ตอนที่ 46 คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าตีผม   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 46 คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าตีผม
ต๭นที่ 46 คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าตีผม หมายเลขนี้โทรเข้ามาสี่ห้าครั้ง ทุกครั้งเธอล้วนไม่รับสาย เสียงดังรบกวนจนเธอรำคาญ ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู พงศกรที่ยืนอยู่หน้าประตูกำลังโทรศัพท์หาเธออยู่ชะงักไป “คุณผู้หญิง....” “ข้าวกินอะไรก็ได้ แต่คำพูดจะพูดเรื่อยเปื่อยไร้สาระไม่ได้” นภสรพูดด้วยความโมโหโดยไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย ไม่ได้ให้เขาเข้าไปในห้อง “คุณมาพอดีเลย รอเดี๋ยวนะ” สีหน้าของเธอยังคงเย็นชา พงศกรรู้สึกด้วยตัวเองว่าไม่ควรเดินเข้าไป นภสรดึงเอาผ้าปูที่นอนออกมาปูลงที่พื้นแล้วไปเปิดตู้เสื้อผ้าเอาเสื้อผ้าทั้งหมดของปองพลทิ้งลงไปที่บนผ้าปูที่นอน ยังมีอุปกรณ์อาบน้ำที่อยู่ในห้องน้ำ แก้วที่ใช้ดื่มน้ำเป็นประจำ จนกระทั่งเห็นว่าไม่เหลือร่องรอยว่ามีผู้ชายคนนี้เคยใช้ชีวิตอยู่ เธอจึงพับผ้าปูที่นอนทั้งสี่มุมเข้าหากันลากไปโยนใส่พงศกรที่ยืนอยู่หน้าประตู “ของพวกนี้เป็นของท่านประธานของคุณ ฉันรู้ว่าเขาไม่ต้องการแน่ๆ แต่ของมากมายขนาดนี้มันต้องใช้แรงมาก คุณเอาไปทิ้งเองเถอะ” ใบหน้าของนภสรพูดออกมาดูไร้ความรู้สึกพูดเสร็จก็เตรียมจะปิดประตู ถูกการกระทำและคำพูดของนภสรมาเป็นชุดทำให้พงศกรตกใจตาโต พอตั้งสติได้รีบของเธอเอาไว้ “คุณผู้....” นภสรถลึงตาใส่เขาจึงรีบเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียก “คุณนภสร เรื่องที่ปิดบังสถานะตัวเองไว้เป็นเรื่องที่ท่านประธานทำไม่ถูกแต่ว่าท่านประธานอย่างน้อยก็ถือว่าเคยช่วย.......” ”ประโยคนี้คุณปองให้คุณมาพูดหรือ” นภสรพูดแทรกขึ้นมา พอพงศกรได้ยินน้ำเสียงของนภสรจึงรู้สึกว่าทำเสียเรื่องแล้วรีบปฏิเสธ“ ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ” นภสรเลิกคิ้วขึ้น จู่ๆก็ยิ้มออกมา “ฉันไม่รู้จะขอบคุณเขายังไง เขาไม่ได้ขาดเงิน ฉันมีแค่ตัวคนเดียวว่าไปก็สามารถขึ้นเตียงกับเขาได้” “พงศกรชะงักงัน” เสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นด้วยความโกรธกลบเสียงพงศกร “นภสร” นภสรเงยหน้าขึ้น จึงพึ่งมองเห็น ไม่รู้ว่าเขายืนอยู่ด้านหลังพงศกรตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอหันกลับมามองพงศกร พูดน้ำเสียงเยียบเย็น “น่ารังเกียจ” พงศกรรู้สึกกระดากอาย