ตอนที่29 เลือดเย็นกับตัวเองได้ขนาดนี้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่29 เลือดเย็นกับตัวเองได้ขนาดนี้
ต๭นที่29 เลือดเย็นกับตัวเองได้ขนาดนี้ นภสรอยากจะกรีดร้องออกมาในใจ ธนวรรธมองเห็นเธอแล้ว ตอนนี้เธอเลยไปหาพิมลแขไม่ได้แล้ว เพราะก็เกรงว่าเขาและเธอจะมีปัญหากัน ธนวรรษมองมายังเธอ สายตาส่อแววสนุกสนาน จากนั้นก็หันไปหาคนข้างๆพูดอะไรบางอย่าง นภสรถือแก้วไวน์จากโต๊ะก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะปะปนกับคนในบาร์ ดีที่ที่นั่งของเธอใกล้กับประตูพอดี เธอแทบจะรอไม่ไหวที่จะออกจากบาร์นี้ เห็นตรงประตูทางเข้ามีแท็กซี่อยู่คันนึง ที่กำลังเตรียมจะออก ก็ได้ยินเสียงคนดังมาจากด้านหลัง “อยู่ตรงนั้น!” พิมลแขมีรายได้ระดับปานกลางทั่วๆไป อีกทั้งบาร์ที่เมืองเมฆก็ไม่นับว่ามีมากนักนั่นทำให้ต้องมาเจอกับธนวรรธ จะบังเอิญอะไรขนาดนี้ก็ไม่รู้ คนขับแท็กซี่พวกนั้นก็สายตาคมไม่ใช่น้อย เมื่อเห็นว่าคนข้างหลังตรงดิ่งมาหานภสร พวกเขาทั้งหมดก็ไม่กล้าจะรับเธอขึ้นรถ ทั้งยังรีบขับออกไปแม้ว่าจะว่างจากผู้โดยสารก็ตาม นภสรหมดหนทางจนปัญญา ทำได้เพียงวิ่งไปให้กลมกลืนกับคนหมู่มาก แต่ก็สายไปเสียแล้ว ชายหนุ่มเจ็ดแปดคนล้อมเธอเอาไว้อยู่ตรงกึ่งกลาง นั่นทำให้นภสรขยับตัวลำบากทีเดียว ธนวรรธเดินตรงมาหาเธอ ชายหนุ่มที่ล้อมเธอไว้ก็แยกออกเป็นทางให้เขา ธนวรรธยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย “คุณหนูรองบ้านไชยกาล ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” นภสรถอยอย่างระมัดระวัง จนกระทั่งหลังชนกับผนัง “ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ สมองเสื่อมรึเปล่า” “ฮ่าๆๆ” พอได้ยินแบบนั้นเข้าใบหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ ยกมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าของเธอ แต่เธอก็หลบได้ ธนวรรธเปลี่ยนสีหน้าจนยิ่งดูไม่ได้เข้าไปใหญ่ หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “อารมณ์ร้อนจริงๆเลยคุณหนูรอง แต่แบบนี้ ผมยิ่งชอบ” “ถ้างั้นก็แย่หน่อย เพราะฉันไม่ได้ชอบคุณ” ไม่ใช่แค่พูดว่าไม่ชอบ แต่พอเห็นหน้าแล้วเธอก็รู้สึกขยะแขยง มีแสงแห่งความประหลาดใจแวบเข้าไปในตาของธนวรรธ “ผู้หญิงก็แบบนี้ ปากไม่ตรงกับใจ พออยู่บนเตียงเข้าหน่อย เดี๋ยวก็บอกว่าชอบเอง” นภสรบีบแก้วไวน์ในมือ ไม่ได้พูดอะไร เธอพยายามรวบรวมสติ และหาทางหนีอย่างระมัดระวัง ธนวรรธเต็มไปด้วยความดูถูกและดูหมิ่น เขาเชยคางของเธอขึ้น ก่อนจะหัวเราะอย่างน่ากลัว “พาตัวกลับไป” “ใครกล้าเข้ามานะ!” นภสรยกแก้วไวน์ขึ้นมาอย่างรุนแรง