ตอนที่ 43 คลานเข้ามาขอร้องฉันด้วยตัวเอง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 43 คลานเข้ามาขอร้องฉันด้วยตัวเอง
ต๭นที่ 43 คลานเข้ามาขอร้องฉันด้วยตัวเอง ธนวรรธแกะแค่ผ้าปิดหน้ากับดึงเทปกาวออกจากปากออก เขาเหมือนกับกลัวว่าเธอจะหนี มือกับเท้าจึงยังถูกมัดไว้อยู่ ตอนนี้นภสรดูเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เมื่อเห็นท่าทางธนวรรธพร้อมจะจู่โจมเข้ามาเธอจึงไม่กล้าพูดอะไรออกมาพล่อยๆ “ฉันเป็นคนที่ดูแลเอาใจใส่ผู้หญิงมาโดยตลอด ถ้าเธอเชื่อฟังฉัน ฉันจะให้คนมาแก้มัดเธอให้เธอสบายตัวกว่านี้” ธนวรรธทั้งพูดไปด้วยแล้วเดินเข้ามาหาเธอไปด้วย เมื่อพูดจบทันใดนั้นจึงผลักเธอลงบนเตียง ทันใดนั้นดวงตาของนภสรหรี่ลงมีท่าทางระวังภัย จ้องไปที่ธนวรรธไม่ให้คลาดสายตาตอนที่เธอหายพยายามไม่ให้มีเสียงลมหายใจ “จุ๊ๆ สายตาแบบนี้คืออะไรเธอคิดว่าตอนนี้เธอจะหนีไปได้พ้นหรือ หรือว่า....” ธนวรรธพูดด้วยพร้อมกับเอามือไล้ไปที่ใบหน้าของนภสร “เธอรอคอยให้สามีที่ไม่ได้เรื่องของเธอมาช่วยเธอหรือไง” ถูกธนวรรธสัมผัสตัว นภสรรู้สึกขยะแขยงราวกับว่าถูกปลิงชอนไชเข้าไปในตัวมิปาน เงยหน้าขึ้นเสียงเรียบเย็น “ไสหัวไปให้พ้น” “เชอะ พูดจาดีๆไม่ยอมฟัง”ธนวรรธยิ้มท่าทางดูโหดเหี้ยมลุกขึ้นยืนเดินไปข้างหลังยื่นมือออกไป “เอาของมา” “รับทราบครับ” ลูกน้องของธนวรรธรีบไปเอาขวดยามาส่งให้ ธนวรรธรับขวดยามามุมปากคลุมไปด้วยรอยยิ้มเย็นค่อยบิดฝาขวดเปิดออก ขวดยาไม่ใหญ่มาก นภสรสามารถมองเห็นข้างในได้ว่ามีของเหลวอยู่ในนั้นไม่ต้องคิดก็รู้ในทันทีว่ามันต้องไม่ใช่ของดีอะไร “น้ำอะไร” นภสรกระถดถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว สายตาจับตามองที่มือของธนวรรธไว้ ธนวรรธไม่สนใจนภสร เขาคำรามในลำคอ “ยืนเซ่ออยู่ทำไม ไปล็อคตัวเธอไว้ให้อยู่นิ่งๆ” ลูกน้องสองสามคนที่อยู่ไปในห้องรีบวิ่งเข้าไปล็อคตัวนภสรไว้ ธนวรรธค่อยๆขยับขวดเข้าไปใกล้ๆนภสร ที่จริงนภสรรูปร่างดูเล็กบางอยู่แล้ว ทั้งถูกผู้ชายสองสามคนล็อคตัวไว้แบบนี้ทำให้ไม่เหลือหนทางใดๆให้ต่อสู้เลย ทำได้แค่มองธนวรรธเอาขวดยาเข้ามาใกล้ปากเธอหลังจากนั้นนำยาเทลงเข้าไปในปากเธอตามอำเภอใจ นภสรถูกบังคับให้ดื่มยา เธอทั้งขัดขืนดิ้นรน “ธนวรรธนายมันเลวทรามต่ำช้า ไร้ยางอาย” “ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ธนวรรธจัดการไม่ได้” ธนวรรธยิ้มเยียบเย็น โยนขวดเปล่าในมือทิ้งไป หลังจากนั้นจึงโบกมือพวกลูกน้องเห็นจึงรู้ตัวแล้วออกจากห้องไปทันที