ก้มหน้าลงในฐานะลูกผู้ชายคาดไม่ถึงว่าจะสามารถหลอกลวงผู้หญิงได้มันน่ารังเกียจจริงๆ แต่ว่าเขากินข้าวของท่านประธานจึงต้องฟังคำพูดของท่านประธาน นภสรถลึงจ้องตามองด้วยความโมโห พงศกรหันหน้าไปอีกด้าน ขาของเขาเหยียบเข้าไปในประตูหนึ่งข้างทำให้นภสรปิดประตูไม่ได้ ปองพลเดินก้าวยาวๆเข้ามา เอื้อมมือไปจับที่มือของนภสรที่ดันขอบประตูไว้ มือของเธอเหมือนถูกไฟช็อตจึงหดมือกลับคืนมา ปองพลออกแรงผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไป พงศกรเห็นปองพลเดินเข้าไปแล้วจึงถอนหายใจ เดินออกมาพร้อมปิดประตูให้ เขาพิงที่ประตูถอนหายใจยาว เห็นเป็นผู้หญิงร่างบอบบางเวลาจ้องมองคนจ้องจนเขารู้สึกว่าตัวถูกมองจนทะลุปรุโปร่งไปหมดแล้ว ผู้หญิงของท่านประธานไม่เหมือนใครจริงๆ พงศกรก้มลงมองของกองใหญ่ที่ปองพลเคยใช้มาก่อนแล้วกระตุกมุมปาก ภายในห้อง นภสรเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์ออกมาอีกกระป๋องแล้วนั่งจมลงไปบนโซฟาไม่แม้แต่เหลือบไปมองปองพล “พึ่งจะออกจากโรงพยาบาลยังกล้าดื่มเบียร์อีก” ปองพลพูดน้ำเสียงเข้มงวดดังขึ้นที่ด้านหลังของเธอ นภสรทำท่าเหมือนไม่ได้ยิน ยังคงดื่มต่อคนเดียวแล้วเปิดโทรทัศน์ “ไม่ได้ยินที่ผมพูดหรือไง” ปองพลเดินอ้อมมาที่ช้างหน้านภสร แย่งเบียร์ออกจากมือเธอ นภสรเริ่มโมโหโยนรีโมตในมือทิ้งไปแล้วยืนขึ้น “ไม่ได้ยิน คุณพูดอะไรฉันก็ไม่ได้ยินทั้งนั้น ที่นี่เป็นบ้านของฉัน คนที่มีฐานะสูงส่งคงอยู่ไม่ได้ กรุณาออกไปด้วย” มือขาวนุ่มของนภสรยื่นออกไปแล้วชี้นิ้วไปที่ประตู หน้าอกสะท้อนขึ้นลงอารมณ์ระเบิดออกมาจนหมด สายตาของปองพลสั่นไหวผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขานี่ยังดูเด็กมาก อายุน้อยกว่าเขาห้าปีตอนที่ยิ้มดูสวยมากตอนโกรธก็ยังดูสวยมากเหมือนเดิม สำหรับเขาแล้วที่เห็นคนสวยจนชินตาแต่เธอกลับมีเสน่ห์ที่แตกต่างออกไป ยิ่งนึกย้อนไปถึงเรื่องในคืนวันนั้นทั้งๆที่สามารถหลีกเลี่ยงได้แต่พวกเขาก็ยังคงเลือกที่จะทำ รู้ว่าเธอกำลังโกรธไม่ว่าเขาจะพูดยังไงเธอคงไม่ฟัง เขาจึงก้มหน้าลงไปจูบเธอ นภสรถูกจู่โจมกะทันหันจึงตะลึงไปชั่วครู่ยื่นมือจะผลักเขาออก ปองพลคาดการณ์ไว้แล้วว่าเธอจะต้องผลักเขาดังนั้นจึงโอบเธอเข้ามากอดไว้แน่ๆ “อือ.....