จริงๆเธอตื่นตระหนกจนเหงื่อออกเต็มไปหมด แต่ก็ทำได้แค่ยังจับแก้วไวน์ไว้ในมือ ลูกน้องของธนวรรธคอยเป็นมือเป็นเท้าให้แก่เขาตลอด เขาคอยบังคับจับตัวหญิงสาวตระกูลสูงมาก็ไม่ใช่น้อยๆ แต่หญิงเหล่านั้นถ้าไม่อ้อนวอนร้องไห้ขอร้องเขาก็จะเต็มใจไปปรนนิบัติเพื่อให้ธนวรรธพอใจ... เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่เจอผู้หญิงสาวที่ไม่ร้องไห้แถมยังไม่กลัวด้วย เธอยกแก้วไวน์ชี้มาทางพวกเขา ในตอนนั้นไม่มีใครกล้าขยับตัว ธนวรรธเห็นท่าทีพวกเขาเป็นแบบนี้ ก็โกรธหน้าดำหน้าแดง คำรามขึ้นเสียงดัง “ตกใจอะไรกัน พาเธอกลับไปให้ฉัน!” นภสรลอบกลืนน้ำลาย พูดเสียงแหบแห้ง “ใครกล้าเข้ามาฉันเป็นหลานสาวคนที่สองของบ้านไชยกาลนะ ปู่ของฉันคือธมกร” ธนวรรธได้ยินเข้า มันเป็นเรื่องเดียวกับที่เคยได้ยินทั่วๆไป เขาก็ระเบิดหัวเราะขึ้น ตนรอบข้างเขาเองก็หัวเราะตามขึ้นมาด้วย “ได้ยินมั้ย เธอบอกว่าเป็นหลานสาวคนที่สองของบ้านไชยกาลนะเว้ย นั่นก็คือคนที่สมัยมัธยมมีเพศสัมพันธ์จนต้องไปเอาเด็กออก เดี๋ยวพอฉันเล่นสนุกด้วยเสร็จ พวกแกคนไหนชอบใจก็เอาไปเล่นต่อได้เลย….” พอได้ยินที่ธนวรรธพูดขึ้น นภสรก็รู้สึกอยากจะอ้วกขึ้นมา แม้ว่าที่เขาพูดมันจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ตาม แต่นั่นมันก็ทำให้เธอระคายหูไม่น้อยทีเดียว ไม่มีเด็กสาวอายุน้อยคนไหนอยากจะเสื่อมเสียชื่อเสียง ทำให้คนรู้สึกเหมือนว่าใครก็เป็นสามีของเธอได้ ทั้งหมดนี้เกิดจากนรมนคนเดียวเลย” ทันใดนั้น โทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอก็ดังขึ้น นภสรหยุดชะงัก คนที่โทรมานั่นก็คือพิมลแข ซึ่งเธอก็ไม่กล้ารับสาย แล้วก็ไม่กล้าจะขยับด้วย ธนวรรธตบหัวชายที่อยู่ใกล้ๆดัง ‘ป้าป’ “จับคนมัดไว้แล้วไปไว้ที่รถให้ฉัน แล้วเอาโทรศัพท์ออกมาด้วย” ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปหานภสร ยกมือขึ้นเพื่อที่จะดึงแขนของเธอ นภสรกำแก้วไวน์ในมือของเธอแน่นก่อนจะฟาดลงบนหัวของตัวเองทันที เลือดสีแดงสดไหลออกมาทันที ใบหน้าของเธอส่องแสงในแสงไฟสลัวๆ ค่อยๆถูกปกคลุมไปด้วยเลือดสีเข้มเต็มไปหมด ทุกคนตกใจโดยการกระทำอย่างฉับพลันของนภสร รอยยิ้มของธนวรรธชะงักค้างเติ่ง เขาไม่เคยคิดเลยว่านภสรจจะเลือดเย็นกับตัวเองได้ขนาดนี้ สี่ปีที่ผ่านมาเขาได้ยินเกี่ยวกับนภสรซึ่งเป็นเด็กมัธยมที่มีเพศสัมพันธ์และทำแท้งจากนั้นเขาก็มีโอกาสได้พบเธอครั้งนึง เธอสวยมากจนทำให้เขาสนใจในตัวเธอ แต่สุดท้ายเธอก็ไปต่างประเทศ เขายังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ “ธนวรรธ คุณคิดว่าถ้าวันนี้ฉันจบชีวิตลงที่นี่ ปู่ฉันจะว่ายังไง?” นภสรพูดอย่างไม่แยแส มีชิ้นส่วนของแก้วแตกในหัวของเธอ ถ้าพวกเขากล้าแตะต้องเธออีก เธอก็คงจะตายที่นี่จริงๆ “เธอ...” ใบหน้าของธนวรรธเปลี่ยนสีไป มองเธออย่างโหดเหี้ยม หายใจเฮือก เตะคนหนึ่งอยู่ข้างหลังเขา บนร่างกาย เตะคนของเขากรีดร้อง “ไอ้พวกเศษสวะ!” ธนวรรธหายใจหอบอย่างรุนแรง เต็มไปด้วยความโกรธภายใน ถึงแม้ว่าจะรู้ว่านภสรไม่ได้รับการต้อนรับจากบ้านไชยกาล แต่หากว่านภสรมาตายลงจริงๆ ธมกรก็คงจะไม่ปล่อยให้เขาไปแน่ๆ เมื่อเห็นว่าธนวรรธระบายความโกรธของเขาแบบนั้นแล้ว เธอก็รู้เลยว่า วันนี้เขาจะไม่ทำอะไรเธออย่างแน่นอน เธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ หัวของเธอชาและเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ลมกลางคืนพัดมา ก็หนาวไปจนสุดขั้วหัวใจ ร่างทั้งร่างบิดไปด้วยความมึนงง เธอมองเห็นผู้คนที่อยู่ตรงหน้าตอนเป็นภาพซ้อนภาพเบลอไปหมด ถ้าหากว่าธนวรรธยังไม่ไปอีก เธอก็จะเป็นลมอยู่ที่นี่แล้ว ยังดี ที่ธนวรรธกับพวกรีบหนีหายไป เธอตัวโยนไป ก่อนจะคว้าได้ผนังข้างหนึ่งเพื่อประคองร่าง สะบัดหัวไปมา เธอต้องไปโรงพยาบาลก่อน เธอฟุบหมอบลง หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า เห็นสายที่ไม่ได้รับโทรศัพท์ เวลาพักหนึ่งกว่าจะพบว่ามันคือชื่อของธมกร เธอกดโทรออกไป เมื่อสายติดก็ได้ยินเสียงธมกรออกมาก่อน “ไปที่ไหนอีกแล้ว ทำไมไม่รับโทรศัพท์!” จริงๆแล้วธมกรโทรมาหาเธอหนึ่งสาย แต่เป็นเพราะธนวรรธทำให้เธอรับสายเขาไม่ได้ แต่บางครั้งก็คือไม่ได้ยินก็เลยไม่ได้รับ แต่ว่า ไม่ว่าเรื่องอะไรเล็กน้อยแค่ไหน ธมกรก็เอาแต่ว่าเธอ หลังจากนั้นธมกรจะพูดอะไร เธอก็ฟังไม่ได้ความ เธอไม่ได้พูดอะไรไป เหมือนธมกรก็ไม่ได้สนใจที่เธอไม่พูดอะไร เขาเพียงจะพูดถึงสิ่งที่เป็นจุดประสงค์หลักของเขา “พรุ่งนี้เย็นมีงานเลี้ยงตระกูล จะมาไม่มา ตู๊ดๆๆๆ” สายถูกตัดไปแล้ว เธอถือมันอย่างหลวมๆ ทำให้โทรศัพท์หล่นลงกับพื้น เธอหยิบมันกลับขึ้นมาใหม่และส่งข้อความให้กับพิมลแข เธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอยิ่งหนาวขึ้นเรื่อยๆ ในชั่วพริบตาเดียว ก็เหมือนว่าเธอจะเห็นปองพล เธอเอื้อมมือไปคว้ามัน แต่ไม่มีอะไรเลย ความผิดหวังแวบเข้ามาในดวงตาของเธอ ใช่มันเป็นภาพหลอน ทำไมฉันต้องคิดถึงเขาด้วยนะ บางทีอาจเป็นเพราะหลังจากเก้าขวบไปแล้วคนที่ดีที่สุดของชีวิตเธอคือปองพลหล่ะมั้ง แม้ว่าเขาจะชอบแกล้งเธอ แต่ก็ยังยอมที่จะแต่งงานกับเธอ ทำอาหารให้เธอกิน ทนกับอารมณ์ที่ไม่ดีของเธอ ทั้งยังเป่าผมให้เธอ…..
已经是最新一章了
加载中