ภายในห้องจึงเหลือแค่ธนวรรธกับนภสรสองคน ธนวรรธนั้นรู้สึกพอใจที่เห็นใบหน้าของนภสรตื่นตระหนกหวาดกลัว นภสรคำรามใส่ธนวรรธ “แกอย่าเข้ามานะ” เหงื่อที่หน้าผากของนภสรผุดออกมามากขึ้นเรื่อยๆตัวของเธอกลับค่อยๆร้อนขึ้นและไม่มีแรง ความรู้สึกแบบนี้เธอไม่รู้สึกแปลกใจ เมื่อตอนที่เธอพึ่งกลับมาจากต่างประเทศเธอได้ถูกธนวรรธกับนรมนวางแผนร่วมมือกันวางยาเธอ ครั้งนั้นเธอรักษาตัวไว้ไม่ได้จึงมีอะไรกันกับปองพล แล้วอย่างนั้น ครั้งนี้ล่ะ ไม่มีปองพลแล้ว แต่ว่า เธอไม่ยอม ภายในดวงตาของธนวรรธเกิดประกายเงาความชั่วร้าย คาดไม่ถึงว่าเขาไม่เข้ามาใกล้นภสรอีกแต่กลับไปนั่งที่เก้าอี้โซฟาเดี่ยวอีกด้าน สมาธิแน่วแน่มองไปที่เธอ สายตาดูถูกแบบนั้นเหมือนกับเธอเป็นมดตัวหนึ่งที่อยู่ในกำมือเขา เขาจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด “ฉันไม่เข้าไป ก็เพราะว่าเธอจะต้องคลานเข้ามาขอร้องฉันเองแน่นอน” ธนวรรธพูดจบแล้วยิ้มอย่างเบิกบานใจ ลุกขึ้นยืนเดินไปที่ชั้นวางเหล้าเอาไวน์ออกมารินใส่แก้วหนึ่งใบยกมาที่เก้าอี้โซฟาด้านหน้าเตียงนอนค่อยๆละเลียดดื่ม นภสรนอนอยู่บนเตียงสีหน้าแดงขึ้นครรลองสายตาเริ่มมองไม่ชัดเหมือนกับมีฝนในฤดูใบไม้ร่วงรอคอยอะไรบางอย่างอย่างไม่มีเหตุผล ก้นบึ้งหัวใจของเธอมีอาการชาเหมือนกับโดนมดจำนวนไม่ถ้วนกัด จนเธออยากจะโดนสัมผัสบีบรัดแรงๆ นภสร ต้องมีสติ สติยิ่งดูเลือนรางขึ้นเรื่อยๆเธอกัดปากตัวเองเพื่อให้มีสติเพิ่มขึ้นในตัวเธอร้อนเหมือนมีไฟสุม ธนวรรธมองเห็นเวลาเหมาะและยาน่าจะเริ่มออกฤทธิ์ได้ที่ จึงแก้มัดที่มือและขาของเธอ มือของเขาเหมือนจงใจและไม่จงใจสัมผัสถูกผิวของเธอ ในใจของเธอรู้สึกสะอิดสะเอียนมากแต่ว่าร่างกายของเธอกลับสบายอย่างแปลกประหลาดอยากเข้าไปใกล้ เมื่อมือทั้งสองข้างได้รับอิสระแล้วจึงยื่นออกไปทางธนวรรธโดยไม่รู้ตัว พอเห็นรอยยิ้มพึงพอใจของธนวรรธเธอจึงมีสติขึ้นมาทันทีแล้วหดมือเข้ามา นภสรตกใจในท่าทางการกระทำที่ตัวเองทำลงไปรีบหดตัวเข้าไปอยู่ในมุมนึงของเตียงนอน หอบหายใจรุนแรงจับตาจ้องมองไปที่ธนวรรธ “มาดูกันว่าเธอจะทนได้นานแค่ไหน” ธนวรรธพูดเยาะเย้ยออกมา ธนวรรธลูบบนใบหน้านภสรอย่างแรงแล้วกลับไปนั่งที่เดิม ดูนภสรกำลังต่อสู้ขัดขืนกับตัวเองรอให้เธอคลานเข้ามาขอร้องเขา …… ภายในห้องวีไอพี หลังจากที่นภสรพุ่งพรวดเข้ามาก็ทำให้ทุกอย่างเงียบสงบอย่างน่ากลัว สีหน้าของปองพลยิ่งทำให้คนในห้องกลัวมากกว่าเดิม เขานั่งอยู่ที่นั่นไม่พูดอะไร ภายในดวงตาดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ พงศกรกับโยธินมองสบตากันแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปคุยกับปองพล สุดท้ายก็เป็นโยธินที่เดินเอานาฬิกาของนภสรที่ลืมไว้เอาไปให้ปองพล “นี่เป็นนาฬิกาที่นภสร คุณ....” หยุดนิ่งไป โยธินรู้สึกว่าเป็นโอกาสอันดีจึงพูดขึ้น “เอาไปให้เธอที่บ้านสิ” ภารกิจเกือบจะสำเร็จ “ครั้งหน้าที่เจอเธอ คุณค่อยให้เธอแล้วกัน” ถ้าเขาพูดแบบนี้จริงๆไม่แน่ว่าเขาอาจถูกปองพลโยนออกไป ปองพลรับนาฬิกามา หรี่ตาจ้องมองอยู่สองสามวินาทีนาฬิกาแบรนด์เนมแต่ว่าดูเก่าแล้วเพียงแค่ดูแลรักษาเป็นอย่างดีให้มองออกว่าเธอรักทะนุถนอมนาฬิกาเรือนนี้มาก ณ เวลานี้ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของปองพลก็ดังขึ้นมา เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วชะงักไป เบอร์มือถือนี้มีคนที่รู้จักแค่สามคน คือพงศกร โยธินซึ่งทั้งสองคนก็อยู่ที่นี่ด้วย อีกคนหนึ่งที่จะโทรมาหาเขาได้คือนภสรคนที่วิ่งออกไปเมื่อสักครู่ ดวงตาเกิดประกายสว่างวาบขึ้นมาเมื่อเขาเอาโทรศัพท์ออกมาเสียงโทรศัพท์ดันตัดไปแล้ว สายตาของปองพลเข้มขึ้นทันที ไม่ใช่สิ นภสรพึ่งจะหุนหันวิ่งออกไปใบหน้าท่าทางแบบนั้นเหมือนโกรธเขามากที่สุด ถึงแม้จะโทรมาแล้วจู่ๆก็วางสายไปแบบนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ จะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ มือของเขาเร็วกว่าสมองกว่าอีกพอคิดถึงตรงนี้จึงกดเบอร์โทรกลับไป แต่ว่าในโทรศัพท์มีเพียงแค่เสียงผู้หญิงราบเรียบ “ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้” ใบหน้าของปองพลเคร่งเครียดขึ้นกำโทรศัพท์แน่นสั่งงานพงศกรที่อยู่ด้านข้าง “เอากล้องวงจรปิดที่อยู่หน้าประตู club beautiful nightภายในครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้มาให้ฉันดูเดี๋ยวนี้แล้วส่งคนไปดูที่อพาร์ทเม้นของนภสรดูว่าเธออยู่บ้านหรือเปล่า” ด้วยความรวดเร็วก็มีคนนำเทปวงจรปิดมาให้ปองพลดู พงศกรกลับมา “คุณนภสรไม่ได้กลับบ้านครับ” “ตรวจสอบคนขับรถคันนี้” สายตาปองพลหรี่มองภาพข้างบนนภสรนั่งอยู่บนรถแท็กซี่คันนั้น โยธินหันหน้ามาถามปองพล “ความหมายของคุณคือนภสรอาจเกิดเรื่องระหว่างทางหรือครับ” “ไม่ใช่อาจจะ แต่มันคือเกิดเรื่องจริงๆ” สายตาของปองพลบนมองนิ่งที่หน้าจอด้านบนปรากฏให้เห็นภาพนภสรนั่งอยู่บนรถแท็กซี่คันนั้น 
已经是最新一章了
加载中