ตอนที่ 45 ตอบแทนบุญคุณด้วยลูกหลานเป็นล้านๆคน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 45 ตอบแทนบุญคุณด้วยลูกหลานเป็นล้านๆคน
ต๭นที่ 45 ตอบแทนบุญคุณด้วยลูกหลานเป็นล้านๆ คน ตอนที่นภสรตื่นขึ้นมารู้สึกปวดเมื่อยและแขนขาอ่อนปวกเปียกไม่มีเรี่ยวแรง แค่ขยับคอยังรู้สึกเหนื่อยจนไม่ไหว ที่ข้อมือข้างขวารู้สึกเย็นๆหันหัวไปดูจึงเห็นว่าเธอกำลังถูกเจาะสายให้น้ำเกลือ เธอขยับมือ ใช้ฝ่ามือจับที่ผ้าปูที่นอนบนเตียงอยากจะลุงขึ้นแต่พบว่าไม่มีแรงออกมาเลยสักนิด เปิดเปลือกตาขึ้น เธอจำได้ว่าเธอออกมาจาก club beautiful nightแล้วขึ้นรถแท็กซี่ ภายในห้องเพรสซิเด้นท์ ธนวรรธ เสียงปืน ฉากเหตุการณ์แต่ละฉากปรากฏขึ้นมาในหัวความทรงจำชัดเจนขึ้นจนครบถ้วน ประตูถูกเปิดออกเงียบๆมีคนเดินเข้ามา “ตื่นแล้วหรือ” เสียงแจ่มใสเหมือนน้ำไหลดังขึ้นภายในห้องน่าฟังอย่างมาก เห็นเธอไม่พูดไม่ขยับปองพลจึงก้าวยาวๆเข้ามาหา คิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อยริมฝีปากบิดเป็นเส้นเรียบตรง “ไม่สบายตัวตรงไหนหรือเปล่า” นภสรพยายามเฟ้นคำพูดออก “ไม่สบายทุกตรง” พูดจบเธอจึงชายตามองปองพลแล้วหันมาหลบสายตา ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ายังไงกับปองพล “เกลียดเขา ซาบซึ้งขอบคุณเขา” เขาเป็นผู้มีพระคุณกับเธอและก็เป็นคนที่หลอกลวงเธอด้วย ปองพลเห็นนภสรไม่พูดอะไรแล้วยังหลบสายตาจึงขมวดคิ้วเดินออกไป ได้ยินเสียงปิดประตูเบาๆ นภสรสอนจึงผ่อนลมหายใจออก แต่ว่าออกไม่ไปไม่กี่นาทีก็มีหมอสองสามคนเดินเข้ามาในห้องของเธอ เสียงของปองพลจึงดังขึ้นมาอีกครั้ง “ตรวจร่างกายให้เธออย่างละเอียดทุกส่วน ถ้าพวกคุณไม่สามารถบอกได้ว่าเธอเจ็บตรงไหนอีกพวกคุณก็ไม่ต้องเป็นหมอแล้ว” ต่อมานภสรจึงถูกเคลื่อนย้ายไปตรวจตามแผนกต่างๆ ถูกทรมานรอบนี้คาดไม่ถึงว่าอารมณ์แปลกประหลาดของเธอดูเหมือนจะดีขึ้นมาบ้าง ปองพลดูแล้วอารมณ์ของนภสรดีขึ้นมาก สีหน้าจึงผ่อนคลายลงแล้วก็ดูเห็นอกเห็นใจยอมปล่อยหมอออกไป นภสรพิงที่หัวเตียงลูบๆใบหน้าของตัวเองเสียงเบาๆ “กี่โมงแล้ว” “คุณหลับไปหนึ่งวันหนึ่งคืน” ปองพลเดินเข้ามานำของไปวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง นภสรหันไปดูเห็นเป็นกาน้ำเก็บความร้อน ปองพลพูดตามสบายเรื่อยๆเธอไม่ได้พูดถึงเรื่องอื่นๆเขาก็ไม่พูดถึง เปิดกาน้ำเก็บความร้อนอย่างไม่รีบร้อนข้างในมีกลิ่นหอมโจ๊กไก่ลอยออกมา พอนภสรได้กลิ่นหอมถึงพึ่งรู้ตัวว่าตัวเองก็เริ่มหิวเล็กน้อย ปองพลตักโจ๊กออกมาใช้ช้อนตักเตรียมป้อนนภสร “กินอะไรสักหน่อยนะ” “ขอบคุณ” ฉันกินเองได้ นภสรหลุบตาลงเล็กน้อย ไม่ได้มองหน้าปองพลตรงๆ เมื่อปองพลได้ยิน สีหน้าเขาขรึมขึ้นแต่ยังส่งถ้วยไปให้เธอแล้วหมุนตัวเดินออกไป …… นภสรอยู่โรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ ส่วนปองพลนั้นไม่ได้มาหาเธอเลยมีแค่พยาบาลที่คอยดูแลเธออยู่ตลอด มีพงศกรกับโยธินมาหาบ้าง แต่เธอยังมีท่าทีไม่พอใจต่อพวกเขาอยู่ รวมหัวกันโกหกเธอ ยืนหัวเราะเยาะเธออยู่ข้างๆ ทำไมเธอต้องไว้หน้าพวกเขาด้วย เธอเป็นหนี้พวกเขาหรือ จะเป็นหนี้ก็เป็นหนี้แค่ปองพล จนกระทั่งวันที่ออกจากโรงพยาบาลเธอถึงได้เจอปองพลอีกครั้ง นภสรเดินออกมาจากโรงพยาบาลถึงพึ่งเห็นว่าโรงพยาบาลที่เธออยู่คือโรงพยาบาลที่อยู่ระดับชั้นหนึ่งของเมืองเมฆ พักหนึ่งวันจ่ายเงินเป็นหมื่นหยวนยังไม่พอ ปองพลพิงอยู่ที่รถเสื้อดำกางเกงดำ ทำให้รูปร่างของเขายิ่งดูสูงตรงเขายืนอยู่ตรงนั้นไม่พูดไม่จาไม่ขยับตัวสามารถทำให้คนรู้สึกถึงความสูงศักดิ์สง่างามที่เปล่งออกมา “ช่วงนี้ยุ่งนิดหน่อยจึงทำให้ไม่ได้มาหาคุณเลย” ปองพลเดินเข้ามาใกล้ยื่นมือออกไปช่วยจัดผมให้นภสร นภสรเอียงตัวหลบ บนใบหน้าไม่มีปรากฏอารมณ์ใดๆพูดเย็นชาสวนกลับมา “ค่ารักษาพยาบาลฉันจะโอนให้คุณเอง ต่อไปนี้ถ้าต้องการฉันหรือมีเรื่องอะไรที่ฉันช่วยได้ ฉันจะทดแทนบุญคุณแน่นอน” มือของปองพลค้างอยู่บนอากาศดวงตาสีดำหรี่ลงแล้วหดมือกลับไปพูดซ้ำที่นภสรพูด “ทดแทนบุญคุณ” “ใช่” นภสรพยักหน้าใบหน้าซีดเผือดดูห่างเหิน ทันใดนั้นปองพลยิ้มน้อยๆขยับเข้าไปข้างหูของนภสร “ถ้าผมอยากมีลูกหลานเป็นล้านๆคน คุณจะตอบแทนอย่างไร” นภสรสงสัยเงยหน้าขึ้นมามองปองพล ในสายตาของเขามันสื่อออกมาทะลุปรุโปร่งชัดเจนว่าหมายความว่าอะไร ใบหน้าที่ซีดเผือดของนภสรจึงปรากฏริ้วสีแดงขึ้น ทำปากเหมือนจะพูดแต่ไม่ได้พูดออกมา “พูดสิ ตอบแทนยังไง” ยังจะยิ้มอีก นภสรเตะที่เท้าของเขาแล้ววิ่งหนีออกมาพอดีกับที่ด้านหน้าเป็นป้ายรถเมล์เธอวิ่งแค่ไม่กี่ก้าวก็กระโดดขึ้นรถเมล์ไป เหลือไว้แค่ปองพลที่งอขาที่ถูกเตะขึ้นอยู่ที่เดิมสายตายากจะอธิบายความรู้สึกได้ พงศกรดูลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยังเดินขึ้นมาด้านหน้า “ท่านประธาน เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ปองพลเหลือบตามองพงศกร “ถ้ายังมากเรื่องแบบหนีก็กลับอเมริกาไปซะ” “ครับ” อารมณ์ของท่านประธานนับวันยิ่งไม่ดีขึ้นเรื่อยๆทั้งๆที่คุณผู้หญิงทำให้ท่านโกรธแต่กลับมาลงที่เขา …… รถประจำทางขับช้ามาก มากจนสามารถเห็นวิวที่อยู่นอกหน้าต่างได้ แต่ความคิดของนภสรกำลังสับสนวุ่นวาย รถประจำทางจอดที่ป้ายรถเมล์ ตรงข้ามเป็นบริษัทรับตกแต่งพอดี เธอเดินตามคนที่กำลังลงจากรถ เดินไปทางประตูร้าน น้ำเสียงเย็นชาประหลาด “เปลี่ยนประตูให้ฉันด้วยค่ะ” พนักงานขายถามนภสรอย่างใจเย็น “ขอโทษนะคะต้องการประตูแบบไหน คุณว่างเมื่อไหร่ พวกเรา....” ”ต้องการประตูที่มีความแข็งแรงทนทานแน่นหนา เปลี่ยนตอนนี้เลย นภสรพูดเสียงเย็นๆแทรกขึ้นมา” สายตากำลังเหมือนแผ่รังสีความหนาวเย็นออกมา พนักงานรู้สึกลำบากใจ “ขอโทษนะคะ ช่างซ่อมของทางเรา....” นภสรล้วงเอาการ์ดใบหนึ่งออกมาวางที่บนเคาน์เตอร์ “ให้ราคาสิบเท่า” เรื่องนี้ต้องขอบคุณปองพลที่ช่วยเธอตามเอากระเป๋าเงินคืนมา แต่ว่า เขาหน้าด้านขนาดนั้นเธอจะต้องเปลี่ยนประตูใหม่ถึงจะสบายใจ คนหลอกลวงที่หน้าด้าน …… นภสรยืนที่ทางเข้าและเฝ้าดูคนงานเปลี่ยนกรอบประตู ”ปัง ปัง” เสียงดังสะท้อนตามทางเดิน เพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้ามเปิดประตูออกมาอย่างโมโห “มาเปลี่ยนประตูอะไรเช้าขนาดนี้” นภสรยืนกอดอกทำหน้าเย็นชาพูดเสียงเรียบๆแต่เยือกเย็น “ตอนนี้คุณปิดประตูไปจะดีที่สุด มิฉะนั้นวันนี้ฉันจะเปิดประตูแล้วเปิดเพลงบรรเลงงานศพ” “เธอ....” เพื่อนบ้านจ้องตาถลนออกมาเหมือนกับคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงสวยคนนี้จะไม่มีเหตุผลขนาดนี้ เสียงประตูฝั่งตรงข้ามปิดลงดัง “ปัง” นภสรยืนอยู่ทางเข้าประตูสีหน้ายังคงซีดขาวไม่มีสี ตั้งแต่ที่รู้เรื่องสถานะของปองพลจนถึงตอนนี้เวลาผ่านมาได้สิบกว่าวันแล้ว ปองพลไม่ได้อธิบายอะไรกับเธอส่วนเธอก็ไม่ได้ถาม แต่ว่าส่วนลึกในใจมุมหนึ่งนั้นพังทลายไปแล้ว เธอขอบคุณเขาที่ช่วยชีวิตเอตอนตกอยู่ในอันตรายแต่ว่าเขาตั้งใจปิดบังความจริงจากเธอ บุญคุณกับหลอกลวงมันเป็นเรื่องคนละเรื่องกันเธอไม่สามารถอยู่กับปองพลได้อีกต่อไป พวกช่างที่เข้ามาติดตั้ง ก็ต่างกลัวว่านภสรจะไม่พอใจที่พวกเขาทำงานล่าช้าจึงรีบเร่งติดตั้งประตูให้เธอ “คุณผู้หญิง เรียบร้อยแล้วครับ” “ขอบคุณค่ะ” นภสรพูดจบแล้วก็ปิดประตูลง ช่างที่อยู่ด้านนอกสองสามคนมองหน้ากัน ลูกค้าคนนี้พอใจหรือไม่พอใจการติดตั้งกันแน่ พอปิดประตูห้องภายในอพาร์ทเม้นจึงกลับมาเงียบสงัดเหมือนเดิม นภสรไปที่ตู้เหล้าหยิบไวน์ออกมาหนึ่งขวด เดินไปถึงครึ่งทางจึงนึกขึ้นมาได้ว่าไวน์ขวดนี้ครั้งที่แล้วปองพลเป็นคนซื้อมาจึงหมุนตัวเดินเอาไปทิ้งที่ถังขยะไม่หันไปมองอีก เธอเอาเบียร์กระป๋องออกมาจากตู้เย็นดื่มติดต่อกันไปสามกระป๋องจึงเริ่มรู้สึกเวียนหัวแต่ยังคงมีสติสัมปชัญญะอยู่ โทรศัพท์ที่วางอยู่อีกด้านดังขึ้น นภสรหันไปดูแล้วเป็นหมายเลขที่ไม่รู้จัก
已经是最新一章了
加载中