คุณ.....” นภสรไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปองพลพละกำลังยิ่งไม่ต้องพูดถึง ปองพลไม่สนใจมือที่ทุบตีและเท้าที่เตะต่อยเขาเลยแม้แต่น้อยแรงเล็กน้อยของเธอนั้นมันทำให้เขาแค่คันๆเท่านั้น รอจนกระทั่งนภสรตีจนเหนื่อย เธอจึงซบลงในอ้อมกอดปองพล เขาจึงคลายมือออก นึกไม่ถึงว่าทันทีที่เขาคลายมือออกนภสรก็เงื้อมือขึ้นตบลงที่ใบหน้าเขา “เพี๊ยะ” เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างฉับพลันไม่ได้ตั้งตัวปองพลถูกตบจนหน้าหัน ภายในหัวใจนภสรโกรธมากแค่ไหนตบครั้งนี้ก็แรงเท่านั้น ตอนที่ปองพลหันหน้ากลับมานภสรเห็นว่าใบหน้าครึ่งซีกของเขาแดงขึ้น สายตาที่เขามองนภสรดูเหมือนซ่อนความดุร้ายไว้ ใจของนภสรรู้สึกหวาดหวั่นสั่นกลัวเธอกลัวปองพลที่อยู่ในท่าทางลักษณะแบบนี้ ทั้งสองคนอยู่ร่วมกันช่วงระยะเวลาหนึ่งไม่ใช่ว่าปองพลไม่เคยโกรธเธอเพียงแต่ว่าไม่มีครั้งไหนที่เธอกลัวเขาแบบนี้มาก่อน เธอคุ้นชินกับปองพลที่ดูแลเอาใจใส่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เธอรู้สึกว่าตอนนี้ถึงจะเป็นตัวจริงของปองพลอ่อนโยนเอาใจใส่นั้นแค่ภาพภายนอก ภายในห้องเกิดความเงียบสงัด เงียบจนนภสรได้ยินเสียงเต้นหัวใจของตัวเอง “คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าตีผม” ไม่รู้ทำไมเสียงของปองพลถึงดูแหบแห้ง นภสรถอยหลังไปอีกก้าว มองเขาด้วยความระแวงพูดเสียงเรียบเย็น “อยากจะตีคืนหรือ” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาดูฝืนๆ ปองพลจ้องเขม็งไปที่เธออยู่สองวินาทีจู่ๆก็ยิ้มออกมา “คุณจะต้องเป็นฝ่ายไปหาผมด้วยตัวเอง” พูดจบแล้วจึงหันหลังกลับเดินออกไป “ปัง” เสียงประตูถูกปิด เมื่อประตูปิดลงร่างกายของเธอเหมือนโดนสูบพลังไปยังไงอย่างนั้นจึงนอนไถลลงไปบนโซฟา สายตาของปองพลเมื่อสักครู่นั้น ทำให้เธอเข้าใจว่าเขาจะตบโต้ตอบเธอคืนสองครั้ง มือของนภสรควานไปจับเบียร์กระป๋องที่จิบเบียร์เล็กน้อยจึงทำให้จิตใจสงบขึ้น เธอไม่อาบน้ำปีนขึ้นไปนอนบนเตียง เธอฝันร้ายตลอดทั้งคืน เช้าวันที่สองที่ตื่นนอนมา เธอรู้สึกว่านอนไม่สบายยิ่งกว่าเมื่อวาน นภสรเข้าไปทำความสะอาดร่างกายตัวเองจากหัวถึงเท้า แล้วทำความสะอาดห้องทุกซอกทุกมุมเปลี่ยนผ้าปูที่นอน เอาของในตู้เย็นออกมาทิ้ง นอกจากผนังที่ถูกรื้อออก ตอนนี้เธอราวกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมกับตอนที่เธอกลับมาจากต่างประเทศ เป็นคนที่โดดเดี่ยวไม่มีใครและไม่ไว้ใจใคร ใช่แล้ว ตอนนี้มีแค่ตัวเธอคนเดียว ปองพลโกหกเธอ บ้านไชยกาลก็กลับไม่ได้ เรื่องที่เธอต้องทำก็ยังต้องทำต่อชีวิตยังคงต้องดำเนินต่อไป หางานทำแล้วค่อยสืบเรื่องของพ่อ ปองพลจะไม่กลับมาแล้วจริงๆหรือ ในฐานะที่เป็นประธานที่อยู่เบื้องหลังของclub beautiful nightเขาไม่ขาดเงินไม่ขาดผู้หญิงเพราะอะไรถึงต้องมาหาผู้หญิงโง่ๆไม่มีความสามารถ ดังนั้นเขาน่าจะไม่กลับมาแล้วล่ะ -โปรดติดตามตอนต่อไป 04/12/2019- 
已经是最新一章了
加载中