คุยกับหลินหมื้นชิงเขาไม่เคยเย็นชาแบบนี้กับนางมาก่อน แต่พอคุยกับตัวเองเขากลับทำหน้าเหมือนไม่สนใจใยดีอะไรเลย "ข้าสนิทสนมกับน้องสามมันแปลกนักหรือไรกัน?" เฉาก๊วยตอบด้วยแววตารังเกียจ น้ำเสียงยังคงเรียบเฉยตามเดิม "พี่ใหญ่! เมื่อก่อนพี่ไม่เคยสนใจอะไรใครเลยแต่ครั้งนี้ที่พี่กลับมา ใยถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้? ทำไมอยู่ดีๆถึงได้สนใจหลินหมื้นชิงนักล่ะ?" หลิวไอ้ชิวคิดไม่ออกจริงๆว่าหลินหมื้นชิงมีอะไรดี ทำไมพี่ใหญ่ต้องทำดีกับนางด้วย! "ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น ข้าก็แค่อยากสนใจเหตุผลนี้พอหรือไม่?" เฉาก๊วยไม่อยากเห็นหน้าหลิวไอ้ชิวเลยแม้แต่น้อย นี่ถ้านางไม่ใช่บุตรสาวของท่านพ่อ เขาไม่คิดแม้แต่จะคุยกับเราด้วยซ้ำ "พี่ใหญ่! พี่จะลำเอียงมากไปแล้วนะ ข้าต่างหากที่เป็นน้องสาวของพี่ แต่พี่กลับสนใจคนนอกอย่างนาง ตั้งแต่เล็กจนโตพี่ไม่เคยสนใจใยดีเลยแม้แต่น้อย!" หลิวไอ้ชิวมองหน้าเฉาก๊วยด้วยความไม่พอใจ แววตาเป็นไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่ว่านางจะทำอย่างไร ทำดีแค่ไหน เฉาก๊วยก็ไม่เคยสนใจนางเลยแม้แต่น้อย แต่กับหลินหมื้นชิง นั่งใช้วิธีอะไรกัน? ทำไมพี่ใหญ่ถึงได้สนใจนางนักล่ะ? "น้องรองถ้าเจ้าไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวละข้ายังมีเรื่องที่ต้องไปทำอีกมาก" เฉาก๊วยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา เพราะไม่อยากเปลืองน้ำลายกับนางอีก พูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไป "พี่ใหญ่! ชิวเอ๋อไม่ดีตรงไหน? ทำไมพี่ไม่เคยสนใจข้าเลย? ถ้าเป็นน้องสาวแท้ๆของพี่นะ ทั้งที่พี่ก็รู้ว่าข้าไม่ชอบหลินหมื้นชิง แต่พี่กลับสนใจนางมากกว่าข้า! พี่เคยนึกถึงใจข้าบ้างหรือไหม!?" หลิวไอ้ชิวเริ่มเก็บอารมณ์น้อยใจไม่อยู่จึงตะโกนตามหลังเฉาก๊วยไป หนังไม่รู้จริงๆว่ามันเป็นเพราะอะไร ทำไมครั้งนี้ที่พี่ใหญ่กลับมา เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน นางยอมที่จะให้เขาไม่สนใจใครเหมือนแต่ก่อน ดีกว่าเห็นเขาสนใจหลินหมื้นชิงแบบนี้! 
已经是最新一章了
加载中