บทที่ 11 พรุ่งนี้ไปเซ็นต์ใบหย่ากัน   1/    
已经是第一章了
บทที่ 11 พรุ่งนี้ไปเซ็นต์ใบหย่ากัน
บ๗ที่ 11 พรุ่งนี้ไปเซ็นต์ใบหย่ากัน นภสรมองไปตามเสียงที่เรียกนทจร เธอก็หันไปเห็นปองพลที่ยืนอยู่ข้างหลังตัวเองอย่างพอดิบพอดี ในมือของเขาก็ยังถือถุงที่แสกนโลโก้แบรนด์ดังเอาไว้ด้วยอีกสองใบ ปองพลก้าวเท้าเดินเข้ามายืนข้างๆนภสร สายตาที่มองไปยังนทจรเหมือนบีดคมๆ : “คุณชายนทจรไม่ได้ที่ภรรยาผมบอกให้หุบปากเหรอครับ?” นทจรไม่เคยรู้สึกอายและอึดอัดขนาดนี้มาก่อน หันไปจ้องปองพลตาเขม็ง : “ผมคุยกัยนภสร คุณอย่ามายุ่งจะดีกว่านะครับ” ปองพลสลับมือที่ใช้ถือถุงช็อปปิ้ง แล้วเอาแขนอีกข้างโอบนภสรเอาไว้ สีหน้าเรียบเฉย สายตาคมชัด น่าดึงดูด “คุณชายนทจรเป็นคนที่รู้จักประเมิณตนเองอยู่แล้ว ภรรยาของผม ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาสั่งสอนชี้นำ” นภสรมองปองพลแวบนึง แล้วหันไปมองนทจรที่โกรธจนพูดอะไรไม่ออก เธอรู้สึกสับสน ว่าทำไมเรื่องราวถึงกลายเป็นแบบนี้ได้? เธอทะเลาะกับนทจรอยู่ไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมถึงกลายเป็นการเผชิญหน้ากันของปองพลและนทจรไปได้ซะล่ะ? เอ่อ ปองพลเป็นสามีที่ของฉันสดๆร้อนในวันนี้ นทจรคือคนที่เธอชอบ...... นภสรเองก็ไม่ค่อยเข้าใจกับความสัมพันธ์แบบนี้ แต่ในวันนี้เธอก็ได้รู้ว่า นทจรก็เหมือนกับคนอื่นๆ ที่มีอคติต่อเธอ เพียงเพราะพ่อของเธอเป็นนักโทษจำคุกนั้นเอง ภาพความทรงจำของพี่ชายแสนดีที่เอาลูกอมมาหยอกล้อเธอ บัดนี้กลับดูห่างเหินอย่างถึงที่สุด นทจรรักศักดิ์ศรี ไม่มีทางทะเลาะกับปองพลต่อหน้าสาธารณะชนแบบนี้หรอก เขาถอนให้ใจแรงก่อนเดินจากไป ก่อนไปเหมือนมีอะไรอยากจะบอกกับนภสร แต่ก็ด้วยความที่มีปองพลอยู่ข้างๆ สุดท้ายก็ทำได้แค่กลืนคำพูดแล้วเดินจากไป จนเมื่อกลับมาถึงบ้าน นภสรก็ยังไม่หยุดคิดเรื่องนี้ ตอนนี้ปองพลกลายเป็นศัตรูกับนทจรไปแล้วใช่มั้ย? แล้วนทจรจะยอมง่ายๆเหรอ? “นายรู้หรือเปล่าว่านทจรเป็นใคร?” นภสรปลอบใจตัวเอง เห็นแก่ที่ปองพลยอมแต่งงานกับเธอ เธอก็เตือนเขาหน่อยละกัน ปองพลที่กำลงจัดของอยู่ก็ถึงกับชะงัก ทำน้ำเสียงน่าเบื่อ : “เคยได้ยินบ้าง” “แต่นายก็ยังจะพูดแบบนั้นกับเขา?” “ทำไม? ปวดในจเหรอ?” ปองพลวางของในมือลง ยืดตัวตรงแล้วมองไปที่เธอ นัยน์ตาดูมืดมน นภสรแข็งทื่อไปทั้งร่าง ก่อนจะรีบหันกลับไป : “ฉันไม่รู้ว่านายพูดอะไร ฉันก็เพียงแค่จะเตือนสตินาย ครอบครับตุงคนาครค่อนข้างมีชื่อเสียงในเมืองเมฆ ถ้านทจรอยากจะเอาคืนนายล่ะก็ มันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากเลยล่ะ” “เหรอ? ฉันจะตั้งหน้าตั้งตารอเลย” เขาเอามือกอดอกด้วยท่าทีสบายๆ เหมือนไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเธอเท่าไหร่ นภสรไม่ได้ยินน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความกลัวจากเขาเลย หันไปมองเขาอย่างสงสัย : “นายไม่กลัวเขามาแก้แค้นนายเหรอ?” “ฉันสามารถเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ได้เลยว่าเธอกำลังเป็นห่วงฉันอยู่” ปองพลเลิกคิ้มแล้วอมยิ้ม เป็นภาพที่ดูงดงามเกินบรรยาย นภสรทำหน้าบึ้ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “ฉันยุ่งเรื่องนายเยอะไปเองแหละ!” จากนั้น ก็หันหลังไปจัดของต่อ นภสรนำรองเท้าสลีปเปอร์ที่ซื้อมาใหม่ไปวางไว้หน้าประตูทางเข้า ก่อนจะเดินไปช่วยปองพลจัดของที่ซื้อมาใหม่ นอกจากของใช้ในชีวิตประจำวัน และของกิน นอกนั้นส่วนใหญ่ก็เป็นของของปองพล รองเท้า เข็มกลัดเน็กไทด์...และเสื้อเชิ๊ตสีขาว! นภสรสายตาแพรวพราว : “นายซื้อเชิ๊ตขาวมาสองตัวเลยเหรอ?” “อื้ม” ปองพลตอบกลับเบาๆ พร้อมกับจัดของต่อ ในตอนแรก ที่รีบแต่งงานกับปองพลปุบปับแบบนี้ก็เพราะจะรับมือกับคุณปู่ เธอเพียงแค่ต้องการหนังสือสมรสที่เรียบง่ายและสะอาดก็เท่านั้น ไม่ได้อยากมีความสัมพันธ์หรือยุ่งเกี่ยวอะไรกับเขามากมาย ยิ่งไม่อยากให้เขาต้องมาตกระกำลำบากจากนทจรก็เพราะตัวเธอ มันจะทำเธอรู้สึกว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณเธอ เมื่อคิดอยู่ครู่นึง นภสรก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา : “พรุ่งนี้เราไปทำเรื่องขอหย่ากัน ฉันที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคุณนายสองบ้านไชยกาล แต่กลับไม่มีอะไรเลย ช่วยอะไรนายไม่ได้ นายต้องกลายเป็นศัตรูกับนทจรก็เพราะฉัน ถ้าเราหย่ากันแล้วนายก็ออกจากเมืองเมฆนี้ไปเถอะ ถ้าไม่ได้อยู่ในเมืองเมฆแล้ว นทจรจะไปหาเรื่องนายก็คงเป็นเรื่องยากแล้วล่ะ” ทุกอย่างในห้องเงียบลงในทันที เงียบจนแทบได้ยินเสียงลมที่พัดผ่านอยู่ในห้อง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอปองพลที่ club beautiful night จนถึงตอนนี้ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ส่งผ่านออกมาผ่านตัวของปองพล —— ความรู้สึกโกรธ
已经是最新一章了
加载中